ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

โอปอล

โอปอล (อังกฤษ: Opal) เป็นอัญมณีในตระกูลควอตซ์ (Quartz) เช่นเดียวกับแอเมทิสต์ซึ่งเป็นอัญมณีประจำราศีกุมภ์ มีค่าความแข็งที่ 6 - 7 โมส์ (Moh) มีความวาวแบบแก้วและยางสน มีหลายสีด้วยกัน เช่น สีขาว แดง เหลือง เขียว ม่วง ดำ แต่ที่เป็นที่นิยมมากที่สุด คือ โอปอลไฟ

จากสีสันลวดลายอันงดงามที่พาดผ่านบนตัวโอปอลนี้ ทำให้นักประวัติศาสตร์ ไพลนี (Pliny) ชื่นชมไว้ว่า มันคือศูนย์รวมความงามของเหล่าอัญมณี เพราะประกอบด้วยเปลวไฟสีแดงจากทับทิม ประกายสีม่วงเหมือนแอเมทิสต์ และสีเขียวน้ำทะเลจากมรกต

คำว่า Opal มาจากภาษาสันสกฤตว่า Upula แปลว่า หินมีค่า โอปอลเป็นที่รู้จักมาเป็นเวลานานหลายพันปีมาแล้ว โดยเฉพาะประเทศในแถบตะวันตก นักโบราณคดีชื่อ Louis Leaky ขุดพบเครื่องประดับโอปอลที่เก่าแก่ที่สุดซึ่งมีอายุถึง 6,000 ปี ในถ้ำที่ประเทศเคนยา มงกุฎของกษัตริย์แห่งอาณาจักร Holy Roman ประดับด้วยโอปอลชื่อ Orphanus มงกุฎของกษัตริย์แห่งฝรั่งเศสก็ประดับด้วยโอปอลเช่นกัน อัญมณีสีรุ้งนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับนักเขียนในสมัยก่อนมากมาย เช่น วิลเลียม เช็คสเปียร์ (William Shakespeare) เซอร์ วอลเตอร์ สก็อต (Sir Walter Scott) ก่อให้เกิดภาพลักษณ์ใหม่ ๆ แก่โอปอล

ชาวตะวันตกเชื่อกันว่าโอปอลเป็นหินแห่งโชคลาง มีความเกี่ยวข้องกับไสยศาสตร์ สามารถบอกเหตุล่วงหน้าได้ว่าจะเกิดเหตุดีหรือเหตุร้าย โอปอลยังเป็นสัญลักษณ์แห่งความหวัง เพราะมันเต็มไปด้วยสายรุ้งแห่งความหวัง ผู้ที่สวมใส่อัญมณีชนิดนี้จะสมหวังในสิ่งที่ต้องการ ชาวอาหรับเชื่อว่าโอปอล คือ อัญมณีที่ตกลงมาจากสวรรค์

ทางด้านการบำบัด หากสตรีมีครรภ์สวมใส่โอปอลจะช่วยให้คลอดบุตรง่าย หากทำเป็นเครื่องประดับผมจะช่วยให้ผมดำเงางาม ในยุคกลาง เชื่อกันว่าโอปอลทำให้สายตาดี หากกลัดเป็นเข็มกลัดไว้ที่หน้าอกจะช่วยให้ปอดดีขึ้น

สีสันหลากหลาบนโอปอลมีตำนานเล่าขานกันว่า เทพแห่งดวงอาทิตย์ เทพแห่งไฟ และเทพแห่งสวรรค์หลงรักผู้หญิงคนเดียวกัน ทำให้เทพทั้งสามบาดหมางกัน เทพเจ้าซีอุสจึงแก้ปัญหาโดยสาปหญิงผู้นั้นให้กลายเป็นหมอก แต่เทพทั้งสามกลับกลัวว่าตนเองจะจำหญิงผู้นั้นไม่ได้ เทพแห่งดวงอาทิตย์จึงให้สีทองแก่นาง เทพแห่งไฟให้สีแดง ส่วนเทพแห่งสวรรค์ให้สีน้ำเงิน เทพซีอุสเห็นว่าเรื่องราววุ่นวายมากขึ้น จึงเสกให้ร่างของหญิงสาวกลายเป็นโอปอล ตั้งแต่นั้นมา โอปอลจึงมีสีสันสวยงามดังที่เห็น

ในทางวิทยาศาสตร์ การที่โอปอลมีสันหลากหลายนั้นเกิดจากอนุภาคของทรายซึ่งเป็นส่วนประกอบของโอปอลเรียงตัวไม่เป็นระเบียบ ทำให้เกิดช่องว่างภายในเป็นโพรงเล็ก ๆ และมีน้ำแทรกอยู่ในช่องว่าง จึงเกิดแสงสะท้อนให้เห็นเป็นสีสันต่าง ๆ มากมาย

แหล่งโอปอลในประเทศออสเตรเลียนั้น ส่วนใหญ่มาจากรัฐควีนส์แลนด์ (Queensland) มาจากเมืองคูเบอร์ เปดี (Coober Pedy) เมืองแอนดามูกา (Andamooka) ในเซาท์ออสเตรเลีย (South Australia) และมาจากเมืองไวท์คลิฟท์ (White Cliffs) เมืองไลท์นิง ริดจ์ (Lightning Ridge) ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ (New South Wales)

ส่วนประเทศที่ผลิตโอปอลเป็นจำนวนมากนับเป็นที่สอง รองจากประเทศออสเตรเลียได้แก่เมืองเคอร์รีตาโร (Queretaro) ในประเทศเม็กซิโก นอกจากนั้น โอปอลก็มาจากรัฐเนวาดา (Nevada) คาร์ลิฟอร์เนีย (California) ไอดาโฮ (Idaho) โอเรกอน (Oregon) และอาริโซนา (Arizona) ในประเทศสหรัฐอเมริกา และอีกแห่งหนึ่งจากเม็กซิโก ซึ่งมีโอปอลวุ้น (Jelly Opal) จัดเป็นเลิศประเทศหนึ่ง

ทางฝ่ายด้านเอเซีย ประเทศที่รู้จักการเจียระไนโอปอล เป็นประเทศแรกนั้น เชื่อว่าได้แก่ประเทศลังกา (Ceylon) ในประเทศไทย เริ่มมีการเจียระไนโอปอลเป็นครั้งแรก เมื่อปี พ.ศ. 2494 โดยคุณอนันต์ ซาลวาลา เจ้าของบริษัทไทยแลปปิ๊ดดารี่ ในปัจจุบันเท่าที่ทราบปรากฏว่า ชาวไทยเราเจียระไนโอปอลได้นิ่มนวล และสวยงามมาก ประเทศญี่ปุ่นเอง ก็ยังมีการเจียระไนโอปอล หลังประเทศไทยเรา เท่าที่ทราบมา มิสเตอร์ มุชิยูกิโกฟู เป็นช่างเจียระไนโอปอลคนแรกของญี่ปุ่น

คุณสมบัติทางเคมี คุณสมบัติทางเคมีของโอปอล จะมีสูตรเคมีที่คล้ายแร่ควอตซ์ แต่มีโมเลกุลของน้ำปนอยู่ด้วยในสูตรโมเลกุล คือ SiO2. nH2O มีคุณสมบัติ ไม่หลอมละลาย (infusible) ไม่ละลาย (insoluble) มีปฏิกิริยาเคมีคล้ายกับควอตซ์

หรือคล้ายๆ หินย้อย (Stalactite) มีรอยแตกเว้ากึ่งๆโค้ง มีความแข็งอยู่ในช่วง 5.5 - 6.5 ตามสเกล ความแข็งมาตรฐานโมห์ (Moh's scale of hardness) มีค่าความถ่วงจำเพาะ 1.9 - 2.2 มีความวาวคล้ายแก้ว บางครั้งก็มีความวาวคล้ายยางสน สีของโอปอลอาจจะเป็นสีขาว ไม่มีสี สีเหลือง แดง น้ำตาล เขียว เทา และน้ำเงินขึ้นกับมลทินที่เข้ามาเจือปนอยู่ บางครั้งจะแสดงคุณสมบัติโอปอเลสเซนท์ (Opalescense) คือเมื่อขยับไปมาจะเล่นสีได้ เนื้อมีลักษณะโปร่งใสถึงโปร่งแสง ค่าดัชนีหักเหหรือมาตรการแสงหักเห (Refractive index) ไม่คงที่ ปกติอยู่ในช่วงระหว่าง 1.435 - 1.455 โอปอลไม่มีรอยแยกแนวเรียบ (Cleavage) อย่างเช่นรัตนชาติอื่นๆ มีแต่เฉพาะรอยแตก (Fracture) ซึ่งมักจะแตกเป็นรูปก้นหอย (Conchoidal fracture)

นอกจากนี้แล้ว โครงสร้างของโอปอลยังเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว คือโมเลกุลซิลิกอนไดอ๊อกไซด์จับตัวกันแบบรูปปิรามิดโดยมีน้ำแทรกอยู่ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เกิดการเล่นสีขึ้น คล้ายกับการเกิดรุ้งบนฟองสบู่ โอปอลมีหลายสี แต่ที่พบมาก คือสีขาว สีดำถือว่าราคาแพงที่สุดเพราะจะทำให้การเล่นสีเด่นชัดขึ้น โอปอลไฟ (เหลือง ส้ม แดง) มักจะนำมาเจียระไน และใช้แทนทับทิม โอปอลที่หายาก คือ สีเขียว น้ำเงิน โอปอลจะบอบบาง จึงมักจะถูกประกบด้านล่าง 2-3 ชั้น ด้วยโอปอลสีดำ และด้านบนปะด้วยควอทซ์ใส ซึ่งเป็นวิธีที่ดีมากในการนำโอปอลมาทำแหวน หรือเครื่องประดับอื่นๆที่ต้องการการปรับปรุงคุณภาพอย่างหยาบ

1.โอปอลมีค่า (Precious Opal) โอปอลชนิดนี้จะมีสีขาว สีน้ำนม สีน้ำเงิน และสีเหลือง บางแหล่งก็มีสีเข้มกว่านี้ เช่น ที่เรียกว่าโอปอลดำ (black opal) เนื้อมีลักษณะโปร่งแสงเล่นสีได้เมื่อขยับไปมา โอปอลมีสีส้มสด และสีแดงอย่างเปลวไฟ เรียกว่า fire opal

2.โอปอลธรรมดา (Common Opal) โอปอลชนิดนี้จะมีสีขาวน้ำนม เหลือง เขียว แดง น้ำตาล และสีอื่นๆ ไม่มีการสะท้อนแสงภายในเหมือน precious opal

4.เกย์เซอไรท์ (Geyserite) หรือ Siliceous Sinter โอปอลชนิดนี้เป็นโอปอลที่เกิดจากพุน้ำร้อน (hot spring) โอปอลที่เยลโลว์สโตน เนื้อดูผุร่วนกว่าธรรมดา

5.ไม้เนื้อโอปอล (Wood Opal) โอปอลชนิดนี้เป็นซากดึกดำบรรพ์ของไม้ที่มีสารพวกซิลิกาเข้าไปแทนที่ในส่วนต่างๆ ของลำต้น ซึ่งมักสลับกับเนื้อคาลซีโดนี

6.ดินเบา (ไดอะตอมไมท์ Diatomite) โอปอลชนิดนี้มีเนื้อละเอียดคล้ายชอล์ก เกิดจากการสะสมตัวของซากชีวินพวกไดอะตอม ซึ่งเนื้อจริงๆ ของไดอะตอมไมท์ก็คือ โอปอล

โดยหลักการณ์ทั่วไป เป็นโอปอลที่มีการเล่นสี (Play of colour) เป็นประกาย ได้สวยงามมาก และมีค่าสูง หาได้ยาก Bauer (1969) อธิบายลักษณะไว้ว่า พรีเชียลโอปอลเป็นโอปอลที่มีค่ามากที่สุด มีการเล่นสี เกิดเป็นประกายสวยงาม ซึ่งสะท้อนออกมาให้เห็นจากภายในเนื้อของตัวมันเอง ไม่ใช่เป็นสีซึ่งเกิดจากมีมลทินอื่นแปลกปลอมเข้าไป ในบางครั้งการเล่นสีอาจปรากฏให้เห็นทั่วทั้งผิวหน้า ซึ่งเจียระไนขัดมันของโอปอลหรืออาจมีการเล่นสีเพียงบางจุด หากพลิกดูจุดนั้นจะค่อยๆ หายไปบนพื้นหน้าพลอยนั้น พรีเชียสโอปอล จะมีความวาว (Luster) ซึ่งจัดว่าไม่สูงนักและมีความแข็งค่อนข้างต่ำ การเล่นสี อยู่ในช่วงที่ไม่ลึกลงไปนัก จึงเป็นเหตุอันหนึ่งซึ่งทำให้ไม่มีการเจียระไนโอปอลชนิดนี้เป็นเหลี่ยมตัด (Facet) นอกจากนี้แล้ว พรีเชียสโอปอลยังมีความโปร่งแสง (Translucent) และบางครั้ง อาจมีความโปร่งใส (Transparent) ได้

2.โอปอลไฟ (Fire opal) หรือ (Sun opal) จัดเป็นโอปอลที่มีค่าสูง รองจากโอปอลดำ บางเม็ดอาจมีค่า เทียบเท่า หรือแพงกว่าโอปอลดำก็ได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ ความสวยงามของแต่ละเม็ด มีทั้งแบบไม่มีสี (Colourless) สีน้ำตาล เหลืองอ่อน และสีน้ำตาลแดงเข้ม โอปอลไฟสีแดง โดยปกติมีราคาดีกว่าโอปอลไฟสีเหลือง เหตุที่เรียกกันว่า โอปอลไฟนั้น ก็เพราะเมื่อนำมาส่องดูภายใต้แสงไฟแล้ว จะเห็นสีสะท้อนบนผิวเหมือนลักษณะดวงไฟเกิดขึ้น คล้ายเปลวไฟ ธรรมดานี่เอง โอปอลไฟ แยกออกจากโอปอลดำได้อย่างง่ายๆ ก็ตรงลักษณะเปลวไฟอันนี้เอง และโดยลักษณะสี ของโอปอลไฟ ถึงแม้จะคล้ายคลึงกับ โอปอลดำ หรือพรีเชียสโอปอล สีของโอปอลไฟจะไม่สะดุดตาเท่า คือมีความสุกสว่าง ของประกายสี ด้อยกว่าโอปอลดำหากโอปอลไฟมีลักษณะดวงไฟเกิดขึ้น บนพื้นหน้าที่เจียระไนให้เห็นมากเท่าไหร่ ราคาก็จะยิ่ง แพงมากขึ้นเท่านั้น

3.โอปอลธรรมดา (Common Opal) โอปอลชนิดนี้มักจะไม่มีการเล่นสี บางชนิดอาจจะทึบแสง (Opaque) บางชนิดอาจจะโปร่งแสง (Translucent) อาจจะมีสี หรือไม่มีสีก็ได้ ปกติถือว่าไม่มีค่าทางรัตนชาติ จัดแบ่งย่อยออกไปหลายชนิด เช่น โอปอลน้ำนม (Milk Opal) สีออกมัวๆ ขาวน้ำนม บางครั้งออกสีเขียว เหลือง และน้ำเงินจางๆ บ้าง บางตำราบ้างก็ว่ามีลักษณะโปร่งแสงมาก ในบางครั้งอาจมีสีออกน้ำเงิน และเขียวปนขาว หรือถ้ามีมลทินแทรกอยู่เหมือนต้นสาหร่าย เรียก มอสโอปอล (Moss Opal)

3.ไฮโดรเฟน (Hydrophane) เป็นโอปอลที่โปร่งแสงบางครั้งอาจโปร่งใสเมื่อแช่ไว้ในน้ำ สามารถดูดน้ำได้เป็นพิเศษ หากนำมาแตะลิ้นจะเกาะติดลิ้นแน่น

5.ไฮยาไลท์ (Hyalite) ไม่มีการเล่นสีบางครั้งมีความโปร่งใสมาก ไม่มีสีมองดูเหมือนน้ำ หรืออาจจะออกสีแดงเรื่อๆ สีน้ำตาลอ่อนนิดๆ มีลักษณะคล้ายแก้ว มักจะเรียกกันว่า Glass opal ไม่ค่อยจะนิยมนำมาเจียระไนกันนัก

6.แคทโชลอง (Cacholong) เป็นโอปอลที่มีความพรุนตัวสูง หากทำให้น้ำออกหมดจะมีลักษณะทึบแสงหรือถ้าหากดูดน้ำเข้าเต็มที่จะโปร่งแสง

ประโยชน์ของโอปอล คือ ใช้ในลักษณะที่เป็นรัตนชาติโดยประโยชน์ของโอปอลที่เห็นได้ชัดๆ ก็คือนำเอามาทำเครื่องประดับต่างๆ จำพวกล็อกเกต แหวน ต่างหู เข็มกลัดเนคไท เข็มกลัดเสื้อ และทำด้ามมีดเล็กๆ เป็นต้น ในการเจียระไน มักจะนิยมเจียระไน เป็นรูปโค้งหลังเต่า หลังเบี้ย หรือรูปไข่ ไม่ค่อยนิยมเจียระไนเป็นรูปเหลี่ยมตัด เพราะเหตุที่ โอปอลมีเนื้ออ่อน ตรงมุมที่หน้าพลอยตัดกัน จะหักหลุดได้ง่ายๆ ยกเว้นโอปอลไฟเท่านั้น บางครั้ง จะนำมาเจียระไนเป็นเหลี่ยมตัด และเพราะว่าโอปอลมีเนื้ออ่อนอยู่แล้ว ประกอบกับเมื่อถูกอากาศหรือแสงแดดมาก น้ำในโครงสร้างจะระเหยออกไป สีสันของโอปอลก็จะจางลง จึงไม่พบว่านำเอาโอปอลมาทำของอย่างอื่น

โอปอลขนาดใหญ่ๆ จะมีราคาสูง สำหรับดินเบา (ไดอะตอมไมท์) ใช้ทำเป็นผงขัด (abrasive) ผงกรอง (filtration powder) ใช้ทำฉนวนไฟฟ้า (insulation product) และใช้เติมลงไปในสารใดๆ เพื่อเพิ่มน้ำหนัก (filter)

1.แสงโอปอล (Opalescence) เป็นการสะท้อนแสงขุ่นมัวคล้ายนม ออกมาจากภายในของแร่ ดังจะเห็นได้จากโอปอล์ หรือมุกดาหาร

2.แสงลายเส้น (Chatoyancy) เป็นแถบของประกายลายเส้นเหมือนแนวของเส้นไหม เมื่อจับก้อนแร่พลิกไปมา พบในแร่ที่มีโครงสร้างเป็นเส้นใย เช่น ในแร่หินเขี้ยวหนุมานชนิดตาเสือ (Tiger's eye) ในแร่ คริสโซเบอริลชนิดตาแมว (Cat's eye) เป็นต้น

3.ยี่หร่าหรือสาแหรก (Asterism) ลักษณะของยี่หร่า คือการเกิดประกายคล้ายดาวเป็นแฉก ๆ อย่างที่พบใน star sapphire หรือทับทิม เกิดขึ้นเมื่อแร่ถูกตัดในทิศทางที่ตั้งฉากกับแกนเอก (Principal axis) ของผลึกจำนวนแฉกที่เกิดขึ้นจะบ่งจำนวนสมมาตรของแกนเอกนั้น เช่น 6, 4, 3, และ 2 เป็นต้น

โอปอลมีประกายสีแดงของทับทิม มีประกายสีม่วงของอแมทิสต์ และสีเขียวของมรกต รวมอยู่ภายในตัวเองอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งเป็นที่ประทับใจต่อ Pliny the Elder (ค.ศ. 23-79) นักประวัติศาสตร์โรมัน และนักเขียนเอนไซโคปิเดียร์ เล่มแรกของโลกเป็นอย่างมาก ชาวโรมันถือว่า โอปอลเป็นสัญลักษณ์ของความหวัง ความบริสุทธิ์ ในขณะที่ชาวกรีซเชื่อว่า ช่วยทำนาย ล่วงรู้อนาคต ในขณะที่ชาวอาหรับเชื่อว่า โอปอลตกจากสวรรค์ ในขณะฟ้าผ่าจึงทำให้มีสีหลากหลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่น่าเชื่อเลยว่า สีของโอปอลที่เห็นเกิดจากน้ำ 5-10% ที่ถูกขังในตัวโอปอล ในขณะที่แสงสีต่างๆ เกิดจากการเรียงตัวกันของซิลิกอนไดอ๊อกไซด์ รูปทรงกลม


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301