โรงเรียนนายเรือ เป็นสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาสำหรับผู้ที่ต้องการเป็นนายทหารเรือชั้นสัญญาบัตรของกองทัพเรือไทย กองทัพเรือ ผู้ที่ศึกษาในโรงเรียนนายเรือ เรียกว่า นักเรียนนายเรือ (นนร.) นักเรียนนายเรือที่สำเร็จการศึกษาจะได้รับปริญญาบัตรในระดับปริญญาตรีเช่นเดียวกับสถาบันอุดมศึกษาอื่น ๆ และมีสิทธิได้รับการแต่งตั้งยศนายทหารชั้นสัญญาบัตรเป็น "ว่าที่เรือตรี"
โรงเรียนนายเรือก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2440 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สถานที่ตั้งเดิมอยู่ที่บริเวณพระราชวังเดิมในสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดเมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2449 กองทัพเรือได้ถือเอาวันที่ 20 พฤศจิกายนของทุกปี เป็น วันกองทัพเรือ
ใน พ.ศ. 2495 ได้ย้ายโรงเรียนมาที่ที่อยู่ปัจจุบัน คือ ป้อมเสือซ่อนเล็บ ถนนสุขุมวิท อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ
การเปิดสอนในช่วงแรก ได้จ้างชาวต่างชาติมาสอน มี นาวาโท ไซเดอร์ลิน ชาวเดนมาร์ก เป็นผู้บังคับการ ร.ล. มูรธาวสิตสวัสดิ์ ในปี พ.ศ. 2448 นายพลเรือตรี พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหมื่นชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ปรับปรุงหลักสูตร และอำนวยการสอนตั้งแต่ พ.ศ. 2449-2454
โรงเรียนนายเรือมีสถานะเป็นหน่วยราชการในระดับเทียบเท่ากองบัญชาการ มีการจัดส่วนราชการภายในดังนี้
หลักสูตรต่าง ๆ จะเปิดสอนตามความต้องการของกองทัพเรือเป็นหลัก โดยปัจจุบัน มีหลักสูตรที่เปิดสอน ดังนี้
ห้องสมุดโรงเรียนนายเรือ เป็นแผนกหนึ่งที่ขึ้นตรงต่อฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ สังกัดกองทัพเรือ สถานที่ตั้งเดิมอยู่บนชั้น 3 ของอาคารกองบังคับการโรงเรียนนายเรือ มีขนาดพื้นที่ 684 ตารางเมตร ต่อมาได้มีโครงการพัฒนาห้องสมุดโรงเรียนนายเรือให้ทันสมัยได้ตามมาตรฐาน จึงได้ย้ายสถานที่ทำการใหม่มาอยู่ ณ อาคารเรียน 6 บนชั้น 3 และ 4 มีขนาดพื้นที่ 1,622 ตารางเมตร โดย พลเรือเอก ประเสริฐ บุญทรง ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มาทำพิธีเปิดอาคารในวันที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2545 เปิดทำการทุกวัน เว้นวันเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์
เมื่อพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงปรับปรุงรากฐานของกองทัพเรือตามแบบแผนใหม่แล้ว ได้ทรงส่งพระราชโอรสหลายพระองค์ไปศึกษายังต่างประเทศ พระราชโอรสที่ทรงศึกษาวิชาทหารเรือมี ๓ พระองค์คือ
ต่อมาได้ทรงแสดงพระราชประสงค์ที่จะบริจาคพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ให้นักเรียนนายเรือไปศึกษาต่อยังต่างประเทศด้วย ตามประกาศของกรมทหารเรือ วันที่ ๒๐ มิถุนายน ร.ศ. ๑๑๙ (พ.ศ. ๒๔๔๓) ว่า "ครั้นเมื่อวันที่ ๑๒ มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระบรมราชโองการดำรัสเหนือเกล้าฯ สั่งว่า ให้กรมทหารเรือ ฝึกหัดนักเรียนนายเรือให้เรียบร้อย ถ้านักเรียนคนใดได้เล่าเรียนฝึกหัดได้สมควรที่จะส่งไปเล่าเรียนวิชา ณ ต่างประเทศ จะทรงพระมหากรุณาโปรดเกล้าฯ บริจาคพระราชทรัพย์พระราชทานให้กรมทหารเรือส่งนักเรียนออกไปเรียนทุกปี"
นักเรียนนายเรือที่รับพระราชทานทุนการศึกษาชุดแรกคือชุดที่ไปศึกษาในสาขาวิชาวิศวกรรมศาสตร์จากประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี ๒๔๔๘ มีรายนามดังนี้
(ในคณะของนักเรียนนายเรือชุดนี้มีนักเรียนสมทบเพื่อไปศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น อีก ๔ นายคือ ม.จ.เสพโสมนัส เทวกุล นายประทีป บุนนาค นายชัย บุนนาค และนายพร้อม บุณยกะลิน)
นักเรียนนายเรือชุดแรกนี้เมื่อกลับมารับราชการในกองทัพเรือแล้ว ได้มีบทบาทในการสร้างสมุททานุภาพของกองทัพเรือ การพัฒนาการทางช่างของกรมอู่ทหารเรือ และได้มีบทบาทในการพัฒนาประเทศในหลายสาขาจนเป็นที่ประจักษ์ต่ออนุชนรุ่นหลัง
หลังจากนั้นกองทัพเรือได้จัดส่งนักเรียนนายเรือไปศึกาต่ออีกรุ่นหนึ่งคือ ๒๔๕๙ นนร.สินธุ์ กมลนาวิน ไปศึกษาวิชาการทหารเรือประเทศเดนมาร์ค (อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ สมาชิกคณะราษฎร รัฐมนตรีวาการกระทรวงธรรมการ กระทรวงเกษตราธิการ กระทรวงกลาโหม และอธิการบดีคนแรกของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์) (มีประวัติจารึกไว้ในหอเกียรติยศโรงเรียนนายเรือ) ๒๔๖๕ ส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศอังกฤษ (นนร.ผาด แสงชูโต นนร.สรรใจ บุนนาค นนร.สมพันธุ์ บุนนาค) ๒๔๙๔ ส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศอังกฤษ (นนร.อำนาจ จันทนะมัฎฐะ นนร.ไพบูลย์ นาคสกุล) ๒๔๙๔ ส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศเนเธอร์แลนด์ (นนร.ประกอบ นิโครธานนท์) ๒๔๙๕ เริ่มส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศสเปน (นนร.เกาะหลัก เจริญรุกข์ นนร.วินัย อินทรสมบัติ) ๒๔๙๕ เริ่มส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศสหรัฐอเมริกา ๒๔๙๘ เริ่มส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศสวีเดน ๒๔๙๙ เริ่มส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศฝรั่งเศส ๒๕๐๕ เริ่มส่ง นนร.ไปศึกษาประเทศเยอรมัน (นนร.ไพศาล ไล่เข่ง (นพสินธุวงศ์) นนร.เทวินทร์ มุ่งธัญญา)
หลังจากส่ง นนร.ไปศึกษายังประเทศญี่ปุ่นชุดแรก (๒๔๔๘) นั้นแล้ว ต่อมากองทัพเรือได้ยึดถือเอาพระราโชบายในสมัยรัชกาลที่ ๕ เป็นแนวทางในการพัฒนาองค์บุคคล โดยได้จัดส่งนักเรียนนายเรือไปศึกษาต่ออีกหลายประเทศ โดยประเทศแรกที่ส่งไปเรียนคือประเทศอังกฤษ ที่รวบรวมได้มีรายนามดังต่อไปนี้คือ