โรงงาน เป็นสถานอุตสาหกรรม ปกติประกอบด้วยอาคารและเครื่องจักร หรือที่พบมากกว่า เป็นกลุ่มอาคารซึ่งคนงานผลิตสินค้าหรือดำเนินการเครื่องจักรเพื่อแปรรูปผลิตภัณฑ์หนึ่งเป็นอีกผลิตภัณฑ์หนึ่ง
การแยกประเภทอุตสหกรรมตามโรงงานอุตสหกรรม
จำแนกตามกฎกระทรวง (พ.ศ.2535) ออกตามความในพระราชบัญญัติโรงงาน พ.ศ.2535ประเภทโรงงานหลัก107ประเภท
เรื่องความเสี่ยงและอันตรายที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบอย่างไรก็ตามหรือมากน้อยเพียงใดย่อมส่งผลเสียต่อโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบอย่างแน่นอน ซึ่งจะมีผลต่อประสิทธิภาพทำงานของพนักงานลดน้อยลง ขึ้นอยู่กับว่าความเสี่ยงนั้นจะขึ้นอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้หรือรับไม่ได้ "ความเสี่ยงจะต้องประกอบด้วย 2 องค์ประกอบคือ "ไม่แน่นอน"และ"ไม่พึ่งประสงค์"" คำว่าไม่แน่นอนนั้นหมายถึง เราไม่สามารถหมั่นใจหรือการันตีได้ว่าจะเกิดหรือไม่ แต่สามารถคาดคะเนโอกาศที่จะเกิดในรูปแบบความน่าจะเป็น ส่วนคำว่า ไม่พึงประสงค์ นั้นหมายถึง เหตุหรือสิ่งที่ไม่ต้องการให้เกิดขึ้น อันเนื่องมาจากอะไรก็ตามที่ส่งผลเสียหรือเสี่ยงต่อผลกระทบต่างๆ
ในชีวิตประจำวันของมนุษย์เรานั้น จริงๆแล้วมีความเสี่ยงอยู่ตลอดเวลา ทั้งในด้านการดำเนินชีวิต เช่น การเดินทางต้องใช้รถใช้ถนนซึ่งอาจเกิดอุบัติเหตุได้เสมอ การทำงานในโรงงานก็อาจเกิดอุบัติเหตูจากเครื่องจักร สารเคมี และในด้านสิ่งแวดล้อมหรือภับพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งสิ่งหล่าวนี้ถือเป็นความเสี่ยงที่มีโอกาศเกิดขึ้นได้เสมอ ดังนั้นเราควรมีการจัดการและประเมินความเสี่ยงถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นในการใช้ชีวิตประจำวันการประเมินความเสี่ยง
หมายถึง การวิเคราะห์ความเสี่ยง สาเหตุและผลกระทบที่อาจเกิดจากความเสี่ยงรวมถึงกระบวนการหรือแนวทางแก้ไขปัญหาการควบคุมป้องกันและบริหารจัดการความปลอดภัย อีกความหมายหนึ่งก็คือ"กระบวนการศึกษาอย่างเป็นระบบเพื่อพรรณนาและวัดความเสี่ยงที่มีความสัมพันธ์กับสิ่งที่คุกคาม กระบวนการ การกระทำ หรือเหตุการณ์ใดๆ"ซึ่งอาจกล่าวได้ว่า การประเมินความเสี่ยงเป็นการวิเคราะห์ถึงปัญหาและต้นเหตุที่จะทำให้เกอดอันตรายและความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สิน เมื่อเรารู็สาเหตุที่ทำให้เกิดความเสี่ยงเราก็สามารถว่างแผนและกำหนดมาตการในการป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดรวมถึงคิดแนวทางควบคุมผลกระทบที่อาจเกิดตามมาจากอุบัติเหตุหรือความเสี่ยงที่ก่อให้เกิดความเสียหายได้
วัตถุประสงค์
ทำงานรวมกันในองค์กรแน่นอนว่าต้องมีเป้าหมายทำงาน ถ้าไม่มีเป้าหมายและแผนดำเนินงานก็ไม่สามารถที่จะทำงานออกมาให้มีประสิทธิภาพได้ ฉะนั้นการทำงานจะต้องมีการกำหนดวัตถุประสงค์ที่กำหนด เพื่อสามารถตรวจสอบและวัดผลประเมินว่า งานประสบความสำเร็จแค่ไหน มีปัญหาอะไรควรปรับปรุงอย่างไรและควรพัฒนาอะไร ในโรงงาก็เช่นกันต้องมีวัตถุประสงค์และแผนดำเนินงาน แต่จะเป็นอย่างรัยขึ้นอยู่กับชนิดหรือประเภทของโรงงาน แต่ละประเภทของโรงงานก็มีความใกล้เคียงกันในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งวัตถุประสงค์ในการประเมินความเสี่ยงในโรงงานสามารถแบ่งออกได้ดังนี้
- เพื่อประเมินสาเหตุและโอกาสที่จะเกิดความเสี่ยง
- เพื่อกำหนดแผ่นการหรือแนวทางในการดำเนินงาน
-หามาตการป้องกันและควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ เพื่อลดการสูญเสียในด้านทรัพย์สินและอุบัติเหตุที่จะเกิด
-เพื่อให้เกิดความปลอดภัยทำงานของพนักงาน
1) การระบุปัจจัยเสี่ยง (Risk Iden tification) เป็นการหาสาเหตุหรือปัจจัยที่ส่งผลเสี่ยง ทั้งปัจจัยภายในและภายนอก "ในการระบุปัจจัยเสี่ยงฝ่ายบริหารจำเป็นต้องตั้งคำถามว่า มีเหตุการณ์ใดหรือกิจกรรมใดของกระบวนการปฎิบัติงานที่อาจเกิดความผิดพลาด ความเสียหายและการบรรจุวัตถุประสงค์ที่กำหนด รวมทั้งมีทรัพย์สินไว้ที่จำเป็นจะต้องได้รับการดูแลรักษา" เช่นความเสี่ยงจากเครื่องจักร ที่ไม่ได้มาตรฐานไม่ปลอดภัยอาจเกิดอันตรายหรือเกิดอุบัติเหตุต่อพนักงาน
2) วิเคราะห์ความเสี่ยง (Risk Ana lysis) เมื่อรู้ปัจจัยหรือสาเหตุของความเสี่ยงที่เป็นอันตราายหรือก่อให้เกิดความเสียหายเราสามารถ "วิเคราะห์พิจราณาถึงโอกาศและความรุนแรงของอันตรายที่ชี้บ่งออกมาได้ ซึ่งอาจก่อให้เกิดเพลิงไหม้ การระเบิด การรั่วไหลของสารเคมี" เพื่อพิจารณาว่า มันีโอกาสเกิดได้มากน้อยเพียงใดและมีความรุนแรงในระดับบริเวณแคบหรือกว้าง
3) การบริหารความเสี่ยง (Risk Management) เมื่อรูสาเหตุและปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงและวิเคาระห์ถึงความเป็ไปได้ของโอกาศที่จะเกิดความเสี่ยง เรานำข้อมูลหล่าวนี้ไปหาแนวทางการป้องกันและควบคุมเพื่อลดความสูญเสียและแก้ไขปัญหาได้ตรงจุด กิจกรรมควบคุมและป้องกันความเสี่ยงควรปรับเปลี่ยนอยู่เสอมเพื่อให้เหมาะสมกับเหตุการณ์และปัญหาที่เกิดขึ้น
การจัดการความเสี่ยงเป็นการบริหารจัดการความเสี่ยงในโรงงานที่มีความสำคัญในการประกอบธุรกิจด้านต่างๆ การจัดการความเสี่ยงในโรงงานที่เกี่ยวกับการจัดการกับเหตุการณ์ที่จะประสบขึ้นความล้มเหลวและเกิดความสูญเสียหลายด้าน ล้วนแล้วเกิดจากภัยธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว คลื่นยักษ์สึนามิ ลมพายุ และเหตุระเบิด และการจัดการความเสี่ยงกับเหตุการณ์ที่คนบาดเจ็บล้วนแล้วเกิดจากความปรัมาท หรือเกิดจากตัวเครื่องจักรที่ไม่มีการตรวจสอบให้ดีก่อนการใช้งาน จึงทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น การจัดการความเสี่ยงในโรงงานถือเป็นกระบวนการประเมินผล ควบคุม หรือลด และยอมรับความเสี่ยง โดยสรุปว่า"การจัดการความเสี่ยง เป็นเรื่องของการชี้บ่งอันตรายที่มีอยู่ในการดำเนินงานโดยประมาณระดับความเสี่ยงและการควบคุมความเสี่ยง รวมถึงการเฝ้าระวังตรวจประเมินและทบทวนการดำเนินงานที่ผ่านมา"เฝ้าระวังตรวจประเมินทบทวน
- ชี้บ่งอันตราย
- ชี้บ่งความเสี่ยง
- ประเมินความเสี่ยง
- ควบคุมความเสี่ยง
อาชีวอนามัยและความปลอดภัยในโรงงาน (Occupational Health and Safety )
เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสาขาวิชา อาชีวอนามัยและความปลอดภัย เป็นงานที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแล สุขภาพอนามัยของผู้ประกอบอาชีพทั้งหมดในโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งด้านการป้องกันและสงเสริมสุขภาพอนามัย ทั้งด้านร่างกาย รวมทั้งทางด้านจิตใจของผู้ประกอบอาชีพในโรงงานอุตสาหกรรม
การขึ้นทะเบียนโรงงาน ( The registration of plant )
โรงงานจำพวกที่ 1 เป็นโรงงานที่สามารถประกอบกิจการได้ทันทีตามความประสงค์ของผู้ประกอบกิจการแต่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดตามกฎกระทรวง - ไม่ต้องยื่นขออนุญาตสามารถประกอบกิจการได้ทันที แต่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ทางกระทรวงได้กำหนดไว้ ได้แก่ สถานที่ตั้งโรงงาน ลักษณะอาคาร การควบคุมการปล่อยของเสีย โรงงารจำพวกที่ 2 เป็นโรงงานที่ไม่ต้องขออนุญาต แต่ต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดเช่นกัน และเมื่อจะเริ่มประกอบกิจการโรงงานให้แจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ทราบก่อน - ยื่นเอกสารใบขออนุญาตและชำระค่าธรรมเนียมรายปี หลังจากนั้นจะได้รับใบแจ้งประกอบกิจการ จึงจะสามารถเริ่มประกอบกิจการได้ โรงงานจำพวกที่ 3 เป็นโรงงานที่ต้องได้รับใบอนุญาตก่อนจึงจะตั้งโรงงานได้ - ยื่นคำขอใบอนุญาตและจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่ แล้วหลังจากนั้นจะมีเจ้าหน้าที่แจ้งผลให้ทราบ ถ้าได้รับการอนุญาตจะต้องชำระค่าธรรมเนียมใบอนุญาต รง 4 เพราะเป็นโรงงานที่มีการติดตั้งเครื่องจักร เมื่อชำระค่าธรรมเนียมแล้วสามารถประกอบกิจการได้
กฏระเบียบความปลอดภัยของพนักงานในโรงงาน(Regulatory safety flap in the factory)
1.การเดินเข้าไปในโรงงานต้องเดินชิดซ้าย ห้ามเดินล้วงกระเป๋า
2.การเดินขึ้นลงบันได ให้มองที่ขั้นบันได และจับที่ราวบรรไดเสมอ
3.ก่อนและหลังการทำงานกับเครื่องจักรต้องตรวจเครื่องจักรเสมอ หากมีปัญหาต้องแจ้งหัวหน้างานให้ทราบทันที
4.ห้ามเคลื่อนย้ายเครื่องกำบังอันตรายออกจากเครื่องจักร
5.ไม่เล่นในขณะปฏิบัติงานเพราะอาจจะทำให้เกิดอันตรายได้
6.ต้องปฏิบัติตามระเบียบและตามป้ายเตือนหรือป้ายห้ามที่ติดไว้
7.เมื่อเกิดอุบัติเหตุ ต้องแจ้งให้หัวหน้างานหรือเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทราบ
8.ห้ามนำอาหารหรือเครื่องดื่มเข้ามารับประทานในโรงงานเป็นอันขาด
9.ต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัยก่อนที่จะปฎิบัติงานเสมอ
10.เก็บรักษาเครื่องมือและเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
11.สูบบุหรีในเวลาและพื้นทีที่ควร
12.หากทำงานเกี่ยวกับสารเคมีควรล้างมือให้สะอาดก่อนรับประทานอาหารทุกครั้ง
13.รักษาความสะอาดพื้นทีทำงานก่อนทำงานและหลังเลิกงาน
14.ห้ามวางสื่งของที่กีดขวางเครื่องดับเพลิงหรือทางหนีไฟ
15.จะไม่ใช้ประตูฉุกเฉินเป็นททางเข้า-ออก