ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

โจโฉ

โจโฉ ตามสำเนียงฮกเกี้ยน หรือ เฉา เชา ตามสำเนียงกลาง (จีน: ??; พินอิน: C?o C?o; เวด-ไจลส์: Ts'ao? Ts'ao?; พ.ศ. 698 – 15 มีนาคม พ.ศ. 763) เป็นขุนศึกและอัครมหาเสนาบดีลำดับรองสุดท้ายแห่งราชวงศ์ฮั่นตะวันออก ทั้งเป็นบุคคลหนึ่งซึ่งมีบทบาทสำคัญที่สุดในสมัยสามก๊ก และเป็นผู้วางรากฐานรัฐเวย เมื่อถึงแก่อสัญกรรมแล้วจึงได้รับการสถาปนาเป็น จักรพรรดิอู่แห่งเวย หรือ พระเจ้าเว่ยบู๊ตี้ (Wei Wudi)

วรรณกรรมมักแสดงภาพโจโฉว่าเป็นทรราชโหดร้ายป่าเถื่อน แต่ตามประวัติศาสตร์แล้ว โจโฉได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้ปกครองที่ชาญฉลาดและเป็นนายทัพที่ปรีชาสามารถ รักและดูแลผู้ใต้บังคับบัญชาประหนึ่งครอบครัวตนเอง นอกจากนี้ โจโฉยังมีฝีมือดีในทางโคลงกลอนและศิลปะการต่อสู้ด้วย ปรากฏว่าเขาได้ฝากผลงานเป็นพิชัยสงครามไว้มากมาย ผลงานทางพิชัยสงครามชิ้นสำคัญคือตำราพิชัยสงครามโจโฉหรือ เมิ่งเต๋อเซินซู ซึ่งเป็นตำรามีบันทึกในนิยายสามก๊กว่าถูกเผาทำลายไปแล้ว แต่ในบันทึกของตำราพิชัยสงครามหลี่จิ้งนั้นระบุว่าเขาใช้เนื้อหาในตำรานี้เป็นแนวคิดหนึ่งทำศึกและพระเจ้าถังไท่จงก็ศึกษาตำรานี้ด้วย ดังนั้นจึงอาจยังมีฉบับคัดลอกตกทอดต่อมาหรือบางทีอาจจะไม่ได้ถูกเผาทำลายไปจริงๆเหมือนที่เขียนไว้ในนิยาย

โจโฉเป็นบุตรชายของโจโก๋ ซึ่งเป็นบุตรบุญธรรมของมหาขันทีโจเท้ง ซึ่งเดิมทีโจโก๋เป็นคนในสกุลแฮหัว ดังนั้นโจโฉกับคนสกุลแฮหัวจึงเป็นญาติใกล้ชิดกัน โจโฉเริ่มต้นรับราชการเมื่ออายุ20ปี ในตำแหน่ง เป้ยตู้เว่ย หรือผู้บังคับการกองทหารนครบาลเหนือ ภายหลังได้เขาได้เข้ามาอยู่ในสังกัดอ้วนเสี้ยว โดยมีตำแหน่งเป็นผู้บังคับการกรมทหารม้าเร็ว แล้วได้รับตำแหน่งให้เป็นแม่ทัพของฝ่ายราชวงศ์ฮั่นที่ออกปราบกบฏโจรโพกผ้าเหลืองซึ่งมีเตียวก๊กเป็นหัวหน้า ซึ่งมี พระเจ้าเลนเต้เป็นจักรพรรดิ เชื่อกันว่าโจโฉเป็นคนรูปร่างเล็ก บุคลิกมีนิสัยฉลาดแกมโกง เอาตัวรอดเก่ง เชี่ยวชาญตำราพิชัยสงคราม ชื่นชอบศิลปะ นิสัยรอบคอบ ภายหลังจากปราบโจรโพกผ้าเหลืองได้สำเร็จและได้รับความดีความชอบเป็นอย่างมาก แต่ภายหลังเกิดเหตุการณ์ตั๋งโต๊ะยึดอำนาจและตั้งตนเป็นใหญ่ โจโฉจึงร่วมรับราชการอยู่กับตั๋งโต๊ะเพื่อคอยหาโอกาสสังหาร แต่ภายหลังลงมือลอบสังหารไม่สำเร็จ จึงรีบหนีออกจากวัง ระหว่างหลบหนีโจโฉได้ถูกจับตัวและพบกับตันก๋งเจ้าเมืองจงพวน ซึ่งชื่นชมในลักษณะนิสัยใจคอจึงขอร่วมเดินทางไปด้วย โดยที่โจโฉมุ่งหน้าไปหาแปะเฉียซึ่งเป็นพี่น้องร่วมสาบานของโจโฉ ด้วยความหวาดระแวงในการหลบหนี ทำให้โจโฉสังหารแปะเฉียและคนในครอบครัว ด้วยความเข้าใจผิดที่คิดว่าแปะเฉียสั่งให้คนใช้จับตนเพื่อส่งกลับยังเมืองหลวง ความโหดเหี้ยมของโจโฉทำให้ตันก๋งขอแยกทาง ซึ่งโจโฉได้กล่าวกับตันก๋งว่า ข้ายอมทรยศคนทั้งโลก แต่ไม่ยอมให้ใครทรยศข้า ต่อมาโจโฉได้รวบรวมพรรคพวกเพื่อบุกเข้าเมืองหลวงและร่วมมือกับเจ้าเมือง 18 หัวเมือง ตั้งเป็นกองทัพสิบแปดหัวเมืองในภายหลัง โดยมี อ้วนเสี้ยวเป็นแม่ทัพใหญ่ในการปราบตั๋งโต๊ะ ต่อมาภายหลังโจโฉเริ่มเบื่อหน่ายกับความแตกแยกในกองทัพ จึงรวบรวมกองกำลังทหารที่เห็นด้วยกับตนหลบหนีไป

ภายหลังจากรวมรวมกองกำลังทหารและปราบตั๋งโต๊ะได้สำเร็จ โจโฉเกิดความทะเยอทะยานในอำนาจของตน เข้าทำการข่มขี่ฮ่องเต้วัยเยาว์ จนได้รับการแต่งตั้งเป็นสมุหนายก (ในสามก๊กฉบับเจ้าพระยาพระคลังแปลตำแหน่งว่าเป็นมหาอุปราชและทำให้คนไทยคุ้นกับตำแหน่งนี้ของโจโฉมากกว่า) และเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระเจ้าเหี้ยนเต้ สร้างความคับแค้นใจให้พระเจ้าเหี้ยนเต้จนต้องแอบเขียนหนังสือด้วยโลหิตถึงเล่าปี่ เพื่อช่วยปราบโจโฉ ต่อมาได้ครองเมืองลกเอี๋ยง ซึ่งมีฐานะเป็นเมืองหลวง และสถาปนาวุยก๊กซึ่งมั่งคั่งและอุดมสมบูรณ์มากที่สุด แต่ด้วยนิสัยหวาดระแวงของโจโฉ ทำให้สั่งประหารบุคคลสำคัญของวุยก๊กจำนวนมากโดยที่ไม่มีความผิด

ภายหลังโจโฉสามารถปราบความวุ่นวายและขุนศึกกองกำลังต่างๆในภาคกลางและเหนือได้ ไม่ว่าจะเป็น ลิโป้ อ้วนสุด เตียวซิ่ว อ้วนเสี้ยว เล่าเปียว โดยเฉพาะศึกกับอ้วนเสี้ยวที่กัวต๋อซึ่งฝ่ายโจโฉมีกำลังทัพด้อยกว่าทุกด้านแต่กลับพลิกสถานการณ์จนสามารถเอาชัยชนะมาได้ ทำให้เขากลายเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดเหนือแผ่นดินจงหยวน จากนั้นจึงระดมกองทัพหลายแสนบุกภาคใต้เพื่อปราบปรามเล่าปี่และซุนกวนซึ่งจับมือเป็นพันธมิตรกัน และด้วยความประมาทบวกกับปัจจัยต่างๆ ทำให้กองทัพของโจโฉไปพ่ายแพ้อย่างยับเยินที่ผาแดง ซึ่งศึกที่ผาแดงนี้เป็น 1 ใน 3 สงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในสามก๊ก และทำให้ดุลย์อำนาจในแผ่นดินถูกแบ่งเป็นสามฝ่าย แต่แม้ว่าจะพ่ายแพ้โจโฉก็ยังคงมีกองกำลังที่เข้มแข็งที่สุดในแผ่นดิน และพยายามแผ่ขยายอิทธิพลของตนเพื่อปราบปรามเล่าปี่และซุนกวนต่อไป

ต่อมาพระเจ้าเหี้ยนเต้ได้แต่งตั้งให้โจโฉขึ้นเป็นวุยอ๋อง ทำให้มีอำนาจประดุจฮ่องเต้ และตั้งเมืองเย่ขึ้นเป็นเมืองหลวงของแคว้นวุย สร้างอิทธิพลและบารมีจนยิ่งใหญ่ในแผ่นดินและกลายเป็นหนึ่งในสามผู้นำที่คานอำนาจในแผ่นดินร่วมกับเล่าปี่และซุนกวน ซึ่งโจโฉเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในการรวบรวมดินแดนได้กว้างไกลที่สุด มีแสนยานุภาพทางทหารเข้มแข็งที่สุดและรวบรวมบุคลากรที่เก่งกาจในยุคนั้นไว้ได้มากที่สุดในแผ่นดิน

โจโฉมีบุตรชายทั้งหมด 5 คน คนแรกชื่อโจงั่ง ซึ่งเกิดจากนางเล่าฮูหยิน แต่เสียชีวิตเมื่อครั้งเกิดศึกสงครามกับเตียวสิ้วพร้อมกับภรรยาอีกคนหนึ่งคือนางเอียนสี โจโฉยังมีบุตรชายกับภรรยาคนที่สองซึ่งภายหลังกลายเป็นภรรยาเอกคือนางเปี้ยนสี อีก 4 คนคือโจผี โจเจียง โจสิด และ โจหิม โจหิมป่วยหนัก และเสียชีวิตแต่ยังหนุ่ม บุตรชายที่เหลือทั้ง 3 ได้รับราชการและสร้างผลงานเอาไว้ชัดเจน ในบั้นปลายชีวิตโจโฉป่วยเป็นโรคประสาท มักปวดหัวเป็นประจำ ว่ากันว่าเกิดขึ้นหลังจากแม่ทัพกวนอูแห่งจ๊กก๊กได้ถูกตัดหัวด้วยฝีมือของซุนกวนแห่งง่อก๊ก ซุนกวนก็คิดที่จะส่งหัวของกวนอูไปให้โจโฉเพื่อให้เล่าปี่หันไปล้างแค้นกับโจโฉแทนที่จะมาล้างแค้นตน เมื่อกล่องใส่หัวของกวนอูมาถึงมือโจโฉ โจโฉเปิดกล่องมองดูหัวของกวนอูก็หัวเราะและทักทายแต่แล้วจู่ๆหัวของกวนอูก็เบิกตาโพลงอ้าปากค้างทำให้โจโฉตกใจจนตกจากเก้าอี้ หลังจากนั้นเมื่อได้ฟังเรื่องลิบองถูกวิญญาณของกวนอูเข้าสิงลุกขึ้นด่าซุนกวนจนกระอั่งเลือดตายก็เกิดความกลัวจนพูดว่า "ขนาดกวนอูตอนเป็นยังดูน่ากลัว ตอนตายก็ดูน่ากลัวเข้าไปใหญ่อีก"(และโจโฉก็รู้แผนของซุนกวนว่าปัดภัยมาให้ตน) จึงสั่งให้สลักร่างกายด้วยไม้หอมให้แก่กวนอูและฝังศพกวนอูทางทิศใต้ของเมืองลกเอี๋ยงและแต่งตั้งกวนอูเป็นอ๋องแห่งเกงจิ๋ว ตนก็จะไปเซ่นไหว้ให้แก่กวนอู หลังจากงานศพของกวนอูผ่านไป จิตใจของโจโฉก็อยู่ไม่เป็นสุขทุกคืนจึงคิดจะสร้างตำหนักใหม่แต่ขาดเสาเอก แต่ก็ได้พบมีศาลแห่งหนึ่งที่มีต้นสาลี่ใหญ่สูงกว่า 100 ศอกเหมาะที่จะเอามาทำเป็นเสาเอก โจโฉสั่งให้โค่นลงแต่คนตัดไม้ไม่สามารถโค่นลงได้จึงไปรายงานให้กับโจโฉ โจโฉจึงไปดูต้นสาลี่ด้วยตัวเอง เมื่อสำรวจแล้วก็สั่งให้คนตัดไม้โค่นอีกแต่ก็ได้รับเสียงค้ดคานจากชาวบ้านว่าต้นสาลี่นั้นศักดิ์สิทธิ์มีเทพคุ้มครองอยู่โค่นไม่ได้ แต่โจโฉหาได้ใส่ใจไม้และบอกกับชาวบ้านว่า"ข้ากร่ำศึกมากกว่าสี่สิบปี ไม่เคยกลัวผู้ใด มีแต่ไพร่สามัญจนถึงฮ่องเต้ล้วนเกรงกลัวข้า ภูตผีที่ไหนกล้าขวางข้า" จึงชักดาบฟันต้นสาลี่ทำให้มียางไม้ที่มีสีคล้ายเลือดพ่นออกมาถูกเสื้อ โจโฉก็เผ่นหนีไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็อาการปวดหัวหนักขึ้น ต่อมาหมอฮัวโต๋ได้มาทำการตรวจอาการของโจโฉก็พบว่าลมในสมองมันตีบซึ่งต้นเหตุมันอยู่ในกะโหลกและเสนอการรักษาด้วยการให้ผ่ากะโหลกศีรษะ โจโฉกลับคิดว่าฮัวโต๋จะฆ่าตนจึงสั่งให้จับไปขังคุกและทรมานสอบสวน แม้จะได้รับการคัดค้านจากที่ปรึกษาก็ไม่ฟัง ฮัวโต๋ก็ถูกจับขังคุกจนตาย ต่อมาโจโฉได่ก็ได้จัดงานเลี้ยงแม้จะปวดหัวก็ยังทนได้และได้รับจดหมายจากซุนกวนว่าขอให้โจโฉขึ้นมาเป็นฮ่องเต้ ปราบปรามเล่าปี่พิชิตเสฉวน เมื่อปราบได้ก็จะมาสวามิภักดิ์แต่โจโฉกลับไม่เชื่อ แต่เหล่าที่ปรึกษาและทหารของท่านก็กลับเห็นด้วยได้พากันอ้อนวอนขอให้ขึ้นมาเป็นฮ่องเต้แต่โจโฉไม่รับและขอเป็นวุยอ๋องก็พอแล้ว หลังจากนั้นอาการของโจโฉก็ทรุดหนักขึ้นเรื่อยๆจนซบเซานอนลงบนเตียง แต่ในขณะที่หลับฝันเห็นวิญญาณที่ตนเคยฆ่ามาก่อนตามทวงเอาชีวิตจนสะดุ้งตื่นขึ้นชักดาบจนทำให้เหล่านางกำนัลต้องเผ่นหนีกระเจิงไป ที่ปรึกษาก็ได้แนะนำให้เชิญนักพรตลัทธิเต๋ามาช่วยทำพิธีปัดรังควาน แต่โจโฉก็ได้พูดว่าฟ้าได้ลงโทษแล้ว ไม่อาจฏีกาหรือขอขมาได้เลย ตนหมดบุญเพียงเท่านี้แล้วไม่อาจช่วยได้แล้ว

โจโฉก็ได้สั่งเสียกับเหล่าที่ปรึกษาและทหารของตนว่าให้ช่วยค้ำจุนโจผีบุตรชายคนรองผู้เป็นทายาทต่อจากตนและทำการใหญ่ด้วยการรวบรวมแผ่นดินจีนให้ได้และก็ได้สั่งให้สร้างสุสานไว้ 72 แห่งที่นอกจวนเตียวเต้งและเกียงบู๋ และสั่งให้ฝังตนไว้ในสุสานใดสุสานหนึ่งใน 72 แห่งเพื่อไม่ให้คนรุ่นหลังมาพบเจอ มีแต่เพียงคนที่เชื่อใจได้เท่านั้นที่รู้ว่าตนอยู่หลุมไหน และหลังจากนั้นท่านก็ได้เชิญเหล่าบรรดาภรรยาของท่านมาหาตนเพื่อสั่งเสีย แต่ช่วงนั้นตาของโจโฉเกิดบอดมองไม่เห็นก็ได้ใช้มือจับลูบคล้ำใบหน้าของเหล่าบรรดาภรรยาเพื่อจดจำว่าเป็นใครและได้มอบถุงเงินจำหนวนหนึ่งให้แก่พวกนางเพื่อให้พวกนางหัดทำงานปัดด้ายทอเกือกขายแลกเอาเงินเลี้ยงตัวเอง และสั่งให้พวกนางอาศัยในหอตั่งเซ็กต้องเซ่นไหว้ตนทุกวันและให้นางกำนัลขับกล่อมตนด้วย หลังจากนั้นโจโฉก็ได้เสียชีวิตเมื่ออายุได้ 66 ปี ภายหลังจากโจโฉเสียชีวิต โจผีได้ถอดพระเจ้าเหี้ยนเต้ออกจากตำแหน่งและสถาปนาตนเองเป็นพระเจ้าโจผีแห่งราชวงศ์วุย รวมทั้งยกย่องโจโฉขึ้นเป็นจักรพรรดิองค์แรกแห่งราชวงศ์วุย พร้อมถวายพระนามย้อนหลังว่าพระเจ้าเว่ยบู๊ตี้

ในวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 2009 ทางการจีนประกาศว่าได้ขุดค้นพบสุสานที่เชื่อว่าน่าจะเป็นของโจโฉ ที่เมืองอันหยาง มณฑลเหอหนาน ตอนกลางของประเทศจีน โดยสุสานมีอาณาบริเวณ 740 ตารางเมตร มีโครงกระดูกของชายที่น่าจะเสียชีวิตในอายุราว 60 ปี ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นโจโฉ และโครงกระดูกของผู้หญิงอีก 2 ซึ่งน่าจะเป็นมเหสี และป้ายศิลาจารึกพระนามของโจโฉ


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301