โจว เหวินฟะ (จีน: ???; พินอิน: Zh?u R?nf?, โจว รุ่นฟา ; อังกฤษ: Chow Yun fat; เกิด 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2498 ที่เกาะลัมมา ฮ่องกง) เป็นหนึ่งในสุดยอดนักแสดงฮ่องกงที่ได้ก้าวเข้าสู่วงการภาพยนตร์นานาชาติ ในฐานะเดียวกับ บรูซ ลี และ เฉินหลง โจว เหวินฟะ เป็นนักแสดงที่มีบุคลิกโดดเด่น ได้รับการเปรียบว่าคล้ายคลึงกับแครี แกรนท์ นักแสดงฮอลลีวูดแต่ดูบึกบึนและจัดจ้านกว่า
โจว เหวินฟะ เกิดบนเกาะลัมมา นอกชายฝั่งของเกาะฮ่องกง มีชีวิตวัยเด็กที่ยากไร้ แต่โชคดีที่เขาได้เรียนจนจบวิทยาลัย ชีวิตของเขาถึงจุดพลิกผันเมื่อได้รับเข้าเป็นนักแสดงฝึกหัดในบริษัททีวีบี ที่เป็นสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่น เขาใช้เวลาไม่นานในการไต่เต้าขึ้นมาเป็นนักแสดงที่เป็นที่รู้จักของประชาชน หลังจากที่ละครโทรทัศน์เรื่องเจ้าพ่อเซี่ยงไฮ้ (ภาษาจีน:??? พินอิน:Shang Hai tan - แปลตรงตัวว่า'หาดเซี่ยงไฮ้') ประสบความสำเร็จใน พ.ศ. 2523
แม้ว่าโจว เหวินฟะ จะประสบความสำเร็จจากผลงานทางจอแก้วอย่างต่อเนื่อง ความฝันอันสูงสุดของเขายังคงเป็นการได้แสดงภาพยนตร์ทางจอเงิน แต่อย่างไรก็ดี การได้ไปโลดแล่นทางหนังจอเงินของเขาบางครั้งบางคราวในภาพยนตร์ต้นทุนต่ำ กลับกลายเป็นความหายนะ เขาประสบความสำเร็จในที่สุดเมื่อได้ร่วมงานกับจอห์น วู ผู้กำกับหน้าใหม่ที่ไม่มีใครรู้จักในขณะนั้น ในภาพยนตร์บู๊ต้นทุนต่ำเรื่อง โหด เลว ดี ในปีพ.ศ. 2529 ขึ้นอับดับสูงในการจัดอันดับหนังทำเงินในหลายประเทศในเอเชีย และส่งให้จอห์น วู และโจว เหวินฟะ กลายเป็นสุดยอดดารา โจว เหวินฟะได้ถือโอกาสนี้ล้างมือจากวงการโทรทัศน์และอุทิศตนให้กับการแสดงภาพยนตร์กังฟูมากขึ้น ภาพยนตร์เรื่องต่อมาของเขาเป็นเรื่องเกี่ยวกับการนองเลือดของวีรบุรุษ เรื่อง โหดตัดโหด (พ.ศ. 2532) และ ทะลักจุดแตก (พ.ศ. 2535) และภาพยนตร์รักโรแมนติกเรื่อง ดอกไม้กับนายกระจอก (พ.ศ. 2530) อย่างไรก็ตาม เขาสร้างชื่อมากที่สุดจากบทของบุรุษแกร่งผู้ทรงเกียรติ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจหรืออาชญากร เขาได้ร่วมแสดงกับหลิวเต๋อหัว ในภาพยนตร์เรื่อง คนตัดคน (พ.ศ. 2532) กำกับโดย หวังจิ่ง ภาพยนตร์เรื่องนี้ได้สร้างความประหลาดใจให้แก่คนจำนวนมาก และได้กลายเป็นภาพยนตร์ที่โด่งดังมากในฮ่องกง ทำลายสถิติหนังทำเงินทุกเรื่องที่มีมา และเป็นที่มาของภาพยนตร์แนวเจ้าพ่อพนันจำนวนมาก รวมถึงเรื่อง คนตัดเซียน ภาคต่อในแบบตลกขบขันที่มี โจวซิงฉือ แสดงนำ
โจว เหวินฟะนอกจากจะเป็นดาราที่ร้อนแรงที่สุดในฮ่องกงคนหนึ่งแล้ว เขายังถูกฮอลลีวูดเรียกตัวไปเพื่อพยายามปั้นให้เขาประสบความสำเร็จในระดับนานาชาติอย่างเดียวกันกับในฮ่องกงและเอเชีย แต่คราวนี้ภาพยนตร์ฮอลลีวูดสองเรื่องแรกของเขา คือ นักฆ่ากระสุนโลกันต์ (พ.ศ. 2541) กำกับโดยอังตวน ฟูควา และคนคอรัปชั่น (พ.ศ. 2542) ไม่ประสบความสำเร็จในบ็อกซ์ออฟฟิศเท่าที่ควร ภาพยนตร์เรื่องต่อมาคือ แอนนา แอนด์ เดอะ คิง (พ.ศ. 2542) ที่ถูกแบนห้ามฉายในประเทศไทย ทำได้ดีกว่าเดิม แต่ความสำเร็จกลับตกอยู่กับดาราสาวโจดี ฟอสเตอร์เสียส่วนใหญ่ และราวกับเป็นเรื่องประชดแดกดัน เมื่อ โจว เหวินฟะ ยอมเล่นเป็นดาราสมทบในภาพยนตร์เรื่อง พยัคฆ์ระห่ำ มังกรผยองโลก (พ.ศ. 2543) กำกับโดยอั้ง ลี่ หนังเรื่องนี้กลับประสบความสำเร็จอย่างถล่มทลาย ได้ขึ้นอันดับหนังทำเงินสูงสุดในสหรัฐ และยังได้รับรางวัลออสการ์ถึงสี่สาขาด้วยกัน (ภาพยนตร์ภาษาต่างประเทศยอดเยี่ยม ดนตรีประกอบยอดเยี่ยม ถ่ายภาพยอดเยี่ยม และ กำกับศิลป์ยอดเยี่ยม)
โจว เหวินฟะ ยังคงรอคอยกับความสำเร็จแบบเดียวกับที่เขาได้เคยลิ้มรสในฮ่องกง ครั้งหนึ่ง เขาเคยให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าวยอมรับว่า เป้าหมายสูงสุดของเขาคือการได้รางวัลออสการ์ ในฐานะดารานำยอดเยี่ยมฝ่ายชาย และเมื่อมีคนถามว่าเขาจะทำอย่างไรหากมันไม่เป็นจริงขึ้นมา โจว เหวินฟะตอบเพียงว่า "ผมก็คงต้องหัวเราะกับมัน..."
นอกจากนี้แล้ว โจว เหวินฟะ ยังเคยแสดงภาพยนตร์ไทยด้วย ใน พ.ศ. 2526 คือ กตัญญูประกาศิต ร่วมกับ เกรียงไกร อุณหะนันทน์, ฉัตรชัย เปล่งพานิช, เพ็ญพักตร์ ศิริกุล และอโนเชาว์ ยอดบุตร กำกับการแสดงโดย แจ๊สสยาม