แกรนด์ดยุกอ็องรีแห่งลักเซมเบิร์ก (16 เมษายน พ.ศ. 2498 –) เป็นพระโอรสพระองค์แรกในแกรนด์ดยุกฌ็องและเจ้าฟ้าหญิงโฌเซฟิน-ชาร์ล็อต เป็นพระราชนัดดาใน เลออปอลที่ 3 เป็นพระภาคิไนยใน อัลแบร์ที่ 2 ขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2543 อภิเษกสมรสกับมาเรีย เตเรซา เมสเตรใน พ.ศ. 2524
แกรนด์ดยุกอ็องรี เป็นพระโอรสพระองค์แรกในแกรนด์ดยุกฌ็องและแกรนด์ดัชเชสโฌเซฟีน-ชาร์ล็อตแห่งลักเซมเบิร์ก มีพระภราดาพระภคินีทั้งหมด 4 พระองค์คือ
เจ้าชายอ็องรีได้เป็นรัชทายาทแห่งลักเซมเบิร์กเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ทรงศึกษาในประเทศลักเซมเบิร์กและในฝรั่งเศส ที่นั่นพระองค์ทรงได้รับปริญญาตรีในปี พ.ศ. 2517 จากนั้นทรงศึกษาด้านรัฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยเจนีวา ทรงสำเร็จการศึกษาในปี พ.ศ. 2523 พระองค์ได้อาสาเข้าฝึกในวิทยาลัยการทหารของประเทศอังกฤษ
ขณะที่ทรงศึกษาอยู่ที่เจนีวา แกรนด์ดยุกอ็องรีได้พบกับนางสาวมาเรีย เตเรซา เมสเตร ผู้ซึ่งศึกษาอยู่คณะเดียวกัน ทั้งคู่ทรงอภิเษกสมรสในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2524 ณ ลักเซมเบิร์ก และทรงได้รับพระอนุญาตจากแกรนด์ดยุกก่อนแล้ว
เจ้าชายอ็องรีได้กลายเป็นรัชทายาทอย่างแท้จริงเมื่อแกรนด์ดัชเชสชาร์ล็อตแห่งลักเซมเบิร์กผู้เป็นพระอัยยิกาของพระองค์ทรงสละราชสมบัติในวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2507 ตั้งแต่พ.ศ. 2523 ถึง พ.ศ. 2541 ทรงเป็นสมาชิกในสภาแห่งรัฐ
ในวันที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2541 เจ้าชายอ็องรีทรงได้รับการแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรโดยแกรนด์ดยุกฌ็องแห่งลักเซมเบิร์กผู้เป็นพระราชบิดา แสดงว่าพระองค์ทรงได้รับพระราชอำนาจทางรัฐธรรมนูญจากพระบิดา ในวันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ. 2543 แกรนด์ดยุกฌ็องแห่งลักเซมเบิร์กทรงสละราชสมบัติ เจ้าชายอ็องรีทรงขึ้นครองราชสมบัติเป็นแกรนด์ดยุกแห่งลักเซมเบิร์กโดยรัฐธรรมนูญก่อนการประชุมคณะผู้แทนหลังจากวันนั้น
พระนามเต็มและพระอิศริยยศของพระองค์คือ ฮิสรอยัลไฮเนสอ็องรีโดยพระคุณของพระเป็นเจ้า แกรนด์ดยุกแห่งลักเซมเบิร์ก เจ้าชายแห่งนัสเซา เจ้าชายแห่งบูร์บง-ปาร์มา ดยุกแห่งนัสเซา เคานต์พาลาไทน์แห่งแม่น้ำไรน์ เคานต์แห่งไซน์ เคอนิกชไตน์ คัทเซเนล์นโบเงิน และนีซ เบอร์เกรฟแห่งฮัมเมอร์ชไตน์ ลอร์ดแห่งมาลแบร์ก วีสบาเดิน อิทชไตน์ เมเรนแบร์ก ลิมบูร์ก และเอพพ์ชไตน์
อย่างไรก็ตามในช่วงครองราชสมบัติทรงสละพระยศ โดยพระคุณของพระเป็นเจ้า และในกฎหมาย, ประกาศและเอกสารทางราชการทรงให้พระนามว่า "อ็องรี แกรนด์ดยุกแห่งลักเซมเบิร์ก ดยุกแห่งนัสเซา"
ในวันที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2551 จากประกาศแกรนด์ดยุกอองรีทรงไม่เห็นด้วยกับการการุณยฆาตที่จะต้องลงพระอภิไธยเพื่อให้เป็นการถูกกฎหมาย หลังจากการลงคะแนนเสียง ทรงจำเป็นต้องลงพระนามในกฎหมายนี้ตามคะแนนเสียง ทางราชวงศ์พยายามที่จะหยุดคำตัดสินของรัฐสภาที่เห็นชอบซึ่งเหมือนกับครั้งอดีตที่แกรนด์ดัชเชสมารี-อเดเลดแห่งลักเซมเบิร์กทรงปฏิเสธที่จะลงพระนามในพระราชบัญญัติการศึกษาในปี พ.ศ. 2455
ขณะเป็นพระประมุขในระบอบประชาธิปไตย ภาระหน้าที่ของพระองค์เริ่มแรกคือการเป็นผู้แทน อย่างไรก็ตามพระองค์ได้รักษาไว้ซึ่งพลังแห่งรัฐธรรมนูญที่ทรงกำหนดหน้าที่ให้แก่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาลแต่ทรงล้มเลิกหน้าที่การประกาศกฎหมายและการแต่งตั้งคณะทุตานุทูต แกรนด์ดยุกอ็องรีทรงเป็นจอมทัพลักเซมเบอร์ก ที่ซึ่งมีพระอิศริยยศทางทหารชั้นนายพล
พระองค์ทรงเป็นตัวแทนประเทศไปกระชับความสัมพันธ์กับประเทศต่างๆเช่นในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2544 แกรนด์ดยุกอ็องรีและแกรนด์ดัชเชสมาเรีย เตเรซาเสด็จประพาสสเปนเป็นประเทศแรก ตามคำทูลเชิญของสมเด็จพระราชาธิบดีควน การ์โลสที่ 1 แห่งสเปนกับสมเด็จพระราชินีโซเฟียแห่งสเปน แกรนด์ดยุกอ็องรีทรงเป็นสมาชิกในคณะกรรมการโอลิมปิกนานาชาติด้วย
ปัจจุบันพระองค์ทรงพำนักอยู่กับพระราชวงศ์ที่ปราสาทเบิร์กในลักเซมเบิร์ก และมักทรงแปรพระราชฐานในวันหยุดไปที่ฝรั่งเศสตอนใต้
ในวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2567 ซึ่งตรงกับวันเฉลิมพระชนมพรรษาของแกรนด์ดยุก พระองค์ทรงประกาศแต่งตั้งเจ้าชายกีโยมเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ โดยจะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน สื่อมวลชนคาดการณ์ว่าอาจเป็นสัญญาณแห่งพระราชประสงค์ที่จะสละราชสมบัติในอนาคต
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/แกรนด์ดยุกอ็องรีแห่งลักเซมเบิร์ก