แกบ (เขมร: ???; "อานม้า") เป็นจังหวัดที่อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกัมพูชาแบ่งเป็น 2 ตำบล (สรก)คือแกบและดำมักชาวเออร์ ห่างจากพนมเปญไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 164 กิโลเมตร อยู่ห่างจากจังหวัดห่าเตียนของเวียดนามไม่กี่กิโลเมตร แกบเป็นจังหวัดที่มีประชากรน้อยเพียง 40,280 คน และเป็นจังหวัดที่เล็กที่สุดในประเทศกัมพูชา เป็นเมืองตากอากาศที่มีชื่อเสียงของกัมพูชาระหว่าง พ.ศ. 2443 – 2503
ในสมัยที่เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศส ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2451 ชื่อเดิมคือแกบซูร์เมอร์ แกบมีรีสอร์ทสำหรับชาวกัมพูชาและชาวฝรั่งเศส มีหมู่บ้านสไตล์ฝรั่งเศสเป็นจำนวนมากซึ่งเก่าและโทรมลง แต่ก็กำลังพัฒนาขึ้นใหม่อย่างช้า ๆ อิทธิพลในสมัยอาณานิคมเห็นได้ชัดเจนทั้งทางสถาปัตยกรรมและอาหาร แกบยังขาดแคลนโครงสร้างภายในอีกหลายอย่าง ใน พ.ศ. 2550 เพิ่งมีการนำไฟฟ้าจากประเทศเวียดนามเข้ามาใช้ ในช่วงที่เขมรแดงครองอำนาจ สิ่งก่อสร้างในสมัยที่เป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสจำนวนมากถูกทำลาย พระนโรดม สีหนุได้สร้างบ้านพักตากอากาศไว้ที่เมืองนี้ แต่ไม่เคยได้อยู่และยังคงว่างเปล่า แกบมีถนนเชื่อมต่อกับจังหวัดกำปอต หาดเป็นป่าชายเลนและหาดหิน ต่างจากสีหนุวิลล์ที่เป็นหาดทรายขาว มีเกาะอยู่ใกล้ๆจำนวนมาก เช่นเกาะทนซาย แกบมีชื่อเสียงด้านอาหารทะเลโดยเฉพาะปู ในวันที่ 22 ธันวาคม พ.ศ. 2551 แกบได้ยกฐานะขึ้นเป็นจังหวัด
เกาะทนซาย(ภาษาเขมร: ?????????) อยู่ห่างจากแกบไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 4.5 กม. นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางไปยังเกาะที่มีหาดทรายขาว มีปะการัง สัตว์ทะเล ชื่อของเกาะทนซายมาจากคำว่ารุมซาย เจ้าชายสกอเรียชได้นำกองทัพของพระองค์ข้ามทะเลไปยังเกาะที่อยู่ตรงข้ามกับแกบ เมื่อกองทัพเคลื่อนออกไป เกาะนี้จึงชื่อว่ารุมซาย และในปัจจุบันเรียกทนซาย คนที่อยู่บนเกาะนี้ก่อน พ.ศ. 2518 เรียกเกาะนี้ว่าเกาะอันไต แต่ไม่ทราบความหมาย ในสมัยสังคมราษฎร์นิยม เกาะนี้เป็นที่อยู่ของนักโทษการเมือง สิ่งก่อสร้างที่ใช้คุมขังนักโทษถูกทำลายในสมัยสงคราม ปัจจุบันมีคนอยู่บนเกาะเพียง 7 ครอบครัว ดำรงชีพด้วยการประมงและปลูกมะพร้าว