เอ็น หรือ เอ็นยึด (อังกฤษ: ligament) เป็นคำกว้างๆ หมายถึง กลุ่มหรือมัดเส้นใยเนื้อเยื่อเกี่ยวพันซึ่งเรียงตัวในทิศทางเดียว เห็นได้ชัดและไม่มีกล้ามเนื้อยึดที่ปลาย ทั้งนี้เอ็นมีความหมายถึงโครงสร้างได้ 3 ชนิด โดยทั่วไปเอ็นหมายถึงเนื้อเยื่อเส้นใยที่ยึดระหว่างกระดูก เรียกว่า "เอ็นข้อต่อ" (articular ligament, articular larua) "เอ็นเส้นใย" (fibrous ligaments) หรือ "เอ็นแท้" (true ligaments)
วิชาที่ศึกษาเอ็น เรียกว่า วิทยาเอ็น (desmology) ภาษาอังกฤษมาจากรากศัพท์ภาษากรีกโบราณ ??????, desmos, "สาย"; และ -?????, -logia "ความรู้")
เอ็นคล้ายคลึงกับเอ็นกล้ามเนื้อ (tendon) และพังผืด (fasciae) ตรงที่ทั้งหมดประกอบด้วยคอลลาเจน แต่เอ็นยึดระหว่างกระดูกชิ้นหนึ่งกับกระดูกอีกชิ้นหนึ่ง แต่เอ็นกล้ามเนื้อยึดระหว่างกล้ามเนื้อกับกระดูก และพังผืดเชื่อมกล้ามเนื้อมัดหนึ่งกับกล้ามเนื้ออีกมัดหนึ่ง
โดยทั่วไป เอ็น หมายถึงแผ่นเนื้อเยื่อเกี่ยวพันชนิดหนาแน่นและเป็นระเบียบ (dense regular connective tissue) เหนียวและสั้น ที่มีองค์ประกอบส่วนใหญ่เป็นเส้นใยคอลลาเจนยาวและเหนียว เอ็นทำหน้าที่ยึดเชื่อมกระดูกและกระดูกชิ้นอื่นเพื่อเกิดเป็นข้อต่อ (joint) (โครงสร้างที่ทำหน้าที่ยึดระหว่างกล้ามเนื้อและกระดูกคือ เอ็นกล้ามเนื้อ (tendon)) เอ็นบางตำแหน่งทำหน้าที่จำกัดและช่วยป้องกันการเคลื่อนไหวบางทิศทางของข้อต่อ
เอ็นแคปซูล (Capsular ligament) เป็นส่วนของแคปซูลข้อต่อ (articular capsule) ที่ล้อมรอบข้อต่อแบบซินโนเวียล (Synovial joint) ซึ่งทำหน้าที่เสริมแรง เอ็นนอกแคปซูล (Extra-capsular ligament) ทำหน้าที่เชื่อมกระดูกเข้าด้วยกันและช่วยรักษาเสถียรภาพของข้อต่อ เอ็นในแคปซูล (Intra-capsular ligaments) ทำหน้าที่รักษาเสถียรภาพของข้อแต่ยังทำให้ข้อต่อมีพิสัยการเคลื่อนไหวกว้างขึ้น
เอ็นยึดจะมีคุณสมบัติยืดหยุ่น เมื่อมีแรงตึงจะค่อยๆ ยืดออกเล็กน้อย และกลับสภาพเดิมเมื่อไม่มีแรงตึง (ต่างจากเอ็นกล้ามเนื้อซึ่งไม่มีความยืดหยุ่น) แต่หากแรงดึงมากเกินจุดหนึ่งหรือถูกทิ้งไว้จนเกินระยะเวลาหนึ่งเอ็นจะไม่สามารถกลับสภาพเดิม ด้วยเหตุนี้เมื่อเกิดข้อเคลื่อน (dislocation) แล้วต้องได้รับการรักษาโดยทันที ถ้าเอ็นถูกยืดมากเกินไป ข้อต่อก็จะอ่อนแอลงและมีแนวโน้มจะเกิดข้อเคลื่อนในอนาคต นักกรีฑา, นักยิมนาสติก, นักเต้นและผู้ฝึกฝนศิลปะการต่อสู้จึงต้องมีการออกกำลังกายแบบยืดหยุ่น (stretching exercise) เพื่อยืดเอ็นให้ข้อต่องอโค้งได้ง่าย
อาการข้อต่อเคลื่อนเกิน (hyperlaxity หรือ double-jointed) หมายถึงอาการที่ข้อต่อมีความยืดหยุ่นมากกว่าปกติ ทำให้ข้อต่อยืดและบิดได้มากขึ้น
เมื่อเกิดเอ็นฉีก (broken ligament) อาจทำให้ข้อต่อไม่เสถียร เอ็นฉีกทุกครั้งไม่จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดก็ได้ เพียงแค่ให้ข้อต่ออยู่นิ่งก็ทำให้เอ็นมาต่อกันได้ แต่การผ่าตัดสามารถเย็บซ่อมเอ็นได้โดยตรง หากการรักษาดังกล่าวรักษาเอ็นฉีกไม่ได้ผลอาจต้องใช้หัตถการอื่นๆ เช่น Brunelli Procedure เพื่อรักษาเสถียรภาพของข้อ การทิ้งไว้โดยไม่รักษาเป็นเวลานานอาจทำให้กระดูกอ่อนสึกและทำให้ข้อเสื่อม (osteoarthritis) ได้
โครงสร้างที่มีลักษณะเป็นท่อในระยะทารกในครรภ์เมื่อถูกปิดลงและมีลักษณะเป็นสายหรือเส้น อาจเรียกว่า "เอ็น"
ข้อต่ออโครมิโอคลาวิคิวลาร์: เอ็นอโครมิโอคลาวิคิวลาร์ - เอ็นคอราโคคลาวิคิวลาร์ (เอ็นทราปีซอยด์, เอ็นโคนอยด์) - เอ็นคอราโคอโครเมียล - เอ็นซุพีเรียร์ทรานสเวิร์สสแคปูลา - เอ็นอินฟีเรียทรานสเวิร์สสแคปูลา
ข้อต่อระหว่างข้อมือกับฝ่ามือ: เอ็นคาร์โปเมตาคาร์ปัลด้านหลังมือ - เอ็นคาร์โปเมตาคาร์ปัลด้านฝ่ามือ (เอ็นพิโสเมตาคาร์ปัล)
ข้อต่อระหว่างกระดูกฝ่ามือ: เอ็นทรานสเวิร์สเมตาคาร์ปัลชั้นลึก - เอ็นทรานสเวิร์สเมตาคาร์ปัลชั้นตื้น