เอมิเรตส์สเตเดียม (Emirates Stadium) หรือ สนามกีฬาเอมิเรตส์ คือ สนามฟุตบอลที่มีที่ตั้งอยู่ที่แอชเบอร์ตันโกรฟในฮอลโลเวย์ (Holloway) ลอนดอนเหนือ และเป็นสนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลอาร์เซนอล ตั้งแต่เปิดใช้งานเมื่อเดือนกรกฎาคม ปี ค.ศ. 2006 สนามแห่งนี้อัฒจรรย์จะเป็นเก้าอี้ทั้งหมด 60,355 ที่นั่ง ซึ่งนับว่าเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของพรีเมียร์ลีกตามหลังเพียงสนามโอลด์แทรฟฟอร์ด และเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ในลอนดอนรองจากสนามเวมบลีย์และสนามทวิกเคนแฮม ในช่วงวางแผนและกำลังก่อสร้างอยู่นั้น เดิมสนามนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ แอชเบอร์ตันโกรฟ ก่อนที่จะมีการใช้ชื่อตามข้อตกลงของสายการบินเอมิเรตส์ ผู้สนับสนุนการก่อสร้างสนามนี้ เมื่อเดือนตุลาคม ปี 2004 มูลค่าการก่อสร้างสนามอยู่ที่ 430 ล้านปอนด์
สนามแห่งนี้มีอัฒจันทน์ที่มีหลังคารายล้อมทั้ง 4 ทิศ แต่ที่พื้นสนามไม่มีหลังคาคลุม ออกแบบโดยสถาปัตยกรรม HOK Sport ตรวจสอบโครงสร้างทางวิศวกรรมโดยบริษัท Buro Happold ผู้ควบคุมการสร้างคือ เซอร์ โรเบิร์ต แมคอัลไพน์ ตั้งอยู่ในพื้นที่ของเขตอุตสาหกรรมแอชเบอร์ตันโกรฟเดิม ห่างจากสนามไฮบิวรี สนามเดิมของอาร์เซนอลเพียงไม่กี่ร้อยเมตร
อัฒจันทน์ครึ่งบนของสนามจุได้ 26,646 ที่นั่ง และครึ่งล่างจุได้ 24,425 ที่นั่ง ที่นั่งทั้งหมดเป็นแบบมาตรฐาน ในฤดูกาล 2006-07 นั้น ส่วนใหญ่แล้วตั๋วเข้าชมสำหรับผู้ใหญ่จะมีราคาประมาณ 32 ปอนด์ถึง 66 ปอนด์ แต่ตั๋วสำหรับเด็กจะมีราคาเพียง 13 ปอนด์เท่านั้น แต่ในแมตช์สำคัญบางแมตช์ ตั๋วเข้าชมอาจจะมีราคาสูงถึง 46-94 ปอนด์ ตั๋วสำหรับเข้าชมทั้งฤดูกาลมีราคาอยู่ในช่วง 885 ปอนด์ถึง 1,825 ปอนด์
อัฒจันทร์ชั้นกลาง หรือที่รู้จักกันดีในชื่อ "ระดับสโมสร" (Club Level) คะมีราคาสูงและยังมีชั้นบ๊อกซ์รวมอยู่ในอัฒจันทน์ระดับนี้ด้วย สามารถจุผู้ชมประมาณ 7,139 ที่นั่ง ในฤดูกาล 2006-07 ราคาตั๋วของชั้นนี้มีราคาตั้งแต่ 2,500 ปอนด์จนถึง 4,750 ปอนด์ต่อฤดูกาล ซึ่งเจ้าของตั๋วสามารถเข้าชมเกมลีกในบ้านได้ทั้งหมดรวมถึงเกม ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก, เอฟเอคัพ และ คาร์ลิ่งคัพ ที่อาร์เซนอลได้เล่นในบ้านด้วย แต่ตั๋วทุกใบจำหน่ายหมดตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2006 แล้ว
ถัดจากชั้นนี้ขึ้นไป จะมีชั้นเล็กๆที่เป็นบ๊อกซ์ขนาดความจุ 10, 12 และ 15 ที่นั่งจำนวน 150 บ๊อกซ์ ชั้นนี้จึงสามารถจุผู้ชมได้ทั้งหมด 2,222 คน ราคาของชั้นบ๊อกซ์เริ่มต้นที่ 65,000 ต่อปีรวมภาษีมูลค่าเพิ่มแล้ว สามารถนำตั๋วนี้มาเข้าชมเกมลีกในบ้านและเกมยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก เอฟเอคัพ และคาร์ลิ่งคัพที่อาร์เซนอลได้เล่นในบ้านด้วย บริเวณที่ยอดเยี่ยมที่สุดในสนามแห่งนี้สำหรับการชมเกมรู้จักกันดีในชื่อ "ไดมอนด์คลับ" (Diamond Club) จัดไว้สำหรับแขกรับเชิญเท่านั้น มีราคาเพียง 25,000 ปอนด์ต่อที่นั่ง
ผู้ที่มีตั๋วเข้าชมสามารถใช้บริการพื้นที่ส่วนตัวพิเศษ ภัตตาคาร และบาร์ได้อีกด้วย และยังมีสิทธิ์ในการจอดรถในที่จอดรถของสนาม สมาชิกยังมีสิทธิ์ได้ลุ้นไปชมเกมยุโรปด้วยเครื่องบินลำเดียวกับที่นักเตะใช้เดินทาง
เนื่องจากว่าตั๋วเป็นที่ต้องการของแฟนบอลอย่างมากและมีค่าสูงตามราคาค่าครองชีพของแฟนบอลในลอนดอน อาร์เซนอลจึงสามารถสร้างรายได้มหาศาลจากตั๋วเข้าชมชั้นพรีเมียมและชั้นบ๊อกซ์ ซึ่งเป็นตัวเลขที่ใกล้เคียงกับรายได้ที่ได้จากที่นั่งทั้งหมดที่สนามไฮบิวรีเลยทีเดียว
วันที่ 5 ตุลาคม ค.ศ. 2004 มีการประกาศว่า สนามแห่งนี้จะใช้ชื่อว่า เอมิเรตส์สเตเดียม เป็นเวลาอย่างน้อย 15 ปี หลังจากที่สโมสรตกลงรับเงินสนับสนุนมูลค่า 100 ล้านปอนด์สำหรับการก่อสร้างสนามจากสายการบินเอมิเรสต์แอร์ไลน์ โดยเงินจำนวนนี้รวมไปถึงการจ่ายเงินค่าโลโก้ของเอมิเรตส์บนเสื้อของอาร์เซนอลเป็นเวลา 8 ปีแล้ว เริ่มตั้งแต่ฤดูกาล 2006-07
สนามแห่งนี้มีชื่อเรียกสั้นๆว่า "ดิเอมิเรตส์" แต่ก็มีแฟนบอลจำนวนหนึ่งนิยมใช้ชื่อเก่าที่เรียกว่า "แอชเบอร์ตัน โกรฟ" หรือแม้แต่ "เดอะโกรฟ" มากกว่า ความรู้สึกแตกต่างระหว่างชื่อที่เรียกอย่างเป็นทางการและอย่างไม่เป็นทางการของสนามแห่งนี้ก็คล้ายๆกับที่มีการเรียกชื่อสนามแห่งเก่าของอาร์เซนอลที่มีชื่อเรียกอย่างเป็นทางการว่า อาร์เซนอลสเตเดียม แต่มักจะได้ยินกันคุ้นหูว่า ไฮบิวรี ที่เรียกกันติดปากในหมู่แฟนบอลของทีม ผู้สื่อข่าว หรือแม้แต่ทางสโมสรเอง
เนื่องจากข้อบังคับของทางยูฟ่าเรื่องผู้สนับสนุนสนาม ในเกมการแข่งขันยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สนามแห่งนี้จะไม่ใช้ชื่ออย่างเป็นทางการว่า เอมิเรตส์สเตเดียม เนื่องจากเอมิเรตส์ไม่ได้เป็นผู้สนับสนุนอย่างเป็นทางการของการแข่งขันแชมเปียนส์ลีก สนามแห่งอื่นก็เช่นกัน อย่างเช่น อลิอานซ์อารีนา ในเมืองมิวนิค ก็ผิดกฎของยูฟ่าเช่นกันและไม่สามารถใช้ชื่อนี้ได้ ยูฟ่าจึงใช้ชื่อสนามแห่งนี้ว่า "อาร์เซนอลสเตเดียม" ซึ่งตรงกับชื่ออย่างเป็นทางการของสนามเดิมที่ไฮบิวรี