เหรียญดุษฎีมาลา เป็นเหรียญราชอิสริยาภรณ์สำหรับพระราชทานเป็นที่ระลึก เรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า เหรียญแพรแถบ เป็นเหรียญบำเหน็จความชอบในราชการ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2425 อันเป็นมหามงคลสมัยครบรอบ 100 ปีที่หนึ่ง นับแต่ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงเทพมหานครขึ้นเป็นราชธานี และทรงตั้งราชวงศ์จักรียั่งยืนมานานจนถึงสมัยของพระองค์ท่าน
ลักษณะของเหรียญ เป็นแบบกลมรี ด้านหน้ามีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวผินพระพักตร์ทางซ้ายของเหรียญ ใต้รูปมีอักษรโรมัน ด้านหลังมีรูปพระสยามเทวาธิราชทรงพระขรรค์ยืนพิงโล่ตราแผ่นดิน พระหัตถ์ขวาทรงพวงมาลัยจะสวมตรงชื่อผู้ที่ได้รับพระราชทาน วัสดุของเหรียญทำจากทองคำกะไหล่ทองและเงิน ขนาดของเหรียญกว้าง 4.1 เซนติเมตร สูง 4.6 เซนติเมตร ปัจจุบันเหรียญชนิดนี้ยังไม่พ้นสมัยการพระราชทาน
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างเหรียญดุษฎีมาลา เมื่อ พ.ศ. 2425 เนื่องในโอกาสครบรอบการสถาปนากรุงเทพมหานครเป็นราชธานีมาเป็นเวลาครบ 100 ปี เพื่อเป็นการระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเป็นการเฉลิมพระเกียรติยศของพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก พระองค์ทรงสร้าง "เครื่องขัตติยราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติคุณรุ่งเรืองยิ่งมหาจักรีบรมราชวงศ์" สำหรับพระราชทานแก่พระบรมวงศานุวงศ์ และทรงสร้าง "เหรียญดุษฎีมาลา" สำหรับพระราชทานเพื่อเป็นบำเหน็จแก่ผู้มีความชอบในราชการแผ่นดิน โดยแบ่งออกเป็น
นับเปนครั้งแรกที่ผู้มีความสามารถในศิลปวทยา จะได้รับการยกย่องเชิดชูเกียรติเป็นพิเศษเช่นนี้ทั้ง เป็นการสนองพระบรมราโชบายในการพัฒนาวิชาความรู้เพื่อปรับปรุงประเทศให้เจริญก้าวหน้าทัดเทียมนานาอารยประเทศ และเมื่อพินิจถึงหลักเกณฑ์การพระราชทาน ก็จะเห็นได้ว่ามีหลักอันเข็มงวดต่างจากเครื่องราชอิสริยาภรณ์อื่น ๆ คือ จะพระราชทานเฉพาะผู้มีฝีมืออย่างเอกอุ อันเป็นคุณประโยชน์ต่อแผ่นดินที่ไม่มีผู้ใดทำได้เสมอหรือดีกว่า ดังปรากฏในพระราชบัญญัติเครื่องอิสริยยศสำหรับความดีความชอบเหรียญดีษฎุมาลา จุลศักราช ๑๒๔๔ พุทธศกราช ๒๔๒๕ ว่า
“เข็มที่จาฤกว่าศิลปวิทธยานั้น ไว้สำหรับพระราชทานนักปราชราชกระวี นายช่างแลฝีมือช่างพิเศศต่าง ๆ ที่ได้คิดอย่างสิ่งของที่จะเปนประโยชนทั่วกัน ครั้งแรกคราวแรกฤๅชักนำสิ่งของใด ๆ เข้ามาทำมาสร้างขึ้นในแผ่นดิน เปนผลประโยชนต่อบ้านเมืองแลราชการ ฤๅผู้ที่แต่ง หนังสือตำราวิทธยการต่าง ๆ ที่เปนของเก่าของใหม่ก็ดี ที่เปนคุณต่อแผ่นดิน เปนประโยชนแก่ราชการ เปนผลแก่การค้าขาย ฤๅผู้เปนช่างอย่างฝีมือเอก ที่ได้คิดก็ดี ทำเองก็ดี ปรากฏว่าไม่มี ผู้ใดผู้หนึ่งทำได้เสมอดีกว่า แล้วผู้ทำคุณประโยชนดังกล่าวมานี้ ก็จะทรงพระราชดำริหวินิจฉัย พระราชทานเข็มชนิดนี้ให้ตามฐานานุรูป”
ในเบื้องต้นเหรียญดุษฎีมาลา แบ่งออกเป็น 4 ชนิด ได้แก่ ทองคำ เงินกาไหล่ทอง เงินเปล่า และสำริด โดยเหรียญทั้ง 4 ชนิดมีเกียรติเสมอกัน ลักษณะเหรียญเป็นรูปไข่ ด้านหน้ามีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานตรงกลาง มีอักษรตามขอบบนว่า "จุฬาลงกรณวหัส์ส ปรมราชาธิราชิโน" ขอบล่างเป็นใบชัยพฤกษ์ไขว้กัน ด้านหลังเป็นรูปพระสยามเทวาธิราชทรงพระขรรค์ยืนแท่นพิงโล่ห์ตราแผ่นดิน พระหัตถ์ขวาทรงพวงมาลัยจะสวมที่ตรงจารึกชื่อผู้ได้รับพระราชทาน ใต้แท่นมีเลข "๑๒๔๔" อันเป็นปีจุลศักราชที่สร้างเหรียญ และมีอักษรตามขอบว่า "สยามิน์ทร บรมราชตุฏ์ฐีป์ปเวทนํอิทํ" ริมขอบเหรียญจารึกอักษรว่า "สัพ์เพสํ สํฆภูตานํ สามัค์คีวุฏ์ฒิสาธิกา" บนเหรียญมีพระขรรค์ชัยศรีกับธารพระกรเทวรูปไขว้กัน มีห่วงยึดกับเหรียญและติดกับแผ่นโลหะจารึกว่า "ทรงยินดี"
เหรียญดุษฎีมาลาใช้ห้อยกับแพรแถบ โดยริ้วแดงริ้วขาวสำหรับสมาชิกฝ่ายทหารและตำรวจ (หรือพระราชวงศ์) ส่วนริ้วขาวริ้วชมพูสำหรับสมาชิกฝ่ายพลเรือน ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย กับมีเข็มปลายเป็นช่อปทุมทั้ง 2 ข้าง จารึกอักษรชนิดของเหรียญที่ได้รับพระราชทาน เช่น "ศิลปวิทยา" "กล้าหาญ" สำหรับกลัดที่แพรแถบเหนือเหรียญ
ตามพระราชบัญญัติเหรียญดุษฎีมาลา พุทธศักราช ๒๔๘๔ ได้มีการปรับเปลี่ยนลักษณะเหรียญบางส่วน โดยชนิดของเหรียญมีเพียงเหรียญเงินกาไหล่ทองรูปไข่ ด้านหน้ามีพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประดิษฐานตรงกลาง ขอบล่างเป็นใบชัยพฤกษ์ไขว้กัน ด้านหลังเป็นรูปพระสยามเทวาธิราชทรงพระขรรค์ยืนแท่นพิงโล่ห์พระหัตถ์ซ้ายทรงพวงมาลัยจะสวมที่ตรงจารึกชื่อผู้ได้รับพระราชทาน ใต้แท่นมีเลข "๑๒๔๔" ห่วงเหรียญมีพระขรรค์ชัยศรีกับธารพระกรเทวรูปไขว้กัน มีห่วงยึดกับเหรียญและติดกับแผ่นโลหะจารึกว่า "ทรงยินดี"
เหรียญดุษฎีมาลาใช้ห้อยกับแพรแถบกว้าง 3 เซนติเมตร โดยริ้วแดงริ้วขาวสำหรับสมาชิกฝ่ายทหารและตำรวจ ส่วนริ้วขาวริ้วชมพูสำหรับสมาชิกฝ่ายพลเรือน ประดับที่อกเสื้อเบื้องซ้าย กับมีเข็มปลายเป็นช่อปทุมทั้ง 2 ข้าง จารึกว่า "ศิลปวิทยา" สำหรับกลัดที่แพรแถบเหนือเหรียญ สำหรับพระราชทานสตรีใช้ห้อยกับแพรแถบผูกเป็นรูปแมลงปอประดับเสื้อที่หน้าบ่าซ้าย
ตามระเบียบระเบียบว่าด้วยการขอพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา ข้อที่ 4กำหนดว่า "ผู้ซึ่งจะได้รับการพิจารณาขอพระราชทานเหรียญดุษฎีมาลา เข็มศิลปวิทยา จะต้องมีผลงานประการใดประการหนึ่งดังต่อไปนี้"
ราชมิตราภรณ์ • มหาจักรีบรมราชวงศ์ (รายนาม) • นพรัตนราชวราภรณ์ (รายนาม) • จุลจอมเกล้า (รายนาม ป.จ., ท.จ.ว.) • รามาธิบดี (รายนาม) • ช้างเผือก • มงกุฎไทย • ดิเรกคุณาภรณ์ (รายนาม ป.ภ.) • รามกีรติ • รัตนวราภรณ์ (รายนาม) • วัลลภาภรณ์ (รายนาม) • วชิรมาลา
รามาธิบดี (รามมาลา เข็มกล้ากลางสมร • รามมาลา) • กล้าหาญ • ดุษฎีมาลา เข็มกล้าหาญ • ชัยสมรภูมิ (สงครามอินโดจีน • สงครามมหาเอเชียบูรพา • สงครามร่วมรบกับสหประชาชาติ ณ ประเทศเกาหลี • การรบ ณ สาธารณัฐเวียดนาม •) • พิทักษ์เสรีชน • ราชนิยม • ปราบฮ่อ • งานพระราชสงครามทวีปยุโรป • พิทักษ์รัฐธรรมนูญ • ศานติมาลา
ดุษฎีมาลา (เข็มราชการแผ่นดิน, เข็มศิลปวิทยา) • ช่วยราชการเขตภายใน • ราชการชายแดน • ช้างเผือก • มงกุฎไทย • ดิเรกคุณาภรณ์ • จักรมาลา • จักรพรรดิมาลา • ศารทูลมาลา • บุษปมาลา • ลูกเสือสรรเสริญ • ลูกเสือสดุดี • ลูกเสือยั่งยืน
สตพรรษมาลา • รัชฎาภิเศกมาลา • ประพาสมาลา • ราชินี • ทวีธาภิเศก • รัชมงคล • รัชมังคลาภิเศก • บรมราชาภิเษก • ชัย • พิธีเฉลิมพระนคร 150 ปี • งานฉลอง 25 พุทธศตวรรษ • การเสด็จพระราชดำเนินเยือนสหรัฐอเมริกาและทวีปยุโรป • รัชดาภิเษก • พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร • สนองเสรีชน • พระราชพิธีสถาปนาสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี • สมโภชกรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี • เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช (เฉลิมพระชนมพรรษา 5 รอบ • รัชมังคลาภิเษก • กาญจนาภิเษก • เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ • ฉลองสิริราชสมบัติ 60 ปี • เฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ) • เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ (5 รอบ 60 พรรษา • 6 รอบ 72 พรรษา ) • เฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี • กาชาด