เศรษฐกิจของกัมพูชามีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วในทศวรรษที่ผ่านมา แต่การเติบโตก็ยังต่ำเมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่สำคัญภายในประเทศคือการเกษตร โรงงานอุตสาหกรรมมีความหลากหลายแต่เป็นโรงงานขนาดเล็ก ภาคบริการส่วนใหญ่เกี่ยวข้องกับการค้าและความบันเทิง มีรายงานว่าพบน้ำมันและก๊าซธรรมชาติตามแนวชายฝั่ง
ในช่วง พ.ศ. 2538 รัฐบาลพยายามใช้นโยบายที่มีความมั่นคงกับหุ้นส่วน ทำให้เศรษฐกิจมหภาคมีประสิทธิภาพดี การเติบโตใน พ.ศ. 2538 คาดว่าเป็น 7% เพราะมีการปรับปรุงการผลิตทางการเกษตรโดยเฉพาะข้าว การเติบโตทางด้านการปลูกข้าวและการบริการยังคงต่อเนื่อง การนำเข้าเพิ่มขึ้นเพราะสามารถเข้าถึงแหล่งทุนภายนอกได้ การส่งออกเพิ่มขึ้น
หลังจากที่เศรษฐกิจมหภาคมีความเข้มแข็งประมาณ 4 ปี เศรษฐกิจของกัมพูชามีการเติบโตอย่างช้าๆในช่วง พ.ศ. 2540 – 2541 เพราะวิกฤติเศรษฐกิจในภูมิภาค การต่อสู้ทางการเมืองภายในประเทศ การลงทุนของต่างชาติและการท่องเที่ยวลดลง และเกิดภัยแล้งใน พ.ศ. 2541 ใน พ.ศ. 2542 ซึ่งเป็นปีที่มีสันติภาพอย่างสมบูรณ์ครั้งแรกในรอบ 30 ปี ทำให้การเติบโตทางเศรษฐกิจและการบริโภคเพิ่มขึ้น 4% ผลจากการทำสงครามยาวนานในประเทศ ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ขาดการศึกษา ทักษะทำงานรวมทั้งขาดโครงสร้างพื้นฐาน ความไม่มั่นคงทางการเมืองและการฉ้อราษฎร์บังหลวงภายในรัฐบาลทำให้การลงทุนลดลง และลดความช่วยเหลือจากต่างชาติลงด้วย
การเกิดขึ้นของการปกครองระบอบประชาธิปไตยในกัมพูชาได้รับความช่วยเหลืออย่างมากจากต่างชาติ การจัดการเลือกตั้งโดยอันแทคใช้งบประมาณ 1.72 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนั้น ยังมีเงินช่วยเหลือจากการประชุมของ คณะกรรมการนานาชาติในการฟื้นฟูกัมพูชา ที่ปารีสใน พ.ศ. 2536 และการประชุมรัฐมนตรีเกี่ยวกับการฟื้นฟูกัมพูชาใน พ.ศ. 2535 รวมแล้วเงินที่ใช้ในการฟื้นฟูกัมพูชาหลังสงครามคิดเป็น 12.3ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ
GDP ใน พ.ศ. 2550 เติบโตประมาณ 18.6% การส่งออกเพิ่ม 8% และนักท่องเที่ยวเข้ามา 35% GDP ใน พ.ศ. 2550 นี้ถูกขับเคลื่อนด้วยการลงทุนและการบริโภค แต่ความเสี่ยงก็เพิ่มขึ้น การเติบโตทางด้านการบริการและการก่อสร้างเริ่มช้าลง การส่งออกไปสหรัฐลดลงตั้งแต่ พ.ศ. 2550 เพราะต้องแข่งขันกับเวียดนาม และเกิดความเสี่ยงจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของสหรัฐและการส่งออกของจีน