ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

เวียนนาซีเซสชัน

กลุ่ม ‘เวียนนาซีเซสชัน’ (อังกฤษ: Vienna Secession) เป็นกลุ่มศิลปินที่ทรงพลังกลุ่มหนึ่งของออสเตรีย เนื่องจากเต็มไปด้วยบุคลากรรุ่นใหม่มากมายที่มีพลังผลักดันทำงานอย่างท่วมท้น ปรัชญาและแนวการทำงานของกลุ่มนั้นก็เป็นดังคำที่จารึกไว้เหนือประตูทางเข้าอาคารซีเซสชันที่ว่า “ในยุคสมัยมันคือศิลปะ ในศิลปะมันคืออิสรภาพ” (Der Zeit ihre Kunst, der Kunst Ihre Freiheit)

กลุ่มเวียนนาซีเซสชันก่อตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 3 เมษายน ค.ศ. 1897 โดย กุสตาฟ คลิมต์, โคโลมาน โมเซอร์, โยเซฟ ฮอฟฟ์มันน์, โยเซฟ มาเรีย ออลบริช, แมค คลิงเกอร์ และศิลปินอีกหลายคน อย่างไรก็ตาม ออทโท วากเนอร์ ก็เป็นศิลปินอีกคนของกลุ่มที่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง แม้จะไม่ใช่หนึ่งในผู้ก่อตั้งก็ตาม ก่อนจะมาเป็นกลุ่มซีเซสชัน เดิมศิลปินในกลุ่มเคยร่วมประท้วงสถาบันศิลปะเวียนนา (The Vienna K?nstlerhaus) เนื่องด้วยเหตุที่สถาบันไม่อนุญาตให้นักออกแบบต่างชาติที่ไม่ใช่ชาวออสเตรียนหรือเยอรมันเข้าร่วมแสดงงาน ซึ่งปรากฏการณ์นี้มีอยู่ทั่วไป ทั้งในฝรั่งเศส อังกฤษ และเยอรมัน แสดงให้เห็นถึงการขัดแย้ง ระหว่างกลุ่มประเพณีนิยมและกลุ่มความคิดใหม่ ทำให้ศิลปินแยกตัวออกมาจากสถาบันและก่อตั้งกลุ่มเวียนนาซีเซสชันขึ้นมา

งานแสดงศิลปกรรมครั้งแรกที่จัดขึ้นโดยกลุ่มซีเซสชันนี้จัดขึ้นในเดือนมีนาคม ปี ค.ศ. 1898 มีผู้เข้าชมมากกว่า 57,000 คน และหนึ่งในผู้ที่มาเข้าชมก็คือ จักรพรรดิฟรันซ์ โยเซฟที่ 1 ซึ่งเป็นแขกในงานแสดงด้วยนั่นเอง แสดงให้เห็นถึงความสามารถและความสำเร็จในชื่อเสียงของศิลปินในกลุ่มที่สามารถดึงดูดผู้เข้าชมงานได้มากถึงเพียงนี้ การจัดงานแสดงศิลปกรรมครั้งแรกของกลุ่มซีเซสชันนี้ไม่ได้จัดขึ้น ณ สถานที่ทำการของกลุ่มอย่างที่เข้าใจกัน เนื่องจากอาคารยังอยู่ในระหว่างการดำเนินงานก่อสร้าง ทางกลุ่มจึงได้เช่าที่ทำการใหญ่ของสมาคมชาวสวนแห่งกรุงเวียนนา (Vienna Horticultural Association) เป็นสถานที่จัดงานบรรยากาศของห้องจัดงานนั้นสร้างความแปลกและความรู้สึกใหม่ๆด้วยพรรณไม้ต่างๆ อีกทั้งการจัดแขวนผลงานนั้นก็ยังสร้างปรากฏการณ์ใหม่ ภาพทุกภาพถูกแขวนอยู่ในระดับสายตาเท่าๆกันทุกภาพไม่มีการแขวนเหลื่อมหรือซ้อนกันอย่างเช่นการจัดแสดงในที่อื่นๆ นั่นคือการนำแนวคิดใหม่ๆมาสู่การทำงานในรูปแบบใหม่ของกลุ่ม

การเกิดขึ้นของกลุ่มซีเซสชันนั้น ทำให้กลุ่มสมาคมศิลปินแห่งกรุงเวียนนาต้องเสื่อมความนิยมลงไปมาก จนกระทั่งกลุ่มของพวกเขาสามารถเข้ามามีบทบาทขึ้นแทนที่กลุ่มสมาคมศิลปินแห่งเวียนนาในที่สุดในปี ค.ศ. 1900 ศิลปินที่เคยอยู่กับกลุ่มของสมาคมศิลปินเวียนนาจึงต่างมุ่งหันเข้ามาเป็นสมาชิกกลุ่มซีเซสชันนี้กันอย่างมากมาย บนความสำเร็จนี้ของกลุ่มซีเซสชัน ได้ทำให้ศิลปะสมัยใหม่เกิดตื่นตัวไปทั่วทั้งวงการศิลปะของออสเตรียและยุโรปและในการจัดแสดงงานศิลปกรรมครั้งที่ 14 ที่จัดขึ้นในเดือนเมษายนถึงพฤษภาคม ปี ค.ศ. 1902 นั้นถือว่าเป็นชุดที่สมบูรณ์ที่สุดในจำนวนการจัดการแสดงภาพทั้งหมดของกลุ่มซีเซสชัน ออกแบบโดย โยเซฟ ฮอฟฟ์มันน์ เพื่ออุทิศให้แก่ ลุดวิจ ฟาน เบโทเฟน กลายเป็นงานที่เป็นที่รู้จักและชื่นชมกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะผลงานประติมากรรม Beethoven ของ แมค คลิงเกอร์ และ The Beethoven friezes ของ กุสตาฟ คลิมต์

ในปี ค.ศ. 1903 ดังที่ได้กล่าวแล้วว่ากลุ่มซีเซสชันนั้นประกอบด้วยศิลปินที่ทำงานในหลายแนวทางทั้งงานจิตรกรรม สถาปัตยกรรม และช่างออกแบบในสายงานต่างๆทางศิลปกรรมอีกมากมาย โยเซฟ ฮอฟฟ์มันน์ และ โคโลมาน โมเซอร์ สองศิลปินในกลุ่มซีเซสชันซึ่งเป็นนักออกแบบผลิตภัณฑ์ ทั้งสองร่วมกันก่อตั้งโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งในชื่อ โรงงานเวียนนา (Wiener Wekstatte) และสถานที่แห่งนี้ก็กลายเป็นโรงงานระบายงานจากการทำงานของศิลปินต่างๆในกลุ่มซีเซสชันอีกทางหนึ่งด้วย

แต่ความสำเร็จของกลุ่มซีเซสซันนี้ไม่ได้สร้างผลที่ดีติดตามมาแต่เพียงอย่างเดียว การที่กลุ่มซีเซสซันเริ่มมีชื่อเสียงโด่งดังขึ้นมากในยุโรปและอเมริกาหลังจากออกไปจัดการแสดงในต่างประเทศหลายครั้งนั้น ทำให้สมาชิกมีมากขึ้นและหลากหลายสายทางกันมากขึ้น ซึ่งทำให้เกิดการควบคุมสมาชิกต่างๆนั้นได้ยากมากขึ้นอีกด้วย เนื่องจากเริ่มมีกระแสการเมืองที่คุกรุ่นขึ้นภายใน จนกระทั่งแตกออกเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ คือ กลุ่มของ กุสตาฟ คลิมต์และกลุ่ม โยเซฟ ฮอฟฟ์มันน์ ซึ่งในกลุ่มหลังนั้นมีกระแสจากกลุ่มในเยอรมันที่คอยหนุนหลังอยู่อีกที อีกทั้งในตอนนั้นกระแสต่อต้านคลิมต์เกี่ยวกับความแข็งกระด้างในอุปนิสัยของเขาเองจากเหล่าสื่อมวลชน อีกทั้งกรณีที่เขามีข้อพิพาทต่อเหล่าคณาจารย์และคณะกรรมการของมหาวิทยาลัยแห่งกรุงเวียนนา เรื่องภาพเขียนทั้ง 3 ภาพของเขาที่มหาวิทยาลัยแห่งกรุงเวียนนา ซึ่งทำให้สมาชิกซึ่งเป็นอาจารย์อยู่ในสถาบันศิลปะบางคนนั้นเริ่มต่อต้านแนวความคิดของคลิมต์ถึงขนาดที่แทงข้างหลังเขาในการเสนอชื่อตนเพื่อเข้ารับตำแหน่งศาสตราจารย์ต่อทางสถาบันแทน คลิมต์จึงเริ่มมีแรงกดดันต่างๆเกิดขึ้นมากมายจากรอบด้าน ในที่สุดในการให้สัมภาษณ์ต่อสื่อมวลชนครั้งหนึ่งเขาก็ประกาศว่าขอถอนตัวออกจากกลุ่มซีเซสซันและในที่สุดเขาก็ถอนตัวออกไปจากกลุ่มจริงๆในช่วงปี ค.ศ. 1905 ศิลปินอีกหลายคนที่อยู่ในกลุ่มของ คลิมต์ก็แยกตัวตามออกมาเช่นกัน สุดท้ายกลุ่มซีเซสชันจึงจบลง

งานของกลุ่มเวียนนาซีเซสชันไม่เหมือนกับงานของกลุ่มความเคลื่อนไหวอื่นๆ รูปแบบงานของกลุ่มนี้มีความหลากหลายมาก อาทิ เช่น งานสถาปัตยกรรมอย่าง อาคารซีเซสชันที่เปรียบเสมือนกับสัญลักษณ์ของกลุ่ม งานประติมากรรม งานตกแต่งอาคาร หรือ แม้กระทั่งงานจิตรกรรม แนวความคิดแต่เริ่มของพวกเขาคือความต้องการที่จะฉีกแนวงานของออกจากกรอบหรือขนบแบบเดิมๆเพื่อได้สร้างงานรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยถูกจารึกไว้ในประวัติศาสตร์มาก่อน แนวงานของพวกเขาเกิดจากส่วนผสมที่หลากหลายดูคล้ายกับศิลปะแบบอาร์ตนูโว (Art Nouveau) แต่งานที่มีออกมาก็แอบแฝงความเป็นงานแบบสัญลักษณ์ (Symbolist) เอาไว้ ดังจะเห็นได้จากงานของคลิมต์ เป็นต้น

นอกจากนี้เมื่ออิทธิพลของอาร์ตนูโวแบบฝรั่งเศสหมดลงไปการเปลี่ยนแปลงและเน้นถึงแบบแผนของการใช้รูปทรงเรขาคณิตและการออกแบบโมดูลาร์ (Modular Design) ทำให้รูปแบบของงานออกแบบเปลี่ยนรูปไปจากเดิมมาเป็นการใช้รูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใช้วงกลมในการจัดวางแบบซ้ำๆกันและใช้แบบผสม ในส่วนที่ตกแต่งและเป็นองค์ประกอบประเภทลวดลาย ขึ้นอยู่กับการใช้องค์ประกอบที่ซ้ำๆ กัน แบบรูปทรงเรขาคณิตเหล่านี้เป็นรูปทรงที่ไม่ใช่รูปทรงที่เห็นมาก่อนหรือถูกใช้แบบงานเครื่องจักร ซึ่งมีลักษณะเหมือนการปะติดปะต่อ แต่เป็นการใช้ให้งานดูมีชีวิตชีวากว่าเดิม และในช่วงนี้เองกลุ่มเวียนนาซีเซสชันก็ได้มีการออกนิตยสาร ชื่อว่า “Ver Sacrum” ที่แสดงให้เห็นถึงแนวงานของกลุ่มซีเซสชันให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น

อาคารที่ทำการของกลุ่มนั้น ทางกลุ่มซีเซสชันได้ลงทุนด้วยเงินจำนวนมากจากการกู้ยืมธนาคาร การออกแบบและการตกแต่งภายในนั้นเป็นไปแบบช่วยกันคนละไม้คนละมือ แต่ความคิดส่วนใหญ่ทั้งหมดมาจากแนวความคิดของ กุสตาฟ คลิมต์ ซึ่งเป็นผู้นำกลุ่มนั้นเอง ลักษณะอาคารจะเป็นโครงสร้างและรูปแบบเหมือนกับสถาปัตยกรรมในยุคกรีกและอียิปต์ ซึ่งเป็นไปตามแนวอิทธิพลทางศิลปะของสมาชิกส่วนมากในกลุ่ม แต่สำหรับแนวทางของคลิมต์นั้น เขาไม่ได้ลอกแบบศิลปะแบบกรีกหรืออียิปต์มาใช้อย่างเต็มตัว แต่เขาได้นำมันมาประยุกต์กับแนวคิดใหม่ของ ‘โมเดิร์น อาร์ต’ (Modern art) หรือ ศิลปะสมัยนิยม ซึ่งในออสเตรียในขณะนั้นนอกจากจะมุ่งสร้างประเทศด้วยศิลปกรรมตามแบบอย่างปารีสแล้ว โมเดิร์น อาร์ต ยังเป็นสิ่งที่แทรกซึมเข้าไปในผังเมืองที่ถูกกำหนดขึ้นใหม่ด้วยในส่วนที่เรียกว่า ‘ริงสตราสส์’ (Ringstasse) อีกด้วย

ผลงานอาคารในแบบโมเดิร์นอาร์ตที่เป็นตัวอย่างขึ้นชื่อคือผลงานของ ออทโท วากเนอร์ ซึ่งปรากฏอยู่ในหลายแห่งของริงสตราสส์ในกรุงเวียนนา อาคารที่เห็นได้ชัดก็คืออาคารที่ทำการไปรษณีย์ (Postal Saving Bank) ในเวียนนา แนวการออกแบบนี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้กับ โยเซฟ มาเรีย ออลบริช หนึ่งในศิลปินกลุ่มซีเซสชัน โดยเขาได้นำมาประยุกต์กับแนวความคิดรูปแบบเก่าไปสู่รูปแบบใหม่เพื่อใช้ในการออกแบบอาคารซีเซสชันอย่างลงตัว เหนืออาคารนั้นเป็นรูปทรงกลมคล้ายโดมในศิลปะแบบไบแซนไทน์ (Byzantine) การใช้รูปทรงนี้เข้ามาเป็นรูปแบบของอาคาร ทำให้ตัวอาคารมองดูคล้ายกับวิหาร

ปัจจุบันอาคารหลังนี้ได้ตกมาเป็นสมบัติของแกลเลอรี เบลเฟเดเรอร์ (Austrain Gallery Belvedere) ซึ่งจัดแสดงผลงานศิลปะร่วมสมัยของศิลปินมากมายๆหมุนเวียนกันมาจัดอยู่เรื่อยๆ แต่ก็ยังคงเปิดแสดงผลงาน The Beethoven friezes ของคลิมต์อยู่เสมอ


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301