ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์

เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ (อังกฤษ: Westminster Abbey) เดิมเป็นแอบบีย์ แต่ปัจจุบันเป็นโบสถ์ในนิกายแองกลิคันที่ตั้งอยู่ทางตะวันตกของพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ในนครเวสต์มินสเตอร์ กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ สถาปัตยกรรมที่เห็นอยู่ในปัจจุบันเป็นแบบสถาปัตยกรรมกอทิกเป็นส่วนใหญ่นอกจากหอคอยที่เป็นสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอทิก เป็นสถานที่ประกอบพิธีราชาภิเษกและที่ฝังพระบรมศพพระมหากษัตริย์อังกฤษและพระศพพระบรมวงศานุวงศ์ ระหว่างปี ค.ศ. 1546 ถึง 1556 แอบบีย์ได้รับเลื่อนฐานะขึ้นเป็นอาสนวิหาร ต่อมาในรัชสมัยของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แอบบีย์นี้ก็ได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอารามหลวง (Royal Peculiar)

เวสต์มินสเตอร์แอบบีย์เริ่มสร้างเป็นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 616 ณ ที่ตั้งปัจจุบันที่เดิมเรียกว่าธอร์น อาย (เกาะธอร์น) ซึ่งเป็นเกาะกลางแม่น้ำ ตามตำนานกล่าวว่าคนหาปลาในแม่น้ำเทมส์ชื่ออัลดริชเห็นนักบุญซีโมนเปโตรมาปรากฏตัวใกล้กับที่ตั้งแอบบีย์ในปัจจุบัน ซึ่งอาจจะเป็นเหตุผลของการที่แอบบีย์ได้รับปลาซาลมอนจากคนหาปลาในแม่น้ำเทมส์ต่อมา แต่ตามหลักฐานที่น่าเชื่อถือกว่ากล่าวว่าในคริสต์ทศวรรษ 960 หรือต้นคริสต์ทศวรรษ 970 นักบุญดันสตันร่วมกับพระเจ้าเอ็ดการ์ผู้รักสงบได้ก่อตั้งอารามคณะเบเนดิกตินขึ้นที่นี่ ต่อมาพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดธรรมสักขีก็สร้างแอบบีย์ให้เป็นโบสถ์หินระหว่างปี ค.ศ. 1045 ถึงปี ค.ศ. 1050 เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวังของพระองค์ แอบบีย์ได้รับการสถาปนาเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม ค.ศ. 1065 เพียงอาทิตย์เดียวก่อนที่จะเสด็จสวรรคตและใช้เป็นที่ฝังพระศพของพระองค์เอง ในปี ค.ศ. 1245 พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ก็ทรงสร้างแอบบีใหม่แทนแอบบีย์เดิมและทรงเลือกให้เป็นที่บรรจุพระศพของพระองค์เอง

ภาพของแอบบีเดิมที่ในลักษณะที่เป็นสถาปัตยกรรมโรมาเนสก์ก็เหลืออยู่เพียงภาพที่ปรากฏอยู่ข้างๆ พระราชวังเวสต์มินสเตอร์บนผ้าปักบายู ทางแอบบีย์มีรายได้เพิ่มขึ้นจนขยายตัวจากนักพรตราวสิบกว่ารูปขึ้นไปเป็นราวแปดสิบรูป

อธิการของแอบบีผู้ซึ่งเป็นผู้คงแก่เรียนพำนักอยู่ไม่ไกลจากพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ซึ่งเป็นที่ตั้งของรัฐบาลที่เป็นศูนย์กลางของอำนาจทางการเมืองมาตั้งแต่หลังจากการพิชิตอังกฤษของชาวนอร์มันในปลายคริสต์ศตวรรษที่ 11 และต่อมาอีกหลายร้อยปี ก็มักจะได้รับตำแหน่งในพระราชสำนักและในที่สุดก็มีสิทธิได้เป็นสมาชิกในสภาขุนนาง เมื่ออำนาจทางด้านการเป็นผู้นำของคณะถูกย้ายไปอยู่ที่อารามกลูว์นีในฝรั่งเศสในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 10 นักพรตของเวสต์มินสเตอร์แอบบีย์ก็มีโอกาสในการบริหารบริเวณที่ดินต่าง ๆ ที่เป็นเจ้าของซึ่งบางครั้งก็ไกลไปจากเวสต์มินสเตอร์เองมาก “นักพรตคณะเบเนดิกตินดูเหมือนจะปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตอย่างฆราวาสได้เป็นอย่างดี และโดยเฉพาะกับในหมู่ชนชั้นสูง” เป็นคำสรุปของบาร์บารา ฮาร์วีย์ ที่ทำให้เห็นภาพพจน์ของชีวิตประจำวัน ในแง่มุมของชนชั้นผู้ดีในสังคมชั้นสูงในสมัยกลางและปลายสมัยกลาง

แต่การที่มีที่ตั้งที่อยู่ไม่ไกลจากพระราชวังเวสต์มินสเตอร์ก็มิได้ทำให้นักพรตมีความสัมพันธ์กับพระมหากษัตริย์มากไปกว่าปกติ ในทางสังคมนักพรตของแอบบีก็ยังปฏิบัติตัวอย่างสมถะเช่นเดียวกับนักพรตอื่นๆ ในคณะเดียวกันที่อยู่ที่อื่น อธิการแอบบีก็ยังคงมีฐานะเป็นผู้เป็นเจ้าของที่ดินของชุมชนราวสองสามพันคนรอบๆ แอบบี ในฐานะผู้บริโภคและนายจ้างทางราชสำนักก็ช่วยส่งเสริมความเจริญทางเศรษฐกิจของเวสต์มินสเตอร์ นอกจากนั้นความสัมพันธ์ระหว่างราชสำนักกับเวสต์มินสเตอร์ก็เป็นความสัมพันธ์อันดี แต่ทางเวสต์มินสเตอร์ก็มิได้รับสิทธิพิเศษในการค้าขายใดๆ ในยุคกลาง แอบบีเวสต์มินสเตอร์สร้างร้านค้าและที่อยู่อาศัยทางด้านตะวันตกแต่ก็เริ่มรุกเข้ามาในบริเวณของนักพรต

แอบบีกลายเป็นสถานที่ทำพระราชพิธีบรมราชาภิเศกของพระมหากษัตริย์นอร์มันแต่ไม่มีองค์ใดที่ถูกฝังที่นั่นมาจนมาถึงพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ผู้ทรงอุทิศพระองค์แก่ลัทธินิยมพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดธรรมสักขี พระองค์ทรงสร้างแอบบีเวสต์มินสเตอร์ใหม่ในแบบสถาปัตยกรรมกอธิคเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่พระเจ้าเอ็ดเวิร์ดธรรมสักขี ผู้ได้รับการประกาศเป็นนักบุญในปี ค.ศ. 1161 และเป็นที่สำหรับฝังพระบรมศพของพระองค์เอง งานการก่อสร้างยังคงทำกันต่อมาระหว่างปี ค.ศ. 1245 ถึงปี ค.ศ. 1517 และส่วนใหญ่ทำโดยสถาปนิกเฮนรี เยเวล (Henry Yevele) ในสมัยพระเจ้าริชาร์ดที่ 2 ต่อมาในปี ในปี ค.ศ. 1503 พระเจ้าเฮนรีที่ 7 ก็ทรงต่อเติมชาเปลแบบเพอร์เพ็นดิคิวลาร์ (Perpendicular Period) ทางด้านหลังสุดของแอบบีที่อุทิศให้แก่พระนางมารีย์พรหมจารี (ที่รู้จักกันว่า “ชาเปลพระแม่มารีของพระเจ้าเฮนรีที่ 7”) หินที่ใช้สร้างแอบบีย์มาจากค็อง (Caen) ในฝรั่งเศส และในบริเวณลุ่มแม่น้ำลัวร์

ในปี ค.ศ. 1535 จากการสำรวจทรัพย์สินและรายได้ของโบสถ์ในอังกฤษก่อนการยุบอารามทางการพบว่ารายได้ประจำปีของแอบบีเวสต์มินสเตอร์เป็นจำนวนประมาณ ?2400-2800 ซี่งเป็นจำนวนที่มากเป็นที่สองรองจากแอบบีกลาสตันบรี (Glastonbury Abbey) หลังจากนั้นพระเจ้าเฮนรีที่ 8 ก็ทรงยึดการปกครองจากนักพรตมาทรงปกครองด้วยพระองค์เองในปี ค.ศ. 1539 และทรงยกฐานะแอบบีขึ้นเป็นอาสนวิหารในปี ค.ศ. 1540 และพระราชทานพระราชเอกสารสิทธิ (letters patent) ก่อตั้งให้แอบบีเวสต์มินสเตอร์เป็นมุขมณฑลอิสระ--มุขมณฑลเวสต์มินสเตอร์ การก่อตั้งแอบบีเวสต์มินสเตอร์ให้เป็นอาสนวิหารทำให้แอบบีรอดจากการถูกทำลายอย่างยับเยินเช่นแอบบีอื่นๆ เกือบทุกแอบบีในราชอาณาจักรอังกฤษในยุคเดียวกัน แต่เวสต์มินสเตอร์ก็เป็นอาสนวิหารอยู่ได้เพียงสิบปีจนถึงปี ค.ศ. 1550 วลี “โขมยจากปีเตอร์ไปจ่ายให้พอล” (robbing Peter to pay Paul) อาจจะมีรากมาจากยุคนี้คือเมื่อรายได้ที่ควรจะเป็นของแอบบีเวสต์มินสเตอร์ (ซึ่งเป็นแอบบีที่อุทิศให้แก่นักบุญปีเตอร์) ถูกโอนไปให้กับคลังของมหาวิหารเซนต์พอล

สมเด็จพระราชินีนาถแมรีที่ 1ผู้นับถือนิกายโรมันคาทอลิกได้พระราชทานแอบบีเวสต์มินสเตอร์คืนให้กับนักพรตเบเนดิกติน แต่ก็มาถูกยึดคืนโดยสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 ในปี ค.ศ. 1559 ยี่สิบปีต่อมาในปี ค.ศ. 1579 พระองค์ก็พระราชทานฐานะแอบบีให้เป็น “พระอารามหลวง” ซึ่งหมายถึงการเป็นโบสถ์ที่ขึ้นตรงต่อองค์รัฏฐาธิปัตย์แทนที่จะขึ้นอยู่กับมุขนายกเขตมิสซัง และพระราชทานชื่อใหม่ว่า “คริสตจักรเซนต์ปีเตอร์” (Collegiate Church of St Peter) ซึ่งเท่ากับเป็นการสิ้นสุดจากการเป็นแอบบีหรืออารามมาเป็นโบสถ์ที่ปกครองโดยดีน (dean) อธิการองค์สุดท้ายของแอบบีได้รับการแต่งตั้งให้เป็นดีนองค์แรก

ในคริสต์ทศวรรษ 1640 ระหว่างสงครามกลางเมืองอังกฤษแอบบีได้รับความเสียหายจากกลุ่มเพียวริตันที่พยายามบุกเข้ามาทำลายรูปเคารพต่างๆ แต่ก็ได้รับการปกป้องเพราะความที่อยู่ใกล้กับรัฐบาลเครือจักรภพ เมื่อเจ้าผู้พิทักษ์โอลิเวอร์ ครอมเวลล์ถึงแก่อสัญกรรมก็ได้รับการทำพิธีฝังศพกันอย่างอย่างใหญ่โตที่แอบบีในปี ค.ศ. 1658 แต่ร่างของครอมเวลล์ก็มาถูกขุดขึ้นมาเพียงอีกสามปีต่อมาในเดือนมกราคม ค.ศ. 1661 เพื่อนำมาแขวนคอที่ตะแลงแกงไม่ไกลจากแอบบีนัก

หอสองหอด้านหน้าแอบบีสร้างระหว่างปี ค.ศ. 1722 ถึงปี ค.ศ. 1745 โดยนิโคลัส ฮอคสมัวร์ (Nicholas Hawksmoor) จากหินพอร์ตแลนด์ และเป็นตัวอย่างของสถาปัตยกรรมฟื้นฟูกอธิค การขยายต่อมาทำในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ภายใต้การควบคุมของเซอร์จอร์จ กิลเบิร์ต สกอตต์ (George Gilbert Scott) ปฏิมณฑลสำหรับด้านหน้าออกแบบโดยเซอร์เอ็ดวิน ลูเต็นส (Edwin Lutyens) ในกลางคริสต์ศตวรรษที่ 20 แต่ไม่ได้สร้าง

จนกระทั่งถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 แอบบีเวสต์มินสเตอร์ก็เป็นสถานศึกษาลำดับที่สามของอังกฤษรองจากมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด และมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ และเป็นสถานที่ที่หนึ่งในสามตอนแรกของคัมภีร์ไบเบิลฉบับพระเจ้าเจมส์ (King James Bible) ของพันธสัญญาเดิมและครึ่งหลังของพันธสัญญาใหม่ได้รับการแปล ในคริสต์ศตวรรษที่ 20 แอบบีก็เป็นที่รวบรวมคัมภีร์ไบเบิลภาษาอังกฤษฉบับใหม่ (New English Bible) แอบบี เวสต์มินสเตอร์ได้รับความเสียหายเพียงเล็กน้อยระหว่างการทิ้งระเบิดในลอนดอนเมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน ค.ศ. 1940

ตั้งแต่พระราชพิธีบรมราชาภิเษกของทั้งพระเจ้าฮาโรลด์ กอดวินสัน และสมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษในปี ค.ศ. 1066 แล้วแอบบีก็ใช้เป็นสถานที่สำหรับการทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระมหากษัตริย์ของอังกฤษและของสหราชอาณาจักรทุกพระองค์ ยกเว้นพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 5 และพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ผู้ทรงไม่มีโอกาสเข้าทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อพระเจ้าเฮนรีที่ 3 ขึ้นครองราชย์พระองค์ทรงไม่สามารถทำพิธีราชาภิเษกในลอนดอนได้ เพราะพระเจ้าหลุยส์ที่ 8 แห่งฝรั่งเศสทรงยึดลอนดอนอยู่ในขณะนั้น พระองค์จึงทรงย้ายไปทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกที่มหาวิหารกลอสเตอร์ในกลอสเตอร์เชอร์ แต่พระสันตปาปาทรงเห็นว่าเป็นการไม่ถูกต้อง พระเจ้าเฮนรีที่ 3 จึงทรงทำพระราชพิธีบรมราชาภิเษกเป็นครั้งที่สองในแอบบีเวสต์มินสเตอร์เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ค.ศ. 1220เลดี้เจน เกรย์ผู้ครองราชย์เพียงเก้าวันก็มิได้มีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ตามธรรมเนียมแล้วอาร์ชบิชอปแห่งแคนเทอร์เบอรีจะเป็นเคลอริกผู้ทำพิธีพระราชพิธีบรมราชาภิเษก บัลลังก์ที่ใช้ประทับระหว่างพิธีคือบัลลังก์พระเจ้าเอ็ดเวิร์ด (King Edward's Chair) ที่เก็บไว้ภายในอาสนวิหารและใช้มาตั้งแต่ ค.ศ. 1308 ระหว่าง ค.ศ. 1301 ถึง ค.ศ. 1996 ภายใต้บัลลังก์มีหินแห่งสโคน (Stone of Scone) ซึ่งเดิมเป็นหินที่พระมหากษัตริย์แห่งสกอตแลนด์ทรงใช้ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก แต่ปัจจุบันหินแห่งสโคนถูกนำกลับไปเก็บที่ปราสาทเอดินบะระห์ในสกอตแลนด์จนกว่าจะถึงพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งต่อไป

พระเจ้าเฮนรีที่ 3 ทรงสร้างแอบบีเวสต์มินสเตอร์ใหม่เพื่อเป็นเกียรติแก่นักบุญสมเด็จพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดผู้สารภาพ วัตถุมงคลของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่เดิมอยู่ภายในสักการสถานในแอบบีแต่ในปัจจุบันย้ายไปอยู่ภายใต้ที่เก็บศพภายใต้พื้นโมเสกคอสมาติหน้าแท่นบูชาเอก ส่วนพระบรมศพของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 เองก็ถูกบรรจุไว้ในที่บรรจุอันงดงามไม่ไกลนัก เช่นเดียวกับพระมหากษัตริย์ราชวงศ์แพลนทาเจเน็ท และพระญาติพระวงศ์อีกหลายพระองค์ หลังจากการบรรจุพระบรมศพของพระเจ้าเฮนรีที่ 3 แล้วการบรรจุศพภายในแอบบีก็กลายเป็นประเพณีของการบรรจุพระบรมศพของพระมหากษัตริย์และพระราชินีเกือบทุกพระองค์ต่อมา ยกเว้นบางพระองค์เช่นพระเจ้าเฮนรีที่ 8 และพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 1 ที่ได้รับการบรรจุที่ชาเปลเซนต์จอร์จที่พระราชวังวินด์เซอร์เช่นเดียวกับพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์หลังจากรัชสมัยของพระเจ้าจอร์จที่ 2

พระบรมศพหรือพระศพของพระมหากษัตริย์หรือพระราชวงศ์จะบรรจุไว้ภายในชาเปลต่างๆ ภายในแอบบี ส่วนศพของนักบวชและผู้อื่นที่เกี่ยวข้องกับแอบบีเวสต์มินสเตอร์ก็จะบรรจุภายในระเบียงฉันนบถและบริเวณอื่นๆ ในแอบบี เช่นกวีคนสำคัญของอังกฤษเจฟฟรีย์ ชอเซอร์ผู้เคยพำนักอยู่ที่แอบบีเวสต์มินสเตอร์และเป็นข้าราชสำนักขณะที่มีชีวิตอยู่ กวีคนอื่นๆ ก็ถูกบรรจุไว้ในบริเวณเดียวกันที่เรียกกันว่า “มุมกวี” ที่ได้แก่; วิลเลียม เบลค, โรเบิร์ต เบิร์นส และวิลเลียม เชกสเปียร์เป็นต้น ต่อมาการบรรจุศพกันในแอบบีกลายมาเป็นสิ่งที่เชิดหน้าชูตา จึงทำให้เผยแพร่ไปยังการบรรจุศพบุคคลสำคัญๆ จากอาชีพต่างๆ เช่นนักการเมือง, นักวิทยาศาสตร์ หรือนักการทหารเป็นต้น

ปราสาทและกำแพงเมืองของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่กุยเน็ดด์  (ปราสาทบิวมาริส ? ปราสาทคายร์นาร์วอน ? ปราสาทคอนุย ? ปราสาทฮาร์เล็ค)  ? บริเวณอุตสาหกรรมเบลนาวอน

เกาะเฮนเดอร์สัน ? เกาะกอฟ และ เกาะอินอักเซสซิเบิล ? เซนต์จอร์จ, เบอร์มิวดา และ ศูนย์กลางทางประวัติศาสตร์


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301