เลือกที่จะไม่เลือก หรือชื่อในการประชาสัมพันธ์ว่า vote no vote เป็นการรณรงค์ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งไปใช้สิทธิโดยไม่เลือกผู้ใดเป็นตัวแทน (กากากบาทในช่อง "ไม่ออกคะแนนเสียง") เพื่อส่งสัญญาณให้พรรคการเมืองและนักการเมือง พิถีพิถันในการเสนอบุคคลและนโยบายมากขึ้น นับเป็นปฏิบัติการทางการเมืองของภาคประชาชน เพื่อเพิ่มอำนาจของประชาชนในการเลือกตั้งและทางการเมือง[ต้องการอ้างอิง]
การรณรงค์เลือกที่จะไม่เลือกสำหรับการเลือกตั้งในประเทศไทยนั้น มีหลักฐานว่าเริ่มมาอย่างน้อยตั้งแต่ พ.ศ. 2543[ต้องการอ้างอิง] แต่การเลือกตั้งครั้งที่คะแนนเสียงไม่เลือกมีผลอย่างชัดเจนนั้น คือการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2549 ซึ่งในหลายเขตเลือกตั้ง โดยเฉพาะในกรุงเทพมหานครและภาคใต้ (ประเทศไทย คะแนน "ไม่เลือก" มีสูงกว่าคะแนนของผู้สมัครที่ได้คะแนนเป็นอันดับหนึ่ง ก่อให้เกิดคำถามถึงความชอบธรรมและความสง่างามของตำแหน่งผู้แทนราษฎร[ต้องการอ้างอิง] และในเขตที่มีผู้สมัครรายเดียวบางเขต คะแนน "ไม่เลือก" ก็ทำให้ต้องมีการเลือกตั้งใหม่ เนื่องจากผู้สมัครรายเดียวนั้น ได้คะแนนไม่ถึง 20% ของผู้มาใช้สิทธิ์ทั้งหมด ตามกำหนดของกฎหมายเลือกตั้ง
โครงการ "เลือกที่จะไม่เลือก" ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าทำให้ประชาชน "รู้สึก" ว่าได้มีส่วนร่วมในการปกครอง แต่ไม่มีการศึกษาข้อมูลของผู้รับสมัครเลือกตั้ง ซึ่งทำให้เกิดความไม่สอดคล้องกับระบบประชาธิปไตย เนื่องจากประชาชนไม่ได้ทำอะไร[ต้องการอ้างอิง]