เลียดก๊ก ตามสำเนียงฮกเกี้ยน หรือ เลี่ยกั๋ว ตามสำเนียงกลาง (จีนตัวย่อ: ??; จีนตัวเต็ม: ??; พินอิน: Li?gu?) หรือชื่อเต็มตามสำเนียงกลางว่า ตงโจวเลี่ยกั๋วจื้อ (จีนตัวย่อ: ?????; จีนตัวเต็ม: ?????; พินอิน: D?ngzh?u Li?gu? Zh?) แปลว่า วีรคติแว่นแคว้นแดนดินครั้งโจวตะวันออก (Romance of the States in Eastern Zhou) เป็นนิยายจีนซึ่ง เฝิง เมิ่งหลง (???) ประพันธ์ขึ้นในราชวงศ์หมิง มีเนื้อหาเริ่มด้วยราชวงศ์โจวตะวันตกถึงแก่ความพินาศ ราชวงศ์โจวตะวันออกขึ้นแทนที่ แต่บ้านเมืองระส่ำระสายจนแตกแยกออกเป็นแว่นแคว้นน้อยใหญ่ ไปจบที่จิ๋นซีฮ่องเต้รวมแผ่นดินเป็นผลสำเร็จ
พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรับสั่งให้แปล เลียดก๊ก เป็นภาษาไทยเมื่อ พ.ศ. 2362 วันที่รับสั่งและรายชื่อคณะผู้แปลมีจารึกไว้ในบานแพนกสมุดไทยดังนี้
"ศุภมัสดุ จุลศักราชพันร้อยแปดสิบ ปีเถาะ เอกศก อาษาฒมาส ศุกลปักษ์ อัฐมีดิถี คุรุวาระ พระบาทสมเด็จบรมบพิตรพระเจ้าอยู่หัวเสด็จออกพระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน มีพระราชโองการดำรัสสั่งให้จัดข้าทูลละอองแปลเลียดก๊กพงศาวดารจีนนี้เป็นคำไทยไว้สำหรับแผ่นดิน
"ข้าพระพุทธเจ้า กรมหมื่นนเรศร์โยธี หนึ่ง เจ้าพระยายมราช หนึ่ง เจ้าพระยาวงศาสุรศักดิ์ หนึ่ง พระยาโชดึก หนึ่ง ขุนท่องสือ หนึ่ง จมื่นไวยวรนาถ หนึ่ง เล่ห์อาวุธ หนึ่ง จ่าเรศ หนึ่ง หลวงลิขิตปรีชา หนึ่ง หลวงญาณปรีชา หนึ่ง ขุนมหาสิทธิโวหาร หนึ่ง
"ห้องสินแลในเลียดก๊กนั้นว่าด้วยองค์พระเจ้าบู๊อ๋องครองเมืองทั้งปวงคิดทำศึกกัน ข้าพเจ้า หลวงลิขิตปรีชา เจ้ากรมอาลักษณ์ ชำระขึ้นทูลเกล้าฯ ถวาย"
วิธีแปลนั้นเป็นอย่างเดียวกับเรื่อง สามก๊ก ดังที่สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่า
"ลักษณะการแปลหนังสือจีนเป็นภาษาไทยแต่โบราณ (หรือแม้จนชั้นหลังมา) อยู่ข้างลำบาก ด้วยผู้รู้หนังสือจีนไม่มีใครชำนาญภาษาไทย ผู้ชำนาญภาษาไทยก็ไม่มีใครรู้หนังสือจีน การแปลจึงต้องมีพนักงานเป็นสองฝ่ายช่วยกันทำ ฝ่ายผู้ชำนาญหนังสือจีนแปลความออกให้เสมียนจดลง แล้วผู้ชำนาญภาษาไทยเอาความนั้นเรียบเรียงแต่งเป็นภาษาไทยให้ถ้อยคำแลสำนวนความเรียบร้อยอีกชั้นหนึ่ง [...] แต่สำนวนแปลคงจะไม่สู้ตรงกับสำนวนที่แต่งไว้ในภาษาจีนแต่เดิม เพราะผู้แปลมิได้รู้สันทัดทั้งภาษาจีนแลภาษาไทยรวมอยู่ในคนเดียวเหมือนเช่นแปลหนังสือฝรั่งกันทุกวันนี้"