เรือประจัญบาน คือเรือรบขนาดใหญ่ ติดตั้งอาวุธจำนวนมาก เพื่อใช้ในการรบกับข้าศึกแบบซึ่งหน้า ในช่วงศตวรรษที่ 15-17[ต้องการอ้างอิง]
เรือประจัญบานเป็นเรือใบขนาดยักษ์ ติดอาวุธปืนใหญ่ขนาดต่างๆ ทั้งสองกราบเรือ มีลูกเรือประจำการหลายร้อยคน ชาติมหาอำนาจทางทะเล เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส เนเธอร์แลนด์ ล้วนแต่เคยมีเรือชนิดนี้ประจำการ เพื่อใช้ทำการสู้รบ สำรวจทางทะเล และคุ้มกันเรือสินค้า
ต่อมาในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มีการสร้างเรือประจัญบานที่ขับเคลื่อนด้วยพลังกลจักรไอน้ำ และติดอาวุธที่ทรงอานุภาพ เช่น ปืนใหญ่โฮชวิตเซอร์ และปืนครก ที่มีระยะยิงไกล และมีอำนาจการยิงรุนแรง
ต้นคริสต์ศตวรรษที่ 19 มีการติดตั้งเกราะเหล็กให้กับเรือประจัญบาน และมีการติดตั้งป้อมปืนใหญ่ที่หมุนยิงได้รอบ กระสุนปืนใหญ่มีการพัฒนากระสุนแบบต่างๆ และก็เข้าสู่ยุคการสร้างเรือประจัญบานด้วยเหล็กทั้งลำ และในยุคเดียวกัน กองทัพเรืออังกฤษได้สร้างเรือประจัญบาน "เรือหลวง''เดรดนอต''" (HMS Dreadnought) ที่ติดปืนใหญ่ขนาด 12 นิ้ว (305 มม.) ที่ยิงได้ทั่วทุกทิศ ทุกชาติต่างพากันสร้างเรือประจัญบาน หลังสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ได้มีสนธิสัญญาจำกัดการสร้างเรือประจัญบานขึ้นมาหลายข้อ เช่น สนธิสัญญานาวิกวอชิงตัน ที่ห้ามสร้างเรือรบที่มีขนาดเรือเกิน 35,000 ตัน และห้ามติดปืนใหญ่ขนาดเกิน 16 นิ้ว (406 มม.) สนธิสัญญาแวร์ซายซึ่งจำกัดการสร้างเรือของเยอรมนีที่แพ้สงคราม โดยห้ามสร้างเรือที่มีขนาดเกิน 10,000 ตัน และห้ามติดปืนใหญ่ขนาดเกิน 11 นิ้ว (280 มม.)
ทางเยอรมนีก็ได้สร้างเรือประจัญบานขนาดกระเป๋าชั้น "ดอยช์ลันช์" ขึ้นมา โดยขนาดเรือกว่า 14,000 ตัน ติดปืนใหญ่ 11 นิ้ว 6 กระบอก ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล ทำให้สามารถทำความเร็วได้สูง
ในยุคสงครามโลกครั้งที่สอง (ค.ศ. 1939-1945) ชาติต่าง ๆ ที่ร่วมสงคราม ต่างสร้างเรือประจัญบานขึ้นมา เช่น บิสมาร์ค ของเยอรมนี, ไอโอวา ของสหรัฐอเมริกา, และยามาโตะ ของจักรวรรดิญี่ปุ่น