ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

เมืองพวน

เมืองพวน (Muang Phuan) หรือชื่อเต็มๆว่า " มหารัตนบุรีรมย์พรหมจักรพรรดิ ศรีมหานัครตักกะเสลา นครเชียงขวางราชธานี" เป็นเขตการปกครองที่มีสถานะเป็นอาณาจักรหนึ่งในประเทศลาว ซึ่งปัจจุบันเป็นตำแหน่งของแขวงเชียงขวาง ประชากรในเมืองพวนเรียกว่าชาวไทพวนเป็นกลุ่มชาติพันธ์ในกลุ่มไท-ลาวที่อพยพมาจากจีนตอนใต้ และตั้งตัวเป็นอิสระตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 18 โดยมีเมืองเชียงขวางเป็นเมืองหลวง มีบทบาทในการค้าโลหะและของป่า ในราวพุทธศตวรรษที่ 19 – 20 เมืองพวนอยู่ภายใต้การคุ้มครองของอาณาจักรล้านช้างในสมัยพระเจ้าฟ้างุ้ม

นอกจากการเสียเครื่องราชบรรณาการให้ล้านช้างแล้ว เมืองพวนยังคงรักษาการปกครองของตนไว้ได้ มีศิลปะทางพุทธศาสนาเป็นของตนเอง ต่อมาเมื่อสยามแผ่อิทธิพลข้ามแม่น้ำโขงเข้าควบคุมล้านช้าง เมืองพวนกลายเป็นรัฐกันชนระหว่างสยามกับไดเวียด และสยามได้กวาดต้อนชาวพวนจำนวนหนึ่งเข้ามาอยู่ในสยาม ต่อมาในราว พ.ศ. 2413 เมื่อกองทัพฮ่อที่แยกตัวออกมาจากกลุ่มกบฏไท่ผิงที่ถูกทางการจีนปราบ ได้เข้ามาโจมตีหลวงพระบางและล้านช้าง เมืองพวนเองถูกกองทัพฮ่อโจมตีจนเสียหายไปมากเช่นกัน

จากสนธิสัญญาสยาม-ฝรั่งเศสเมื่อ พ.ศ. 2436 เชียงขวางถูกกำหนดให้อยู่ในเขตแดนของอินโดจีนฝรั่งเศส และต่อมาจึงเป็นส่วนหนึ่งของประเทศลาว

ตามตำนานพงศาวดาร กล่าวไว้ว่า "ขุนบูลม(ขุนบรมราชาธิราช)ซึ่งปกครองเมืองแถน มีมเหสีสององค์ องค์หนึ่งชื่อพระนางเอ็ดแคง มีโอรสสี่องค์ อีกองค์ชื่อพระนางยมพาลา มีโอรสสามองค์ รวมขุนบูลม มีโอรสทั้งหมดเจ็ดพระองค์ ดังนี้"

ตั้งแต่สมัยเจ้าเจ็ดเจืองได้สร้างบ้านแปงเมือง และปกครองต่อๆกันมา พอจะลำดับกษัตริย์พวนได้ดังนี้

องค์ที่ ๔. เจ้าเจ็ดจิว โอรสในเจ้าเจ็ดจอด รัชสมัยเจ้าเจ็ดจิวนี้ ได้แนะนำให้ประชาชนประดิษฐ์ไถด้วยเหล็ก และคราดด้วยไม้ โดยเอาควายมาไถและคราดนา แต่ก็ยังสืบบวงสรวง เลี้ยงผีตามฮีตครองของศาสนาพราหมณ์ต่อไป

องค์ที่ ๙. เจ้าคำลูน โอรสในเจ้าพระคือ ในรัชกาลนี้ได้ออกไปเยี่ยมยามประชาชนในทั่วราชอาณาจักร และได้สั่งสอนชาวพวนและชาวขมุจงได้สามัคคีและฮักแพงกัน โดยปล่อยใหชาวเผ่าขมุตัดต้นไม้ถางป่าเพื่อทำไร่ไถนา และเมื่อเห็นชาวพวนขุดบ่อเหล็กเพื่อผลิตเครื่องมือก็ได้แนะนำให้ประชาชชนใช้เหล็กทำพะเนียงไถเพื่อสะดวกในการไถนา และเมื่อเห็นว่าบ่อเหล็กนั้นมีผีรักษาเมื่อขุดเอาเหล็กมาแล้วก็ต้องฆ่าหมูและควายเพื่อเลี้ยงผีไปพร้อมกัน เมื่อเจ้าคำลูนรู้ว่ามีบ่อทองคำอยู่บ้านนาหมื่น จึงพากันไปหาประชาชนเพื่อฆ่าคนเลี้ยงผีปีละหนึ่งคน แล้วขุดเอาแร่มาปั่นเป็นทองคำได้เท่าใดให้แบ่ง1/10มาให้แก่ตน เพื่อสร้างพระคลังของเจ้าชีวิต นอกจากนั้นก็เห็นว่า บ่อน้ำเที่ยง ที่เรียกกันว่า ท่าพังพาย เป็นบ่อนเข็ดยำ จึงได้พาประชาชนเอาดอกไม้ ธูป เทียนไปบูชาในวันสำคัญของชาติ อีกหนึ่งก็เพื่อความม่วนชื่นและเพิ่มเสบียงอาหาร นอกจากนี้เจ้าคำลุนยังได้ชักชวนประชาชนไปตัดคอน วังหลัก ในน้ำงิ้วที่อยู่ใต้เมืองเชียงขวางเพื่อหาปลาด้วยทุกวิธี เมื่อได้ปลามาแล้วก็เอามารวมกันแล้วแบ่ง1/10ของปลาที่จับได้ ไปถวายให้แก่เจ้าชีวิต

องค์ที่ ๑๔. เจ้าคำฝั้น โอรสในเจ้าคำแจก ซึ่งมีพระโอรสสององค์ คือเจ้าเฮือ และเจ้าคำพิน สำหรับเจ้าเฮือนั้น เมื่อพระบิดาสวรรคต ก็ได้ขึ้นครองราชย์แทนเป็นการชั่วคราว เมื่อเจ้าคำพินทรงบรรลุนิติภาวะแล้ว จึงถวายราชสมบัติให้แก่เจ้าคำพิน ซึ่งเป็นพระอนุชาครองต่อไป อาจจะเป็นเพราะเจ้าเฮือมีพระมารดาเป็นสามัญชนไม่ได้มาจากเชื้อสายเจ้า ซึ่งมีฐานันดรต่างจากพระมารดาของเจ้าคำพิน ซึ่งเป็นมเหสีของเจ้าคำฝั้นผู้เป็นพระบิดา เจ้าคำเฮือจึงครองเมืองพวนเพียงรักษาการณ์ อีกเหตุผลหนึ่งว่ากันว่าเจ้าคำเฮือนั้น มีสติไม่สมประกอบ จึงเป็นเหตุผลให้เจ้าคำพินผู้เป็นอนุชาได้สืบต่อราชสมบัติแทนผู้บิดา

องค์ที่ ๒๓. เจ้าคำผง โอรสในเจ้าคำเค้า เมื่อถึงเจ้าคำผงนั้น ทางการได้ตรวจสอบและทราบปีศักราชได้ชัดเจนแล้ว ซึ่งตรงกับสมัยรัชกาลของพ่อขุนรามคำแหงมหาราช ปี พ.ศ. ๑๘๓๒ แห่งอาณาจักรสุโขทัย และในช่วงรัชกาลของเจ้าคำผงนั้น ได้มีเหตุการณ์ที่ได้บันทึกไว้หลายเหตุการณ์ ในเวลานั้นที่ประเทศอานนาม(เวียดนาม)ได้มีพระโอรสในจักรพรรดิเวียดนาม(ราชวงศ์เล)ชื่อ เลย์ ยุยมัด ที่พยายามแย่งชิงราชสมบัติจากพี่ชายแต่ไม่สำเร็จ จึงได้พาน้องสาวชื่อว่า นางบาโก หนีมาพึ่งบารมีของกษัตริย์พวน และยกน้องสาวของตนให้แก่เจ้าคำผงเพื่อเป็นมเหสี และก็ได้ขอเอากำลังพลของเมืองพวนกลับไปตีเอาราชสมบัติจากพี่ชายของตนที่อานนาม แต่ก็ปราชัยอีกครั้ง จึงกลับคืนมาเชียงขวางแล้วฆ่าตัวตายติดกับข้างคุ้มของเจ้าชีวิต นางบาโกน้องสาวจึงได้ปลูกหอใส่ที่ตรงนั้นเพื่อรำลึกถึงบุญคุณของพี่ชาย แล้วสืบถวายการสักการะบูชาในกาลต่อมา หลังจากนั้นเจ้าชีวิตแกวก็ได้มาตีเมืองพวน เจ้าคำผงปราชัยต่อแกว จึงยอมเอาเมืองพวนไปขึ้นต่อประเทศแกวอานนาม

องค์ที่ ๒๔. พระเจ้าเขียวคำยอ หรือคำยอยก (พ.ศ. ๑๘๙๕-๑๙๔๕) เมื่อเจ้าคำยอยกเติบใหญ่ขึ้นมาได้ลักลอบเล่นชู้ต่อหม่อมของเจ้าคำผงพระราชบิดา เมื่อเจ้าคำผงทราบเรื่องราวจึงได้ขับไล่เจ้าคำยอยกให้ออกจากเมืองพวนไป เจ้าคำยอยกได้ไปอาศัยที่เมืองบอริคัน โดยอาศัยการช่วยเหลือจากประชาชนแขวงคำม่วน,เมืองจำพอนและเมืองเซโปน เป็นผู้พิทักษ์รักษาดูแลและอุปการะ ครั้นตกมาถึง ค.ศ.1349 เจ้าคำยอยกจึงได้กลับคืนเมืองเชียงขวางพร้อมกับกองทัพใหญ่ของพระเจ้าฟ้างุ้ม ตีเมืองพวนชนะผู้เป็นราชบิดา จึงได้ครองราชสมบัติสืบต่อจากราชบิดา เมื่อได้ครองราชย์แล้วจึงได้เปลี่ยนชื่อเป็นเจ้าเขียวคำยอ จากนั้นพระเจ้าฟ้างุ้มได้ขอกำลังไพร่พลของเมืองพวนไปรบกับพญาสุวรรณคำผงที่เมืองเชียงดง เชียงทองและตีต่อไปยึดเอาได้เมืองเชียงใหม่,ลำพูน,ลำปางและที่อื่นๆที่มีคนลาวอาศัยอยู่ อีกหนึ่งในบั้นสุดท้ายเมื่อพระเจ้าฟ้างุ้มเห็นว่าเจ้าเขียวคำยอแห่งเมืองพวน ไม่ได้ส่งกองทัพพวนไปช่วยคราวศึกสงครามครั้งหลังๆ จึงได้ยกกองทัพกลับมาตีเมืองพวน แล้วก็ได้จับเอาธิดาของเจ้าเขียวคำยอสองคนไปกักตัวไว้ที่เมืองเชียงดง เชียงทอง

องค์ที่ ๒๕. พระเจ้าอิสระเชษฐา พระเจ้าล้านคำกอง (พ.ศ. ๑๙๔๕-๑๙๖๕) โอรสในเจ้าเขียวคำยอ ในรัชกาลนี้ได้ทรงตั้งตนอยู่ในทศพิธราชธรรม ทรงมีเดชานุภาพและมีแต่ประชาชนรักใคร่ได้ปรับปรุงกฎหมายขึ้นมาใหม่ เรียกว่า กฎหมายล้านคำกอง เพื่อปกครองบ้านเมืองให้มีความสงบเรียบร้อย ได้นำเอาพุทธศาสนาและพระพุทธรูปทองคำองค์หนึ่งมาจากเมืองหงสาวดีเพื่ออุปฐาก เพื่อให้พุทธศาสนาได้รับการนับถือ พระองค์จึงได้ส่งคนเฉลียวฉลาดไปเรียนฮีตครองในศาสนาและวิธีการก่อสร้างวัดวาอารามจากเมืองอินทปัตนคร(เขมร) และได้ชักชวนพุทธศาสนิกชนสร้างวัดสีพม, วัดเพียวัด, วัดบุนกอง, วัดจอมเพ็ด และวัดธาตุฝุ่นขึ้นไว้ที่เมืองเชียงขวาง ในรัชกาลนี้ได้ชักชวนประชาชนให้เข้ามานับถือพระพุทธศาสนา แต่ก็ยังให้ประชาชนจัดตั้งหอมเหสักข์หลักเมืองขึ้น12หอ โดยฆ่าควายเลี้ยงตามประเพณีดั้งเดิมที่เจ้าชีวิตเก่าเคยนำพาปฏิบัติกันมา เห็นเป็นดังนี้พระสงฆ์ทั้งหลายและเหล่าเสนาอำมาตย์ราชปุโรหิต ได้พร้อมใจกันราชาภิเษกพระองค์ และถวายพระนามว่า พระเจ้าอิสระเชษฐา แล้วตั้งชื่อเมืองเชียงขวางใหม่ว่า นครเชียงขวางราชธานี ในรัชสมัยนั้นเมืองพวนมีความรุ่งเรืองมาก จนเลื่องลือโด่งดังไปถึงเมืองอื่น จนพระเจ้าสามแสนไท(อุ่นเรือน)แห่งอาณาจักรหลวงพระบางทรงทราบ จึงได้ส่งราชทูตมาขอเป็นมิตรไมตรี พร้อมได้ส่งราชธิดาสององค์ของพระเจ้าเขียวคำยอที่พระเจ้าฟ้างุ้มได้นำเอาไปกักขังไว้นั้น คืนมาให้แก่พระเจ้าอิสระเชษฐา และพร้อมเดียวกันก็ได้ขอนำเอากองทัพพวนไปช่วยตีกับเมืองพม่า

องค์ที่ ๒๖. พระเจ้าผ้าขาว หรือเจ้าคำอุ่นเมือง (พ.ศ. ๑๙๖๕-ไม่แน่ชัด) โอรสในเจ้าล้านคำกอง ทรงถูกถวายนามว่า พระเจ้าผ้าขาวเนื่องจากว่าพระองค์ใจบุญทรงแต่ผ้าขาว ฟังแต่ธรรมจำแต่ศีลกินทานอยู่ไม่ขาด พระองค์มีราชธิดานางหนึ่งนามว่า เจ้าหญิงคำอ่อน และมีโอรสอีกองค์หนึ่งนามว่า เจ้าคำด่อน เมื่อพระเจ้าผ้าขาวสวรรคตแล้ว ราชบุตรทั้งสองยังทรงพระเยาว์ไม่สามารถขึ้นครองราชย์ได้ ทำให้เมืองพวนไม่มีกษัตริย์สืบแทน จึงมีพญามหาเสนาอำมาตย์ว่าราชการแทน จนเจ้าหญิงคำอ่อนทรงเจริญวัยจึงได้สืบต่อขึ้นปกครองแทนพระราชบิดา

องค์ที่ ๒๗. พระมหาเทพีเจ้าหญิงคำอ่อน หรือพระนางผมดำ (พ.ศ.ไม่แน่ชัด-๒๑๐๓) ราชธิดาในเจ้าคำอุ่นเมือง

องค์ที่ ๒๙. เจ้าคำสั้น (พ.ศ. ๒๑๙๓-ไม่แน่ชัด) เจ้าคำสั้นเป็นราชโอรสในเจ้าคำด่อน เจ้าคำสั้นมีโอรสองค์หนึ่งชื่อ เจ้าคำกิวง และมีธิดาองค์หนึ่งนามว่า เจ้าหญิงแก่นจัน ในขณะนั้นพระเจ้าสุริยะวงศาซึ่งปกครองนครหลวงล้านช้างเวียงจันทน์ อยากได้เจ้าหญิงแก่นจันไปเป็นมเหสี แต่เจ้าคำสั้นไม่ยอมยกให้ พระเจ้าสุริยะวงศาจึงยกทัพไปตีเมืองพวนแต่เจ้าคำสั้นไม่สามารถสู้ศึกจากล้านช้างได้ พระเจ้าสุริยะวงศาจึงได้จับตัวเจ้าหญิงแก่นจันไป และกองทัพล้านช้างเวียงจันทน์ได้กวาดต้อนเอาครอบครัวชาวพวนหลายพันคนไปไว้ที่เวียงจันทน์ ดังนั้นจึงมีชาวพวนจำนวนมากอาศัยอยู่ในเวียงจันทน์ ซึ่งเรึยกกันว่า ชาวพวนเดิม ส่วนเจ้าคำสั้นหลังพ่ายทัพ ก็ได้มุ่งหน้าสร้างบ้านแปงเฮือนให้เจริญรุ่งเรือง จนเมืองพวนสามารถเข้มแข็งได้ดั่งเดิม

องค์ที่ ๓๒. เจ้าคำล้อน (พ.ศ. ๒๒๓๐-ไม่แน่ชัด) โอรสในเจ้าคำกิวง เจ้าคำล้อนมีโอรสองค์หนึ่งนามว่า เจ้าคำพุทธา เมื่อเจ้าคำล้อนสวรรคตแล้วเจ้าคำพุทธายังทรงเยาว์วัยไม่สามารถสืบต่อราชสมบัติได้ เหล่าเสนาอำมาตย์จึงได้แต่งตั้ง เจ้าคำเคืองผู้เป็นอนุชาของเจ้าคำล้อนขึ้นเป็นมหาอุปราชว่าราชการแทนจนสวรรคต

องค์ที่ ๓๔. เจ้าคำศรัทธา (ไม่แน่ชัด) โอรสในเจ้าคำพุทธา เจ้าคำศรัทธาได้อภิเษกสมรสกับเจ้านางแว่นแก้วสามผิว ผู้เป็นราชธิดาในพระเจ้าอินทะโสมเจ้ามหาชีวิตนครล้านช้างหลวงพระบาง ตั้งแต่นั้นมาทั้งสองอาณาจักรจึงผูกมิตรไมตรีที่ดีต่อกันอย่างเหนียวแน่น ในรัชกาลนี้ได้ทรงทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาและสร้างบ้านแปลงเมืองให้เจริญรุ่งเรืองตลอดรัชกาล เจ้าคำศรัทธามีโอรสสององค์คือ เจ้าบุนลังไท และเจ้าบุนลอด

องค์ที่ ๓๕. เจ้าบุนลังไท (ไม่แน่ชัด) โอรสในเจ้าคำศรัทธา เจ้าบุนลังไทมีโอรสองค์หนึ่งนามว่าเจ้าบุนคง เมื่อเจ้าบุนลังไทสวรรคตแล้ว เจ้าบุนคงยังทรงพระเยาว์ เหล่าเสนาอำมาตย์จึงแต่งตั้งเจ้าบุนลอดพระอนุชาในเจ้าบุนลังไทขึ้นปกครองแทน

องค์ที่ ๓๗. เจ้าบุญคง (ไม่แน่ชัด) โอรสในเจ้าบุนลังไท เมื่อเจ้าบุนคงสวรรคตแล้ว มีโอรสองค์หนึ่งนามว่าเจ้าบุนจันทร์ซึ่งยังทรงพระเยาว์ พญาคำเทโวซึ่งเป็นเสนาอำมาตย์ผู้ใหญ่ในขณะนั้นได้ว่าราชการแทนจนเจ้าบุญจันทร์บรรลุนิติภาวะ

องค์ที่ ๓๙. เจ้าคำอุ่นเมือง (ไม่แน่ชัด) โอรสในเจ้าบุญจันทร์ ในรัชกาลนี้ได้ทรงแต่งตั้งพระอนุชาคือ เจ้าคำเหม้นขึ้นเป็นมหาอุปราช(รองเจ้าชีวิต) ทั้งสองพี่น้องได้ทรงปกครองเมืองพวนให้อยู่อย่างร่มเย็นเป็นสุข เจ้าคำอุ่นเมืองมีโอรสสามองค์คือ เจ้า?องค์หล่อ,เจ้า?องค์สีพรม และเจ้าองค์บุญ ส่วนเจ้าคำเหม้นนั้นมีโอรสหนึ่งองค์นามว่า เจ้าหน่อเมืองหรือเจ้าองค์โตน

องค์ที่ ๔๐. เจ้าองค์หล่อ หรือเจ้าองค์ทง (ไม่แน่ชัด ในหนังสือประวัติศาสตร์เมืองพวนของเจ้าคำหลวง กล่าวไว้ว่า จ.ศ.๑๑๑๓ หรือ ค.ศ.1751) โอรสในเจ้าคำอุ่นเมือง เจ้าองค์หล่อได้แต่งตั้งเจ้าองค์บุญพระอนุชาขึ้นเป็นมหาอุปราช ในรัชกาลนี้ได้เกิดศึกสงครามขึ้นระหว่างกองทัพของเมืองพวนนำโดยเจ้าองค์หล่อ และกองทัพของนครหลวงล้านช้างเวียงจันทน์ซึ่งนำโดยเจ้าไชยองค์เว้ เจ้าองค์หล่อได้ปราชัยต่อเจ้าไชยองค์เว้ จึงได้มอบราชสมบัติให้แก่เจ้าองค์บุญผู้เป็นอนุชา แล้วให้อาณาจักรพวนขึ้นต่อล้านช้างเวียงจันทน์ เจ้าองค์หล่อได้เสด็จหนีไปซ่อนตัวอยู่ที่หัวพันห้าทั้งหกและได้เกลี้ยกล่อมเอาราษฎรได้เยอะพอสมควร จึงได้นำพาไพร่พลยกทัพไปเพื่อจะตีกองทัพของเจ้าแก้วที่เวียงจันทน์ แต่พอถึงเชึยงขวางเมืองพวนเจ้าองค์บุญได้ออกมาสู้รบกับเจ้าองค์หล่อ เพื่อต้านกองทัพของเจ้าองค์หล่อไม่ให้ไปตีเวียงจันทน์ แต่ทัพเจ้าองค์บุญพ่ายต่อเจ้าองค์หล่อ จึงยอมแพ้แต่โดยดีแล้วมอบคืนราชสมบัติต่อเจ้าองค์หล่อ และยอมส่งส่วยต่อเวียงจันทน์แต่โดยดี เพื่อให้ราษฎรอยู่ร่วมกันโดยสามัคคี เจ้าองค์หล่อจึงได้สั่งราษฎรชาวเมืองสูยย้ายมาอยู่ฟากน้ำงึมทั้งหมด(ใกล้กับคังหมาแล่น) ในเวลานั้นแขวงหัวพันได้ขึ้นแก่เมืองพวน ครั้นถึงปี จ.ศ.๑๑๑๘ หรือปี ค.ศ.1756 เพี้ยแสนคิดกบฏต่อเมืองพวน เจ้าองค์หล่อจึงได้ให้นำตัวไปประหารชีวิตสำเร็จโทษพร้อมลูกชาย เจ้าองค์หล่อมีโอรสสององค์คือ เจ้าชมภู และเจ้าเชียง ซึ่งหลังจากเจ้าองค์หล่อสวรรคต ทั้งสองพระองค์ทรงอยู่ในวัยเยาว์ เหล่าเสนาอำมาตย์จึงถวายราชสมบัติให้แด่เจ้าองค์สีพรมอนุชาในเจ้าองค์หล่อ เสวยราชย์ปกครองเมืองพวน

องค์ที่ ๔๑. เจ้าองค์สีพรม (พ.ศ. ๒๓๒๒-๒๓๒๔) โอรสในเจ้าคำอุ่นเมือง ในรัชกาลนี้กองทัพสยามที่บัญชาการโดยพระยาจักรี(ทองด้วง)เป็นแม่ทัพบก และพระยาสุรสีห์(บุญมา)เป็นแม่ทัพเรือของพระเจ้ากรุงธนบุรี(พระยาตากสิน)ได้เกณฑ์ทัพมาตีเวียงจันทน์แตก แล้วจึงเลยขึ้นมาตีเมืองเชียงขวางเมืองพวนแตก พร้อมทั้งเผาทำลายบ้านเมืองกวาดต้อนผู้คนและข้าวของ ทำให้เมืองพวนเสียหายย่อยยับ

องค์ที่ ๔๒. เจ้าหน่อเมือง หรือเจ้าองค์โตน (พ.ศ. ๒๓๒๔-๒๓๒๕) โอรสในเจ้าคำเหม้น เป็นนัดดาในเจ้าคำอุ่นเมือง ในรัชกาลนี้หบังจากครองราชย์ได้ไม่นาน อยู่ๆพระองค์ทรงเกิดมีสติวิปลาสและได้หนีเข้าป่าไป เหล่าเสนาอำมาตย์จึงได้แต่งตั้งให้เจ้าชมภูขึ้นครองราชสมบัติสืบต่อไป

องค์ที่ ๔๓. เจ้าชมภู (พ.ศ. ๒๓๒๕-๒๓๔๔) โอรสในเจ้าองค์หล่อ ในปี จ.ศ.๑๑๔๔ หรือ ค.ศ.1782 คนแกวอานนามชื่อ กวานฮับ ได้ก่อกบฎต่อเจ้าฟ้าแกวชื่อ เยีย ลอง หรือเหงียนอัน และได้ไปขอกองทัพต่อเจ้าเมืองหลวงพระบางผ่านไปทางเชียงขวาง แต่ถูกสกัดกั้นตีแตกโดยกองทัพพวนที่อยู่เมืองเคิง(โดนภูหม้าย) ในปี จ.ศ.๑๑๔๘ หรือปี ค.ศ.1784 เจ้าชมภูได้สร้างหอคำขึ้นใหม่ทีเชียงขวาง และคิดอยากเป็นอิสระไม่ขึ้นต่อล้านช้างเวียงจันทน์ เจ้าองค์ลอง ผู้ปกครองเวียงจันทน์ก็ได้นำทัพโดย เจ้าแก้ว และเจ้านันทะเสน ได้เอาทหาร๓,๐๐๐คน ขึ้นไปตีเมืองเชียงขวาง ทัพของเจ้าชมภูเมืองพวนสู้ต่อทัพของเวียงจันทน์ไม่ไหว เจ้าชมภูจึงได้หลบไปซ่อนตัวอยู่ที่เมืองฮังในแขวงหัวพัน หลังจากได้ตีเชียงขวางแตกแล้ว กองทะพเวียงจันทน์จึงได้ไปตีเมืองหลวงพระบาง ซึ่งมีเจ้าอนุรุทธปกครองในขณะนั้นแตกอีก ในขณะนั้นที่เมืองเชียงขวาง เจ้ากาง และเจ้าหล้า(เจ้าโพธิสาร) ซึ่งเป็นโอรสในเจ้าหน่อเมือง ได้เกิดแย่งชิงราชสมบัติกันเอง เจ้าหล้าได้แต่งให้นายใช้ไปหาเจ้านันทะเสนแห่งเวียงจันทน์ เจ้านันทะเสนจึงให้เจ้าแก้วยกทัพมาตีเจ้ากางที่เชียงขวางจนแตก จากนั้นเจ้าแก้วก็ได้ขึ้นไปเมืองสูย ตั้งทัพอยู่ที่ภูทงบ้านแลอยู่ได้หนึ่งเดือน จึงยกทัพขึ้นไปแขวงหัวพันเพื่อตามจับตัวเจ้าชมภู พร้อมด้วยตัวเพียเมืองกัดและเพียเมืองเส็ง หลังจับตัวได้จึงคุมตัวไปที่เวียงจันทน์ ครั้นไปถึงน้ำงึม ท่าข้าม ช้างสมดี เจ้าแก้วก็ได้ประหารชีวิตเพียเมืองกัดและเพียเมืองเส็งทิ้ง ส่วนเจ้าชมภูซึ่งเป็นกษัตริย์พวน เจ้าแก้วจึงต้องทำพิธีตามโบราณราชประเพณีของการประหารชีวิตกษัตริย์ หลังจากเริ่มทำพิธีก่อนจะลงมือประหารเจ้าชมภู ทันใดนั้นฟ้าได้มืดครึ้มลงทันที มีฝนตกฟ้าคะนอง เกิดฟ้าผ่าลงมาที่เพชรฆาตตายคาที่และดาบที่จะใช้ประหารได้หักเป็นท่อน เห็นเป็นดังนั้นเจ้าแก้วได้สั่งเลิกพิธีประหาร และได้สั่งให้นำตัวเจ้าชมภูไปคุมขังที่เวียงจันทน์เป็นเวลาสามปี หลังเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ในปี จ.ศ.๑๑๕๓ หรือ ค.ศ.1791 เจ้าเชียงอนุชาในเจ้าชมภู ได้แต่งหนังสือไปหาเจ้าฟ้าแกว(พระเจ้าจักรพรรดิเยียลอง)เพื่อยกทัพไปช่วยตีเวียงจันทน์จนแตก เจ้าชมภูและเจ้าเชียงจึงรีบนำพาไพร่พลชาวพวนหนีไปเชียงขวาง แล้วพาครอบครัวหนีไปหลบซ่อนตัวที่เมืองแถง(แถน)ในปีเดียวกันนั้น


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301