เป็ดน้อย เป็นภาพยนตร์ไทย ที่ออกฉายในปี พ.ศ. 2511 แนวรักชวนหัว เสียดสีสังคมชนชั้น ประกอบเพลง ระบบ 35 มม.อัศวินซูเปอร์ซีเนสโคป สีอัศวินอีสต์แมน เสียง(พากย์)ในฟิล์ม ของ อัศวินภาพยนตร์ เรื่องและบทภาพยนตร์โดย เวตาล กำกับโดย ภาณุพันธุ์ (ทั้งสองชื่อเป็นพระนามแฝงของ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธ์ยุคล) ฉายที่ศาลาเฉลิมไทย พ.ศ. 2511 เป็นครั้งแรกของหนังไทยจำนวนน้อยเรื่องในช่วงต้นทศวรรษ 2510 ที่เสนอภาพชีวิตชนบท , เพลงลูกทุ่ง, การละเล่นพื้นบ้าน "ลำตัด" และ ควาย
เดิมเสด็จพระองค์ชายใหญ่ทรงสร้างเป็นละครโทรทัศน์ช่อง 7 ขาวดำ (ททบ.5) สนามเป้า นำแสดงโดย ทม วิศวชาติ, บุษรา นฤมิตร, จันตรี สาริกบุตร ไม่นานก่อนสร้างเป็นภาพยนตร์ และเป็นเรื่องที่เสด็จฯ โปรดมากที่สุด เคยผลิตเป็นแถบวีดิทัศน์ตลับ (Video Cassette) ในสภาพปานกลาง
ต่อมา แฮบปี้ไทม์ มาร์เก็ตติ้ง ผู้ได้ลิขสิทธิ์ เผยแพร่ในรูปแบบดีวีดี เมื่อ พ.ศ. 2550 คุณภาพด้อยกว่าปานกลาง ต้นฉบับบางส่วนขาดหายไปรวมทั้งช่วงหลังที่ต้องใช้ภาพจากแถบวีดิทัศน์ตลับแทน
ศักดิ์ชัย (ไชยา สุริยัน) และสหายชาวคณะสามศักดิ์ (สักรินทร์ - ทนงศักดิ์ - มีศักดิ์) เจ้าหน้าที่สำรวจพื้นที่ทำทางหลวง เข้ามาขอพักชั่วคราวในบ้านสุดชายทุ่งของเป็ดน้อย (สุทิศา พัฒนุช) และเกิดชอบพอกัน เขาสัญญาว่าจะมารับเธอไปอยู่กรุงเทพที่แม่และพี่น้องของเขาต่างรังเกียจเมื่อทราบว่าจะได้สะใภ้ชาวนาเข้ามาอยู่ร่วมด้วย ขณะที่ตระกูลนี้กำลังอยู่ในฐานะลำบาก ทางเดียวที่จะกู้สถานการณ์ได้คือ มรดกของเจ้าคุณปู่ (ม.ล.รุจิรา) ที่มีเงื่อนไขว่าศักดิ์ชัย ต้องหาเจ้าสาวที่ท่านพอใจเท่านั้น
ในงานเลี้ยงต้อนรับ ศักดิ์ศรี (จินฟง) น้องชายคนสุดท้องที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองนอก เป้ดน้อยในชื่อใหม่ว่า วรรณวิไล ต้องขายหน้าโดยไม่รู้ตัวที่ทำกิริยาเปิ่นๆจากแผนของหญิงเล็ก (เมตตา รุ่งรัตน์) ผู้ตั้งชื่อให้และแสร้งทำดีเพื่อหาโอกาสกำจัดเธอ
บุญ (ธานินทร์ อินทรเทพ) หนุ่มบ้านเดียวกันและศักดิ์ศรี จึงช่วยกันวางแผนให้เป็ดน้อยปรากฏตัวใหม่เป็นที่ประทับใจของทุกคนรวมทั้งเจ้าคุณ ด้วยความร่วมมือของครูฝึกมารยาท (พูนสวสดิ์ ธีมากร) และพวกสามศักดิ์
แผ่นซิงเกิลสปีด 45 ตราเมโทรแผ่นเสียง หน้าแรก สามคำจากใจ โดย สุเทพ วงศ์กำแหง หน้าหลัง ตะวันรุ่น โดย นภา หวังในธรรม
เสด็จพระองค์ชายใหญ่ทรงทดลองสร้างเป็นละครทีวี ระหว่างปี พ.ศ. 2508-2509 และนับเป็นครั้งแรกที่ไม่เคยมีในหนังไทยเรื่องใดมาก่อน ได้แก่ การอัญเชิญทำนองเพลงพระราชนิพนธ์ "ใกล้รุ่ง" (คลอการประสานเสียง) ประกอบไตเติ้ล ,ภาพหมู่เมฆเคลื่อนตัวเร็วกว่าปกติซึ่งต้องใช้ฟิล์มมากขึ้นและเลนส์ถ่ายทำพิเศษสั่งจากต่างประเทศโดยเฉพาะ รวมทั้งบันทึกเสียงด้วยระบบเวสเทร็กซ์ที่ใช้ตามสตูดิโอใหญ่ของฮอลลีวูดสมัยนั้นซึ่งในเมืองไทยมีที่อัศวินแห่งเดียว นอกจากนี้ยังมีงานเพลงบอกเล่าถึงวีรกรรมของกองร้อยทหารสยามในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ที่แนวชายแดนฝรั่งเศส (มีศักดิ์ นาครัตน์ ร้องแทนเสียง ม.ล.รุจิรา อิศรางกูร)
แม้จะมีความโดดเด่นในงานสร้างโดยเฉพาะช่วง 20 นาทีแรก หลังจากนั้นการลำดับเหตุการณ์ขาดความกระชับเท่าที่ควร บทสนทนาเกี่ยวกับนกยูงกินข้าวโพดมีความสับสนที่การพิมพ์บทหรือการพากย์ลงฟิล์ม หลายฉากและเพลงเกินความจำเป็น ผิดกับฉบับละครทีวีที่ไม่ยาวมากแต่ดูดีกว่า ซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉบับภาพยนตร์มีกระแสแรงเพียงระยะแรกๆ เท่านั้น