เบลเกรด (อังกฤษ: Belgrade) หรือ เบออกรัด (เซอร์เบีย: ???????) เป็นเมืองหลวงและเมืองที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเซอร์เบีย มีการตั้งถิ่นฐานครั้งแรกในบริเวณนี้ตั้งแต่สมัยก่อนยุคประวัติศาสตร์ เมื่อ 5,700-4,800 ปีก่อนคริสต์ศักราช จุดเริ่มต้นของเมืองถูกก่อตั้งโดยชาวเคลต์กลุ่ม Scordisci ในศตวรรษที่สามก่อนศริสตศักราช ก่อนจะกลายมาเป็นที่ตั้งของเมืองโรมันในนาม Singidunum นับแต่อดีตมาเบลเกรดเป็นป้อมปราการที่สำคัญให้แก่ชนกลุ่มต่างๆตลอดระยะเวลากว่าสองพันปี ถูกทำลายแล้วสร้างกลับขึ้นมาใหม่หลายสิบครั้ง
ด้วยประชาการกว่า 1,600,000 คน ปัจจุบันนี้ เบลกราดก็ถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศที่อดีตเคยรวมตัวกันเป็นยูโกสลาเวีย เป็นที่ตั้งของสนามบินที่เพียงแห่งเดียวในการเดินทางเข้าสู่เซอร์เบีย นับได้ว่าเป็นศูนย์กลางทางการเมือง เศรษฐกิจ การศึกษา การคมนาคมและการท่องเที่ยวของประเทศ
เบลเกรดตั้งอยู่ในตอนกลางของประเทศเซอร์เบีย ระหว่างรอยของภูมิภาคสองแห่งคือ ชูมาดียา(อังกฤษ: ?umadija|เซอร์เบีย: ????????) กับภูมิภาค วอยโวดีนา(อังกฤษ: Vojvodina|เซอร์เบีย: ?????????) พื้นที่โดยทั่วไปของเมืองเบลเกรดเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำมีเนินต่ำๆสลับ โดยถือเป็นริมขอบทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของเขตที่ราบแพนโนเนียน มีแม่น้ำสำคัญตัดผ่านเมืองสองสายคือ แม่น้ำซาวาไหลมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้และมาบรรจบกับแม่น้ำดานูบซึ่งไหลมาจากทางตะวันตกเฉียงเหนือผ่านเขตวอยโวดีน่า โดยจุดที่แม่น้ำทั้งสองมาไหลรวมกันนั้น ถือว่าเป็นสมรภูมิที่ดีมาแต่ยุคโบราณจึงเป็นที่ตั้งของป้อมปราการโบราณของเบลเกรด(อังกฤษ: Belgrade Fortress) หรือที่เรียกกันในอีกนามว่า คาเลเมกดัน(อังกฤษ: Kalemegdan|เซอร์เบีย: ??????????) ซึ่งตั้งอยู่มากว่าสองพันปี
ทั้งนี้แม่น้ำสายหลักทั้งสองสาย นอกจากเป็นเส้นทางคมนาคมแล้ว ยังทำหน้าที่เป็นเส้นแบ่งเขตภูมิภาคที่มาบรรจบกันในเขตของเมืองเบลเกรดด้วย โดยฝั่งซ้ายของแม่น้ำซาวาที่แขวงเซมุน, นอวี เบลเกรด และ ซูร์ชินตั้งอยู่นั้น ถือว่าอยู่ในเขตเซเรมซึ่งเป็นภูมิภาคย่อยของวอยโวดีนา ขณะเดียวกันฝั่งซ้ายของแม่น้ำดานูบอันเป็นที่ตั้งของแขวงปาลิลูลาอยู่ในเขตแดนเรียกกันว่าบานัทซึ่งเป็นอีกหนึ่งภูมิภาคย่อยของวอยโวดีนาเช่นกัน
ในเขตเมืองเบลกราดมีเกาะซึ่งเกิดจากการไหลเซาะของแม่น้ำ โดยในจำนวนนี้สองเกาะซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดคือ อาดา ซิกันลิยา(อังกฤษ: Ada Ciganlija|เซอร์เบีย: ??? ?????????) อยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางต้นแม่น้ำซาว่า อีกเกาะนึงนั้นอยู่ในจุดที่แม่น้ำดานูบไหลมาบรรจบกับแม่น้ำซาวาตรงข้ามป้อมปราการโบราณคือ เวลิโก รัทโน โอสเตอร์โว (อังกฤษ: Veliko Ratno Ostrvo / Great War Island|เซอร์เบีย: ?????? ????? ??????) โดยเกาะทั้งสองนี้ถูกจัดให้เป็นพื้นที่คุ้มครองทางธรรมชาติและเป็นสถานที่พักผ่อนในยามหน้าร้อนของประชากรในเบลเกรด
เมื่อราวๆ 5,700-4,800 ปีก่อนคริสตกาล ได้มีอารยธรรมที่เรียกกันว่า อารยธรรมวินชา(อังกฤษ: Vin?a) ซึ่งเป็นอารยธรรมในยุคหินใหม่แพร่หลายในอาณาเขตประเทศเซอร์เบียในปัจจุบันรวมถึงบางส่นของประเทศข้างเคียงเช่น บอสเนีย, บัลกาเรีย, โรมาเนีย โดยเมืองเบลเกรดนั้น ได้มีการขุดค้นพบโบราณวัตถุของอารยธรรมวินชาที่แหล่งขุดค้น Vin?a-Belo Brdo ซึ่งอยู่ห่างจากใจกลางเมืองไปทางปลายแม่น้ำดานูบประมาณ 14 กิโลเมตรในแขวงกรอทซกาทางทิศตะวันออก กลุ่มชนของอารยธรรมวินชานั้นได้รับการเชื่อถือกันว่าเป็นกลุ่มอารยธรรมแรกสุดของโลกที่รู้การหลอมแร่ทองแดงเพื่อประดิษฐ์เป็นสิ่งต่างๆ
หลังการสิ้นสูญไปของอารยธรรมวินชา บันทึกทางประวัติศาสตร์ของกลุ่มชนรุ่นต่อมาที่เข้ามาสร้างอารยธรรมที่เด่นชัดในเขตแดนเมืองเบลเกรดในปัจจุบันนี้ก็คือชาวเคลต์กลุ่ม Scordisci พวกเขาได้เข้ามาชิงดินแดนจากชาวเทรซเซียนแล้วตั้งรัฐของตนเองขึ้นมาครอบคลุมดินแดนส่วนใหญ่ของประเทศเซอร์เบียในช่วง 279 ปีก่อนคริสตกาล ซึ่งนอกจากเบลเกรดแล้วเมืองอื่นๆในเซอร์เบียเช่น คุซุม(อังกฤษ: Cusum)(เมืองเปโตรวาราดินซึ่งทุกวันนี้เป็นส่วนหนึ่งของปริมณฑลเมืองนอวี่ ซาด) เทารุนุม(อังกฤษ: Taurunum)(ชื่อเรียกปัจจุบันคือเซมุน เป็นหนึ่งในแขวงย่อยที่อยู่การปกครองของเบลเกรดแต่เคยเป็นเมืองที่แยกออกจากกันต่างหากจนกระทั่งถึงปี ค.ศ. 1934) และ ไนซุส(อังกฤษ: Naissus)(เมืองนีชทางตะวันออกเฉียงใต้ของเซอร์เบีย) ก็เชื่อกันว่าถูกก่อตั้งโดยชาว Scordisci หรือถูกรวมอยู่ในรัฐของชนเผ่านี้เช่นกัน
ชาว Scordisci เป็นชนกลุ่มแรกที่เลือกสร้างชุมชนบนเนินต่ำ ณ จุดบรรจบกันของแม่น้ำซาวาและดานูบ โดยสร้างเป็นป้อมปราการมีลักษณะรูปร่างเป็นวง จึงเป็นที่มาของชื่อแรกสุดของเบลเกรดที่ได้รับการบันทึกไว้คือ ซินกิดูน (อังกฤษ: Singidun) ตั้งตามลักษณะแผนผังการก่อสร้างซึ่งเป็นรูปร่างกลม เมื่ออาณาจักรโรมันเริ่มเข้ามาทำสงครามขยายดินแดนในแถบนี้ ชาว Scordisci ซึ่งพ่ายแพ้ในสงครามก็ค่อยถูกรวมเข้าไปอยู่ในอาณาจักรโรมันและถูกกลืนหายไปกับชาวโรมันในช่วงร้อยปีแรกหลังจากเริ่มมีคริสต์ศักราช
สภาเมืองเบลเกรดมีสมาชิกสภาทั้งหมด 110 คนโดยมีการเลือกตั้งทุกสี่ปี มีการเลือกคณะมนตรีซึ่งมีอำนาจในการดูแลการบริหารปกครองจากสมาชิกสภาทั้ง 110 คน อีก 13 คน โดยอยู่ภายใต้การนำของนายกเทศมนตรีและรองนายกเทศมนตรีซึ่งจะถูกเลือกโดยนายกเทศมนตรีเพื่อทำหน้าที่ในกรณีที่นายกเทศมนตรีไม่อยู่ในฐานะที่สามารถปฏิบัติงานได้
นายกเทศมนตรีคนปัจจุบันของกรุงเบลเกรดคือ ซินิชา มาลี ได้รับการเลือกตั้งเมื่อเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2014 มี อันเดรยา มลาเดโนวิช เป็นรองนายกเทศมนตรี
เบลเกรดนั้นนอกจากเป็นเมืองหลวงของเซอร์เบียแล้ว ยังมีฐานะเป็นเขตปกครองพิเศษมีอำนาจในการดูแลแขวงย่อยอีกจำนวนมากที่อยู่รอบๆโดยเป็นการบริหารจัดการร่วมกันระหว่างสภาท้องถิ่นของแต่ละแขวงกับสภาเมืองเบลเกรด หลายแขวงเคยมีฐานะเป็นเมืองเอกเทศที่ไม่เกี่ยวข้องกับเมืองเบลเกรดมาก่อนเช่น เซมุน โอเบรโนวัทส์ แต่ถูกรวบเข้ามาอยู่ในความปกครองดูแลร่วมกับเมืองเบลเกรดในระยะเวลาหลายสิบปีก่อน
แขวงซึ่งถือกันว่าเป็นหัวใจของเมืองเบลเกรดแต่ดั้งเดิมคือเขตสตารี กราด เป็นภาษาเซอร์เบียแปลว่า "เมืองเก่า"
มอเตอร์เวย์สายหลักที่เป็นหัวใจใหญ่ในการเดินทางผ่านกรุงเบลเกรดไปยังเมืองสำคัญต่างๆในคาบสมุทรบัลข่านประกอบไปด้วย มอเตอร์เวย์สาย E-75 / A1 ซึ่งตัดผ่านประเทศเซอร์เบียตลอดแนวเหนือจรดใต้ตั้งแต่ชายแดนที่ติดต่อกับประเทศฮังการีจนถึงมาเซโดเนีย และ สาย A3 ระหว่างกรุงซาเกร็บและกรุงเบลเกรดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมอเตอร์เวย์สาย E-70
นอกจากนั้นกรุงเบลเกรดยังเป็นจุดเชื่อมเส้นทางสายรองอีกจำนวนมากซึ่งใช้เดินทางไปยังเมืองขนาดใหญ่และขนาดกลางอื่นๆของประเทศเซอร์เบีย อาทิ ซเรนยานิน ครากูเยวัทส์ วัลเยโว ฯลฯ
ปัจจุบันนี้ในเบลเกรดมีสะพานข้ามแม่น้ำทั้งหมด 10 แห่ง และกำลังก่อสร้างเพิ่มเติมยังไม่แล้วเสร็จอีก 1 แห่ง โดยแบ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำซาวาจำนวน 9 แห่ง(ในจำนวนนี้ 3 แห่งเป็นสะพานรถไฟ) และสะพานข้ามแม่น้ำดานูบอีก 1 แห่ง
ในด้านสะพานข้ามแม่น้ำดานูบนั้น ปัจจุบันมีใช้งานเพียงสะพานเดียวคือสะพานปันเชโว(อังกฤษ: Pan?evo Bridge; เซอร์เบีย: ?????????? ???? / Pan?eva?ki most) ซึ่งเชื่อมการจราจรจากกรุงเบลเกรดไปยังเมืองปันเชโว เมืองหลักของเขตบานัทใต้(อังกฤษ: South Banat District; เซอร์เบีย: ????????????? ????? / Ju?nobanatski okrug)ที่อยู่ตรงข้ามฝั่งแม่น้ำดานูบเยื้องไปทางตะวันออกเฉียงใต้ของแขวงปาลิลูลา ทว่าก็กำลังมีการสร้างสะพานข้ามแม่น้ำดานูบแห่งที่สองอยู่ในแขวงเซมุนคือสะพานปูปิน ซึ่งตั้งชื่อมาจากนักฟิสิกส์ชาวเซอร์เบียในสมัยต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 Mihajlo Idvorski Pupin ผู้มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตบานัทที่เป็นปลายด้านตะวันออกของสะพานใหม่แห่งนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จเดือนธันวาคม ค.ศ. 2014
อัมสเตอร์ดัม?เนเธอร์แลนด์อันดอร์ราลาเวลลา?อันดอร์ราบรัสเซลส์?เบลเยียมดักลาส?เกาะแมน (สหราชอาณาจักร)ดับลิน?ไอร์แลนด์ลอนดอน?สหราชอาณาจักรปารีส?ฝรั่งเศสเซนต์เฮลเยอร์?เจอร์ซีย์ (สหราชอาณาจักร)เซนต์ปีเตอร์พอร์ต?เกิร์นซีย์ (สหราชอาณาจักร)
โคเปนเฮเกน?เดนมาร์กเฮลซิงกิ?ฟินแลนด์มารีเอฮัมน์?หมู่เกาะโอลันด์ (ฟินแลนด์)ออสโล?นอร์เวย์เรคยาวิก?ไอซ์แลนด์รีกา?ลัตเวียสตอกโฮล์ม?สวีเดนลองเยียร์เบียน?สฟาลบาร์ (นอร์เวย์)ทาลลินน์?เอสโตเนียวิลนีอุส?ลิทัวเนีย
เบอร์ลิน?เยอรมันเบิร์น?สวิตเซอร์แลนด์บราติสลาวา?สโลวาเกียบูคาเรสต์?โรมาเนียบูดาเปสต์?ฮังการีลูบลิยานา?สโลวีเนียลักเซมเบิร์ก?ลักเซมเบิร์กปราก?สาธารณรัฐเช็กวาดุซ?ลิกเตนสไตน์เวียนนา?ออสเตรียวอร์ซอ?โปแลนด์
เอเธนส์?กรีซเบลเกรด?เซอร์เบียลิสบอน?โปรตุเกสมาดริด?สเปนโมนาโก?โมนาโกพอดกอรีตซา?มอนเตเนโกรพริชตีนา?คอซอวอโรม?อิตาลีซานมาริโน?ซานมารีโนซาราเยโว?บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาสโกเปีย?มาซิโดเนียโซเฟีย?บัลแกเรียติรานา?แอลเบเนียวัลเลตตา?มอลตานครรัฐวาติกัน?นครรัฐวาติกันซาเกร็บ?โครเอเชีย