อักษรเทวนาครี (???????? อ่านว่า เท-วะ-นา-คะ-รี; อังกฤษ: Devanagari) พัฒนามาจากอักษรพราหมีในราวคริสต์ศตวรรษที่ 11 ใช้เขียนภาษาฮินดี ภาษาสันสกฤต ภาษามราฐี ภาษาบาลี ภาษาสินธี ภาษาเนปาล และภาษาอื่นๆในประเทศอินเดีย
อักษรเทวนาครีมีลักษณะการเขียนจากซ้ายไปขวา มีเส้นเล็กๆ อยู่เหนือตัวอักษร หากเขียนต่อกัน จะเป็นเส้นยาวคล้ายเส้นบรรทัด มีการแยกพยัญชนะ สระ และเครื่องหมายต่างๆ
อักษรเทวนาครีเกิดขึ้นเมื่อราวปี พ.ศ. 1743 (ค.ศ. 1200) โดยพัฒนาขึ้นจากอักษรสิทธัม และค่อยๆ เข้ามาแทนที่อักษรศารทา ซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดและมีมาก่อน (ยังคงใช้คู่ขนานกันไปในกัษมีร์) อักษรทั้งสองแบบมีต้นกำเนิดมาจากอักษรคุปตะ ซึ่งได้มาจากอักษรพราหมีอีกทอดหนึ่ง ซึ่งมีที่มาตั้งแต่ช่วง 300 ปีก่อนคริสตกาล ส่วนอักษรนาครีนั้น ปรากฏในช่วงราวคริสต์ศตวรรษที่ 8 เป็นสาขาตะวันออกของอักษรคุปตะ ร่วมสมัยกับอักษรศารทาอันเป็นสาขาตะวันตก
ภาษาสันสกฤต คำว่า นาครี เป็นสตรีลิงค์ ของ นาคร หมายถึง เกี่ยวกับเมือง เป็นคุณนาม จากคำนาม นคร ซึ่งหมายถึงเมือง ที่ใช้รูปสตรีลิงค์ เพราะนี้ เดิมใช้บ่งบอกนามสตรีลิงค์ ลิปิ ซึ่งหมายถึง อักษร ในที่นี้ จึงหมายถึงอักษรของชาวเมือง หรืออักษรของผู้มีวัฒนธรรม อักษรนาครีนั้นมีที่ใช้หลากหลาย อักษรที่มีคำว่า เทวะ (เทวดา) เติมข้างหน้า หมายถึง อักษรของเทวดา หรืออักษรที่ใช้ของชาวเมืองชั้นสูงนั่นเอง
ปัจจุบันมีการใช้คำว่า "เทวนาครี" อย่างกว้างขวาง แต่เรียกสั้นๆ ว่า "นาครี" ก็พบเห็นได้ทั่วไป ซึ่งมีความหมายถึงอักษรอย่างเดียวกันนี้ ความนิยมใช้เทวนาครีอย่างแพร่หลายนั้น เกี่ยวโยงกับการใช้ในยุคอาณานิคม ซึ่งแทบจะใช้อักษรเทวนาครีเพียงอย่างเดียว ในการตีพิมพ์งานสันสกฤต แม้ว่าภาษาสันสกฤตนั้น สามารถใช้อักษรต่างๆ ได้แทบทุกแบบของอินเดียก็ตาม และด้วยเหตุนี้ จึงมักจะทำให้มีการผูกโยงระหว่างอักษรเทวนาครีและภาษาสันสกฤต จนมีความเชื่อผิดๆ ไปอย่างกว้างขวาง เรียกอักษรนี้ว่า "อักษรสันสกฤต" ก็มี
เช่นเดียวกับตระกูลอักษรพราหมีอื่นๆ หลักการเบื้องต้นของอักษรเทวนาครีคือ อักษรแต่ละตัวใช้แทนเสียงพยัญชนะซึ่งมีเสียงสระ a (อะ) [?] อยู่ในตัว ตัวอย่างเช่นอักษร ? อ่านว่า ka (กะ) อักษรสองตัว ?? อ่านว่า kana (กะนะ) อักษรสามตัว ??? อ่านว่า kanaya (กะนะยะ) เป็นต้น ส่วนเสียงสระอื่นๆ หรือการตัดเสียงสระทิ้ง จะต้องมีการดัดแปลงตัวพยัญชนะของมันเองดังนี้
สระในระบบอักษรเทวนาครีนั้น มีลักษณะเฉพาะแบบเดียวกับอักษรอินเดียส่วนใหญ่ นั่นคือ มีสระสองชุด เป็นสระลอย และสระจม สระลอย คือ สระที่อยู่โดดเดี่ยวได้ โดยมีเสียงของตัวมันเอง ส่วนสระจม เป็นสระที่ต้องประสมกับพยัญชนะอื่น สระจมของเทวนาครี มีทั้งที่เขียนด้านหน้า เช่น อิ เขียนด้านหลัง เช่น อา อี เขียนด้านบน เช่น เอ และเขียนด้านล่าง เช่น อุ หรือ อู นอกจากนี้ยังมีแบบเขียนสองตำแหน่ง เช่น ไอ โอ และเอา ที่เขียนทั้งบนและหลังพยัญชนะ
สำหรับผู้ใช้วินโดวส์เอ็กซ์พี (Window XP) สามารถอ่านอักษรเทวนาครี หรือพิมพ์ข้อความสั้นๆด้วยโปรแกรม Character Map ฟอนต์ Mangal
พื้นฐานจากพยางค์: อักษรในอานาโตเลีย (คาเรีย ? ลิเชีย ? ลิเดีย ? ลูเวีย) ? รูปลิ่ม (ซูเมอร์ ? แอกแคด ? อีลาไมต์) ? ตงปา ? ตันกัท ? มายา ? อี้พื้นฐานจากอักษรจีน: คันจิ ? คีตัน ? อักษรจีน (ตัวเต็ม ? ตัวย่อ) ? จื๋อโนม ? จูร์เชน ? น่าซี ? สือดิบผู้จ่อง ? ฮันจา