เจ้าหญิงปรางพระองค์นี้มีพระนามเรียกกันในราชวังนครฯ ว่า ทูลกระหม่อมฟ้าหญิงเล็ก เป็นเจ้าจอมมารดาพระสนมเอกที่มีความสำคัญต่อราชวงศ์กรุงธนบุรีและราชวงศ์จักรีอย่างยิ่ง ในฐานะที่ทรงให้กำเนิดพะราชโอรสของพระเจ้ากรุงธนบุรีซึ่งต่อมาได้มีบทบาทสำคัญต่อราชวงศ์จักรีและชาติ ทั้งองค์พระราชโอรสและบุตรธิดาของท่าน
เจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปรางองค์นี้ มีเรื่องราวพิสดารในประวัติศาสตร์ว่า ภายหลังเมื่อพระบิดาหรือเจ้านครหนูได้ยอมสวามิภักดิ์เข้าด้วยในพระเจ้ากรุงธนบุรีและได้เข้ามารับราชการอยู่ ณ เมืองหลวงสมัยนั้น ได้ถวายพระธิดาองค์ใหญ่ คือ เจ้าหญิงฉิม เข้าทำราชการฝ่ายในด้วยสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีนั้น ได้มีพระขนิษฐาคือ เจ้าหญิงปรางเข้าไปอยู่ในวังด้วยพระองค์หนึ่ง แต่คนทั่วไปยังไม่รู้ ได้เป็นพระสนมของพระเจ้ากรุงธนบุรีด้วยเหมือนกัน จนถึงแก่มีเรื่องคอขาดบาดตายเกิดขึ้น โดยเจ้าพระยาพิชัยราชา ผู้สำเร็จราชการเมืองสวรรคโลก หลงผิดคิดว่าเป็นสาวโสดส่งเถ้าแก่เข้าไปขอเจ้าหญิงปรางเป็นภริยา ความได้ทรงทราบถึงพระเจ้ากรุงธนบุรีขึ้น จึงทรงพระพิโรธใหญ่ว่าเจ้าพระยาพิชัยราชาบังอาจจะมาตั้งตัวเป็นเขยน้องเขยใหญ่คู่กับพระองค์อันเป็นพระเจ้าแผ่นดิน ถึงให้ลงพระราชอาญาประหารชีวิตเจ้าพระยาพิชัยราชาเสีย นี่เป็นตอนหนึ่งแห่งความพิสดารอันมีผลให้นายทหารเอกคู่พระทัยของพระเจ้ากรุงธนบุรีต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ อันไม่น่าเชื่อว่าถ้าพระเจ้ากรุงธนบุรียังมีพระสติปรกติ จะทรงกระทำเช่นนั้น เพราะพระองค์ท่านรักทหารยิ่งกว่าอิสตรีใด ๆ ได้เป็นที่ประจักษ์กันอยู่จึงเชื่อว่า ขณะนั้นพระองค์คงจะมีพระสติไม่ปรกติเกิดขึ้นในลักษณะคุ้มดีคุ้มร้ายเป็นครั้งคราว พอดีถึงคราวชะตาขาดของเจ้าพระยาพิชัยราชา (ข้อความตอนนี้เป็นความเห็นของผู้แต่งหนังสือ) ซึ่งผู้เขียนเชื่อว่าน่าจะต้องเป็นเช่นนั้นเหลือเกินเพราะเกือบจะขณะเดียวกัน พระองค์ท่านก็ได้กระทำอย่างหนึ่งซึ่งเป็นการยืนยันพระทัยในความรักทหารมากกว่าอิสตรี โดยตัวเจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปรางเองเหมือนกัน คือ ฝ่ายเจ้าอุปราชพัฒน์แห่งเมืองนครฯ มีความดีความชอบในราชการเป็นอย่างมากเข้ามาเฝ้าในกรุง ความทรงทราบว่าเจ้าอุปราชพัฒน์เป็นม่ายเพราะภริยาหลวงผู้เป็นธิดาของเจ้านครหนูเหมือนกันถึงแก่อนิจกรรม เกิดความสงสารเจ้าอุปราชพัฒน์ขึ้นจึงพระราชทานเจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปรางคนเดียวกันนั้นเอง และเป็นน้องสาวภริยาของเจ้าอุปราชพัฒน์อีกด้วยให้เป็นภริยาแทน ซึ่งครั้นเสด็จขึ้นจึงดำรัสสั่งท้าวนางข้างในให้พาตัวเจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปราง ซึ่งเป็นพระธิดาองค์เล็กของเจ้านครหนูไปพระราชทานเจ้าอุปราชพัฒน์ ท้าวนางกระซิบทูลว่าดูเหมือนนางนั้นขาดระดูอยู่ พระเจ้ากรุงธนบุรีตรัสว่า “ได้ออกปากให้เขาแล้วก็พาไปเถิด” เรื่องจึงเลยตามเลย แต่ความเรื่องนี้เจ้าอุปราชพัฒน์ย่อมทราบ และคนทั้งหลายทั่วไปก็ทราบกันทั้งนั้นแต่เจ้าอุปราชพัฒน์เป็นข้าของพระองค์จะไม่รับพระราชทานหาได้ไม่ ก็ตอบรับไว้โดยนำไปอยู่อย่างท่านผู้หญิงกิตติมศักดิ์จนตลอดอายุ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือรับไปอัญเชิญให้อยู่ในฐานะแม่เมือง และเจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปรางก็ได้ประสูติพระราชโอรส ณ เมืองนครศรีธรรมราชนั้น โดยทุกฝ่ายไม่ว่าเจ้าว่าไพร่แม่ฝรั่งต่างประเทศก็นับรู้ว่า ทารกน้อยของเจ้าจอมมารดาปรางผู้นี้คือ พระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี คือ เจ้าพระยานครน้อย
๑ เจ้าพระยานครน้อย พระราชโอรสองค์เดียวของเจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปราง ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้าพระยานครศรีธรรมราชแทนบิดาบุญธรรม และมีลูกหลานเป็นเจ้าพระยานครฯ ต่อมาอีกหลายคน เจ้าพระยานครน้อยทรงเป็นต้นสกุลวงศ์ราชสกุลกรุงธนบุรีที่ใหญ่ที่สุดและแยกออกเป็นหลายสาขา สาขาที่สำคัญที่สุดคือสกุล “ ณ นคร”
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/เจ้าจอมมารดาเจ้าหญิงปราง