ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

เกมวัดดวง

เกมวัดดวง เป็นรายการเกมโชว์ที่มีเนื้อหาคือ เป็นเกมการแข่งขันที่นำเอาโชคชะตาของผู้เข้าแข่งขันมาทำเป็นเกม ซึ่งทางรายการจะหาผู้ที่ดวงดีที่สุด จากผู้เข้าแข่งทั้งหมดในสัปดาห์นั้น ลักษณะเกมนั้นจะเป็นการทำกิจกรรมต่าง ๆ ซึ่งมีการเปลี่ยนแปลงทุกสัปดาห์ ในแต่ละรอบ ทางรายการจะกำหนดกติกาเอาไว้ ซึ่งจะเป็นสิ่งที่กำหนดว่าผู้เข้าแข่งขันแต่ละคนจะ เข้ารอบ หรือ ตกรอบ โดยกติกาเหล่านี้จะไม่ตัดสินผู้เข้าแข่งขันด้วยความสามารถส่วนตัวใด ๆ เลย จะขึ้นอยู่กับ ดวง เพียงอย่างเดียวเท่านั้น และจะใช้หลักความน่าจะเป็น โดยมีคำขวัญว่า "คุณไม่ต้องพกอะไรนอกจากดวงเพียงอย่างเดียว"

เกมวัดดวง ในระยะแรกผลิตรายการโดย บริษัท จีเอ็มเอ็ม ทีวี จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์ เวลา 23.05 - 23.55 น. ต่อมาย้ายวันและเวลาออกอากาศเป็น วันเสาร์ เวลา 12.55 - 13.50 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ออกอากาศครั้งแรกในวันที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2545 ดำเนินรายการโดย ดีเจไก่ สมพล ปิยะพงศ์สิริ, ดีเจโจ้ อัครพล ธนะวิทวิลาศ และในปีพ.ศ. 2552 ได้เพิ่ม อ้อม พิยดา อัครเศรณีเข้ามาเป็นพิธีกร อย่างไรก็ตามเนื่องจากการปรับผังรายการของสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ในปีพ.ศ. 2554 ทำให้รายการ เกมวัดดวง ต้องยุติการออกอากาศลง หลังจากออกอากาศมายาวนานกว่า 8 ปี โดยเทปสุดท้ายของรายการ ออกอากาศในวันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553 และมีการเพิ่มเวลาออกอากาศจากทางสถานีเดียวกันในวันหยุดนักขัตฤกษ์ โดยใช้ชื่อรายการว่า "เกมวัดดวง ฮอลิเดย์"

หลังจากที่จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ มีช่องรายการฟรีทีวีทางช่องทางดิจิทัลทีวี บริษัท เนค แอนด์ เดอะ ซิตี้ จำกัด จึงเสนอให้ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล? จำกัด จัดทำรายการเกมวัดดวงขึ้นใหม่อีกครั้ง โดยปรับพิธีกรใหม่ คือ เกตุเสพสวัสดิ์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา และ พัฒนศักดิ์ เรืองจำเนียร โดยช่วงแรกก่อนกลับมาออกอากาศ รายการได้เปิดการเฟ้นหาคนดวงดีทั่วประเทศในรูปแบบของการแข่งขันแบบซีซัน จากนั้นจึงกลับมาออกอากาศเป็นรายตอนตามปกติ โดยที่รายการเกมวัดดวง เริ่มกลับมาออกอากาศอีกครั้งตั้งแต่วันที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2558 ทางช่อง จีเอ็มเอ็ม 25

เกมวัดดวง แต่ละตอนจะค้นหาผู้เข้าแข่งขันที่ดวงดีที่สุดในเกม โดยคัดผู้เข้าแข่งขันที่ดวงไม่ดีให้ตกรอบไปทีละคน นั่นคือ จะแข่งขันกันด้วย ดวง เพียงอย่างเดียว โดยที่ผู้เข้าแข่งขันที่เข้ามาเล่นนั้นไม่จำเป็นต้องใช้ความสามารถใด ๆ เลยในการเล่นเกมนี้ และเป็นเกมแนวตลกขบขัน สถานที่และกติกาในการแข่งขันเกมวัดดวงจะเปลี่ยนไปทุกสัปดาห์

ในแต่ละตอน ผู้เข้าแข่งขันประมาณ 40 ถึง 50 คน จะมาทำกิจกรรมและเล่นเกมโดยมีกติกากำหนดไว้ ผู้เข้าแข่งขันอาจจะรู้กติกาเหล่านี้ล่วงหน้าหรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับกติกาในแต่ละรอบ ผู้เข้าแข่งขันจะถูกตัดสินให้ เข้ารอบ หรือ ตกรอบ ด้วยกติกาเหล่านี้ นอกจากนี้ ในระหว่างการเล่นเกมหรือก่อนเล่นเกม อาจมี กติกาทีเผลอ ซ่อนเอาไว้อีกด้วย (กติกาทีเผลอเริ่มใช้ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2546)

ผู้ชมทางบ้านจะได้รับชมภาพการแข่งขันพร้อมกับเสียงบรรยายของน้าเน็ค ในแต่ละรอบ ผู้เข้าแข่งขันจะตกรอบไปเรื่อย ๆ หลังจบเกมรอบสุดท้าย จะเหลือผู้เข้าแข่งขันที่ดวงดีที่สุดเพียงหนึ่งคนหรือหนึ่งทีม เพื่อเข้าไปเล่นในรอบแจ็กพอต หลังจบเกมในแต่ละรอบ จะมีการสัมภาษณ์ผู้เข้าแข่งขันที่ตกรอบ ขณะถูกปั๊มตรา ตกรอบ ที่หน้าผาก และมีการสัมภาษณ์ผู้เข้ารอบแจ๊กพอตในรอบสุดท้าย

น้าเน็คได้กล่าวไว้ว่า ชื่อรายการเกมวัดดวงนั้น มีที่มาจากการดำเนินชีวิตทั่วไปของมนุษย์ แต่ละคนจะพบเรื่องที่ดีหรือไม่ดีนั้นขึ้นอยู่กับดวงของแต่ละคน นอกจากนี้ ประเทศไทยยังผูกพันกับความเชื่อเรื่องดวงอย่างมาก ตั้งแต่การนำนักโหราศาสตร์มาทำนายดวงประเทศ จนถึงการทำนายดวงส่วนบุคคล จนกระทั่งทีมงานคนหนึ่งไปพบแม่ค้าขายสลากกินแบ่งคนหนึ่ง กำลังเรียกลูกค้าด้วยประโยคที่ว่า "เอาวัดดวงไหมคะหนู" ทีมงานและน้าเน็คจึงได้นำความเชื่อเรื่องดวงดังกล่าวมาทำเป็นเกมโชว์ ใน Outro ของแต่ละช่วงของรายการและกราฟิกเริ่มเบรกของรายการจะสังเกตได้ว่า พฤติกรรมต่าง ๆ ล้วนมาจากดวงดี หรือไม่ดี เช่น ดวง...จะถึงฆาต หมายถึง ดวงที่ไม่ดีของคนที่มีชีวิต ก็จะถูกพิฆาตจากสิ่งที่ไม่ดี หรืออาจจะถึงขั้นฆ่าตัวตายเลยก็ได้/ดวง...ได้รับใช้ชาติ หมายถึง ดวงของทหารที่ดี ก็จะได้เป็นทหารรับใช้ชาติอีกด้วย/ดวงตก...ตกงาน หมายถึง คนที่ดวงไม่ดี ย่อมอาจเสี่ยงตกงานจนต้องลาออกจากการทำงาน โดยคำดังกล่าวพบได้ในกราฟิกเริ่มเบรกของรายการและก่อนเข้าสู่โฆษณาด้วย แต่ยกเลิกในปี 2550

ทำงานของเกมวัดดวงนั้น ทีมงานจะกำกับผู้เข้าแข่งขันให้ทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามเกม โดยให้ผู้เข้าแข่งขันมุ่งไปที่เกมโดยตรง แต่จุดมุ่งหมายของเกมคือการทำให้เกิดเสียงหัวเราะมากที่สุด น้าเน็คกล่าวว่า ต้องการให้เกมนี้เป็นเกมที่ กวนประสาท มากที่สุด และเป็นงานพิธีกรที่สนุกที่สุดอีกด้วย

ในการเล่นเกมวัดดวงนั้น ทีมงานจะให้ผู้เข้าแข่งขันทำกิจกรรมร่วมกัน ด้วยการเล่นเกมของทางทีมงานที่กำหนดให้ และมีการแสดง และการแนะนำของน้าเน็คกับทีมงานให้ผู้เข้าแข่งขันคลายเครียดก่อนเข้าสู่เกม สำหรับรายละเอียดการเล่นเกมวัดดวงในแต่ละรอบแบ่งออกป็นลำดับดังนี้

น้าเน็คและทีมงานจะแสดงบทบาทสมมุติในการเล่นเกมวัดดวงในแต่ระรอบ สร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะให้กับผู้เข้าแข่งขั้น พร้อมทั้งผู้ชมทางบ้านจะได้ฟังเสียงบรรยายจากน้าเน็คด้วย และสิ้นสุดการแสดงก็จะเข้าสู่เกมทันที

ผู้เข้าแข่งขันจะเล่นเกมด้วยการทำตามโจทย์ที่ทีมงานกำหนดไว้ ว่าจะอย่างไรถึงจะทำตามกติกา ในที่นี้ อาจทำก่อนหรือหลังเฉลยป้ายกติกาแล้วแต่กรณีของเกมในแต่ละรอบ ทั้งการเล่นและการตัดสิน จะเป็นแบบสุ่ม (ตามความน่าจะเป็น) ซึ่งเป็นรูปแบบหลักของเกมวัดดวง โดยที่ไม่มีใครทราบได้ว่า ใครจะเข้ารอบหรือตกรอบในตอนนั้น ในส่วนนี้ผู้ชมทางบ้านจะได้ทราบถึงลักษณะการเล่นและการตัดสินจากเสียงบรรยายของน้าเน็ค

ทุก ๆ รอบของเกมวัดดวงจะมี "แผ่นป้ายกติกา" ซึ่งเป็นตัวกำหนด กติกาอย่างชัดเจน เมื่อเปิดป้ายกติกาแล้ว การตัดสินถือว่าสิ้นสุด หากใครทำตามป้ายกติกานั้นจะตัดสินได้ทันทีว่า "เข้ารอบ" หรือ "ตกรอบ" ในรอบนั้น ในการเปิดป้ายกติกานั้น ทีมงานจะเปิดก่อนเล่นหรือเปิดหลังเล่นก็ได้แล้วแต่กรณีดังนี้

ทีเผลอ เป็นการซ่อนกติกากวน ๆ ที่ผู้เข้าแข่งขันทำโดยไม่รู้ตัวในระหว่างพักเกมหรือก่อนเริ่มเกม ส่วนใหญ่กติกาเหล่านี้จะเป็นแบบไม่ทันรู้ตัว และสร้างความสนุกสนานได้มากทีเดียว ตัวอย่างเช่น

ลักษณะการตกรอบของเกมวัดดวงนั้น ผู้ที่ตกรอบ จะต้องคืนป้ายชื่อและเสื้อคลุมของเกมวัดดวง และจะโดนตราปั๊มคำว่า "ตกรอบ" ที่หน้าผาก เพื่อให้ทีมงานแยกออกว่าใครเข้ารอบหรือตกรอบ เสร็จแล้วทีมงานจะนำผู้ตกรอบทั้งหมดไปถือป้ายตกรอบแล้วถ่ายรูปพร้อมกัน ก่อนปล่อยผู้เข้าแข่งขันกลับบ้าน การกระทำลักษณะนี้ น้าเน็คและทีมงานเรียกกันสั้น ๆ อย่างสนุกสนานว่า "ปั๊มตรา ถือป้าย ไล่กลับบ้าน" นั่นเอง

ในแต่ละปี รายการเกมวัดดวง ที่ทำการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเล่นเกมวัดดวงให้มีความสนุกสนานและความบันเทิงต่อผู้ชมทางบ้าน รวมไปถึง การปรับปรุงรูปแบบต่าง ๆ ในการเล่น ซึ่งในแต่ละปีจะมีรูปแบบการเล่นดังนี้

ในช่วงแรกเกมวัดดวงจะทำการแข่งขันให้ผู้เข้าแข่งขันไม่เกิน 50 คนมาเล่นเกมวัดดวง และคัดเข้ารอบ ตกรอบไปเรื่อย ๆ จนเหลือคนเดียว ซึ่งจะวัดดวงสัปดาห์ละ 5 รอบ ต่อมา ราว ๆ ปี พ.ศ. 2548 ถูกลดเกมลงมาเหลือ 4 รอบ และได้มีการกำหนดเทปในแต่ละสัปดาห์ว่าเป็นตอนอย่างไรบ้าง และในปี พ.ศ. 2550 ทางรายการได้รับสมัครผู้เข้าแข่งขันแบ่งเป็น 2 ทีม ทีมละ 25 คน

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี 2551 นั้นมีลักษณะการเปลี่ยนแปลงไปมากจากปีก่อน ๆ คือ ระบบการรับสมัครเป็นทีมจะเหลือ 15 คน มีดารารับเชิญมาร่วมสนุกโดยเป็นหัวหน้าทีม หลังจากนั้น เมื่อแข่งขันจนได้ผู้ชนะมาแล้ว จะได้เป็นแชมป์ประจำสัปดาห์ เพื่อรอผู้ท้าชิงกับอีกคนในสัปดาห์ถัดไป ในรอบชิงแชมป์นั้น จะมีการเล่นเกมวัดดวง 1 เกม สำหรับผู้ที่เป็นแชมป์และผู้ท้าชิง ผู้ที่ชนะจะได้เป็นแชมป์ และเข้าสู่รอบแจ๊กพอตต่อไป โดยผู้ที่เป็นแชมป์จะสะสมรางวัลจากรอบแจ๊กพอตอย่างต่อเนื่อง ถ้าแชมป์ดวงดี สามารถป้องกันได้ถึง 10 สมัย จะได้รับทองคำหนักมูลค่า 10 บาท

รูปแบบการเล่นเกมวัดดวงในปี 2552 จะเป็นแบบแรลลี่ โดยมีผู้เข้าแข่งขัน 2 ทีม ทีมละ 4 คนมีดารารับเชิญมาร่วมสนุกโดยเป็นหัวหน้าทีม ลักษณะการเล่นคือ ในแต่ละรอบจะต้องวัดดวงกันให้ชนะทีมฝ่ายตรงข้ามด้วยการวัดดวง ทีมที่ชนะ จะได้รับลูกบอลเก็บคะแนน 2 ลูก ในขณะที่ทีมที่แพ้ได้รับลูกบอลเก็บคะแนน 1 ลูก ในระหว่างเกมจะมีภารกิจให้ทำ โดยมุ่งหน้าไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อให้ภารกิจสำเร็จก่อน ทีมใดที่ทำภารกิจแพ้จะโดนทำโทษต่าง ๆ เช่น หัก 2 คะแนน, ยึดลูกบอลคะแนน เป็นต้น

หลังจากที่วัดดวงกันมาถึงรอบที่ 3 จะมีการสรุปคะแนนจากลูกบอลคะแนน โดยข้างในลูกบอลคะแนนแต่ละลูกจะมีเลข 0 ถึง 9 อยู่ในลูกบอลซึ่งเป็นคะแนนของทีมที่ได้ ทีมใดได้คะแนนมากกว่าจะเป็นทีมที่ชนะและเข้ารอบสุดท้าย และรอบสุดท้ายจะคัดเข้ารอบเพียง 1 คนเท่านั้น และชิงแชมป์กับแชมป์ประจำสัปดาห์ เหมือนรูปแบบในปี 2551

แต่ต่อมา รูปแบบการเล่นนี้ ทำให้เสียเวลา และเกิดความลำบากในการเล่น อีกทั้งยังมีผู้เข้าแข่งขันน้อย (8 คน) จึงทำให้ยกเลิกการเล่นรูปแบบนี้ และเปลี่ยนกลับมาเล่นในรูปแบบเดิมคือ เล่น 30-50 คน และคัดเข้ารอบ-ตกรอบเหมือนเดิม (เหมือนกับรูปแบบการเล่นในปีพ.ศ. 2545ถึงปีพ.ศ. 2549)

ดารารับเชิญทั้ง 3 คนจะมาวัดดวงกันตามสถานที่ต่าง ๆ โดยก่อนเริ่มเกม น้าเน็คจะทำการเชิญหมอดูออกมา (ช่วงเช็คดวงก่อนโดน) เพื่อทำนายทายทักในเรื่องต่าง ๆ พร้อมทั้งบอกว่าใครน่าจะเป็นคนที่ดวงตกที่สุด (ทั้งนี้ อาจจะมีช่วงกติกาเล่นทีเผลอซ่อนอยู่ โดนคนที่เผลอทำจะโดนทันที) หลังจากนั้นน้าเน็คจะพาดารารับเชิญไปเล่นเกมเพื่อหาคนที่ดวงดี, ดวงปกติและดวงอ่อน คนที่ดวงอ่อนจะโดนไปในแต่ละเกม เมื่อเล่นครบ 3 เกมจะทำการสรุป โดยผู้ที่ดวงดีที่สุดจะได้รับรางวัล 30,000 บาท ส่วนผู้ที่ดวงอ่อนที่สุดจะถูกทำโทษโดยเพนท์ (เฮนน่า) อัปยศคำว่า "คนดวงตก" อีกด้วย

ในระหว่างรายการ น้าเน็คและดารารับเชิญจะพักรับประทานอาหารในช่วงกินตามดวง โดยน้าเน็คและดารารับเชิญจะไปรับประทานอาหารกับร้านอาหารในละแวกนั้น และร่วมวัดดวงกับทางร้านโดยมีกติกาคือ ทางรายการจะมีไม้จิ้มฟันอยู่ 8 ก้านอยู่ในเครื่องกดไม้จิ้มฟัน หนึ่งในนั้นจะมีปลายสีแดง ถ้าหากทางร้านหยิบได้ไม้แดง น้าเน็คและดารารับเชิญจะได้รับประทานอาหารในมื้อนั้นฟรี แต่ถ้าน้าเน็คและดารารับเชิญหยิบได้ไม้แดง ทางรายการจะต้องจ่ายค่าอาหารทั้งหมดเอง

เมื่อแข่งขันครบ 3 เกมแล้ว จะทำการเล่นช่วงพลิกดวง ซึ่งจะมีตุ๊กตาน้าเน็คอยู่ 5 ตัว หนึ่งในนั้นจะมีเครื่องหมายของรายการอยู่ ผู้ที่เลือกเจอเครื่องหมายของรายการ จะได้รับเงินโบนัส 10,000 บาท โดยลำดับในการเล่นจะเรียงจากผู้ที่ดวงดี, ดวงปกติ และดวงอ่อนตามลำดับ และถ้าหากคนดวงอ่อนเลือกได้เครื่องหมายของรายการ นอกจากจะได้รับเงินโบนัส 10,000บาท แล้ว จะได้รับยกเว้นในการถูกเฮนน่าอีกด้วย (ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นการเลือกคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก SVOA แทนตุ๊กตาน้าเน็ค และถ้าคนดวงอ่อนได้รับโบนัส คนดวงปกติจะถูกเฮนน่าแทน)

อย่างไรก็ดี ในเวลาต่อมา ทางได้การได้ยกเลิกช่วงกินตามดวง และช่วงพลิกดวงออกไป และได้ให้ผู้ชมทางบ้านได้ร่วมสนุกเล่นเกมวัดดวง ในเกมที่ 3 โดยมีกฎคือ เมื่อเกมจบ ทีมที่ตกรอบ หัวหน้าทีมจะต้องโดนทำโทษ โดยผู้ชมทางบ้านที่ดวงดีที่สุด จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาท

หลังจากจบการแข่งขันแบบ Season เกมวัดดวงจะทำการแข่งขันให้ผู้เข้าแข่งขันไม่เกิน 20 คนมาเล่นเกมวัดดวง และคัดเข้ารอบ ตกรอบไปเรื่อย ๆ จนเหลือคนเดียว ซึ่งจะวัดดวงสัปดาห์ละ 4 รอบ โดยมีการกำหนดเทปในแต่ละสัปดาห์ว่าเป็นตอนอย่างไรบ้าง

ในเกมวัดดวง ฮอลิเดย์นั้น ทางรายการได้เปลี่ยนกลับมาเล่นเกมในรูปแบบ คัดคนเข้ารอบ-ตกรอบ เหมือนเดิม โดยในแต่ละครั้ง ผู้แข่งขันที่เป็นสุดยอดคนดวงดี (ผู้ชนะในแต่ละครั้ง) จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท และมีสิทธิ์เล่นเกมเพื่อชิงรางวัลแจ๊คพ็อต แพ็คเก็จทัวร์ประเทศเกาหลีใต้ อีกด้วย (หรือในบางครั้ง สุดยอดคนดวงดีจะได้รับรางวัลแจ๊คพ็อต โดยไม่ต้องเล่นเกมรอบแจ๊คพ็อต)

ในส่วนนี้เป็นตัวอย่างของการเล่นเกมวัดดวงซึ่งมีลักษณะและวิธีการเล่นต่าง ๆ ที่ง่าย และสามารถตัดสินได้ทันที ซึ่งบางเกมก็ใช้อุปกรณ์การเล่นไม่มาก และสามารถเอามาเล่นส่วนตัวกันได้ กติกาการเล่นเกมวัดดวงที่ออกอากาศจะไม่ซ้ำกันและเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ในส่วนนี้จะยกส่วนหนึ่งเป็นตัวอย่างในการเล่นเกมวัดดวง ตามตารางด้านล่างนี้

หลังจากที่เล่นเกมวัดดวงครบทุกรอบแล้ว ผู้ที่ดวงดีที่สุดผ่านเข้ารอบเพียง 1 คนจะได้เข้าไปชิงรางวัลในรอบแจ๊กพอต ในห้องส่งของทางรายการ กติการการเล่นแจ๊กพอตในแต่ละรูปแบบมีรายละเอียดดังนี้

ในเกมนี้ผู้เข้าแข่งขันที่ชนะการแข่งขันในเกมวัดดวงจะให้เลือกแผ่นป้ายทั้ง 6 แผ่นป้ายโดยป้ายเลข 0 มี 5 แผ่นป้ายส่วนป้ายเลข 1 มีอยู่ป้ายเดียวโดยให้ผู้เข้าแข่งขันเลือกแผ่นป้ายและเลือกตำแหน่ง แสน หมื่น พัน ร้อย หลัก ด้วยจากนั้นเมื่อเลือกครบแล้วพิธีกรจะบอกว่าเปลี่ยนตำแหน่งหรือไม่ทั้งนี้เมื่อเปิดเป็นเลข 1 ตามตำแหน่งจะได้เงินรางวัลไปตามป้ายอย่างเช่น เปิดเลข 1 อยู่ตำแหน่ง แสน ได้เงินรางวัล 100,000 บาท, เปิดเลข 1 อยู่ตำแหน่ง หมื่น ได้เงินรางวัล 10,000 บาท, เปิดเลข 1 อยู่ตำแหน่ง พัน ได้เงินรางวัล 1,000 บาท, เปิดเลข 1 อยู่ตำแหน่ง ร้อย ได้เงินรางวัล 100 บาท และ เปิดเลข 1 อยู่ตำแหน่ง หลัก ได้เงินรางวัล 1 บาท ทั้งนี้ เมื่อจบรอบนี้แล้วผู้เข้าแข่งขันได้รับเงินรางวัลน้อยกว่า 10,000 บาท ผู้เข้าแข่งขันสามารถนำเงินรางวัลที่เปิดได้ มาแลกเปลี่ยนเป็น 10,000 บาทได้ โดยพิธีกรจะมีของให้ 2 อย่าง ในของ 2 อย่างจะมีเงินรางวัล 10,000 หรือ 0 บาท ถ้าเลือกของถูกชิ้น จะได้รับเงินรางวัล 10,000 บาทแทน

รอบแจ๊กพอตในปีดังกล่าวมีรูปแบบเป็นหมุนวงล้อเลียนแบบวงล้อออกสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยที่มีวงล้อมีทั้งหมด 6 หลัก แต่ละหลักจะมี 1 - 3 ผู้เข้าแข่งขันจะต้องทายว่า วงล้อในแต่ละหลักจะออกเลขอะไรบ้าง ถ้าผู้เข้าแข่งขันทายถูก ก็จะได้รับเงินรางวัลไป โดยที่ทายถูกทั้งหมด จะได้รับเงินรางวัลสูงสุด 1,000,000 บาท การทายถูกในแต่ละหลัก จะได้รับเงินรางวัลหลักละ 10,000 บาท แต่จะมีการกำหนดรางวัลพิเศษขึ้นคือ ถ้าถูก 2 ตำแหน่งสุดท้าย รับเงินรางวัล 50,000 บาท (จากเดิม 20,000) ถ้าถูก 3 ตำแหน่งสุดท้าย รับเงินรางวัล 100,000 บาท (จากเดิม 30,000)

รอบแจ๊กพอตในปีดังกล่าวมีรูปแบบเป็นแบบเสี่ยงเซียมซี โดยจะมีเซียมซีทั้งหมด 7 แท่งซึ่งระบุจำนวนครั้งในการเปิดแผ่นป้าย โดยจะมีเลข 1 1 แท่ง เลข 2 2 แท่ง เลข 3 3 แท่ง และคูณ2 1 แท่ง เมื่อเสี่ยงเซียมซีได้แล้ว ผู้เข้าแข่งขันมีสิทธิ์เลือกแผ่นป้าย โดยจะมีจำนวนเงินรางวัลดังตารางต่อไปนี้

หากผู้เข้าแข่งขัน มีโอกาสเปิดแผ่นป้ายมากกว่า 1 ครั้ง ผู้เข้าแข่งขันจะต้องเลือกว่า จะเอาเงินรางวัลที่เปิดได้ในใบนี้ (และหยุดเกมลง) หรือเลือกเปิดใหม่ในใบถัดไป (ไม่เอาใบที่เปิดได้)

ต่อมา ได้เปลี่ยนกติกาเล็กน้อย โดยมีกล่องเสี่ยงเซียมซีเลือกแผ่นป้ายทั้งหมด 12 แผ่นป้าย ในแต่ละแผ่นป้ายจะมีจำนวนเงินแตกต่างกัน โดยมีเงินรางวัลสูงสุดถึง 500,000 บาท และจะมีป้ายพิเศษที่ทวีคูณเงินเป็นสองเท่า ผู้เข้าแข่งขันจะได้เสี่ยงเซียมซี 2 ครั้ง ซึ่งต้องเสี่ยงดวงด้วยการเสี่ยงเซียมซี ถ้าไม้เสี่ยงทายออกหมายเลขใด ก็จะได้รับเงินรางวัลไปตามนั้น การทำแจ็กพอตแตกคือ การเสี่ยงได้ป้าย 500,000 บาท และ ทวีคูณสองเท่า

ผู้เข้าแข่งขันจะเลือกป้ายเป่ายิ้งฉุบ 7 แผ่นป้าย หากชนะป้ายที่ผ่านมา จะได้เงินรางวัล 10,000 บาท การเปิดป้ายเป่ายิ้งฉุบนั้น ในแต่ละป้าย จะเป็นดังนี้ (ในป้ายที่ 6 ถ้าชนะป้ายที่ 5 ได้ เงินรางวัลจะบวกอีก 50,000 บาท ป้ายสุดท้าย ถ้าชนะป้ายที่ 6 ได้ เงินรางวัลจะบวกอีก 900,000 บาท รวมเป็น 1,000,000 บาท)

ในขณะที่เล่นนั้นสามารถหยุดเมื่อไหร่ก็ได้ที่อยากจะหยุด และได้รับเงินรางวัลนั้นไป ในกรณีที่เล่นต่อแล้วเสมอ เงินรางวัลยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงและเล่นต่อไปเรื่อย ๆ ถ้าเล่นต่อแล้วแพ้ จะเปลี่ยนเป็น 0 บาททันที แต่ทีมงานจะมีเงินรางวัลปลอบใจเป็นค่ายานพาหนะกลับบ้าน 5,000 บาท

รอบแจ๊กพอตในปี 2550 เป็นการเปิดป้ายหาของรางวัลรวมมูลค่าไม่ต่ำกว่า 100,000 บาท เริ่มแรก ผู้เข้ารอบแจ็กพอต จะได้หมุนคันโยก เพื่อให้ได้เลขจำนวนการเปิดป้าย 2 ถึง 6 ป้าย เมื่อได้จำนวนป้ายที่เปิดแล้ว จึงจะมาเปิดป้ายของรางวัลจาก 12 แผ่นป้าย เมื่อเปิดเจอป้ายอะไร จะได้รับของรางวัลดังกล่าว ถ้าดวงดี แจ๊กพอตแตกเปิดเจอโลโก้กระทิงแดงหันหน้าชนกัน (ซึ่งจะมี 2 ป้ายคือ โลโก้ส่วนซ้าย กับโลโก้ส่วนขวา) จะได้รับของรางวัลทั้งหมดในรอบแจ๊กพอตกลับบ้านไปเลย

รอบแจ๊กพอตในปี 2551 จะเป็นการเลื่อนคันโยกให้วัวกระทิงแดงเคลื่อนที่หันหน้ามาชนกัน โดยผู้เข้าแข่งขันที่ชนะ จะเลือกคันโยก 6 คันโยก จาก 12 คันโยก ให้วัวกระทิงแดงหันหน้าชนกัน โดยมีป้ายเฉลยเป็นตัวยืนยัน เมื่อดึงถูกรูปวัวกระทิงแดงจะเลื่อนขึ้นมา และป้ายเฉลยจะเป็นรูปตราสัญลักษณ์กระทิงแดง และได้รับเงินรางวัลสะสมป้ายละ 10,000 บาท ถ้าเลื่อนผิด รูปวัวจะไม่เคลื่อน ในป้ายเฉลยจะเป็นรูปพิธีกรดีเจไก่หรือน้าเน็ค ซึ่งตราสัญลักษณ์และรูปพิธีกรจะมีอย่างละ 6 แผ่นป้าย ถ้าเลื่อนคันโยกถูกติดต่อกันถึง 6 คันโยก จะได้รับรถยนต์ ซึ่งเป็นรางวัลแจ๊กพอตในปีนี้ ในกรณีที่เจอรูปพิธีกรตั้งแต่ป้ายแรก (วัวไม่เคลื่อน) จะมีโอกาสเปิดให้เป็นรูปพิธีกรให้ครบ 6 แผ่นป้ายได้ จะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท

ในรอบแจ๊กพอตของเกมวัดดวงจะมีกติกามีอยู่ว่าจะมี 12 กล่องซึ่งจะมีสร้อยคอทองคำ 1 บาทมีอยู่ 6 กล่องส่วนอีก 6 กล่องเป็นรูปภาพซึ่งรูปภาพในแต่ละกล่องเป็นรูปภาพของผู้ชมทางบ้านโดยกติกามีอยู่ว่าให้เลือกกล่องไหนถ้าเลือกเจอกล่องที่มีสร้อยทองนั้นถือว่าเล่นต่อไปแต่เปิดกล่องรูปภาพของผู้ชมทางบ้านถือว่าเกมจะหยุดลงทันทีและรวบรวมสร้อยคอทองคำที่เปิดได้อยู่ด้วยและภาพที่ถูกเปิดนั้นเจ้าของรูปก็ได้รับเงินรางวัล 2,000 บาทแต่กรณีเปิดเป็นรูปของผู้ชมทางบ้านตั้งแต่แรกจะให้เล่นต่อโดยให้หากล่องที่มีสร้อยคอทองคำโดยเปิดกล่องเป็นสร้อยคอทองคำ 1 บาทถือว่าหยุดเกมลงทันทีทั้งนี้เมื่อเปิดกล่องที่มีสร้อยคอทองคำ 1 บาท หรือ เจอตัวหยุด ครบทั้ง 6 กล่องจะได้รับรถยนต์ซึ่งเป็นรางวัล แจ๊กพอต

ซึ่งผู้ที่ได้รับเงินรางวัล 1 ล้านบาทในซีซั่นนี้คือ นายหิรัณย์ พรหมมา (กาย) อายุ 18 ปี ที่ผ่านเข้ารอบจากสเตจเรือหลวงจักรีนฤเบศร

ผู้เข้าแข่งขันที่เป็นสุดยอดคนดวงดีประจำสัปดาห์ จะต้องเข้าแท่นหมุนดวงเสี่ยงโชค (บางกรณีทางรายการให้ปั่นจิ้งหรีด นั่งเก้าอี้หมุน ฯลฯ) หลังจากนั้นจะต้องออกมาเลือกกล่องเพียงกล่องเดียว จาก 10 กล่อง จะมี 20,000 บาท 1 กล่อง 10,000 บาท 2 กล่อง นอกนั้นของเสริมดวง หากเปิดเจอของเสริมดวง ก็รับของเสริมดวง หากเจอเงิน 10,000 บาท ก็รับเงิน 10,000 บาท หากเจอเงิน 20,000 บาท ก็รับเงิน 20,000 บาทไปเลย

หลังจากที่เกมวัดดวงได้ออกาอาศมาอย่างต่อเนื่อง และมีผู้สนับสนุนเข้ามาให้การสนับสนุนรายการ และได้นำส่วนหนึ่งของรายการเกมวัดดวงไปจัดกับกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้

เป็นกิจกรรมของรถอิซูซุ ที่ได้นำเอารายการมาเป็นส่วนร่วมตามชื่อดังกล่าว โดยจัดที่ศูนย์อิซูซุสาขาหนึ่งในแต่ละจังหวัด, ซึ่งมีการจัดแสดงงานหลายอย่างคือ การประกวาดร้องเพลงประกอบลีลาของเด็ก ๆ จากสถาบันต่าง ๆ, การแข่งขันทำลายสถิติการใช้งานของรถ (วัดจากตัวเลขกิโลเมตรที่ใช้งาน) พร้อมทั้งการเล่นเกมวัดดวง โดยมีน้าเน็คและพิธีกรอีกคนมาทำหน้าที่เป็นพิธีการหาคนที่ดวงดีที่สุดประจำจังหวัด และท้ายงานมีมินิคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปินจังหวัดละ 2 คน มาร้องเพลงให้ผู้เข้างาน

หลังจากที่ได้คนดวงดีประจำจังหวัดแล้ว จะได้เล่นเกมวัดดวงที่ห้องส่ง ผู้ที่ดวงดีที่สุดของประเทศ จะได้รับรถอีซูซุดีแมกซ์รุ่นใหม่ของโลก

กิจกรรมนี้จัดขึ้นมา 2 ครั้งแล้ว โดยครั้งที่ 2 จะมีการสะสมเงินรางวัลให้กับคนดวงดีประจำจังหวัด เงินรางวัลสูงสุดถึง 50,000 บาท

ในปี พ.ศ. 2550 บริษัท เอสวีโอเอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด โดยนำเอาเกมวัดดวงไปจัดงานเป็นชื่องานตามหัวข้อดังกล่าว ซึ่งเป็นงานที่จัดให้กับลูกค้าที่ใช้คอมพิวเตอร์เอสวีโอเอ ซึ่งจะค้นหาคนดวงดีประจำภาค เมื่อมาแข่งขันวัดดวงกัน ภายในงานจะมีแบ่บออกเป็นสองช่วงได้แก่ในช่วงเช้าจะมีการแข่งขันประกอบอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ พร้อมกับลงระบบปฏิบัติการ, ในช่วงบ่ายจะมีกิจกรรมเกมวัดดวงโดยมีน้าเน็คเข้ามาเป็นพิธีกรในงาน การค้นหาคนดวงดีประจำภาคนั้น ค้นหาสองคนประจำภาค โดยรอบสุดท้ายจะลุ้นรหัส วัดดวง ผู้ที่เป็นตัวแทนคนดวงดีประจำภาคจะได้รับคอมพิวเตอร์พกพา (หรือ Notebook), หลังจากที่ได้คนดวงดีประจำภาคเรียบร้อยแล้ว จะมีการแข่งวัดดวงกันที่กรุงเทพฯ ผู้ที่ดวงดีที่สุดจะได้รับเงินรางวัล 1,000,000 บาท

ในครั้งที่หนึ่งและครั้งที่สอง จัดในปี พ.ศ. 2550 หลังจากเสร็จสิ้นจากกิจกรรมในช่วงเย็นจะมีมินิคอนเสิร์ตของเหล่าศิลปิน 2 คน มาร้องเพลงให้ผู้เข้างาน เช่นเดียวกับงานวัดดวงทั่วไทย และครั้งที่ 3 ในปี พ.ศ. 2551 ได้นำ โก๊ะตี๋ อารามบอย กับ อ้น ศรีพรรณ มาเป็นหัวหน้าทีมในการหาตัวแทนสุดยอดคนดวงดีประจำภาคอีกด้วย

ผลิตภันท์ "ซุเปอร์กาแฟ" ได้นำเอาเกมวัดดวงมาจัดภายใต้ชื่อ ซุเปอร์กาแฟ เกมวัดดวงออนทัวร์ ในปี พ.ศ. 2551 โดยเป็นการมอบความสนุก โดยหาคนดวงดีประจำภาค โดยมีพิธีกร 2 คนไปร่วมสนุกคือ คุณท็อป พิพัฒน์ อภิรักษ์ธนากร และ คุณ โอปอล์ ปาณิสรา พิมพ์ปรุ ภายในงาน จะมีการจัดเกมวัดดวง 4 ครั้ง ครั้งละ 4 รอบ โดยที่กติกาและการแต่ละรอบจะไม่เหมือนกัน ผู้ที่ดวงดีที่สุดในแต่ละครั้ง จะได้รับเงินรางวัล 5,000 บาท พร้อมกับผลิตภันท์ซุเปอร์กาแฟ และจะมีการจัดงานลักษณะนี้ ในแต่ละจังหวัด เดือนละ 1 ครั้งอย่างต่อเนื่อง ตลอดปี พ.ศ. 2551


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301