อเมริกันฟุตบอล (อังกฤษ: American football) เป็นกีฬาประเภททีมที่นิยมมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา จุดมุ่งหมายของการแข่งขันคือแต่ละทีมจะต้องพยายามเคลื่อนลูกบอลเข้าไปสู่ เขตปลายสุดสนาม หรือที่เรียกว่าเอนด์โซนของฝ่ายตรงข้าม การเคลื่อนนั้นสามารถกระทำได้โดย การถือลูกวิ่ง และ การขว้างลูกไปให้เพื่อนร่วมทีม การทำคะแนนสามารถทำได้หลายวิธีคือ การถือลูกวิ่งผ่านเส้นเขตประตู การขว้างลูกไปให้เพื่อนร่วมทีมที่อยู่ในเขตสนามหลังเส้นประตู หรือ การแตะประตู โดยเตะลูกที่มีเพื่อนร่วมทีมจับตั้งกับพื้นสนามให้ผ่านระหว่างเสาประตู (goalposts หรือ uprights) หลังจากหมดเวลาการแข่งขันทีมที่ได้คะแนนสูงกว่าจะเป็นฝ่ายชนะ
ในสหรัฐอเมริกา และ ประเทศแคนาดา เรียกกีฬาประเภทนี้ว่า "ฟุตบอล (Football) " (ในขณะเดียวกันเรียกฟุตบอล ว่า ซอคเกอร์) ในบางประเทศเรียกอเมริกันฟุตบอลว่า "กริดไอเอิร์นฟุตบอล (Grid-iron football) " อเมริกันฟุตบอลนั้นเริ่มมีการพัฒนาแยกตัวออกมาจาก รักบี้ฟุตบอล ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 อรีนาฟุตบอล หรือ ฟุตบอลในร่ม เป็นกีฬาที่ดัดแปลงมาจากอเมริกันฟุตบอล
อเมริกันฟุตบอล มีลักษณะของการแข่งขันที่ไม่ต่างไปจาก กีฬาฟุตบอล ประเภทอื่นๆ โดยจุดประสงค์ของเกมจะเป็น การพาบอลเคลื่อนที่ ไปยังปลายสนามของคู่แข่งขัน และ ทำคะแนนให้ได้มากกว่าทีมคู่แข่ง ภายในเวลาที่กำหนด
สนามอเมริกันฟุตบอล มีรูปร่างเหมือน ตะแกรงโลหะที่ใช้ในการปิ้งย่าง จึงมักจะถูกเรียกว่า กริดไอรอน (gridiron) ขนาดของสนามแข่งขัน ยาว 120 หลา หรือ 110 เมตร และ กว้าง 53-1/3 หลา หรือ 49 เมตร เส้นขอบตามแนวยาวของสนามเรียก เส้นข้าง หรือ ไซด์ไลน์ (sideline) ส่วนเส้นขอบตามแนวกว้างเรียก เส้นสุดสนาม หรือ เอนด์ไลน์ (end line) ถัดจากเส้นสุดสนามทั้งสองคือ เส้นประตู หรือ โกลไลน์ (goal line) ระยะระหว่างเส้นประตูทั้งสองข้างคือ 100 หลา (91 เมตร) บริเวณจากเส้นประตูถึงสุดสนาม ซึ่งมีระยะ 10 หลา (9.1 เมตร) เรียก เอนด์โซน (end zone)
เส้นบอกหลา หรือ ยาร์ดไลน์ (yard line) จะลากตัดสนามทุกๆ ระยะ 5 หลา และ มีตัวเลขบอกระยะจากเส้นประตู ทุกๆ 10 หลา จนถึง เส้น 50 หลา ซึ่งเป็นเส้นแบ่งกลางสนาม ส่วนเส้นประสองเส้นกลางสนามที่ขนานกับเส้นข้าง เรียกว่า เส้นประ หรือ แฮชมาร์ก (hash mark) การเริ่มเล่นทุกครั้ง ลูกฟุตบอลจะต้องวางในตำแหน่งเริ่มบนเส้นประ หรือ ระหว่างเส้นประนี้
ด้านหลังของเอนด์โซนทั้งสองด้าน จะมีเสาประตู ซึ่งเป็นเสาสองเสา ห่างกัน 18.5 ฟุต เชื่อมต่อกันด้วยคานแนวนอน สูงจากพื้น 10 ฟุต (3 เมตร) การเตะประตูทำคะแนนจะต้องเตะให้ลูกลอยผ่านระหว่าง เสาทั้งสองข้าง และ สูงกว่าคาน
ในการเล่นแต่ละครั้ง แต่ละฝ่ายจะมีผู้เล่นในสนามฝ่ายละ 11 คน โดยสามารถสลับเปลี่ยนผู้เล่นได้ ตามแต่สถานการณ์ ซึ่งแต่ละทีมใน เอ็นเอฟแอล จะมีผู้เล่นในทีม 53 คน และจะแบ่งออกเป็น ทีมรุก (offensive team) ทีมรับ (defensive team) และ ทีมพิเศษ (special team)
ระยะเวลาการแข่งขันแบ่งเป็น 2 ครึ่ง แต่ละครึ่งแบ่งออกเป็น 2 ช่วง ช่วงละ 15 นาที เรียก ควอเตอร์ (quarter) รวมเป็นเวลาแข่งขัน 60 นาที และ มีช่วงเวลาพักครึ่งระหว่าง ควอเตอร์ที่ 2 และ ควอเตอร์ที่ 3 เป็นเวลา 10 นาที ทว่าในการเล่นแต่ละครั้งอาจจะมีการหยุดเวลาหลังการเล่นเมื่อลูกตาย ดังนั้นเวลาที่ใช้ในการแข่งขันจริงโดยปกติจะยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง ในการแข่งขันเอ็นเอฟแอล หากมีคะแนนเสมอกันหลังจบเวลาการแข่งขันปกติ จะมีการต่อเวลาการแข่งขันออกไปอีก 15 นาที การตัดสินว่าทีมใดจะครองลูกครั้งแรกใช้การเสี่ยงเหรียญทาย ทีมแรกที่สามารถทำคะแนนได้จะเป็นฝ่ายชนะทันที แต่ถ้าหากไม่มีทีมใดทำคะแนนได้ใน 15 นาทีนี้ ถ้าเป็นการแข่งขันในฤดูกาลปกติการแข่งขันนัดนั้นจะตัดสินผลเป็นเสมอกัน แต่ถ้าหากเป็นการแข่งขันเพลย์ออฟ จะต่อเวลาไปอีกครั้งละ 15 นาที จนกว่าจะมีทีมใดทีมหนึ่งทำคะแนนได้
แต่ละทีมมีสิทธิ์ขอเวลานอกครึ่งละสามครั้ง โดยขอเวลานอกทำโดยส่งสัญญาณมือให้ผู้ตัดสินทราบ การขอเวลานอกกระทำได้ทั้งโดยหัวหน้าผู้ฝึกสอนหรือผู้เล่นในสนาม
เป็นการเตะลูกให้ฝ่ายตรงข้ามเริ่มเล่นเป็นฝ่ายรุก โดยจะมีการเตะเปลี่ยนตอนเริ่มเกม ตอนเริ่มครึ่งหลัง (หลังจากพักครึ่งเวลา) และหลังจากที่ทำคะแนนได้จากการทัชดาวน์ หรือ การเตะประตู โดยทีมที่ทำคะแนนได้จะเตะเปลี่ยนให้ทีมคู่แข่งได้เป็นฝ่ายรุก ในการเตะลูกจะวางอยู่บนที่วางลูก ที่ตำแหน่งเส้น 35 หลาในฝั่งของตัวเอง ผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม จะรับลูกที่เตะไปให้และวิ่งย้อนกลับมาให้ได้ระยะมากที่สุด จุดที่ผู้ถือลูกสวนกลับมาถูกหยุดจะเป็นจุด ที่ทีมรุกของฝ่ายนั้นเริ่มเล่น ถ้าผู้รับลูกรับลูกที่เตะมาในเขตเอนด์โซนของตน ผู้เล่นนั้นสามารถเลือกที่จะวิ่งพาลูกสวนกลับไป หรือ ทำการ ทัชแบค (touchback) โดยคุกเข่ากับพื้นสนามในเขต endzone ของฝ่ายตัวเอง และทีมรุกจะได้เริ่มเล่นที่เส้น 20 หลา
การรุกคืบในอเมริกันฟุตบอล กระทำโดยพาลูกรุกคืบไปยังปลายสนามของฝ่ายตรงข้าม ทีมรุก (offense) คือทีมที่ได้ครอบครองลูก และ มีโอกาสเล่น 4 ครั้ง เรียก ดาวน์ (down) เพื่อพาลูกรุกคืบไปยังแดนของฝ่ายตรงข้าม ให้ได้ระยะทาง 10 หลา เมื่อทีมรุกพาลูกรุกคืบไปได้ระยะทางมากกว่า 10 หลา ก็จะกลับไปเริ่มนับ ดาวน์ที่หนึ่ง (first down) เพื่อรุกคืบให้ได้ 10 หลาใหม่ หากทีมรุกไม่สามารถรุกคืบหน้าได้เป็นระยะทาง 10 หลาใน 4 ดาวน์ คือ ไม่สามารถกลับไปเริ่มดาวน์ที่หนึ่งใหม่ได้ ทีมนั้นก็จะสูญเสียการครอบครองลูกให้ฝ่ายตรงข้ามได้เล่นเป็นฝ่ายรุกบ้าง
การ สแนป (snap) เป็นการเริ่มเล่น ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายจะเรียงตัวหันหน้าเข้าหากัน ที่ เส้นแบ่งแดน (line of scrimmage) ซึ่งเป็นตำแหน่งวางลูกบอลเพื่อเริ่มเล่น การเล่นจะเริ่มเมื่อผู้เล่นฝ่ายรุก ตำแหน่งเซนเตอร์ (center) ส่งลูกบอลผ่านใต้ขาให้กับเพื่อนรวมทีมซึ่งปกติจะเป็นผู้เล่นตำแหน่งควอเตอร์แบค (quarterback)
ถ้าทีมรุกไม่สามารถกลับไปเริ่มดาวน์ที่หนึ่งได้หลังจากเล่น 3 ครั้งแล้ว คือ เปลี่ยนเป็นดาวน์ที่ 1 ไม่ได้ภายใน 3 ครั้ง ส่วนมากดาวน์ที่ 4 ทีมที่ได้บุกจะไม่เล่นต่อ แต่จะให้ทีมพิเศษของผ่ายตนเองลงมาพั้นท์เพื่อกินระยะ แล้วเปลี่ยนให้ฝ่ายตรงข้ามเป็นฝ่ายบุกแทน เนื่องจากถ้าเล่นครบ 4ดาวน์แล้วยังไม่สามารถบุกได้ระยะ 10 หลา จะทำให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถเริ่มบุกจากจุดสุดท้ายที่ลูกตาย ดังนั้นเลยต้องพั้นทิ้ง เพื่อเอาระยะและให้ฝ่ายตรงข้ามเริ่มบุกให้ห่างจากระยะ endzone ของฝ่ายตัวเอง
ส่วนในการรับลูกพันท์แล้ววิ่งย้อนนั้นสามารถทำได้เหมือนกับการรับลูก kick off แต่จะมีกฎพิเศษก็คือเมื่อทีมพิเศษรับลูกหรือแตะถูกลูก จะทำให้การเล่นเพลย์นั้นเป็นฟรีเพลย์ กล่าวคือ การเล่นครั้งนั้นถ้าการเล่นสิ้นสุดลงทีมไหนครอบครองลูกได้ก็จะได้เป็นฝ่ายบุกทันที ยกตัวอย่าง เช่น ทีมเอพันท์ไปให้ทีมบี แล้วทีมบีรับลูกวิ่งย้อนคืนมาแล้วเกิดฟัมเบิ้ล แล้วทีมเอเก็บลูกได้ ทีมเอก็จะได้บุกต่อทันที ณ ตำแหน่งที่ลูกตาย ในการรับลูก พันท์นั้น เราจะเห็นตัวรับลูกวิ่งย้อนชูมือแล้วโบกไปมาบ่อยๆ มันก็คือการเรียกแฟร์แคท ในการเรียกแฟร์แคทหมายถึง การที่ตัวรับลูกวิ่งย้อนเมื่อรับลูก แล้ว จะไม่สามารถวิ่งต่อเพื่อเพิ่มระยะได้ แต่จะได้สิทธิพิเศษก็คือ รับพิเศษของฝ่ายพันท์จะไม่มีสิทธิเข้ามาแท๊คเกิลได้โดยเด็ดขาด
ในทั้งสองกรณีข้างต้น ผู้เล่นทีมรับที่ได้ลูกบอลมาครอบครอง สามารถพาบอลวิ่งไปสู่เอนด์โซนของทีมตรงข้ามได้ การเล่นจะไม่จบจนกว่าจะถูกแทกเกิล วิ่งออกนอกสนาม หรือ ทำคะแนนได้
อเมริกันฟุตบอลเป็นการแข่งขันที่มีกติกาละเอียด ทำให้มีการทำผิดกติกาขึ้นบ่อยครั้งระหว่างการแข่งขัน เมื่อมีการทำผิดกติกาเกิดขึ้นผู้ตัดสินจะโยนธงสีเหลืองลงมาบนพื้นสนาม หรือเป่านกหวีดถ้าการทำผิดกติกาเกิดขึ้นก่อนการเริ่มเล่นแต่ละดาวน์ เมื่อการเล่นหยุดลง หัวหน้าผู้ตัดสินจะใช้เครื่องขยายเสียงประกาศให้ผู้เล่นและผู้ชมทราบว่ามีการทำผิดกติกาใดเกิดขึ้นพร้อมทั้งประกาศการลงโทษ
ถ้าการกระทำผิดเกิดขึ้นและเหลือระยะไม่พอให้ลงโทษ จะนำลูกไปตั้งที่ระยะครึ่งหนึ่งของการเล่นก่อนหน้า เช่น ถ้าทีมบุก ฟอล์ท สตาร์ท ที่เส้น 4 หลาในแดนตนเอง ผู้ตัดสินจะนำลูกไปตั้งเพื่อเริ่มเล่นใหม่ที่เส้น 2 หลา
ในการแข่งขัน เอ็นเอฟแอล เมื่อหัวหน้าผู้ฝึกสอนของทีมใดทีมหนึ่งไม่เห็นด้วยกับคำตัดสินของผู้ตัดสิน สามารถร้องขอให้มีการดูภาพซ้ำ(instant replay)โดยขว้างธงสีแดงลงไปในสนาม หัวหน้าผู้ตัดสินจะประกาศความไม่เห็นด้วยของหัวหน้าผู้ฝึกสอนให้ผู้ชมทราบ และเข้าไปดูการฉายภาพซ้ำจากมุมกล้องต่างๆที่ถูกบันทึกไว้บริเวณข้างสนาม หลังจากหัวหน้าผู้ตัดสินดูภาพซ้ำจะออกมาประกาศคำตัดสินอีกครั้ง โดยอาจจะเปลี่ยนแปลงคำตัดสินหรือยืนยันคำตัดสินเดิมพร้อมกับประกาศเหตุผลของการให้คำตัดสินนั้นๆ แต่ละทีมมีสิทธิ์ในการขอดูภาพซ้ำ 2 ครั้งต่อเกม โดยหากผู้ตัดสินยืนยันคำตัดสินเดิม ทีมจะถูกริบสิทธิ์การขอเวลานอกหนึ่งครั้ง อย่างไรก็ตามการขอดูภาพซ้ำโดยหัวหน้าผู้ฝึกสอนจะกระทำไม่ได้ในช่วงเวลา 2 นาทีสุดท้ายของแต่ละครึ่งเวลา ในเวลาดังกล่าวสิทธิ์ขอดูภาพซ้ำจะตกอยู่กับผู้ควบคุมการแข่งขันที่อยู่ด้านบนอัฒจันทร์
ผู้เล่นในอเมริกันฟุตบอลตำแหน่งต่างๆ จะมีการเล่นที่เฉพาะเจาะจง โดยส่วนใหญ่แล้วผู้เล่นคนหนึ่งจะเล่นเฉพาะทีมรุก หรือทีมรับ เท่านั้น ไม่เล่นทั้งสองทีม
กลุ่มของผู้เล่นที่มีหน้าที่ในเกี่ยวกับการเตะทั้งหลาย เรียกว่า ทีมพิเศษ หรือ สเปเชียลทีม (special teams) ผู้เล่นในทีมพิเศษนี้จะมี พันท์เตอร์ (punter) (P) ซึ่งเป็นผู้เตะทิ้ง โดยเป็นการถือลูกเตะ และ คิกเกอร์ (kicker) หรืออาจเรียก เพลซคิกเกอร์ (placekicker) (K หรือ PK) เป็นผู้เตะเปลี่ยน และ ผู้เตะประตู ซึ่งเป็นการเตะลูกบอลจากการวางบนพื้นสนาม โดยวางบนอุปกรณ์ตั้งลูก และ การจับวางโดยเพื่อนร่วมทีม ตามลำดับ