อุตสาหกรรมยานยนต์ เป็นอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการออกแบบ พัฒนา ผลิต หาตลาด และจัดจำหน่ายยานยนต์
ในปี พ.ศ. 2550 ยานยนต์มากกว่า 73 ล้านคัน ซึ่งรวมทั้งรถยนต์นั่งและยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ ได้ถูกผลิตขึ้นทั่วโลก และมีการจำหน่ายยานยนต์ใหม่ทั่วโลกประมาณ 71.9 ล้านคัน โดยแบ่งเป็น 22.9 ล้านคันในทวีปยุโรป, 21.4 ล้านคันในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก, 19.4 ล้านคันในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา, 4.4 ล้านคันในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา, 2.4 ล้านคันในตะวันออกกลาง และ 1.4 ล้านคันในทวีปแอฟริกา ตลาดรถยนต์ในสหรัฐอเมริกาและในญี่ปุ่นนั้นมีอัตราการเติบโตค่อนข้างคงที่ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะมีปริมาณรถยนต์มากอยู่ก่อนแล้ว ส่วนตลาดรถยนต์ในแอฟริกาและในบางประเทศในทวีปเอเชียนั้นมีอัตราการเติบโตสูง สำหรับประเทศรัสเซีย, บราซิล, อินเดีย และจีน ตลาดรถยนต์มีการขยายตัวสูงมากในปัจจุบัน
ในสหรัฐอเมริกามียานยนต์ประมาณ 250 ล้านคัน และทั่วโลกมีประมาณ 806 ล้านคัน (ข้อมูลปี พ.ศ. 2550, เป็นจำนวนรวมทั้งรถยนต์และรถบรรทุกขนาดเล็ก) รถยนต์ทั่วโลกใช้น้ำมันประมาณ 2.6 ล้านล้านแกลลอนต่อปี
ตารางด้านล่างนี้แสดงกลุ่มผู้ผลิตยานยนต์ขนาดใหญ่ที่สุดของโลก พร้อมกับยี่ห้อรถของแต่ละผู้ผลิต ตารางนี้เรียงลำดับตามตัวเลขการผลิตล่าสุดจาก OICAโดยแสดงเป็นบริษัทผู้ผลิต และแยกเป็นยี่ห้อต่างๆ
หมายเหตุ: "ยี่ห้อของตนเอง" หมายถึงยี่ห้อรถยนต์ที่เป็นของบริษัทนั้นๆ ตั้งแต่แรก โดยอาจเป็นยี่ห้อที่ตั้งขึ้นตั้งแต่แรกเริ่มธุรกิจยานยนต์ หรือยี่ห้อที่ตั้งขึ้นใหม่เองในภายหลัง หรือยี่ห้อที่ได้จากการควบรวมกิจการกันกับบริษัทอื่น ทำให้ยี่ห้อนั้นเป็นยี่ห้อของตนเองโดยสมบูรณ์ ส่วน "ยี่ห้อที่เข้าถือหุ้นใหญ่" หมายถึงยี่ห้อที่บริษัทเข้าถือครองหุ้นใหญ่ของกิจการรถยนต์ยี่ห้อนั้นเอาไว้ได้ แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของกิจการและยี่ห้อนั้นๆ อย่างเต็มที่
ข้อสังเกต 1: สถิติ OICA นั้นจัดอันดับบริษัทในเครือโตโยต้า คือ ไดฮัทสุ และ ฮีโน่ แยกออกจากกัน; ในตารางนี้ทั้งสองอันถูกรวมเข้ากับโตโยต้า.
ข้อสังเกต 2: ฟอร์ดเป็นเจ้าของสิทธิ์ยี่ห้อวอลโว่สำหรับรถยนต์นั่ง และเรโนลต์เป็นเจ้าของสิทธิ์ยี่ห้อเรโนลต์สำหรับรถยนต์นั่ง แต่วอลโว่กรุ๊ปเป็นเจ้าของสิทธิ์ของยี่ห้อวอลโว่และยี่ห้อเรโนลต์สำหรับรถบรรทุก