ยฺหวิ่นเหริง (จีน: ??; พินอิน: Y?nr?ng; 6 มิถุนายน 1674 – 27 มกราคม 1725) พระนามเดิมว่า อิ้นเหริง (จีน: ??; พินอิน: Y?nr?ng) และพระนามแรกประสูติว่า เป่าเฉิง (จีน: ??; พินอิน: B?och?ng) เป็นเจ้าชายแมนจูในราชวงศ์ชิง และเป็นรัชทายาทสองสมัยในระหว่างปี 1675 ถึงปี 1712
อิ้นเหริงเกิดในตระกูลแมนจูอ้ายซินเจว๋หลัว พระองค์เป็นพระโอรสองค์ที่เจ็ดของจักรพรรดิคังซี แต่เป็นพระองค์ที่สองที่เติบโตจนเป็นผู้ใหญ่ พระองค์มีพระนามเดิมว่า เป่าเฉิง และได้เปลี่ยนเป็น อิ้นเหริง เมื่อมีพระชนมายุมากขึ้น
พระราชมารดาของพระองค์คือจักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน สกุลเฮ่อเซ่อหลี่ ซึ่งเป็นหลานสาวของสั่วหนี (หนึ่งในคณะสำเร็จราชการของคังซี) พระนางสิ้นพระชนม์หลังจากมีประสูติกาลอิ้นเหริงได้ไม่นาน
จักรพรรดิคังซีได้ประกาศแต่งตั้งอิ้นเหริงเป็นรัชทายาทเมื่อพระองค์มีพระชนมายุได้หนึ่งพรรษา คังซีได้หาผู้มีความรู้มาอบรมสั่งสอนรัชทายาท ทำให้อิ้นเหริงเป็นผู้รอบรู้ทั้งภาษาฮั่นและภาษาแมนจู
ในปี 1696–1697 จักรพรรดิคังซียกทัพปราบเก๋อเอ่อตานข่าน อิ้นเหริงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้สำเร็จราชการรักษานครปักกิ่ง แม้จะมีเรื่องอื้อฉาวและข้อกล่าวหาของการทุจริตและความอยุติธรรม พระองค์ยังคงอยู่ในความโปรดปรานของพระราชบิดา
ในปี 1703 สั่วเอ้อถู (อาของจักรพรรดินีเซี่ยวเฉิงเหริน) ได้ถูกจับกุมด้วยข้อหาวางแผนลอบปลงพระชนม์และทุจริต เขาได้ถูกจำคุกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทำให้อิ้นเหริงเริ่มมีความขัดแย้งกับพระราชบิดา ปี 1708 อิ้นเหริงถูกกล่าวหาว่าผิดศีลธรรมทางเพศและใช้อำนาจในทางมิชอบ จักรพรรดิคังซีได้มีคำสั่งปลดอิ้นเหริงจากตำแหน่งรัชทายาท แต่ในภายหลังได้มีการจับกุมองค์ชายอิ้นจือ (พระโอรสองค์ใหญ่ของคังซี) ด้วยข้อหาทำคาถาใส่รัชทายาท ปี 1709 อิ้นเหริงจึงได้รับการแต่งตั้งขึ้นเป็นรัชทายาทอีกครั้ง ตลอดช่วงระยะเวลาสามปีต่อมา อิ้นเหริงมีพฤติกรรมที่แย่ลง ยังใช้อำนาจในทางมิชอบ ซ่องสุมกลุ่มขุนนาง รังแกเหล่าพระอนุชา จักรพรรดิคังซีจึงสั่งปลดจากตำแหน่งรัชทายาทอีกครั้งในปี 1712 และได้มีการคุมขังไว้
ปี 1722 จักรพรรดิคังซีสวรรคต องค์ชายสี่อิ้นเจินได้สืบทอดราชบังลังก์เป็นจักรพรรดิยงเจิ้ง อิ้นเหริงต้องเปลี่ยนพระนามเป็น ยฺหวิ่นเหริง เพื่อไม่ให้ใช้คำว่า อิ้น เหมือนองค์จักรพรรดิ ในปี 1725 ยฺหวิ่นเหริงสิ้นพระชนม์ขณะยังถูกคุมขัง จักรพรรดิยงเจิ้งทรงสถาปนาให้เป็น เหอชั่วหลี่มี่ชินหวัง (??????)