ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

อำพัน

อำพัน เป็นซากดึกดำบรรพ์ของยางไม้ เป็นสิ่งมีค่าด้วยสีสันและความสวยงามของมัน อำพันที่มีคุณภาพดีเยี่ยมจะถูกนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับและอัญมณี แม้ว่าอำพันจะไม่จัดเป็นแร่แต่ก็ถูกจัดให้เป็นพลอย

โดยทั่วไปแล้วจะเข้าใจผิดกันว่าอำพันเกิดจากน้ำเลี้ยงของต้นไม้ แต่แท้ที่จริงแล้ว น้ำเลี้ยงเป็นของเหลวที่ไหลเวียนอยู่ในระบบท่อลำเลียงของพืช ขณะที่ยางไม้เป็นอินทรียวัตถุเนื้ออสัณฐานกึ่งแข็งที่ถูกขับออกมาผ่านเซลล์เอพิทีเลียมของพืช

เพราะว่าอำพันเคยเป็นยางไม้ที่เหนียวนิ่มเราจึงพบว่าอาจมีแมลงหรือแม้แต่สัตว์มีกระดูกสันหลังขนาดเล็กอยู่ในเนื้อของมันได้ ยางไม้ที่มีสภาพเป็นกึ่งซากดึกดำบรรพ์รู้จักกันในนามของโคปอล

สีของอำพันมีได้หลากหลายสีสัน ปรกติแล้วจะมีสีน้ำตาล เหลือง หรือส้ม เนื้อของอำพันเองอาจมีสีได้ตั้งแต่ขาวไปจนถึงเป็นสีเหลืองมะนาวอ่อนๆ หรืออาจเป็นสีน้ำตาลจนถึงเกือบสีดำ สีที่พบน้อยได้แก่สีแดงที่บางทีก็เรียกว่าอำพันเชอรี่ อำพันสีเขียวและสีฟ้าหายากที่มีการขุดค้นหากันมาก

อำพันที่มีค่าสูงมากๆจะมีเนื้อโปร่งใส ในทางตรงกันข้ามอำพันที่พบกันมากทั่วไปจะมีสีขุ่นหรือมีเนื้อทึบแสง อำพันเนื้อทึบแสงมักมีฟองอากาศเล็กๆเป็นจำนวนมากที่รู้จักกันในนามของอำพันบาสตาร์ดหมายถึงอำพันปลอม ซึ่งแท้ที่จริงแล้วก็เป็นอำพันของแท้ๆนั่นเอง

อำพันหมายถึงแอมเบอร์ในภาษาอังกฤษสืบทอดมาจากคำในภาษาอาราบิกโบราณว่า “แอนบาร์กริส” หรือ “แอมเบอร์กริส” ซึ่งหมายถึงวัตถุที่เป็นน้ำมันหอมที่ขับออกมาโดยวาฬสเปิร์ม ภาษาอังกฤษกลางและฝรั่งเศสยุคเก่าเขียนเป็น ambre ส่วนภาษาลาตินเก่าเขียนเป็น ambra หรือ ambar เป็นวัตถุที่ลอยน้ำได้และมักถูกซัดไปสะสมตัวอยู่ตามชายหาด ด้วยความสับสนในการใช้ศัพท์ มันจึงถูกนำมาใช้เรียกยางไม้ที่กลายเป็นซากดึกดำบรรพ์ซึ่งก็พบได้ตามชายหาดได้เช่นกัน มีน้ำหนักเบากว่าหินแต่ก็เบาไม่เพียงพอที่จะลอยน้ำได้

พลินิผู้อาวุโส ได้สังเกตเห็นซากแมลงอยู่ในเนื้อของอำพันดังที่พบมีการบันทึกไว้ในหนังสือประวัติศาสตร์ธรรมชาติของเขา โดยเขาได้อธิบายไว้เป็นทฤษฎีได้อย่างถูกต้องว่าอำพันเคยมีสถานะเป็นของเหลวมาก่อนที่ไหลไปห่อหุ้มตัวแมลงไว้ ที่ทำให้เขาเรียกมันว่า ซัคคินั่ม หรือ หินยางไม้ ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังถูกนำมาใช้เรียกกรดซัคคินิก และรวมถึง ”ซัคคิไนต์” เป็นศัพท์ที่ใช้เรียกประเภทของอำพันโดยเจมส์ ดวิกต์ ดานา (ดูด้านล่างที่อำพันบอลติก)

ภาษากรีกเรียกอำพันว่า ???????? (อิเล็กตรอน) และถูกเชื่อมโยงไปที่เทพแห่งดวงอาทิตย์ซึ่งอีกฉายาหนึ่งของท่านคือ อิเล็กเตอร์ หรือ อะเวกเคนเนอร์ มันถูกกล่าวถึงโดยธีโอฟาสตุสที่เป็นไปได้ว่าวัตถุลักษณะนี้เคยมีผู้กล่าวถึงมาแล้วเป็นครั้งแรกเมื่อศตวรรษที่ 4 ก่อนคริสตกาล คำว่า อิเล็กตรอน ในยุคปัจจุบันถูกนำมาใช้ในปี ค.ศ. 1891 โดยนักฟิสิกส์ชาวไอริช ยอร์จ จอห์นสโตน สโตนี โดยใช้เป็นคำศัพท์ภาษากรีกสำหรับเรียกอำพัน (ซึ่งถูกแปลให้เป็นอิเล็กตรัม) ตามคุณสมบัติทางไฟฟ้าสถิตของมันเป็นครั้งแรก การลงท้ายด้วย -on ทั่วไปจะใช้สำหรับอนุภาคในอะตอมทั้งหมดและใช้ในความหมายเดียวกับ ion

เมื่อเผาอำพันจะนุ่มและท้ายสุดจะไหม้เกรียมซึ่งเป็นเหตุผลทำไม้คำว่าแอมเบอร์ในภาษาเยอรมันจึงมีความหมายว่า หินไหม้ (ในภาษาเยอรมันใช้คำว่า Bernstein ส่วนภาษาดัตช์ใช้คำว่า barnsteen) เมื่อเผาอำพันที่อุณหภูมิสูงกว่า 200 องศาเซลเซียสอำพันจะสลายตัวระเหยเป็นน้ำมันของอำพันเหลือเศษเถ้าสีดำที่รู้จักกันว่า "แอมเบอร์โคโลโฟนี" หรือ "แอมเบอร์พิตช์" เมื่อละลายในน้ำมันเทอร์เพนทีนหรือน้ำมันลินซีดจะทำให้เกิดน้ำมันชักเงาอำพัน (แอมเบอร์วาร์นิช) หรือครั่งอำพัน (แอมเบอร์แลค)

อำพันจากทะเลบอลติกมีการซื้อขายกันอย่างกว้างขวางมาตั้งแต่โบราณกาลนานกว่า 2,000 ปีมาแล้ว โดยชาวพื้นเมืองเรียกมันว่า แกลส ด้วยสามารถมองผ่านทะลุได้อย่างแก้ว

ภาษาบอลติกและภาษาลิธัวเนียเรียกอำพันว่า ยินตาแรส และภาษาแลตเวียเรียกว่า ดิงทาร์ ศัพท์ทั้งสองคำและรวมถึงคำว่า แจนทาร์ ในภาษาสลาฟที่คิดว่าผิดเพี้ยนมาจากภาษาฟีนิเชียนคำว่า จายนิตาร์ (หมายถึงยางไม้ทะเล) อย่างไรก็ตามขณะที่ภาษาสลาฟทั้งหลายอย่างเช่นภาษารัสเซียและภาษาเช็คยังคงสงวนไว้ซึ่งคำภาษาสลาฟเก่าที่ถูกแทนที่ด้วยคำว่า เบอซ์ทีน ในภาษาโปแลนด์ซึ่งได้มาจากภาษาเยอรมัน

อำพันมีองค์ประกอบเป็นสารเนื้อผสม แต่เนื้อของมันก็ประกอบไปด้วยสารมีชันหลายชนิดที่ละลายได้ในเอทานอล ไดเอตทิลอีเทอร์ และคลอโรฟอร์ม รวมถึงสารที่ละลายไม่ได้จำพวกบิทูเมน อำพันประกอบไปด้วยสารโมเลกุลขนาดใหญ่จากการเกิดพอลิเมอร์ด้วยการเติมอนุมูลอิสระของสารดั้งเดิมในกลุ่มของแลบเดน กรดคอมมูนิก คัมมูนอล และไบโฟร์มีน สารแลบเดนนี้เป็นไดเทอร์ปีน (C20H32) และไทรอีนซึ่งหมายความว่าเป็นโครงร่างทางอินทรีย์สารของอัลคีน 3 กลุ่มที่ยอมให้เกิดพอลิเมอร์ เมื่ออำพันมีอายุมากขึ้นเรื่อยๆก็จะมีการเกิดพอลิเมอร์มากขึ้นเรื่อยๆเช่นกันพร้อมๆไปกับปฏิกิริยาไอโซเมอร์ การเชื่อมโยงข้าม และการจัดเป็นวง องค์ประกอบเฉลี่ยทั่วๆไปของอำพันเขียนเป็นสูตรทางเคมีได้ว่า C10H16O

อำพันมีความแตกต่างไปจากโคปอล การเกิดพอลิเมอร์ระหว่างโมเลกุลภายใต้ความกดดันและอุณหภูมิทำให้ยางไม้เปลี่ยนไปเป็นโคปอลก่อน จากนั้นเมื่อโคปอลมีอายุมากขึ้นไปอีกสารเทอร์ปีนในเนื้อของมันจะค่อยๆระเหยออกไปตามกาลเวลาก็จะทำให้โคปอลเปลี่ยนไปเป็นอำพัน

อำพันบอลติกมีความแตกต่างไปจากอำพันชนิดอื่นๆของโลกด้วยเนื้อของมันมีกรดซัคคินิก[ต้องการอ้างอิง] ที่ทำให้อำพันบอลติกเป็นที่รู้จักกันในนามของซัคคิไนต์

อำพันที่เก่าแก่ที่สุดพบในยุคคาร์บอนิเฟอรัสหรือประมาณ 345 ล้านปีมาแล้ว ส่วนอำพันที่เก่าแก่ที่สุดที่มีแมลงอยู่ในเนื้อของมันด้วยนั้นได้มาจากยุคครีเทเชียสหรือประมาณ 146 ล้านปีมาแล้ว

อำพันบอลติกหรือซัคคิไนต์ (มีบันทึกทางประวัติศาสตร์เรียกกันว่าอำพันปรัสเซีย) ถูกค้นพบเป็นก้อนทรงมนผิวขรุขระในทรายกลอโคไนต์ที่สะสมตัวกันในทะเลหรือที่รู้จักกันว่า “บลูเอิร์ธ” มีอายุสมัยโอลิโกซีนตอนต้นในเขตซัมแลนด์ของปรัสเซียโดยในแหล่งข้อมูลทางประวัติศาสตร์ถูกเรียกขานกันว่า แกลสซาเรีย หลังปี ค.ศ. 1945 ดินแดนแถบนี้รอบๆเมืองโกนิกส์บวกถูกผนวกเป็นส่วนหนึ่งของเมืองกาลินิงกราด โอบลาสต์ของประเทศรัสเซียซึ่งปัจจุบันมีการทำเหมืองอำพันกันอย่างเป็นระบบมีแบบแผน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่ามีอำพันบางส่วนเกิดจากการสะสมตัวในช่วงต้นๆของยุคเทอร์เชียรี (อีโอซีน) และก็ยังพบได้ด้วยในชั้นหินที่มีอายุอ่อนขึ้นมาเช่นกัน มีการพบเศษซากพืชมากมายในเนื้อของอำพันขณะที่เนื้อยางไม้ยังสดๆอยู่ เศษซากพืชเหล่านั้นพิจารณาได้ว่ามีความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับพืชพันธุ์ทางเอเชียตะวันออกและทางตอนใต้ของอเมริกาเหนือ เฮนริช กอปเปิร์ตได้ตั้งชื่ออำพันที่มีเศษซากสนไพน์จากป่าบอลติกว่า “ไพไนต์ ซัคคิไนเตอร์” แต่เศษซากไม้แล้วบางคนพิจารณาว่าดูเหมือนว่าจะไม่ได้แตกต่างไปจากสกุลของสนที่มีการตั้งชื่อกันเอาไว้ก่อนแล้วที่เรียกกันว่า “ไพนัส ซัคคินิเฟอรา” อย่างไรก็ตามไม่น่าจะเป็นไปได้ที่อำพันที่พบจะเกิดขึ้นจากไม้สนเพียงชนิดเดียว เนื่องจากจริงๆแล้วในเนื้ออำพันเหล่านี้พบเศษซากไม้สนต่างสกุลกันอย่างหลากหลาย

อำพันโดมินิกันถูกพิจารณาให้เป็นริติไนต์เนื่องจากไม่พบกรดซัคคินิก พบมี 3 แหล่งใหญ่ๆในสาธารณรัฐโดมินิกันคือ ลาคอร์ดิลเลอร่าเซฟเทนทริโอนอลทางตอนเหนือ และบายากัวน่าและซาบาน่าทางตะวันออก ในทางเหนือพบว่าชั้นหินที่มีอำพันสะสมอยู่นั้นเป็นพวกหินเนื้อประสม หินทรายที่ตกสะสมตัวบริเวณสันดอนสามเหลี่ยมปากแม่น้ำ หรือแม้แต่ลงไปในทะเลลึก อำพันที่มีอายุเก่าแก่ที่สุดและมีความแข็งที่สุดมาจากเขตเทือกเขาทางตอนเหนือของพื้นที่แซนติเอโก้จากเหมืองที่ลาคัมเบอร์ ลาโตก้า ปาโลควีมาโด้ ลาบูคารา และลอสคาซิออสในคอร์ดิลเลอร่าเซฟเทนทริโอนอลไม่ไกลจากเมืองแซนติเอโก้นัก อำพันจากแนวเทือกเขาเหล่านี้พบฝังตัวแน่นในเนื้อลิกไนต์ของชั้นหินทราย

มีอำพันพบทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองบายากัวน่าและซาบาน่าด้วยเหมือนกัน เป็นอำพันมีเนื้ออ่อนกว่าบางทีก็เปราะและเมื่อนำขึ้นมาจากเหมืองแล้วจะเกิดการออกซิเดชันซึ่งทำให้ราคาถูก มีการพบโคปอลด้วยพบว่ามีอายุประมาณ 15-17 ล้านปี ในพื้นที่ทางตะวันออกพบอำพันในชั้นทราย ดินเหนียวปนทราย แทรกสลับด้วยลิกไนต์ รวมถึงชั้นกรวดและชั้นทรายเม็ดปูน ที่มีลักษณะเป็นชั้นบางๆของอินทรียวัตถุแทรกสลับอยู่ด้วย

ทั้งอำพันบอลติกและอำพันโดมินิกันเป็นแหล่งที่อุดมไปด้วยซากดึกดำบรรพ์ซึ่งเป็นแหล่งข้อมูลที่มีค่ายิ่งเกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตของป่าในอดีต

อำพันยุคครีเทเชียสตอนกลางมีการพบจากเมืองเอลล์สเวิร์ธคันที รัฐแคนซัส เป็นอำพันที่มีอายุประมาณ 100 ล้านปีที่พบซากของแบคทีเรียและอะมีบาฝังอยู่ในเนื้อของมัน จากลักษณะสัณฐานพบว่ามีความใกล้เคียงกับแบคทีเรียสกุลเลฟโตทริกซ์ และอะมีบาสกุลพอนติกูลาเรียและเนเบลาที่ได้รับการยืนยัน

นอกจากในเนื้อของอำพันจะเก็บรักษาโครงสร้างของพืชเอาไว้อย่างสวยงามแล้ว ยังมีการพบซากสัตว์อื่นๆอย่างเช่นซากเหลือของแมลง แมงมุม แอนนาลิด กบ crustaceans, marine microfossils และสิ่งมีชีวิตเล็กๆอื่นๆซึ่งถูกจับยึดไว้ด้วยผิวเหนียวๆจนฝังแน่นเข้าไปอยู่ในเนื้อของยางไม้ในขณะที่ยังเป็นของไหลหนืดอยู่ โครงสร้างทางอินทรีย์เกือบทั้งหมดจะหายไปถูกทิ้งไว้เพียงช่องโพลงกลวงเท่านั้นและอาจพบร่องรอยของสารไคตินอยู่บ้าง บางครั้งก็พบเส้นขนและแผงขนปรากฏอยู่ด้วย มักพบเศษชิ้นส่วนของไม้ที่ยังถูกรักษาเนื้อไม้เอาไว้อย่างดีในเนื้อของยางไม้ บางครั้งก็พบใบ ดอก และผลในสภาพที่สมบูรณ์ดีเยี่ยม อำพันอาจพบมีลักษณะคล้ายหยดน้ำหรือเป็นลำเรียวยาวในลักษณะที่เกิดจากการหยดย้อยลงมาจากรอยแผลของต้นไม้ นอกเหนือจากยางไม้จะไหลไปตามผิวของลำต้นไม้แล้ว ยางไม้ยังอาจไหลไปในรูกลวงและรอยแตกของต้นไม้ที่ทำให้สามารถพัฒนาเป็นอำพันที่มีรูปลักษณะไม่แน่นอน.

การพัฒนาที่ผิดปรกติของยางไม้เรียกว่า “ซัคคิโนซิส” มักพบมีมลทินปะปนอยู่ในเนื้อของอำพันโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อยางไม้หยดลงไปบนพื้นดินที่จะทำให้อำพันนั้นไร้ค่านอกเสียจากการนำไปทำน้ำมันชักเงาและเราเรียกอำพันที่มีมลทินนี้ว่า “เฟอร์นิสส์” การมีแร่ไพไรต์อยู่ด้วยอาจทำให้อำพันมีสีอมน้ำเงิน อำพันที่เรียกกันว่าอำพันสีดำเกิดจากมีลิกไนต์เป็นมลทิน “อำพันโบนี” มีลักษณะขุ่นมัวไปจนถึงมีฟองอากาศเล็กๆในเนื้อของมัน

อำพันที่โปร่งแสงเมื่อนำไปขัดผิวแล้วจะไม่ทำให้โปร่งใสขึ้นมาเสมอไปด้วยมีมลทินที่ปนเปื้อน มีการพัฒนาเทคนิคการตรวจสอบอำพันที่ขุ่นข้นและทึบแสงเพื่อหาสิ่งที่เข้าไปอยู่ในเนื้ออำพันได้โดยใช้รังสีเอกซ์ที่มีความคมชัดละเอียดสูงในยุโรเปียน ซินโครตรอน เรดิเอชัน แฟซิลิตี มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์ของสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังเกือบ 360 ชิ้นในเนื้ออำพันทึบแสงจากเมืองชาเรนเทสในฝรั่งเศส พบตัวต่อโบราณ แมลงมีปีก มด และแมงมุมโดยวัดขนาดได้เพียงไม่กี่มิลลิเมตร ซากสิ่งมีชีวิตที่ถูกติดกับอยู่ในเนื้ออำพันทึบแสงเหล่านั้นสามารถถูกสร้างเป็นภาพสามมิติผ่านเครื่องไมโครโตกราฟฟีที่ทำให้เห็นรายละเอียดได้ถึงระดับมาตราส่วนไมโครมีเตอร์ทีเดียว รูปทรงจำลองสามมิติขยายขนาดให้ใหญ่ขึ้นทำด้วยพลาสติกสามารถถูกสร้างขึ้นมาเลียนแบบซากสิ่งมีชีวิตจริงที่อยู่ในเนื้ออำพันเพื่อใช้เป็นสื่อทดแทนในการตั้งชื่อสายพันธุ์ใหม่ของซากดึกดำบรรพ์ในเนื้ออำพันนั้นได้

อำพันบอลติกพบกระจายตัวกว้างขวางครอบคลุมพื้นที่กว้างของยุโรปตอนเหนือและแผ่ออกมาทางตะวันออกถึงอูรัลส์

อำพันบอลติกมีส่วนประกอบของกรดซัคคินิกอยู่ในสัดส่วนประมาณร้อยละ 3 – 8 ซึ่งเป็นลักษณะของอำพันที่มีความขุ่นมัวหรือที่เรียกว่า อำพันโบนี กลิ่นหอมๆระคายเคืองที่ปล่อยออกมาจากการเผาเป็นของกรดชนิดนี้เป็นหลัก อำพันบอลติกมีความแตกต่างไปจากอำพันอื่นๆตรงที่มีกรดซัคคินิกและเป็นที่มาของชื่อ ซัคคิไนต์ เสนอขึ้นโดยศาสตราจารย์เจมส์ ดวิกต์ ดานา และปัจจุบันก็ใช้เขียนกันทั่วไปในฐานะชื่อทางทางวิทยาศาสตร์สำหรับอำพันปรัสเซียน ซัคคิไนต์มีความแข็งระหว่าง 2 – 3 ซึ่งค่อนข้างจะแข็งกว่ายางไม้กลายเป็นซากดึกดำบรรพ์อื่นๆ มีความถ่วงจำเพาะระหว่าง 1.05 ถึง 1.10 เครื่องมือชนิดหนึ่งที่ใช้ในการวิเคราะห์อำพันบอลติกคือไออาร์สเปคโตรสโคปี เครื่องมือนี้นอกจากสามารถแยกแยะความแตกต่างระหว่างอำพันบอลติกออกจากอำพันจากแหล่งอื่นๆได้ด้วยค่าการดูดซับคาร์บอนิลจำเพาะแล้ว ยังสามารถตรวจจับอายุสัมพัทธ์ของอำพันหนึ่งๆได้ด้วย อย่างไรก็ตามนักวิทยาศาสตร์ได้ชี้ให้เห็นว่ากรดซัคคินิกดังกล่าวไม่ใช่เป็นองค์ประกอบตั้งต้นของอำพันบอลติกแต่เป็นผลผลิตจากการสลายตัวของกรดเอบิเอทติก (Rottlaender, 1970)

แม้ว่าอำพันจะพบได้ตามชายฝั่งของทะเลบอลติกและทะเลเหนือแต่พื้นที่ผลิตอำพันส่วนใหญ่มาจากแซมเบียหรือแซมแลนด์ตามชายฝั่งของเมืองโกนิกส์บวกในปรัสเซียซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1945 ประมาณร้อยละ 90 ของอำพันโลกได้มาจากกาลินิงกราด โอบลาสต์ของรัสเซียในทะเลบอลติก เศษชิ้นของอำพันที่หลุดออกมาจากใต้ท้องทะเลถูกพัดขึ้นมาด้วยแรงคลื่นและไปสะสมตัวที่ชายฝั่ง บางครั้งนักวิจัยก็ลุยลงไปในทะเลพร้อมตาข่ายที่ใช้ลากดึงสาหร่ายทะเลก็จะมีอำพันติดขึ้นมาได้ หรือบริเวณน้ำตื้นๆอาจใช้เรือแล่นออกไปแล้วคราดตักเอาอำพันขึ้นมาจากระหว่างโขดหิน นอกจากนี้อาจจ้างนักประดาน้ำงมลงไปเก็บอำพันในที่ที่น้ำลึกมากขึ้น ครั้งหนึ่งเคยมีการขุดหาอำพันใต้ทะเลอย่างจริงจังที่คูโรเนียนลากูนโดยสแตนเตียนและเบคเกอร์พ่อค้าอำพันชาวโกนิกส์บวก ในปัจจุบันมีการทำเหมืองอำพันกันอย่างกว้างขวาง ก่อนหน้านี้มีการทำเหมืองเปิดเพื่อขุดหาอำพันแต่ปัจจุบันมีการทำเหมืองใต้ดินด้วย ก้อนทรงมนจากบลูเอิร์ธต้องปลอดจากเนื้อประสานและปลดส่วนทึบแสงออกไปซึ่งอาจทำได้โดยเขย่าถังทรงกระบอกที่บรรจุทรายและน้ำ อำพันที่หลุดจากพื้นทะเลจะสูญเสียเปลือกนอกออกไปแต่มักพบพื้นผิวของอำพันเป็นรอยขีดข่วนเป็นพื้นผิวด้านจากการกลิ้งไปมาบนพื้นทราย

นับตั้งแต่ที่มีการจัดตั้งเส้นทางสายอำพันทำให้อำพันเป็นที่รู้จักกันในนามของทองปรัสเซีย (ซึ่งปัจจุบันก็มีการเรียกกันด้วยว่าทองลิทัวเนีย) ทำให้เกิดผลกระทบอย่างใหญ่หลวงทั้งทางเศรษฐกิจและวัฒนธรรม อัญมณีอำพันและเครื่องประดับอำพันถูกนำเสนอแก่นักท่องเที่ยวในร้านขายของที่ระลึกทั้งหลายซึ่งถือเป็นเอกลักษณ์โดดเด่นและเป็นมรดกทางวัฒนธรรมของลิทัวเนีย เมืองชายทะเลอย่างพาแลงก้ามีการก่อสร้างพิพิธภัณฑ์อำพันพาแลงก้าที่มีการนำเสนอเรื่องราวของอำพันไว้ อำพันสามารถพบได้ในแลตเวีย เดนมาร์ค ทางเหนือของเยอรมนี โปแลนด์ และรัสเซียนับตั้งแต่ที่รัสเซียได้ผนวกเอาปรัสเซียเข้าไปอยู่ในการปกครองในปี ค.ศ. 1945

อำพันโดมินิกันแตกต่างไปจากอำพันบอลติกด้วยเป็นอำพันโปร่งแสงและมักพบซากดึกดำบรรพ์อยู่ด้วย ทำให้สามารถรื้อฟื้นระบบนิเวศน์ในอดีตได้อย่างละเอียดของป่าเขตร้อนที่สูญสิ้นไปแล้วมาเป็นเวลานาน ยางไม้จากพืชชนิดที่สูญพันธุ์ไปแล้วของฮายเมนนี พรอเทอรานับเป็นแหล่งยางไม้ของอำพันโดมินิกันและอำพันทั้งหมดอาจพบในเขตร้อน อำพันชนิดนี้ไม่เป็นพวกซัคคิไนต์แต่จะเป็นพวกริติไนต์ ในทางตรงกันข้ามกับอำพันบอลติก อำพันโดมินิกันในตลาดโลกเป็นอำพันธรรมชาติมาจากเหมืองโดยตรงและไม่ได้มีการปรับแต่งเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งทางกายภาพและทางเคมี อำพันโดมินิกันนี้มีอายุมากถึง 40 ล้านปี

อำพันโดมินิกันทั้งหลายจะเรืองแสง จะพบเป็นสีน้ำเงินได้ยากมาก มันเปลี่ยนเป็นสีน้ำเงินในแสงอาทิตย์ธรรมชาติและแหล่งแสงอื่นๆที่มีรังสีอุลตร้าไวโอเลตทั้งหมดหรือบางส่วน แสงอุลตร้าไวโอเลตซึ่งเป็นแสงคลื่นยาวมีคุณสมบัติสะท้อนแสงได้อย่างรุนแรงคือแสงสีขาวเกือบทั้งหมด ปีหนึ่งๆมีการขุดค้นพบอำพันชนิดนี้เพียงประมาณ 100 กิโลกรัมเท่านั้นซึ่งถือว่าเป็นอำพันที่มีค่าสูงและมีราคาแพง

อำพันโดมินิกันและโดยเฉพาะอย่างยิ่งอำพันโดมินิกันสีน้ำเงินมีการทำเหมืองเปิดกันแบบไม่มีการวางแผน ซึ่งมีอันตรายต่อคนงานเหมืองสูงมากที่ต้องเสี่ยงที่ผนังเหมืองอาจถล่มลงมาทับร่างเหล่าคนงานได้ เหมืองเปิดแบบนี้เป็นการขุดบ่อเหมืองด้วยเครื่องง่ายๆที่หาได้ อาจเริ่มต้นด้วยการใช้มีด และอาจตามด้วย พลั่ว เสียม แชลง และค้อน โดยจะขุดให้ลึกลงไปเท่าที่จะขุดได้หรือเท่าที่จะปลอดภัย บางครั้งลงไปในแนวดิ่ง บางครั้งก็หักทิศทางไปในแนวราบ แต่ไม่เคยมีการวัดคำนวณใดๆ จะทำการขุดคดโค้งไปมาไปที่เชิงเขาบ้าง ดิ่งลึกลงไปบ้าง หรืออาจจะไปบรรจบกับหลุมอื่นๆได้ ขุดตรงเข้าไปจนอาจไปโผล่อีกแห่งหนึ่งโดยไม่ได้คะเนไว้ น้อยนักที่ขนาดของหลุมขุดจะมีขนาดใหญ่เพียงพอที่จะยืนอยู่ได้หรืออาจจะมีเฉพาะที่ตรงทางเข้าเท่านั้น คนงานเหมืองจะคลานเข้าไป ใช้มือจับแชลง พลั่ว หรือมีดที่มีด้ามสั้นๆ อำพันที่พบไม่ขายต่อโดยตรงเป็นวัตถุดิบธรรมชาติก็อาจจะตัดหรือขัดเรียบโดยไม่มีการปรุงแต่งใดๆเพิ่มเติม

โดยทั่วไปแล้วจะใช้อำพันโดมินิกันเป็นเครื่องประดับและอัญมณี ขณะที่สีสันและสิ่งที่อยู่ในเนื้อของอำพันจะเพิ่มมูลค่าให้มากยิ่งขึ้นทำให้มีราคาแพงเป็นที่หมายปองเพื่อการจัดแสดงทั้งของนักสะสมส่วนตัวและของภาครัฐ ในตะวันออกไกลได้มีการนำเอาอำพันสีน้ำเงินที่หายากมากไปเกาะสลักเป็นชิ้นงานทางศิลปะ นอกจากนี้ได้มีการนำเอาอำพันสีน้ำเงินไปทำเป็นอัญมณีด้วยคุณสมบัติเรืองแสงตามธรรมชาติภายใต้แสงอุลตร้าไวโอเลต ในโลกของชาวอิสลาม มีการนำเอาอำพันโดมินิกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกปัดอำพันสีน้ำเงินไปใช้ประกอบการสวดมนต์เพื่อการผ่อนคลายความเครียด

แหล่งสะสมตัวของอำพันมีการพบได้ทั่วโลก บางแห่งมีอายุเก่าแก่กว่าแหล่งที่รู้จักกันดีในแถบทะเลบอลติกและในสาธารณรัฐโดมินิกันและบ้างก็มีอายุอ่อนกว่า อำพันบางแห่งมีอายุเก่าแก่ได้ถึง 345 ล้านปี (นอร์ธอัมเบอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา)

แหล่งอำพันที่ไม่ค่อยจะเป็นที่รู้จักกันอยู่ในยูเครนในพื้นที่ป่าบริเวณเขตแดนโวลีน-โปเลซี ด้วยอำพันในพื้นที่นี้อยู่ที่ระดับตื้นๆที่สามารถขุดขึ้นมาได้เพียงใช้เครื่องมือง่ายๆและก็ทำให้ง่ายในการลักลอบขุดค้นภายใต้การปกคลุมด้วยป่าทึบ อำพันในยูเครนนี้มีหลากหลายสีสันและเคยถูกนำไปใช้ปฏิสังขรณ์ห้องแอมเบอร์ในพระบรมมหาราชวังของจักรพรรดินีแคธีรีนในกรุงเซนต์ปีเตอร์เบอร์ก (ดูด้านล่าง)

อำพันชิ้นกลมมนปรกติมีขนาดเล็กๆแต่ก็พบเป็นชิ้นขนาดใหญ่ๆได้ ที่อาจพบได้ในบริเวณชายฝั่งด้านตะวันออกของอังกฤษที่เป็นไปได้ว่าถูกชะขึ้นมาจากแหล่งใต้ทะเลเหนือ ที่โครเมอร์เป็นตำแหน่งที่รู้จักกันดีที่สุด แต่ก็พบได้ในส่วนอื่นๆของชายฝั่งนอร์ฟอล์ค อย่างเช่นที่เกรตยาร์เมาธ์ รวมไปถึงที่เซ้าธ์โวล์ด อัลดิเบอร์ก และเฟลิกซ์สโตว์ในซัฟฟอล์ค และที่ไกลลงไปทางตอนใต้ถึงวอลตัน-ออน-เธอะ-นาซในเอสเซ๊กซ์ ของอังกฤษ ขณะที่ขึ้นไปทางตอนเหนือนั้นรู้จักกันในยอร์กเชอร์ อีกด้านหนึ่งของทะเลเหนือมีการพบอำพันหลายแห่งตามแนวชายฝั่งของเนเธอร์แลนด์และเดนมาร์ค บนชายฝั่งของทะเลบอลติกไม่ได้พบเฉพาะในเยอรมนีและโปแลนด์เท่านั้นแต่ยังพบอยู่ทางตอนใต้ของสวีเดนในเบอร์นโฮล์มและหมู่เกาะอื่นๆและรวมไปถึงทางตอนใต้ของฟินแลนด์ แหล่งอำพันในทะเลบอลติกและทะเลเหนือบางแห่งเป็นที่รู้จักกันในสมัยก่อนประวัติศาสตร์แล้วและนำไปสู่การค้าขายกับทางตอนใต้ของยุโรปผ่านเส้นทางสายอำพัน อำพันถูกนำไปที่โอลเบียในทะเลดำ แมสซิลเลีย (ปัจจุบันคือมาร์เซลล์) ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และเอเดรียที่ส่วนปลายของเอเดรียติกและจากจุดศูนย์กลางนี้อำพันถูกแพร่กระจายไปทั่วของโลกยุคกรีกโบราณ

มีการพบอำพันในสวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรีย และฝรั่งเศส อำพันจากเทือกเขาแอลป์ของสวิตซ์มีอายุประมาณ 55-200 ล้านปี และอำพันจากกอลลิ่งมีอายุประมาณ 225-231 ล้านปี อำพันชิชิเลียน (โคปอล-สิเมติต) มีอายุประมาณ 10-20 ล้านปี ในแอฟริกามีการพบโคปอลในประเทศแนวแนวชายฝั่งของแอฟริกาตะวันออกและแอฟริกาตะวันตกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในมาดากัสการ์ อำพันมาดากัสการ์มีอายุเพียง 1,000-10,000 ปีเท่านั้นที่ประกอบไปด้วยยางไม้สนที่แข็งตัว ไนจีเรียก็พบอำพันด้วยเหมือนกันซึ่งมีอายุประมาณ 60 ล้านปี

อำพันก็พบได้ในเอเชียโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพม่าที่เรียกว่าเบอร์มิต มีอายุประมาณ 50 ล้านปีและอำพันเลบานอนมีอายุ 130-135 ล้านปี อำพันในเขตทะเลออสเตรเลียพบได้ในนิวซีแลนด์และบอร์เนียว (อำพันซาราวัก) มีอายุ 20-60 และ 70-100 ล้านปี

อำพันพบได้ในสหรัฐอเมริกาเป็นหย่อมเล็กๆอยู่ในทรายสีเขียวในนิวเจอร์ซีย์แต่มีค่าทางเศรษฐกิจน้อย อำพันยุคครีเทเชียสตอนกลางก็พบในเอลล์สเวอร์ธคันที รัฐแคนซัส มันมีค่าน้อยทำเป็นอัญมณี แต่มีค่าอย่างยิ่งต่อนักชีววิทยา แหล่งของอำพันนี้อยู่ใต้ทะเลสาบที่มนุษย์ขุดขึ้น

อำพันเรืองแสงก็พบในรัฐทางตอนใต้ของเชียร์ปาสในเม็กซิโกและถูกทำเป็นอัญมณีแบบอายแคตชิ่ง ในอเมริกากลางมีอารยะธรรมโอลเม็คที่มีการทำเหมืองอำพันเมื่อ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล ในเม็กซิโกมีตำนานที่หลากหลายที่กล่าวถึงการใช้อำพันในการประดับตกแต่ง และใช้ในการลดความเครียดซึ่งเป็นการเยียวยารักษาแบบธรรมชาติ

ขณะที่อินโดนีเชียก็มีแหล่งอำพันที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งโดยพบเป็นเศษอำพันขนาดใหญ่ที่ขุดขึ้นมาจากชวาและบาหลี

โรงงานอำพันในเวียนนาซึ่งใช้อำพันสีจางๆในการผลิตกล้องยาสูบและอุปกรณ์การสูบบุหรี่อื่นๆโดยกลึงและขัดพื้นผิวด้วยสารฟอกขาวและน้ำหรือหินผุๆกับน้ำมัน ท้ายสุดทำให้เป็นมันเงาโดยขัดด้วยผ้าสักหลาดนุ่มๆ

เมื่อค่อยๆเพิ่มความร้อนในอ่างน้ำมันจะทำให้อำพันอ่อนนุ่มและยืดหยุ่น อำพันสองชิ้นอาจหลอมรวมเป็นชิ้นเดียวกันเมื่อทาด้วยน้ำมันลินซีดลงบนผิวของมัน ให้ความร้อน แล้วกดอำพันทั้งสองเข้าหากันขณะที่ยังร้อนอยู่ อำพันที่มีเนื้อขุ่นอาจใสขึ้นในอ่างน้ำมันเมื่อน้ำมันเข้าไปเติมเต็มรูช่องว่างทั้งหลาย ก่อนนี้เราอาจขว้างเศษอำพันเล็กๆทิ้งไปหรืออาจใช้ทำเป็นเพียงน้ำมันชักเงาแต่เดี๋ยวนี้มีการนำไปใช้ในการผลิตแอมบรอยด์หรืออำพันอัด โดยค่อยๆให้ความร้อนกับอำพันแล้วดูดอากาศออก บีบอัดให้อำพันเป็นเนื้อเสมอด้วยเครื่องอัดไฮดรอลิก อำพันที่อ่อนตัวจะถูกกดด้วยแรงเข้าไปในรูของแผ่นโลหะ อำพันที่ได้นี้มีการนำไปใช้กันอย่างกว้างขวางสำหรับทำอัญมณีราคาถูกและวัสดุทำอุปกรณ์สูบบุหรี่ อำพันอัดนี้มีประกายสีแวววาวเมื่อต้องแสงโพลาไรซ์ อำพันอาจถูกทำเทียมได้ด้วยยางไม้อื่นๆเช่นโคปอลและคอริรวมถึงพวกเซลลูลอยด์หรือแม้แต่แก้ว อำพันบอลติกบางครั้งก็มีการทำสีเทียมแต่ก็ยังคงเรียกกันว่าอำพันแท้

มีการพบบ่อยครั้งที่อำพัน (โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่มีแมลงอยู่ในเนื้อของมัน) ถูกทำเทียมขึ้นด้วยวัสดุเรซินพลาสติก มีการทดสอบง่ายๆด้วยการใช้เข็ดหมุดร้อนๆสัมผัสลงไปบนพื้นผิววัตถุและทดสอบว่ามีกลิ่นของยางไม้ลอยขึ้นมาหรือไม่ ถ้าไม่ก็ถือว่าเป็นวัตถุทำเทียม อย่างไรก็ตามการทดสอบนี้อาจหาข้อสรุปไม่ได้หากผิวของวัตถุทำเทียมนี้ถูกเคลือบด้วยยางไม้แท้ๆ บ่อยครั้งที่การทำเทียมจะเห็นแมลงอยู่ในเนื้อวัตถุในท่าทางที่สมบูรณ์แบบเกินไป

อำพันถือเป็นวัตถุทำเครื่องประดับที่มีค่ามากอันหนึ่งที่ย้อนยุคกลับไปยาวนานมาก ดังเช่น มีการพบอำพันอยู่ในสุสานมายซีเนียน อำพันเป็นที่รู้จักกันในกลุ่มชนที่อาศัยอยู่ในทะเลสาบของสวิตเซอร์แลนด์ มีการพบเป็นซากเหลือยุคนีโอลิธิกในเดนมาร์ค ขณะที่ในอังกฤษมีการพบอำพันอยู่ในหลุมฝังศพยุคบรอนซ์

ถ้วยอำพันแห่งเมืองโฮฝ มีการค้นพบถ้วยใบหนึ่งทำจากอำพันในสุสานโบราณยุคบรอนซ์ที่เมืองโฮฝ ในอังกฤษ ที่เดี๋ยวนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ไบรท์ตัน

มีการค้นพบลูกปัดทำจากอำพันที่ตกสืบทอดมาจากชนเผ่าแองโกล-แซกซอนทางตอนใต้ของอังกฤษ อำพันถือเป็นสิ่งมีค่าที่ถือว่าเป็นเครื่องรางและยังเชื่อกันอีกว่ามีสรรพคุณในการเยียวยารักษาโรคภัย

อำพันถูกใช้ทำลูกปัดและเครื่องประดับ ทำที่สูบบุหรี่และกล้องยาสูบ พวกเติร์กถือกันว่าอำพันมีค่าเป็นพิเศษโดยกล่าวกันว่าสามารถป้องกันการติดเชื้อได้เมื่อใช้ท่อทำจากอำพันต่อจากปากคนหนึ่งไปที่ปากอีกคนหนึ่ง อำพันที่มีค่ายิ่งทางตะวันออกคืออำพันที่ค่อนข้างขุ่นมัวมีสีเหลืองฟางอ่อน อำพันคุณภาพเยี่ยมจะถูกส่งไปเวียนนาเพื่อผลิตอุปกรณ์สำหรับสูบยา

ห้องอำพันเคยเป็นห้องที่สร้างขึ้นด้วยอำพันหนักถึง 6 ตันเนื้อที่ 55 ตารางเมตร สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1701 ตามพระราชบัญชาของกษัตริย์ปรัสเซีย เฟร็ดริช วิลเฮลม ต่อมาได้ถวายเป็นของขวัญแก่พระเจ้าซาร์แห่งรัสเซีย (ปีเตอร์มหาราช) ห้องอำพันนี้ถูกซ่อนไว้ให้พ้นสายตาจากการบุกรุกของกองกำลังนาซีในปี ค.ศ. 1941 ผู้เข้าไปค้นหาในปราสาทคัธริน และได้ถอดออกไปแล้วย้ายไปเก็บไว้ที่เมืองโกนิกสบวก อะไรจะเกิดขึ้นกับห้องอำพันนี้หลังจากนั้นยังไม่เป็นที่ชัดเจนแต่มันอาจถูกทำลายไปเมื่อครั้งรัสเซียเผาป้อมปราการของเยอรมนีซึ่งเป็นสถานที่เก็บรักษาห้องอำพันนี้และได้สูญหายไปแล้ว โดยได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในปี ค.ศ. 2003

อำพันสามารถนำไปใช้ทำส่วนของฟร็อกของคันชักของไวโอลิน ถูกคิดค้นมอบหมายขึ้นมาโดยเกนนาดี ฟิลิโมนอฝ และผลิตขึ้นโดยช่างทำคันชักไวโอลินระดับฝีมือครูชาวอเมริกันหลังจากนั้น เคธ เปค


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301