อาณาจักรอาหม (อัสสัม: ???? ?????; อาโหมะ ราชยะ; อังกฤษ: Ahom Kingdom) บ้างเรียก อาณาจักรอัสสัม (Kingdom of Assam) มีชื่อในภาษาอาหมว่า เมืองถ้วนสวนคำ หรือ เมืองนุนสุนคำ (Mioung Dun Sun Kham) ไทใหญ่เรียกว่า เวสาลีโหลง เป็นรัฐรุ่นเดียวกับอาณาจักรสุโขทัย เริ่มต้นเมื่อ พ.ศ. 1796 นำโดยเจ้าหลวงเสือก่าฟ้า ปฐมกษัตริย์ หลังจากที่ต้องอพยพเดินทางทั้งยังทำการต่อสู้และย้ายถิ่นตลอด 38 ปี จึงได้วางรากฐานอาณาจักรอาหม โดยตั้งราชธานีที่เจ้รายดอย (หรือ จรวยเทพ) ในช่วงแรกที่ได้ตั้งอาณาจักรอาหมขึ้นมีการต่อสู้กับชนชาวเขาเผ่าต่าง ๆ ซึ่งเป็นชนพื้นเมือง
อาณาจักรอาหมที่ตั้งขึ้นครั้งแรก เป็นอาณาจักรเล็ก เพราะเป็นเรื่องที่อพยพกันไป ซึ่งเวลาอพยพนั้น ตำนานให้ตัวเลขเพียง 9,000 คน รวมผู้หญิงและเด็ก ซึ่งคาดได้ว่าอีก 38 ปีภายหลัง จำนวนประชากรทั้งหมดที่เพิ่มขึ้นจากผู้อพยพเดิม ก็ยังคงไม่ถึง 20,000 คน
อาณาจักรอาหมดำรงอยู่ได้มากว่า 260 ปี ซึ่งในช่วงเวลาระหว่างนี้มีประชากรเพิ่มมากขึ้น ทั้งจากที่เป็นชาวป่าชาวเขาในท้องถิ่นเดิม และทั้งที่อพยพมาอีก นับได้ว่า อาณาจักรอาหมมีความมั่นคง แต่ประมาณปี พ.ศ. 2070 อาณาจักรอาหมได้พบกับศัตรูร้ายกาจ นั่นคือ ราชวงศ์โมกุล ในเบื้องต้น เมื่ออาหมทำการต่อสู้ต้านทาน การรุกรานไม่รุนแรงนัก และได้เงียบหายไปเป็นครั้งคราว เมื่อ พ.ศ. 2150 การรุกรานเริ่มหนักหน่วงรุนแรงยิ่งขึ้น และกลายเป็นสงครามที่ต่อเนื่องและยาวนานถึง 175 ปี ประวัติศาสตร์อาหมในตอนนี้ถือเป็นยุคของ สงครามโมกุล ในที่สุด สงครามได้ สิ้นสุด ในปี พ.ศ. 2225 โดยที่ พวกโมกุลไม่สามารถเอาชนะอาหมได้ จึงต้องมีการทำการตกลงปักปันดินแดนเป็นการแน่นอนแล้วเลิกรบกันไป
จากข้อเขียนของฟาติยะ อิบริยา ซึ่งติดตามไปกับกองทัพอิสลามเขียนบรรยายราชธานีครหคาออน ไว้ดังนี้
เมืองครหคาออน มีประตูเมือง 4 ประตู สร้างด้วยหินและปูนขาว มีถนนพูนดินสูง กว้าง และมั่นคง อยู่รอบเมือง สะดวกแก่การสัญจรไปมา สองฝั่งของแม่น้ำทิขุมีอาคารบ้านเรือนใหญ่โต ถนนที่ผ่านไปในตลาดแคบ และมีพ่อค้าขายหม้อขายกระทะเท่านั้น ไม่ขายของกินเช่นตลาดของเรา เพราะแต่ละบ้านตุนอาหารไว้กินตลอดปี
ตัวเมืองแออัดไปด้วยหมู่บ้าน ภายในเขตพระราชวังมีอาคารสูงและโอ่โถงอยู่หลายหลัง ท้องพระโรงยาว 120 ศอก (60 เมตร) กว้าง 30 ศอก (15 เมตร) มีเสา 66 ต้น แต่ละต้นหนา 4 ศอก เสาเหล่านี้แม้จะใหญ่แต่ก็เกลี้ยงเกลา เครื่องตกแต่งและความวิจิตรของท้องพระโรงนี้ อยู่เหนือคำบรรยายใดๆ ทั้งสิ้น ไม่มีอาคารใดในโลกจะเปรียบได้ในเรื่องความมั่นคงแข็งแรง และความงดงามแห่งรูปภาพและของท้องพระโรง กล่าวกันว่าต้องใช้คนงานสองหมื่นสองพันคน
ภายหลังการต่อต้านการรุกรานของพวกโมฮัมหมัด อย่างทรหด ก็ได้เกิดการขัดแย้งภายในเอง ข้างต้นเริ่มยุ่งยากกับหมู่ชนต่างๆ และการแตกสามัคคีกันภายใน จนต้องขออาศัยการช่วยเหลือจากสหราชอาณาจักรที่มาปกครองอินเดีย สหราชอาณาจักรไม่อยากเกี่ยวข้องกับอาณาจักรอาหม พยายามให้อาหมแก้ปัญหาด้วยตนเองโดยสหราชอาณาจักรไม่ต้องไปเกี่ยวข้อง แต่อาหมก็ขอร้องให้สหราชอาณาจักรมาแทรกแซงอยู่เรื่อยมา
เมื่ออาหมอยู่ภายใต้การปกครองอาณัติแห่งพม่า สหราชอาณาจักรจึงต้องเข้าช่วยอาหมให้พ้นจากการปกครองของพม่า วิธีเดียวที่จะช่วยอาหมได้คือต้องให้อาหมเป็นอยู่ภายใต้การอารักขาของสหราชอาณาจักรโดยตรงตั้งแต่ พ.ศ. 2385 เมื่ออินเดียเป็นเอกราชหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 อาหมก็ถูกรวมอยู่กับอินเดีย