อันดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา ได้มีการจัดโดยนิตยสารต่างๆ ภายในประเทศ เพื่อเป็นตัวแสดงให้เห็นถึง ประสิทธิภาพของมหาวิทยาลัยในขณะนั้น และรวมถึงเป็นข้อมูลสำหรับนักเรียนหรือนักศึกษาที่ต้องการศึกษาต่อช่วยในการตัดสินใจ ประเทศสหรัฐอเมริกาเป็นประเทศแรกที่มีการจัดอันดับมหาวิทยาลัยกันอย่างจริงจัง และ อันดับมหาวิทยาลัยที่จัดนั้น ก็ส่งผลตัดสินใจเลือกเรียนต่อของนักศึกษา อัตราการสมัคร (admission rate) อัตราการเข้าเรียนจริง ๆ ของผู้ที่ได้รับการตอบรับแล้ว (yield rate) และการวางแผนพัฒนาของมหาวิทยาลัยต่างๆ
สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงที่สุดของสหรัฐอเมริกา คือ การจัดอันดับโดยนิตยสาร ยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต (US News and World Report) ซึ่งได้เริ่มการจัดอันดับ มหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรี (College) ในปี 2526 เป็นต้นมา โดยในชั้นแรก เป็นแค่คอลัมน์หนึ่งของนิตยสารเท่านั้น และ การจัดอันดับมหาวิทยาลัย ไม่ได้รับความสนใจมากนักต่อนักการศึกษา และมหาวิทยาลัยต่าง ๆ แต่ต่อมาด้วยความนิยมที่มีมากขึ้น ทำให้ นิตยสาร USNews ได้รับความนิยมจากนักเรียนในการตัดสินใจเลือกมหาวิทยาลัย แม้จะมีข้อผิดพลาด และได้รับการวิจารณ์จากนักการศึกษาอยู่เสมอ ๆ ในยุคแรก ๆ ภายหลังนิตยสารได้ใช้ผู้เชี่ยวชาญในด้านสถิติมาเป็นบรรณาธิการในด้านการจัดอันดับโดยเฉพาะ
ต่อมาได้มีนิตยสารอื่น ๆ ทำการจัดทำการจัดอันดับมหาวิทยาลัยของสหรัฐ ฯ ออกมามากขึ้น เช่น สำหรับคณะบริหารธุรกิจ มีนิตยสาร เช่น นิตยสารบิซิเนสวีก(BusinessWeek), นิตยสารฟอรบส์ (Forbes) ซึ่งได้รับความนิยม ในสาขาปรัชญา ก็มี Gourmet Report แต่อย่างไรก็ได้ การจัดลำดับของมหาวิทยาลัยต่าง ๆ นั้น มีความแตกต่างกันตามแต่อคติและการให้น้ำหนักของปัจจัยที่ใช้วัดคะแนน ตัวอย่างของความแตกต่าง อาทิ ในปี พ.ศ. 2548 (2005) ได้มีการจัดอันดับแตกต่างกันอย่างมาก โดยทางนิตยสารยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ตจัดให้เอ็มบีเอที่มหาวิทยาลัยดาร์ตมัธอยู่อันดับที่ 9 ขณะที่ นิตยสารฟอรบส์ จัดให้อยู่อันดับที่ 1 แต่กลับไม่ติดอันดับในนิตยสารบิซิเนสวีก ภายหลังได้มีการพยายามจัดอันดับมหาวิทยาลัยโดยใช้ปัจจัยอื่น ๆ ที่น่าเชื่อถือมากขึ้น โดยนักวิชาการ หรือนักเศรษฐศาสตร์การศึกษา ต่าง ๆ อาทิ การวัดโดยวิธี โดยใช้วิธีดูจากการอันดับเลือกของเรียนมัธยม (Revealed Preference Ranking) หรือการวัดจากคุณภาพของอาจารย์ โดยดูจากงานวิจัยที่ได้รับการอ้างอิง (citation) หรือ การมีงานตีพิมพ์ในระบบออนไลน์
ยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต เป็นนิตยสารที่มีการจัดอันดับมหาวิทยาลัยในหลากหลายด้าน ซึ่งรวมถึง วิศวกรรมศาสตร์ แพทยศาสตร์ บริหารธุรกิจ นิติศาสตร์ ศึกษาศาสตร์ วิทยาศาสตร์ มนุษย์ศาสตร์ สังคมศาสตร์ ศิลปกรรมศาสตร์ โดยมีการจัดอันดับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2526 (ค.ศ. 1983) อย่างไรก็ตาม ได้มีข้อโต้เถียงมากจากมหาวิทยาลัยที่ได้อันดับต่ำ โดยบางมหาวิทยาลัยเช่น วิทยาลัยรีด ในรัฐออริกอนได้ปฏิเสธการให้ข้อมูลแก่ทางนิตยสาร อย่างไรก็ตามการจัดอันดับนี่เป็นที่ยอมรับมากอันหนึ่งของสหรัฐอเมริกา โดย 10 อันดับแรก (พ.ศ. 2557) มีดังนี้
ดิอะเมริกัน ยูนิเวอร์ซิตี้ แอดมิดชั่นส์ โปรแกรม เป็นหน่วยงานที่ให้คำปรึกษาด้านการศึกษาต่อที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา ได้จัดอันดับทั่วสหรัฐอเมริกา โดย 20 อันดับแรกของมหาวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2548 มีดังนี้
เอ็มบีเอได้มีการจัดอันดับโดยหลายนิตยสาร ซึ่งรวมถึง ไฟแนนเชียลไทมส์ นิตยสารฟอรบส์ บิซิเนสวีก และยูเอสนิวส์แอนด์เวิลด์รีพอร์ต
เงื่อนไขในการจัดอันดับของนิตยสารฟอรบส์ ในปีพ.ศ. 2548 ใช้การสำรวจ จากศิษย์เก่าที่จบการเอ็มบีเอ 25,000 คนทั่วสหรัฐอเมริกา และเปรียบเทียบการคุ้มทุนในการเรียนโดยคำนวณจากเงินเดือนก่อนและหลังเรียน เปรียบเทียบกับค่าเล่าเรียนและเงินเดือนที่ควรจะได้ในช่วงที่เรียน โดยอันดับ ข้อมูล 10 อันดับแรก โดยนิตยสารฟอรบส์ ปี พ.ศ. 2548
นิตยสารดีไซน์อินเทลลิเจนซ์ ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยทั้งในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท ในสาขาวิชาสถาปัตยกรรมศาสตร์ โดยได้เริ่มมีการจัดอันดับตั้งแต่ ปี พ.ศ. 2543 โดยมีการจัดอันดับในภาพรวมของสถาปัตยกรรมศาสตร์ และในสาขาย่อย ได้แก่มัณฑณศิลป์ และ ภูมิสถาปัตยกรรมศาสตร์ อันดับมหาวิทยาลัยจัดอันดับโดยสัมภาษณ์เป็นส่วนใหญ่จาก ทางบริษัทสถาปนิกทั่วประเทศและทางคณาจารย์มหาวิทยาลัย โดยเนื้อหาในการจัดอันดับจะเน้นที่ความรู้ที่สามารถนำมาทำงานได้จริงในวิชาชีพ ในปี พ.ศ. 2548 ได้มีการจัดอันดับ 15 มหาวิทยาลัยในระดับปริญญาตรี และ 25 อันดับในระดับปริญญาโทโดย 5 อันดับแรก ได้แก่
นิตยสารอีเอ็นอาร์ (ENR, Engineering News-Record) ในสำนักพิมพ์แม็คกรอว์-ฮิลล์ ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยในสาขา วิศวกรรมศาสตร์ในด้านวิศวกรรมการก่อสร้าง (C-School, construction school) โดยมีการจัดอันดับตามจำนวนคณาจารย์ในคณะ จำนวนนักศึกษาที่เรียน อันดับในปี พ.ศ. 2544 มีดังนี้
บริษัทอินเทล ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยในเรื่องของความเข้าถึงเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตไร้สาย ในพื้นที่บริเวณมหาวิทยาลัย และจำนวนนักเรียนต่อจำนวนคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลได้มาจากการสัมภาษณ์นักเรียนมากกว่า 1,000 คน และสัมภาษณ์สื่อมวลชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงบทสัมภาษณ์ที่ตีพิมพ์ในนิตยสารฟอรบส์ โดยเริ่มจัดอันดับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2547 โดยในปีล่าสุดได้มีการจัดอันดับมหาวิทยาลัย 50 อันดับ ซึ่ง 5 อันดับแรกได้แก่
นิตยสารเพลย์บอย ได้จัดอันดับมหาวิทยาลัยที่มีการสังสรรค์มากที่สุด 10 อันดับมหาวิทยาลัย (Top ten party schools) โดยอันดับถูกจัดตามการสัมภาษณ์ และการสำรวจจากเพลย์บอย ในด้านไลฟ์สไตล์ของนักศึกษา จำนวนสถานที่เที่ยวกลางคืน (บาร์ ผับ ดิสโกเทค) ภายในมหาวิทยาลัย รูปร่างสัดส่วนของนักศักษา หรือแม้แต่จำนวนสถานฟิตเนสในมหาวิทยาลัย โดยรวมถึงการสัมภาษณ์จากนักศึกษาและอาจารย์ อันดับมหาวิทยาลัย 10 อันดับใน ปี พ.ศ. 2549 ได้แก่
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/อันดับมหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา