ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

อังกฤษสมัยแองโกล-นอร์มัน

แองโกล-นอร์มัน (อังกฤษ: Anglo-Norman) คือผู้สืบเชื้อสายจากชาวนอร์มันผู้ปกครองอังกฤษหลังจากที่ได้รับชัยชนะในการรุกรานอังกฤษโดยดยุควิลเลียมแห่งนอร์ม็องดีในปี ค.ศ. 1066 แม้ว่าจะมีนอร์มันมาตั้งถิ่นฐานอยู่บ้างก่อนหน้านั้นแล้ว หลังจากยุทธการเฮสติงส์ผู้รุกรานชาวนอร์มันและลูกหลานก็เข้ามาตั้งถิ่นฐานในฐานะกลุ่มชนที่แตกต่างจากกลุ่มชนที่ตั้งถิ่นฐานอยู่แล้วในอังกฤษ ผู้ที่ตั้งถิ่นฐานเหล่านี้ต่อมาก็กลืนไปกับผู้ที่ตั้งถิ่นฐานอยู่อยู่แต่เดิมและมาใช้ภาษาพูดที่เรียกว่าภาษาแองโกล-นอร์มัน

ชัยชนะของชาวนอร์มันต่ออังกฤษเป็นชัยชนะของผู้พิชิตที่มีวัฒนธรรมและภาษาต่างจากวัฒนธรรมและภาษาของอังกฤษในหลายกรณี และเป็นการรุกรานที่แตกต่างจากการรุกรานของไวกิงตรงที่ผู้รุกรานชาวไวกิงเป็นชนกลุ่มที่มีเชื้อสายและภาษาพูดที่ใกล้เคียงกันกับที่ใช้ในอังกฤษ

ความแตกต่างนี้ทำให้ผู้ตั้งถิ่นฐานชาวนอร์มันไม่มีความรู้สึกเกี่ยวพันกับผู้ตั้งถิ่นฐานในอังกฤษโดยเฉพาะผู้ที่ที่มีเชื้อสายเดนมาร์ก ผู้ที่เป็นผู้ต่อต้านการยึดครองของนอร์มันอย่างเหนียวแน่นจากกลุ่มที่ว่านี้ หลังจากที่ได้รับชัยชนะแล้วดยุควิลเลียมก็กำจัดขุนนางผู้มีอำนาจทั้งขุนนางเดนส์และขุนนางอังกฤษแทบทั้งสิ้น โดยแต่งตั้งขุนนางนอร์มันเองขึ้นแทนและก่อตั้งระบบการปกครองแบบ “ระบบเจ้าครองนคร” ขึ้นในแทนที่ (แต่นักประวัติศาสตร์ยังถกเถียงกันว่า “ระบบเจ้าครองนคร” เป็นระบบที่ใช้ในอังกฤษมาตั้งแต่ก่อนหน้าที่นอร์มันจะเข้ามายึดครองแล้ว ฉะนั้นความคิดในเรื่องการปกครองระบบเจ้าครองนคร (Feudalism) ว่าเริ่มใช้กันเมื่อใดในอังกฤษจึงยังเรื่องที่ยังตกลงกันไม่ได้)

ขุนนางแองโกล-แซกซันเป็นจำนวนมากสูญเสียทั้งตำแหน่งและอาณาบริเวณการปกครอง อันที่จริงแล้วชนทุกระดับชั้นในอังกฤษก็ถูกเลื่อนฐานะลงในสังคมไปตามๆ กัน ในขณะเดียวกันขุนนางแองโกล-นอร์มันใหม่ก็เข้ามามีอำนาจแทนที่ และต่างก็ได้รับพระราชทานที่ดินที่ยึดมาจากขุนนางแองโกล-แซกซันเดิม ขุนนางแองโกล-นอร์มันบางคนก็ยังคงรักษาการใช้ “เดอ” นำหน้าที่หมายถึงผู้ปกครองอาณาบริเวณที่ตามด้วยชื่อบริเวณ แต่ขุนนางอื่นก็รับชื่ออาณาบริเวณที่ใช้กันในท้องถิ่นอยู่แล้วมาเป็นชื่อของตน

แต่สิ่งที่สำคัญรองจากสิ่งที่สำคัญที่สุดของความมีชัยชนะต่ออังกฤษของนอร์มันคือเป็นการนำอังกฤษเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของแผ่นดินใหญ่ยุโรป โดยเฉพาะการเป็นส่วนหนึ่งของบริเวณที่ยังมีอิทธิพลทางด้านภาษาและวัฒนธรรมที่ยังหลงเหลืออยู่ของโรมัน อังกฤษในสมัยแองโกล-แซกซันและนอร์สเป็นอังกฤษที่มีความสัมพันธ์กับวัฒนธรรมท้องถิ่น แต่อังกฤษภายใต้การปกครองของนอร์มันเป็นอังกฤษของภาษาตระกูลโรมานซ์และวัฒนธรรมของโรมันโบราณ ซึ่งจะเห็นได้จากภาษาที่ใช้, สถาปัตยกรรมการก่อสร้างแบบโรมาเนสก์ และการปกครองระบบเจ้าครองนครที่มาแทนที่การปกครองที่ไม่มีระบบเท่าใดนักของอังกฤษในระหว่างยุคมืด แต่สิ่งที่แน่นอนคืออังกฤษในสมัยนอร์มันเป็นอังกฤษที่แตกต่างจากอังกฤษสมัยก่อนหน้านั้นที่เป็นอังกฤษที่มีอิทธิพลจากภายนอก

นอกจากนั้นแล้วชัยชนะของชาวนอร์มันต่ออังกฤษก็ยังเป็นการเปลี่ยนระบบการทหารในอังกฤษทั้งทางลักษณะและวิธีการรบ หลังจากการยึดครองนายทหารแองโกล-แซกซันเดิมโดยเฉพาะชนรุ่นหลังจากการพ่ายแพ้ที่ยุทธการเฮสติงส์ผู้ไม่มีอนาคตความก้าวหน้าถ้าอยู่ต่อไปในอังกฤษภายใต้การปกครองของผู้ชนะ ก็เริ่มลี้ภัยไปต่างประเทศอังกฤษโดยสนับสนุนของดยุควิลเลียมผู้พิชิตและพระโอรสวิลเลียม รูฟัสเพื่อความปลอดภัยของราชอาณาจักร กลุ่มแรกที่ลี้ภัยคือกลุ่มที่ไปเดนมาร์ก อีกจำนวนหนึ่งก็ลี้ภัยไปสมทบกับกลุ่มวารันเจียน (Varangians) ในคอนแสตนติโนเปิล

แต่โดยทั่วไปแล้วทหารแองโกล-แซกซันก็มิได้ถูกปลดอาวุธกันไปทั้งหมด ดยุควิลเลียมแห่งนอร์ม็องดีทรงจัดให้ทหารราบแซ็กซอนได้รับการฝึกโดยทหารม้านอร์มันในยุทธวิธีการต่อต้านข้าศึกบนหลังม้า ซึ่งทำให้เกิดกองทัพแองโกล-นอร์มันที่ประกอบด้วยขุนนางที่เป็นเจ้านายนอร์มันบนหลังม้าโดยมีไพร่พลเป็นทหารราบแซ็กซอนผู้บางครั้งก็มีเชื้อสายเจ้านายเท่าเทียมกับผู้นำ, ทหารราบจากชาวบ้าน, ทหารรับจ้าง และนักผจญภัยจากส่วนอื่นๆ ของทวีปยุโรป

เจ้านายนอร์มันรุ่นต่อๆ มาที่เติบโตขึ้นในอังกฤษก็เริ่มรับวัฒนธรรมแซ็กซอนบางอย่างเข้ามาใช้เช่นการไว้ผมยาวขึ้นหรือการไว้หนวดซึ่ทำให้เป็นที่ไม่ค่อยพึงพอใจในบรรดาเจ้านายนอร์มันรุ่นเก่า (คำว่า “cniht” (อัศวิน) ในภาษาแองโกล-แซกซัน มิได้มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า “chevalier” (ความเป็นอัศวิน/ความเป็นวีรบุรุษ) ของการใช้คำเดียวกันในฝรั่งเศสมาจนกระทั่งปลายยุคกลาง ในคริสต์ศตวรรษที่ 14, นักปรัชญาจอห์น ไวคลิฟฟ์ (John Wycliffe) ใช้คำว่า “knyytis” (อัศวิน) ในการกล่าวถึงผู้ถืออาวุธเท่านั้น จนกระทั่งเมื่อมาถึงคริสต์ศตวรรษ 15 เท่านั้นที่คำว่า “อัศวิน” (knight) เริ่มจะมีความหมายเป็นนัยยะว่าหมายถึงนายทหารม้าผู้เป็นเจ้านายและมีความหมายที่ใกล้เคียงกับคำว่า “ความเป็นอัศวิน” (Chivalry) มากขึ้น)

การพิชิตของแองโกล-นอร์มันในคริสต์ศตวรรษที่ 12 นำมาซึ่งประเพณีและวัฒนธรรมที่เผยแพร่ไปยังไอร์แลนด์ คาโรลซึ่งเป็นการร้องรำทำเพลงของนอร์มันโดยมีผู้ร้องนำล้อมรอบด้วยผู้เต้นรำที่ร้องโต้ด้วยเพลงเดียวกัน การการร้องรำทำเพลงของนอร์มันนี้ก็ทำไปทุกเมืองที่นอร์มันได้รับชัยชนะในไอร์แลนด์

ความรู้สึกขัดแย้งระหว่างความเป็นนอร์มันและความเป็นแซ็กซอนจะรุนแรงเท่าใดนั้นก็ยังเป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์ถกเถียงกันอยู่ ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ความขัดแย้งนี้กล่าวว่าเป็นความขัดแย้งที่มาจากทั้งสองฝ่ายที่เห็นได้จากตำนานที่เป็นที่นิยมกันอย่างแพร่หลายในเรื่อง “โรบิน ฮูด” (Robin Hood) และในนวนิยายเรื่อง “ไอแวนโฮ” (Ivanhoe) โดยเซอร์วอลเตอร์ สกอตต์ (Walter Scott) ซึ่งอาจจะเป็นทัศคติที่ค่อนข้างจะเกินความจริงไปบ้าง ความรู้สึกทางอคติที่แสดงออกโดยนักประวัติศาสตร์อังกฤษร่วมสมัยออร์เดริค ไวทาลิส (Orderic Vitalis) ใน “ประวัติศาสตร์ทางศาสนา” (Ecclesiastical Historii) จะเห็นได้จากการกล่าวสรรเสริญชาวอังกฤษผู้ต่อต้านดยุควิลเลียมแห่งนอร์ม็องดี (สมเด็จพระเจ้าวิลเลียมที่ 1 แห่งอังกฤษ) นอกจากนั้นก็ยังมีกฎหมายที่เรียกว่า “ค่าปรับการฆาตกรรมนิรนาม” (Murdrum) ที่เดิมเป็นกฎหมายของเดนส์ที่นำมาใช้ในอังกฤษภายใต้การปกครองของพระเจ้คานูท ที่นอร์มันนำกลับมาใช้โดยปรับหมู่บ้านที่เกิดการฆาตกรรมชาวนอร์มันอย่างลับๆ (หรือผู้ถูกฆาตกรรมที่ไม่ทราบชื่อที่กฎหมายสรุปว่าต้องเป็นนอร์มันโดยปริยายนอกจะพิสูจน์ได้ว่าไม่ใช่) เป็นจำนวนหนึ่งไฮห์ หรือ 46 มาร์ค หรือ ราว ?31

แต่ไม่ว่าจะมีความชิงชังกันอย่างไรหรือเท่าใด ในที่สุดชนสองกลุ่มนี้ก็กลืนกันเป็นชนกลุ่มเดียวกันจากการอยู่ร่วมกันและการแต่งงาน ชาวนอร์มันเริ่มมีความรู้สึกตนว่าเป็นแองโกล-นอร์มัน ความแตกต่างก็มาหายไปแทบหมดสิ้นเมื่อสงครามร้อยปีเกิดขึ้น และภายในคริสต์ศตวรรษที่ 15 ชาวแองโกล-นอร์มันก็กลืนกับแองโกล-แซกซัน และกลายมาเป็นชาวอังกฤษ

หมู่เกาะแชนเนลเป็นบริเวณสุดท้ายที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมแองโกล-นอร์มันและภาษามาจนถึงคริสต์ศตวรรษที่ 19 เมื่ออิทธิพลอังกฤษเริ่มเข้ามาแทนที่โดยผู้ที่เข้ามาตั้งถิ่นฐานที่พูดภาษาอังกฤษและการคมนาคมจากแผ่นดินใหญ่ที่สะดวกขึ้น

การตั้งถิ่นฐานของชาวแองโกล-นอร์มันในอังกฤษเลยไปถึงการตั้งถิ่นฐานในเวลส์ และทำให้เกิดการสร้างป้อมปราการหลายป้อมโดยดยุควิลเลียมแห่งนอร์ม็องดีเพื่อปราบปรามชาวเวลส์แต่ก็ไม่ทรงประสบความสำเร็จเท่าใดนัก หลังจากนั้นดินแดนที่เป็นพรมแดนระหว่างเวลส์และอังกฤษที่เรียกว่ามาร์ชก็ได้รับอิทธิพลจากนอร์มันมากขึ้น นอกจากการตั้งถิ่นฐานแล้วก็ยังมีการเผยแพร่คริสต์ศาสนาเข้าไปในเวลส์โดยนักบวชในนิกายเช่นซิสเตอร์เชียนที่มาจากฝรั่งเศสและนอร์ม็องดี ที่ไปตั้งสำนักสงฆ์ในบริเวณต่างๆ ทั่วเวลส์ ภายในคริสต์ทศวรรษ 1400 ผู้ดีชาวเวลส์จำนวนมากก็มีเชื้อสายนอร์มัน นอกจากนั้นอัศวินแคมเบอร์-นอร์มันที่ไปรุกรานไอร์แลนด์ก็มาจากที่มั่นในเวลส์

ขุนนางแองโกล-นอร์มันที่เข้าไปตั้งถิ่นฐานในไอร์แลนด์ ในคริสต์ศตวรรษที่ 12 เริ่มด้วยการไปสนับสนุนฐานะของกษัตริย์ท้องถิ่น Diarmuid MacMorrough ที่เรียกกันในภาษาอังกฤษใหม่ว่าเดอร์ม็อท แม็คเมอร์โรห์ (Dermot MacMurrough) แม็คเมอร์โรห์ทูลขอสมเด็จพระเจ้าเฮนรีที่ 2 แห่งอังกฤษ ให้ส่งริชาร์ด เดอ แคลร์ เอิร์ลแห่งเพมโบรคที่ 2 (Richard de Clare, 2nd Earl of Pembroke) หรือที่รู้จักกันในนาม “Strongbow” ไปช่วยสร้างความมั่นคงในการเป็นกษัตริย์ที่ไลน์สเตอร์ ริชาร์ด เดอ แคลร์เสียชีวิตไม่นานหลังจากไปรุกรานไอร์แลนด์แต่ผู้ที่ติดตามไปด้วยยังคงอยู่ต่อไปในไอร์แลนด์เพื่อสนับสนุนพระเจ้าเฮนรี และพระราชโอรสจอห์นในฐานะลอร์ดแห่งไอร์แลนด์ ในบรรดาผู้ตั้งถิ่นฐานชาวนอร์มันที่สำคัญในระยะแรกก็มีทีโอบอลด์ วอลเตอร์ (Theobald Walter, 1st Baron Butler) ผู้ได้รับพระราชทานตำแหน่งสืบตระกูลบัตเลอร์แห่งไอร์แลนด์ในปี ค.ศ. 1177 โดยพระเจ้าเฮนรี ชาวนอร์มันที่ไปตั้งถิ่นฐานในไอร์แลนด์ส่วนใหญ่มาจากเวลส์ไม่ใช่จากอังกฤษ ฉะนั้นแคมเบอร์-นอร์มันจึงเป็นคำที่ใช้เรียกชนกลุ่มนี้


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301