อักษรไลเนียร์บีเป็นอักษรโบราณชนิดหนึ่งที่พบในประเทศกรีซและบริเวณใกล้เคียง มมีลักษณะใกล้เคียงกับอักษรไลเนียร์เอ
ในปี พ.ศ. 2443 นักโบราณคดี เซอร์ อาร์เธอร์ อีแวนส์ พบจารึกแผ่นดินเหนียวจำนวนมาก ซึ่งเขียนด้วยเครื่องหมายแปลก ๆ ที่นอสซอส เกาะครีท อีวานส์เชื่อว่า เขาค้นพบพระราชวังของพระเจ้าไมเนอร์ และเขาวงกตแห่งมิโนทอร์ เขาจึงตั้งชื่อภาษาและจารึกนั้นว่าไมนวน เขาพยายามถอดความจารึกเหล่านั้น แต่ทำได้น้อยมาก เขาตั้งสมมติฐานว่า ในจารึกมีระบบการเขียนที่แตกต่างกัน 3 ระบบ คือ อักษรไฮโรกลิฟฟิก อักษรไลเนียร์เอ และอักษรไลเนียร์บี อักษรไฮโรกลิฟฟิก ปรากฏเฉพาะส่วนที่เป็นตราประทับ และพอจะถอดความได้บ้าง อักษรไลเนียร์เอยังถอดความไม่ได้ แต่น่าจะมาจากอักษรไฮโรกลิฟฟิก อักษรไลเนียร์บีน่าจะมาจากอักษรไลเนียร์เอ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างอักษรทั้งสอง ยังไม่ชัดเจน
อีวานส์พบว่า ขีดสั้นในอักษรไลเนียร์บี เป็นการแยกคำ เขาถอดความการนับเลขและตัวเลขได้ ด้วยระบบพิกโตแกรม และพบความเป็นคู่ขนาน ระหว่างอักษรไซเปรียทที่อ่านได้แล้ว กับอักษรไลเนียร์บี ซึ่งแสดงว่า ภาษาที่เขียนด้วยอักษรไลเนียร์บี เป็นภาษากรีกโบราณ แต่อีวานส์ยังมั่นใจว่าอักษรไลเนียร์บี ใช้เขียนภาษาไมนวน ที่ไม่เกี่ยวข้องกับภาษากรีก
ใน พ.ศ. 2482 พบแผ่นจารึกดินเหนียว เขียนด้วยอักษรไลเนียร์บี จำนวนมาก ที่ไพลอส ประเทศกรีซ ซึ่งสร้างความแปลกใจให้อีวานส์ ผู้เชื่อว่าอักษรนี้ใช้ในเกาะครีทเท่านั้น การถอดความอักษรไลเนียร์บีสำเร็จเมื่อ พ.ศ. 2493 โดย ไมเคิล เวนทริส (2465 – 2499) เขาเริ่มสนใจอักษรนี้เมื่อพ.ศ. 2479 เมื่อเข้าชมนิทรรศการเกี่ยวกับชาวไมนวน ของอีวานส์ และสามารถเข้าใจอักษรไลเนียร์บีได้ในอีก 17 ปีต่อมา
ครั้งแรก เวนทริสสงสัยว่า ภาษาที่เขียนด้วย อักษรไลเนียร์บี คือภาษากรีก เพราะคำที่ถอดความได้บ้างแล้ว คล้ายกับรูปแบบของอักษรกรีกโบราณ และด้วยความช่วยเหลือของ จอห์น แชดวิช ผู้เชี่ยวชาญภาษากรีกยุคแรกๆ เขาจึงแสดงข้อพิสูจน์ได้ว่า อักษรไลเนียร์บีใช้เขียนภาษากรีก
พื้นฐานจากพยางค์: อักษรในอานาโตเลีย (คาเรีย ? ลิเชีย ? ลิเดีย ? ลูเวีย) ? รูปลิ่ม (ซูเมอร์ ? แอกแคด ? อีลาไมต์) ? ตงปา ? ตันกัท ? มายา ? อี้พื้นฐานจากอักษรจีน: คันจิ ? คีตัน ? อักษรจีน (ตัวเต็ม ? ตัวย่อ) ? จื๋อโนม ? จูร์เชน ? น่าซี ? สือดิบผู้จ่อง ? ฮันจา