ฮันกึล (เกาหลี: ??; อังกฤษ: Hangeul หรือ Hangul) เป็นชื่อเรียกตัวอักษรของเกาหลีที่ได้ประดิษฐ์ขึ้นใช้แทนตัวอักษรฮันจา ฮันจานั้นหมายถึงตัวอักษรจีนที่ใช้ในภาษาเกาหลีก่อนที่จะมีการประดิษฐ์อักษรขึ้นใช้แทนโดยพระเจ้าเซจงมหาราช (????)
การเขียนภาษาจีนแพร่หลายเข้าสู่เกาหลีตั้งแต่เมื่อ 2,000 ปีมาแล้ว มีการใช้อย่างกว้างขวางเมื่อจีน เข้าปกครองเกาหลีในช่วง พ.ศ. 435–856 เมื่อประมาณ พ.ศ. 1000[ต้องการอ้างอิง] เริ่มเขียนภาษาเกาหลีด้วยอักษรจีนโบราณ เริ่มพบเมื่อราว พ.ศ. 947[ต้องการอ้างอิง] โดยมีระบบการเขียน 3 ระบบ คือ Hyangchal Gukyeol และ Idu ระบบเหล่านี้ใกล้เคียงกับระบบที่ใช้เขียนภาษาญี่ปุ่น และอาจจะเป็นแม่แบบให้ภาษาญี่ปุ่นด้วย
ระบบ Idu ใช้การผสมกันระหว่างอักษรจีนกับสัญลักษณ์พิเศษเพื่อแสดงการลงท้ายคำกริยาในภาษาเกาหลี และใช้ในเอกสารทางราชการและบันทึกส่วนตัวเป็นเวลาหลายศตวรรษ ระบบ Hyangchal ใช้อักษรจีนแสดงเสียงของภาษาเกาหลี ใช้ในการเขียนบทกวีเป็นหลัก ภาษาเกาหลียืมคำจากภาษาจีนเป็นจำนวนมาก ทำให้ภาษาเกาหลีสามารถอ่านหรือสื่อความหมายได้ด้วยอักษรจีน มีการประดิษฐ์สัญลักษณ์ขึ้นใหม่ราว 150 ตัว ส่วนใหญ่มีที่ใช้น้อยหรือเป็นชื่อเฉพาะ
อักษรฮันกึล ได้ประดิษฐ์โดยพระเจ้าเซจง (พ.ศ. 1940 - 1993 ครองราชย์ พ.ศ. 1961 - 1993) กษัตริย์องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์โชซ็อนของเกาหลี แต่นักวิชาการบางคนตั้งข้อสังเกตว่าการประดิษฐ์อักษรเป็นงานที่ซับซ้อน อาจเป็นฝีมือของกลุ่มบัณฑิตสมัยนั้นมากกว่า แต่หลักฐานทางประวัติศาสตร์ได้แสดงว่าบัณฑิตในสมัยนั้นต่างคัดค้านการใช้ตัวอักษรใหม่แทนตัวอักษรฮันจา ดังนั้น จึงได้มีการบันทึกว่าอักษรฮันกึลเป็นผลงานของพระเจ้าเซจงแต่เพียงพระองค์เดียว นอกจากนี้ ยังมีหลักฐานบางอย่างที่แสดงว่าพระญาติของพระเจ้าเซจองได้มีส่วนร่วมอย่างลับ ๆ ในการประดิษฐ์อักษร เพราะประเด็นนี้ในสมัยนั้นเป็นข้อขัดแย้งระหว่างบัณฑิตอย่างมาก
อักษรฮันกึลได้ประดิษฐ์เสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 1986 (ค.ศ. 1443) หรือ มกราคม ค.ศ. 1444 และถูกตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 1989 (ค.ศ. 1446) ในเอกสารที่ชื่อว่า "ฮุนมิน จองอึม" (ฮันกึล: ????, ฮันจา: ????; Hunmin Jeong-eum) หรือแปลว่า เสียงอักษรที่ถูกต้องเพื่อการศึกษาสำหรับประชาชน ซึ่งในวันที่ 9 ตุลาคม ของทุกปี ทางการเกาหลีใต้ได้ประกาศให้เป็น วันฮันกึล ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ ส่วนในเกาหลีเหนือเป็นวันที่ 15 มกราคม
พระเจ้าเซจงมหาราชทรงให้เหตุผลของการประดิษฐ์ตัวอักษรใหม่ว่า อักษรจีนมีไม่เพียงพอที่จะเขียนคำเกาหลี และอักษรจีนนั้นเขียนยากเรียนยาก ทำให้ชาวบ้านรู้หนังสือน้อย ในสมัยนั้น เฉพาะชายในชนชั้นขุนนาง (ยังบัน) เท่านั้นที่มีสิทธิเรียนและเขียนตัวอักษรฮันจาได้ การประดิษฐ์และใช้ตัวอักษรใหม่แทนตัวอักษรเดิมนี้ถูกต่อต้านอย่างมากจากเหล่าบัณฑิต ซึ่งเห็นว่าตัวอักษรฮันจาเท่านั้นที่เป็นตัวอักษรที่ถูกต้องชอบธรรมที่สุด
กษัตริย์เซจงและนักปราชญ์ของพระองค์นำแนวคิดการประดิษฐ์อักษรใหม่มาจากอักษรมองโกเลียและอักษรพัก-ปา ทิศทางในการเขียนในแนวตั้งจากขวาไปซ้ายได้อิทธิพลจากอักษรจีน หลังการประดิษฐ์อักษรเกาหลีชาวเกาหลีส่วนใหญ่ยังเขียนด้วยอักษรจีน หรืออักษรระบบ Gukyeol หรือ Idu อักษรเกาหลีใช้เฉพาะชนชั้นระดับล่าง เช่นเด็ก ผู้หญิง และผู้ไร้การศึกษา ในช่วง พ.ศ. 2400 – 2500 การผสมผสานระหว่างการเขียนที่ใช้อักษรจีน (ฮันจา) และอักษรฮันกึลเริ่มเป็นที่นิยม ตั้งแต่ พ.ศ. 2492 ฮันจาถูกยกเลิกในเกาหลีเหนือ เว้นแต่การใช้ในตำราเรียนและหนังสือพิเศษบางเล่ม เมื่อราว พ.ศ. 2510 – 2512 จึงมีการฟื้นฟูการใช้ฮันจาอีกครั้งในเกาหลีเหนือ ในเกาหลีใต้มีการใช้ฮันจาตลอดมา วรรณคดีเกาหลีสมัยใหม่ส่วนใหญ่ และการเขียนที่ไม่เป็นทางการใช้ฮันกึลทั้งหมด แต่งานเขียนทางวิชาการและเอกสารราชการใช้ฮันกึลควบคู่กับฮันจา
โดยผิวเผินแล้ว อาจมองอักษรฮันกึลว่าอยู่ในระบบอักษรรูปภาพ แต่จริง ๆ แล้ว อักษรฮันกึลอยู่ในระบบอักษรแทนเสียง (Alphabet) อักษรฮันกึลมีตัวอักษรที่เรียกว่า จาโม (??, ?? อักษรแม่) ทั้งหมด 24 ตัว ประกอบด้วย พยัญชนะ 14 ตัว คือ ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? ? และ ? และสระ 10 ตัว คือ ? ? ? ? ? ? ? ? ? และ ?
พยัญชนะและสระดังกล่าวเรียกว่า พยัญชนะเดี่ยว และสระเดี่ยว ตามลำดับ นอกจากนี้ยังมีส่วนที่เรียกว่าพยัญชนะซ้ำ และสระประสมด้วย
อักษรนี้ได้แนวคิดจากรูปร่างของอวัยวะที่ใช้ออกเสียง พยัญชนะอื่นใช้การเพิ่มเส้นพิเศษลงบนพยัญชนะพื้นฐาน รูปร่างของสระได้แนวคิดจาก คน (เส้นตั้ง) โลก (เส้นนอน) และสวรรค์ (จุด) อักษรฮันกึลสมัยใหม่ จุดจะแสดงด้วยขีดสั้น มีช่องว่างระหว่างคำโดยคำนั้นอาจมีมากกว่า 1 พยางค์ เส้นของพยัญชนะบางตัวเปลี่ยนไปขึ้นกับว่าอยู่ต้น กลาง หรือท้ายพยางค์
อักษรฮันกึล มีส่วนที่คล้ายภาษาไทย คือ พยางค์ในอักษรฮันกึลหนึ่งพยางค์จะเกิดจากการรวมกันของ พยัญชนะต้น และสระ หรือ พยัญชนะต้น, สระ และพยัญชนะสะกด แต่ภาษาเกาหลีไม่มีระดับวรรณยุกต์ การสร้างพยางค์หนึ่งพยางค์สามารถทำโดยเขียนตำแหน่งพยัญชนะ, สระ และพยัญชนะสะกดแบบใดแบบหนึ่งใน 6 แบบดังนี้
พื้นฐานจากพยางค์: อักษรในอานาโตเลีย (คาเรีย ? ลิเชีย ? ลิเดีย ? ลูเวีย) ? รูปลิ่ม (ซูเมอร์ ? แอกแคด ? อีลาไมต์) ? ตงปา ? ตันกัท ? มายา ? อี้พื้นฐานจากอักษรจีน: คันจิ ? คีตัน ? อักษรจีน (ตัวเต็ม ? ตัวย่อ) ? จื๋อโนม ? จูร์เชน ? น่าซี ? สือดิบผู้จ่อง ? ฮันจา