ศาสตราจารย์พิเศษ อินทรี จันทรสถิตย์ หรือ หลวงอิงคศรีกสิการ (14 กันยายน พ.ศ. 2442 - 1 มกราคม พ.ศ. 2532) เป็นหนึ่งในผู้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และเคยดำรงตำแหน่งอธิการบดีและนายกสภามหาวิทยาลัย อดีตอธิบดีกรมเกษตร และเป็นอดีตรัฐมนตรีกระทรวงเกษตราธิการในสมัยรัฐบาลธานินทร์ กรัยวิเชียร
อินทรี จันทรสถิตย์ เดิมมีชื่อว่า เอี้ยง จันทรสถิตย์ เกิดเมื่อวันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2442 ที่ตำบลเตาปูน อำเภอบางพลัด จังหวัดธนบุรี เป็นบุตรของนายอุ่น และนางเหม จันทรสถิตย์ ท่านสำเร็จการศึกษาระดับชั้นประถมจากโรงเรียนวัดคฤหบดี และระดับมัธยมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย ซึ่งท่านได้รับบรรจุเป็นครูฝึกหัดสอนที่โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยเป็นระยะเวลาสั้น ๆ ก่อนจะเข้าศึกษาในระดับอุดมศึกษาโดยสำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาตรีสาขาการเกษตรจากมหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ลอส บันยอส และปริญญาโทในสาขาการเกษตรจากมหาวิทยาลัยคอร์เนล โดยได้รับทุนรัฐบาลไทยในการศึกษาระดับอุดมศึกษา ซึ่งท่านเป็นคนแรกของประเทศไทยที่จบปริญญาโททางการเกษตรในต่างประเทศ
ภายหลังจบการศึกษาในปี พ.ศ. 2466 ท่านได้เข้ารับราชการครูสังกัดกระทรวงธรรมการ โดยเป็นครูโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมพระประโทน จังหวัดนครปฐม ก่อนจะย้ายไปประจำหลายแห่ง โดยไปที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม บางสะพานใหญ่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในปี พ.ศ. 2467 พร้อมกับได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์เป็น หลวงอิงคศรีกสิการ ที่โรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมทับกวาง จังหวัดสระบุรี ในปี พ.ศ. 2470 ที่โรงเรียนวัดเทพศิรินทร์และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2471 ดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์หัวหน้าคณะที่โรงเรียนวชิราวุธวิทยาลัยในปี พ.ศ. 2473 และดำรงตำแหน่งเป็นอาจารย์ใหญ่ประจำโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมโนนวัด จังหวัดนครราชสีมาในปี พ.ศ. 2477
ในปี พ.ศ. 2478 รัฐบาลได้ทำการยุบโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรม ท่านได้โอนราชการจากกระทรวงธรรมการไปสังกัดกรมเกษตรและการประมง โดยดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้ากองอุตสาหกรรมพืชพรรณ ในช่วงเวลาดังกล่าวท่านมีบทบาทในการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี พ.ศ. 2582 และได้ขอพระบรมราชานุญาตให้ถวายบังคมลาออกจากบรรดาศักดิ์ในปี พ.ศ. 2485 โดยใช้ชื่อและนามสกุลว่า อินทรี จันทรสถิตย์ และได้เป็นอธิบดีกรมเกษตรในเวลาต่อมา ก่อนจะลาออกจากราชการในปี พ.ศ. 2499 และเข้ารับราชการใหม่ในปี พ.ศ. 2501 เพื่อดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และในภายหลังได้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการสถาบันวิทยาศาสตร์ประยุกต์ในปี พ.ศ. 2512 นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ในปี พ.ศ. 2515 และได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในปี พ.ศ. 2519
อินทรี จันทรสถิตย์ เสียชีวิตเมื่อวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2532 ในระหว่างการรักษาโรคความดันต่ำ ณ โรงพยาบาลพญาไท 1 แขวงพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร สิริอายุได้ 89 ปี
อินทรี จันทรสถิตย์ได้ดำรงตำแหน่งทางราชการที่สำคัญและได้ส่งเสริมการเกษตรให้กับเกษตรกรตลอดที่ได้ทำงานราชการ โดยส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชไร่พื้นเมืองและนำเข้าพืชพรรณต่าง ๆ จากต่างประเทศมาเผยแพร่ เช่น ดอนย่า ต้นอินทนิลสีชมพู นุ่นพันธุ์โต มะรุมผักยาว พู่จอมพล เป็นต้น ท่านริเริ่มส่งเสริมการผลิตใบยายาสูบ ขยายงานส่งเสริมการเกษตรในระดับภาคให้มีหน่วยงานส่งเสริมการเกษตรในส่วนภูมิภาค และได้พัฒนาปรับปรุงพืชพันธุ์เพื่อแก้ปัญหาทางการเกษตร เช่น การต่อตาพันธุ์ทุเรียนที่ใกล้สูญพันธุ์จากเหตุการณ์น้ำท่วมของจังหวัดนนทบุรีในปี พ.ศ. 2485 รวมถึงส่งเสริมกิจการการประมงโดยจัดสรรที่ดินให้กรมประมงและส่งเสริมโครงการบำรุงพันธุ์ปลาแบบประชาอาสาขณะที่ดำรงตำแหน่งหัวหน้ากองอุตสาหกรรมพืชพรรณ
ภายหลังการก่อตั้งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านได้พัฒนางานทางด้านการเกษตรในมหาวิทยาลัยด้วยการทดลองปลูกพืชพันธุ์ต่าง ๆ อีกทั้งส่งเสริมด้านวิชาการ เช่น จัดพิมพ์วิทยาสารเกษตรศาสตร์ จัดประชุมวิชาการเกษตรในงานวันสถาปนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ จัดตั้งยุวกสิกร เป็นต้น
อินทรี จันทรสถิตย์ได้ริเริ่มพัฒนาการเรียนการสอนและวางรากฐานการศึกษาทางการเกษตรให้กับประเทศไทย รวมถึงการพัฒนาอาคารสถานที่ของสถานศึกษาเพื่ออำนวยการเรียนการสอน เช่น การก่อสร้างโรงเรียนฝึกหัดครูประถมกสิกรรมโนนวัด จังหวัดนครราชสีมาขณะที่ดำรงตำแหน่งอาจารย์ใหญ่ การก่อสร้างสถานีเกษตรกลางบางเขนซึ่งเป็นที่ตั้งของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในขณะที่ดำรงตำแหน่งอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ท่านมีบทบาทสำคัญในการริเริ่มโครงการเงินกู้จากธนาคารโลกเพื่อใช้พัฒนามหาวิทยาลัย จัดตั้งคณะใหม่ ๆ และพัฒนาอาคารสถานที่ให้พอเพียงกับการเรียนการสอนและการวิจัยในมหาวิทยาลัย ซึ่งท่านได้ริเริ่มให้มีการตั้งชื่ออาคารของมหาวิทยาลัยตามชื่อบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ให้กับวงการเกษตร รวมถึงส่งเสริมกิจกรรมนิสิตและก่อตั้งสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ด้วย