องค์ชายหย่งฉี (??) เป็นองค์ชายแห่งจักรวรรดิต้าชิง เป็นพระราชโอรสลำดับที่ห้าของสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลง ที่ประสูติกับพระมเหสีเอกหยู (???) องค์ชายหย่งฉีเป็นคนรอบคอบและขยันหมั่นเพียรตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ในบรรดาองค์ชายทั้งหมด ทรงเป็นท่านแรกที่ไปถึงสถานที่เรียนเสมอ ทรงสนิทสนมกับองค์ชายหย่งเหยี่ยน พระอนุชาต่างพระราชมารดา ทรงปรีชาสามารถในการตรัสภาษาแมนจูเรียและภาษามองโกลอย่างคล่องแคล่ว และยังทรงรอบรู้ด้านดาราศาสตร์ ภูมิศาสตร์ และการคำนวณปฏิทินจันทรคติ ทรงมีผลงานคือหนังสือเรื่อง เจียวถง เถิงเก่า (????) องค์ชายหยงฉี ยังทรงปรีชาสามารถในด้านการแต่งบทกวี และประดิษฐ์ตัวอักษร และอีกทั้งยังทรงมีฝีพระหัตถ์ในด้านการขี่ม้าและยิงธนู จากพรสวรรค์เหล่านี้ทำให้พระองค์ทรงเป็นที่สนิทเสน่หาของสมเด็จพระราชบิดายิ่งนัก ในค.ศ.1763 เกิดไฟไหม้ในพระราชวังฤดูร้อนเก่า และองค์ชายหย่งฉีได้ทรงแบกสมเด็จพระราชบิดาไว้บนหลังและพาไปที่ปลอดภัย สองปีต่อมาสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลงได้ทรงสถาปนาพระองค์ขึ้นเป็น “หรงชินอ๋อง” (???) และเป็นพระราชโอรสองค์แรกที่ได้รับพระนามอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ตัวอักษรคำว่า “หรง” (?) นั้นหมายถึง “บารมี” หรือ “เกียรติ” ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลง ทรงตั้งความหวังไว้สูงมากกับพระราชโอรสองค์นี้
องค์ชายหย่งฉี สิ้นพระชนม์ใน ค.ศ.1766 หลังจากทรงทุกข์ทนทรมานจากโรค "วัณโรคกระดูก" เป็นเวลาหลายเดือน (ทรงเริ่มประชวรตั้งแต่ได้รับพระนามเป็นหรงชินอ๋อง) ทรงได้รับพระนามหลังสิ้นพระชนม์ว่า “ฉุน” (?) อันหมายถึง “บริสุทธิ์” พระนามเต็มหลังสิ้นพระชนม์คือ “หรงฉุนชินอ๋อง” (????)
องค์ชายหย่งฉี มีพระสุสานอยู่ใกล้กับ “องค์ชายหย่งหวง” (??) พระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลงที่สิ้นพระชนม์ในวัยเพียง 22 พรรษา พระสุสานในบางครั้งถูกเรียกว่า “พระสุสานรัชทายาท” ตั้งอยู่ในตอนเหนือของกรุงปักกิ่งไปทางทิศตะวันออก อยู่ใกล้กับ อาคารปู้เหล่าถุน ในปี ค.ศ.1958 ที่ของพระสุสานถูกทำลายเพื่อทำการก่อสร้าง โครงกระดูกถูกเคลื่อนย้ายอย่างระมัดระวังและถูกนำไปเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์
พระราชมารดาขององค์ชายหย่งฉี ไม่ได้เป็นสมเด็จพระจักรพรรดินีแต่เป็นเพียงพระมเหสีเอก แต่องค์ชายหย่งฉี กลับได้ถูกสถาปนาขึ้นเป็นอ๋องลำดับที่หนึ่ง และมีสัญญาณว่าสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลงได้ทรงมีการพิจารณาให้องค์ชายหย่งฉีเป็นรัชทายาท แทนที่องค์ชายหย่งเหลี่ยน และ องค์ชายหย่งฉง ที่ประสูติกับสมเด็จพระจักรพรรดินี เช่นนี้ก็เป็นที่เชื่อและมั่นใจได้ว่าสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลง ได้ทรงสนับสนุน ส่งเสริม และหมายมั่นที่จะให้พระราชโอรสองค์นี้สืบราชบัลลังก์ต่อจากพระองค์ องค์ชายหย่งฉี เป็นองค์ชายที่โดดเด่นที่สุดในบรรดาพระราชโอรสของสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลง และทรงเลือกที่จะประสบความสำเร็จเหมือนกับสมเด็จพระราชบิดา แต่ก็ทรงสิ้นพระชนม์เพียง 25 พรรษา ใน ค.ศ.1793 เมื่อสมเด็จพระจักรพรรดิเฉียนหลงได้พบกับทูตอังกฤษชื่อ จอร์จ มาคาร์ทนีย์ ทูตคนนี้ก็พูดยกย่องและชื่นชอบในตัวองค์ชายหย่งฉีเป็นอันมาก