สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ เป็นสโมสรที่ยืนหยัดคู่กับวงการฟุตบอลไทยมา 50 ปี ได้สร้างชื่อเสียง และประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในอดีต ทีมตราโล่ และเสื้อสีเลือดหมูได้โลดแล่นอยู่ในวงการฟุตบอลไทยตลอดมา ในอดีตสโมสรฟุตบอลตำรวจ บริหารโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปี พ.ศ. 2551
ในปี พ.ศ. 2552 สโมสรตำรวจได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลในชื่อ บริษัท สโมสรฟุตบอลโล่ห์เงิน จำกัด (มหาชน) ตามระเบียบของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย (AFC) ที่ออกระเบียบให้สโมสรฟุตบอลทุกสโมสรในเอเชียรวมทั้งสมาคมฟุตบอลมีบริษัทเป็นของตนเอง และเปลี่ยนชื่อสโมสรจากสโมสรตำรวจมาเป็น สโมสรเพื่อนตำรวจและเปลี่ยนมาเป็น สโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจ ในปี พ.ศ. 2553 ตามเงื่อนไขจากพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งเป็นสโมสรแรกในประเทศไทยที่จดทะเบียนเป็นบริษัทมหาชน เพื่อให้เกิดการบริหารงานอย่างมีมาตรฐาน มีธรรมาภิบาลที่ดี โดยมีเป้าหมายเร่งด่วนเพื่อสร้างสโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจให้กลับไปอยู่ในลีกสูงสุด (เล่นอยู่ในระดับไทยลีกดิวิชั่น 1 ในปี พ.ศ. 2552) และพัฒนาให้เป็นทีมระดับแนวหน้าของประเทศ ซึ่งก็สามารถขึ้นสู่ไทยลีกได้ตามเป้าหมาย ด้วยการครองแชมป์ดิวิชั่น 1 โดยมีแฟนบอลผู้สนับสนุนทีมที่มาจากพี่น้องครอบครัวตำรวจทั่วประเทศ และประชาชนทั่วไปที่หลงใหลในกีฬาฟุตบอลเป็นส่วนช่วยผลักดันให้สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจไปสู่เป้าหมายได้สำเร็จ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2557 ได้มีการเปลี่ยนชื่อเป็น สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ เหมือนเดิม ด้วยเหตุผลทางธุรกิจ และได้ปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่เพื่อให้ทันสมัยยิ่งขึ้น
ในวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2559 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ป.ป.ง. ได้ทำการยึดทรัพย์จำนวน 800 ล้านบาทของนาย สัมฤทธิ์ บัณฑิตกฤษดา หรือ เสี่ยบิ๊ก ประธานบริหารทีมเพื่อนตำรวจโดยหนึ่งในทรัพย์สินที่ถูกยึดทรัพย์นั้นมีทีมเพื่อนตำรวจรวมอยู่ด้วยสืบเนื่องมาจากนายสัมฤทธิ์ได้นำเงินที่ทุจริตมาบริหารทีมเพื่อนตำรวจ ทำให้ไม่ผ่านคลับ ไลเซนซิ่ง จึงถูก บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก จำกัด สั่งพักทีมเป็นเวลา 1 ปี
สโมสรฟุตบอลเพื่อนตำรวจ เป็นสโมสรแรกๆของประเทศไทย ที่มีแนวนโยบายในการสนับสนุนทีมอะคาเดมี่ เพื่อสร้างพัฒนาการของนักกีฬาตั้งแต่อายุยังน้อย รวมทั้งสร้างนักกีฬาเยาวชนให้สามารถขึ้นมาสู่ชุดใหญ่ โดยในปี 2009 สโมสรได้ทำ MOU กับโรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สวนกุหลาบวิทยาลัย ปทุมธานี ในการเป็นฐานอะคาเดมี่ของโรงเรียน ซึ่งต่อมาได้มีผลผลิตจำนวนมากที่ปั้นขึ้นสู่ชุดใหญ่ได้ รวมทั้งปัจจุบัน (2557) สโมสรยังมีแนวนโยบายคงเดิมในการสร้างทีมอะคาเดมี่ เพื่อเป็นรากฐานที่มั่นคงของสโมสรต่อไป
สโมสรเพื่อนตำรวจ นอกจากจะเป็นสโมสรแรกๆที่ได้มีการพัฒนาทีมอะคาเดมี่แล้วนั้น ยังเป็นทีมลำดับต้นๆของประเทศไทย ที่มีการสร้างทีมสำรอง ซึ่งเป็นนักกีฬาที่ขึ้นมาจากทีมอะคาเดมี่ เพื่อเป็นพื้นที่พัฒนาผีเท้า ก่อนขึ้นสู่ชุดใหญ่ของเพื่อนตำรวจต่อไป โดยมีการดูแลทีมแบบมืออาชีพ มีทีมผู้ฝึกสอนประจำ รวมทั้งทีทกายภาพบำบัดและทีมวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่พร้อมดูแลนักกีฬาอย่างมืออาชีพ นอกจากนี้นักฟุตบอลทีมสำรอง จะได้รับการจับตามองอย่างใกล้ชิด และหากผีเท่าพร้อม จะถูกดันขึ้นสู่ชุดใหญ่ต่อไป โดยสโมสรได้จับมือเป็นพันธมิตรกับทีมในระดับดิวิชั่น 2 เพื่อให้นักกีฬาได้สัมผัสเกมส์อาชีพเป็นประจำ รวมทั้งเพื่อให้นักกีฬาได้สัมผัสความเป็นมืออาชีพและพร้อมพัฒนาตัวเองสู่ชุดใหญ่ต่อไป นอกจากนี้นักกีฬาทีมสำรองยังสร้างผลงานได้อย่างเป็นที่น่าประทับใจ เนื่องจากมีอายุฉลี่ยไม่เกิน 21 ปี ตามแนวนโยบายของสโมสร แต่ยังสามารถลับแข้งกับสโมสรอาชีพอื่นๆได้อย่างเต็มความภาคภูมิ
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
อ่านบทความฉบับสมบูรณ์ได้ที่ http://th.wikipedia.org/wiki/สโมสรฟุตบอลอินทรีเพื่อนตำรวจ