ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด

สโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด (อังกฤษ: Newcastle United Football Club; ตัวย่อ: NUFC) เป็นทีมฟุตบอลอาชีพของอังกฤษที่ตั้งอยู่ในเมืองนิวคาสเซิล อะพอน ไทน์ และเล่นในพรีเมียร์ลีก ลีกสูงสุดของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรก่อตั้งขึ้นใน ค.ศ. 1892 จากการควบรวมกิจการของนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์ และ นิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ สนามเหย้าปัจจุบันคือเซนต์เจมส์พาร์ก ตั้งอยู่ใจกลางเมืองนิวคาสเซิลด้วยความจุ 52,374 ที่นั่ง

หากนับจนถึง ค.ศ. 2024 นิวคาสเซิลยูไนเต็ดลงเล่นในลีกสูงสุดมากถึง 92 ฤดูกาล นับตั้งแต่เข้าร่วมอิงกลิชฟุตบอลลีกใน ค.ศ. 1893 และยังไม่เคยเล่นในลีกต่ำกว่าลีกระดับสองของฟุตบอลอังกฤษแม้แต่ฤดูกาลเดียว และพลาดการลงเล่นในพรีเมียร์ลีกเพียงสามฤดูกาลตั้งแต่ก่อตั้งการแข่งขัน สโมสรชนะเลิศฟุตบอลลีกสูงสุด 4 สมัย, เอฟเอคัพ 6 สมัย และ เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 1 สมัย รวมทั้ง อินเตอร์-ซิตีส์แฟส์คัพ และ ยูฟ่าอินเตอร์โตโตคัพ รายการละ 1 สมัย ถือเป็นสโมสรที่ชนะเลิศถ้วยรางวัลมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ของฟุตบอลอังกฤษ สโมสรประสบความสำเร็จสูงในทศวรรษ 1900 โดยชนะเลิศฟุตบอลดิวิชันหนึ่ง 3 สมัย และเอฟเอคัพ 1 สมัย ถ้วยรางวัลในประเทศรายการล่าสุดของสโมสรคือเอฟเอคัพ ค.ศ. 1955 สโมสรคว้ารองแชมป์ฟุตบอลลีกและฟุตบอลเอฟเอคัพได้อีก 4 ครั้งในทศวรรษ 1990 นิวคาสเซิลตกชั้นในยุคพรีเมียร์ลีกสองครั้งในฤดูกาล 2009 และ 2016 แต่สามารถเลื่อนชั้นกลับมาได้ภายในฤดูกาลเดียวทั้งสองครั้งในฐานะผู้ชนะการแข่งขันอีเอฟแอลแชมเปียนชิป ค.ศ. 2010 และ 2017 สโมสรมีคู่แข่งในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือคือ ซันเดอร์แลนด์ และถือเป็นหนึ่งในการพบกันของสองสโมสรที่ดุเดือดที่สุดในอังกฤษ

สีประจำทีมคือเสื้อเชิ้ตลายทางขาวดำ กางเกงขาสั้นสีดำ และถุงเท้าสีดำหรือสีขาว ตราอาร์มของสโมสรมีที่มาจากตราประจำเมืองนิวคาสเซิลซึ่งมีรูปฮิปโปแคมปัสสองตัว นิวคาสเซิลเป็นหนึ่งในสโมสรที่มีผู้ติดตามมากที่สุดในอังกฤษ ผู้สนับสนุนของสโมสรมีวัฒนธรรมในการร้องเพลง "Going Home" และ "Blaydon Races" ในสนาม และใน ค.ศ. 2005 ภาพยนตร์สัญชาติอังกฤษเรื่อง โกล์ ได้ออกฉายโดยมีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับสโมสรนิวคาสเซิลซึ่งได้สะท้อนถึงความคลั่งไคล้ของกลุ่มผู้สนับสนุน ไมก์ แอชลีย์ เข้าซื้อกิจการและควบคุมสโมสรในช่วงระหว่าง ค.ศ. 2007–2021 ก่อนจะขายสโมสรให้กลุ่มทุนจากซาอุดีอาระเบียในราคา 300 ล้านปอนด์ โดยมียาซิร อัรรุมัยยาน เป็นประธานสโมสร ภายใต้บริหารโดยกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ และอาร์บีสปอร์ตแอนด์มีเดีย ส่งผลให้พวกเขาเป็นสโมสรที่ร่ำรวยที่สุดในพรีเมียร์ลีก

ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1881 ทีมคริกเก็ตสแตนลีย์ได้ตัดสินใจตั้งทีมฟุตบอลขึ้น เพื่อลงเล่นในช่วงที่ฤดูกาลแข่งขันคริกเก็ตปิดตัวลงในฤดูหนาว พวกเขาชนะเกมแรกด้วยผลประตู 5–0 โดยมีคู่แข่งเป็นทีมเอลสวิกเลเธอร์เวิร์คส์ชุดสำรอง หนึ่งปีต่อมา ทีมก็ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์

ขณะเดียวกัน ทีมคริกเก็ตอีกทีมหนึ่งในย่านเดียวกันก็ได้เริ่มสนใจที่จะตั้งทีมฟุตบอล จนกระทั่งมีการก่อตั้งสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ขึ้น ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1882 โดยในช่วงแรกนั้น พวกเขาใช้สนามคริกเก็ตเดิมเป็นสนามเหย้า ก่อนที่จะย้ายไปลงเตะในเซนต์เจมส์พาร์ก หลังจากนั้น ได้มีการจัดตั้งฟุตบอลลีกท้องถิ่นขึ้นในปี 1889 การที่มีลีกอาชีพในบริเวณใกล้เคียงให้ลงเตะ ประกอบกับความสนใจในถ้วยเอฟเอคัพ ทำให้นิวคาสเซิลอีสต์เอนด์เปลี่ยนจากทีมสมัครเล่นมาเป็นทีมอาชีพในปีเดียวกันนั้นเอง แต่ทว่าทางฝั่งนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์กลับล้มเหลวที่จะตามรอยทีมเพื่อนบ้านสู่สถานะทีมฟุตบอลอาชีพ กระทั่งในช่วงต้นปี 1892 ผู้บริหารของนิวคาสเซิลเวสต์เอนด์ได้ตัดสินใจที่จะขอเข้าควบกิจการกับนิวคาสเซิลอีสต์เอนด์ เพื่อมิให้ทีมต้องยุบตัวลง การควบกิจการเป็นไปด้วยดี ในเดือนธันวาคม 1892 ชื่อ นิวคาสเซิลยูไนเต็ด ก็ถูกเลือกให้เป็นชื่อใหม่ของทีม และมีผู้จัดการทีมคนแรกคือ แฟรงก์ วัตต์

นิวคาสเซิลคว้าแชมป์ลีกสูงสุดได้ถึงสามสมัยในช่วงทศวรรษ 1900 และยังเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพถึง 5 ครั้งใน 7 ฤดูกาล แต่เป็นแชมป์เพียงครั้งเดียวใน ค.ศ. 1910 โดยเอาชนะบาร์นสลีย์ในการเตะนัดรีเพลย์ที่กูดิสันพาร์ก หลังจากสงครามโลกครั้งที่หนึ่งสิ้นสุดลง พวกเขาคว้าแชมป์เอฟเอคัพได้อีกสมัยโดยเอาชนะแอสตันวิลลาที่สนามเวมบลีย์ และได้แชมป์ลีกอีกหนึ่งสมัยในฤดูกาล 1927 ด้วยผลงานของกองหน้าคนสำคัญและกัปตันทีมอย่าง ฮักกี แกลลาเชอร์ นักฟุตบอลชาวสกอต ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดตลอดกาลของสโมสร แต่หลังจากนั้นผลงานทีมก็ตกลงไป และกลายเป็นทีมกลางตาราง โดยต้องหนีตกชั้นในปี 1930 ก่อนที่แกลลาเกอร์จะลาทีมในปีนั้นเพื่อไปร่วมทีมเชลซี และ แอนดี คันนิงแฮม อดีตผู้เล่นสโมสรเข้ามาคุมทีมต่อในปี 1930–35 และพาทีมได้แชมป์เอฟเอคัพสมัยที่ 3 ในปี 1932 ชนะอาร์เซนอล 2–1 แต่ผลงานในลีกของทีมก็ยังย่ำแย่ต่อเนื่อง และต้องตกชั้นในฤดูกาล 1933–34 หลังจากเล่นในลีกสูงสุดนาน 35 ปี คันนิงแฮมลาออก โดยมี ทอม มาเธอร์ เข้ามารับตำแหน่งต่อ

การเข้ามาของมาเธอร์ก็ยังไม่อาจยกระดับทีมได้ นิวคาสเซิลยังเป็นทีมท้ายตารางในดิวิชันสอง และเกือบจะต้องตกสู่ดิวิชันสามในฤดูกาล 1937–38 แต่เอาตัวรอดได้ด้วยผลประตูได้เสียที่ดีกว่าทีมอื่น ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองเริ่มต้นในปี 1939 ทีมมีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ โดยนำผู้เล่นใหม่เข้ามาเป็นแกนหลัก เช่น แจคกี มิลเบิร์น, ทอมมี วอล์คเกอร์ และบ็อบบี โคเวลล์พวกเขาเลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดอีกครั้งหลังจบฤดูกาล 1947–48 ด้วยผลงานคุมทีมของ จอร์จ มาร์ติน

ในช่วงทศวรรษ 1950 นิวคาสเซิลเป็นแชมป์เอฟเอคัพถึง 3 สมัยในช่วงเวลา 5 ปี โดยชนะแบล็กพูล 2–0 ในปี 1951 ชนะอาร์เซนอล 1–0 ในปี 1952 และชนะแมนเชสเตอร์ซิตี 3–1 ในปี 1955 โดยในยุคนั้น มีผู้เล่นชื่อดังหลายคน เช่น แจคกี มิลเบิร์น, บ็อบบี มิทเชลล์ และ สแตน เซมัวร์ แต่ทีมกลับไปทำผลงานในลีกกระท่อนกระแท่นอีกครั้ง และตกชั้นอีกครั้งหลังจบฤดูกาล 1960–61 ในยุคของผู้จัดการทีม ชาร์ลี มิธเทน ซึ่งได้ลาออก หลังจากตกชั้นลงไปดิวิชันสองอยู่ชั่วขณะ นิวคาสเซิลที่นำโดยผู้จัดการทีม โจ ฮาร์วีย์ ก็ได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุดในปี 1965 ทีมของฮาร์วีย์ทำอันดับผ่านเข้าไปเล่นฟุตบอลถ้วยยุโรปครั้งแรกในปี 1968 ก่อนจะคว้าแชมป์ถ้วยอินเตอร์-ซิตีส์ แฟร์ส คัพ (ยูโรปาลีกในปัจจุบัน) ไปครองอย่างเหนือความคาดหมายในปีถัดมา โดยชนะทีมใหญ่ในยุโรปของยุคนั้นไปได้หลายราย ไม่ว่าจะเป็นสปอร์ติงลิสบอนจากโปรตุเกส, ไฟเยอโนร์ดจากเนเธอร์แลนด์ และเรอัลซาราโกซาจากสเปน และปิดท้ายด้วยการคว่ำทีมอุจเพสท์จากฮังการีในรอบชิงชนะเลิศ นับตั้งแต่ก่อตั้งทีมมา นิวคาสเซิลมักจะมอบเสื้อหมายเลข 9 ให้แก่ผู้เล่นกองหน้าชื่อดังประจำทีม โดยประเพณีนี้ยังคงตกทอดต่อมาจนถึงปัจจุบัน สำหรับในช่วงเวลานั้น ผู้เล่นที่ได้ใส่เสื้อหมายเลข 9 มีหลายคน เช่น วิน เดวีส์, บ็อบบี มอนเคอร์ หรือแฟรงค์ คลาร์ก

หลังจากประสบความสำเร็จในฟุตบอลยุโรป ฮาร์วีย์ก็ได้ดึงตัวผู้เล่นเกมรุกชื่อดังมากมายเข้ามาร่วมทีม นับตั้งแต่ จิมมี สมิธ, โทนี กรีน และเทอร์รี ฮิบบิทท์ ไปจนถึงยอดศูนย์หน้าอย่าง มัลคอล์ม แมคโดแนลด์ เจ้าของฉายา 'ซูเปอร์แมค' ผู้เป็นหนึ่งในตำนานของสโมสร แมคโดแนลด์พานิวคาสเซิลเข้าชิงชนะเลิศถ้วยเอฟเอคัพและลีกคัพกับลิเวอร์พูลและแมนเชสเตอร์ซิตีในปี 1974 และ 1976 ตามลำดับ แต่ก็แพ้ไปทั้งสองครั้ง ในช่วงต้นทศวรรษ 1980 นิวคาสเซิลอยู่ในช่วงตกต่ำ โดยได้ตกชั้นลงไปเล่นอยู่ในดิวิชัน 2 หลายปี ก่อนที่ผู้จัดการทีมอาร์เธอร์ ค็อกซ์จะสร้างทีมขึ้นมาใหม่โดยมีเควิน คีแกน อดีตกัปตันทีมชาติอังกฤษเป็นแกนหลัก กระทั่งได้เลื่อนชั้นกลับสู่ลีกสูงสุด หลังจากนั้น นิวคาสเซิลเล่นอยู่ในดิวิชัน 1 จนกระทั่งตกชั้นอีกครั้งในปี 1989

ใน ค.ศ. 1992 เควิน คีแกน ได้กลับคืนสู่นิวคาสเซิลอีกครั้งในฐานะผู้จัดการทีม เมื่อเขาตอบรับสัญญาระยะสั้นเข้ามาคุมทีมแทนออสซี อาร์ดิเลส ในขณะนั้น นิวคาสเซิลกำลังดิ้นรนหนีการตกชั้นอยู่ในดิวิชันสอง แม้ว่าจะเพิ่งถูกซื้อกิจการโดยเซอร์ จอห์น ฮอลล์ และรอดพ้นการตกชั้น โดยเอาชนะปอร์ทสมัธและเลสเตอร์ซิตีในสองเกมสุดท้าย ในฤดูกาลถัดมา ผลงานของนิวคาสเซิลเปลี่ยนแปลงไปจากหน้ามือเป็นหลังมือ พวกเขาเล่นฟุตบอลเกมรุกแบบตื่นตาตื่นใจ จนกระทั่งคว้าชัยชนะในเกมลีก 11 นัดแรก ก่อนที่จะก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งแชมป์ดิวิชัน 1 และเลื่อนชั้นขึ้นสู่พรีเมียร์ลีกด้วยชัยชนะเหนือกริมสบี ทาวน์ 2–0 พวกเขาจบฤดูกาล 1993–94 ที่อันดับ 3 และได้รับการตั้งฉายาโดยสื่อมวลชนอังกฤษว่าเป็น "The Entertainers" ในปีถัดมา นิวคาสเซิลจบฤดูกาลที่อันดับ 6 หลังจากขายกองหน้าคนสำคัญอย่าง แอนดี โคล ให้แมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดอย่างค้านสายตาแฟนบอล รวมถึง คีธ กิลเลสพี ปีกดาวรุ่งชาวไอริช ในปี 1995–96 นิวคาสเซิลเสริมทีมครั้งใหญ่ โดยดึงตัว ดาวิด ชิโนลา และ เลส เฟอร์ดินานด์ มาร่วมทีม พวกเขาเกือบคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกได้ แต่ทำได้เพียงรองแชมป์ ทั้งที่ในช่วงคริสต์มาสพวกเขาทิ้งห่างแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ดถึง 12 คะแนน และเกมที่นิวคาสเซิลพ่ายให้กับลิเวอร์พูลไป 3–4 ที่สนามแอนฟิลด์ในฤดูกาลนี้ ได้รับการโหวตให้เป็นเกมยอดเยี่ยมตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก นิวคาสเซิลคว้าอันดับ 2 อีกครั้งในปีถัดมา โดยเซ็นสัญญากองหน้าทีมชาติอังกฤษ แอลัน เชียเรอร์ มาร่วมทีมด้วยค่าตัวสถิติโลก 15,000,000 ปอนด์ ปีนี้เป็นที่จดจำของแฟนบอลหลายคน ในนัดที่สโมสรเอาชนะแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด 5–0

ในเดือนมกราคม ค.ศ. 1997 คีแกนลาออก และถูกแทนที่โดยเคนนี ดัลกลิช ซึ่งได้รับเลือกเพื่อมาช่วยแก้ปัญหาเกมรับของทีม ในช่วงครึ่งฤดูกาลหลังของปี 1997-98 ดัลกลิชพานิวคาสเซิลเข้าไปเล่นฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกแต่ก็ตกรอบแบ่งกลุ่ม และพ่ายอาร์เซนอลในรอบชิงชนะเลิศเอฟเอคัพ 0–2 หลังจากนั้น แฟนบอลก็เริ่มไม่พอใจกับสไตล์การทำทีมที่เน้นเกมรับ เมื่อบวกกับผลงานที่ตกต่ำลง ทำให้ดัลกลิชถูกปลดในช่วงต้นฤดูกาล 1998-99 รืด คึลลิต เข้ามารับตำแหน่งต่อ และพาทีมเข้าชิงชนะเลิศเอฟเอคัพอีกครั้ง ก่อนจะพ่ายแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด และคึลลิตได้ทำการซื้อตัวผู้เล่นราคาแพงหลายคนที่ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง เช่นมาร์เซลิโน และซิลวิโอ มาริช และยังมีปากเสียงกับผู้เล่นหลายคน กอปรกับการเริ่มต้นฤดูกาล 1999–2000 ย่ำแย่ ทำให้คึลลิตลาออกหลังจากผ่านไปเพียง 5 นัด โดยทีมอยู่ท้ายตารางและถูกแทนที่โดยบ็อบบี ร็อบสัน ในปี 1999 นิวคาสเซิลเป็นสโมสรที่ทำรายได้สูงสุดเป็นอันดับ 5 ของโลก อันดับ 2 ในอังกฤษรองจากแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด

การลุ้นแชมป์ลีกเกิดขึ้นในช่วง ฤดูกาล 2001–02 และการจบอันดับที่ 4 ของนิวคาสเซิลทำให้พวกเขาได้สิทธิ์เล่นในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาลถัดมา ร็อบสันนำทีมลุ้นแชมป์ลีกอีกครั้งและจบอันดับที่ 3 ในลีก และเป็นครั้งที่ 2 ในรอบแบ่งกลุ่มของแชมเปียนส์ลีก เป็นทีมแรกที่ผ่านรอบแบ่งกลุ่มรอบแรกหลังจากแพ้สามนัดแรก นิวคาสเซิลจบอันดับที่ 5 ในลีกเมื่อจบฤดูกาล 2003–04 และตกรอบแชมเปียนส์ลีกในรอบคัดเลือก แต่ถึงกระนั้น ร็อบสันก็ถูกปลดในเดือนสิงหาคม 2004 หลังจากมีความขัดแย้งกับสโมสรหลายครั้ง

เกรอัม ซูนิสส์เข้ามาคุมทีมเมื่อเริ่มต้นฤดูกาล 2004–05 เขาทำลายสถิติการย้ายทีมของสโมสรในเวลานั้นด้วยการเซ็นสัญญากับไมเคิล โอเวน กองหน้าทีมชาติอังกฤษจากเรอัลมาดริด ในราคา 16.8 ล้านปอนด์ ซูนิสส์ยังพานิวคาสเซิลเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศของยูฟ่าคัพ 2004–05 พร้อมกับแอลัน เชียเรอร์ที่คว้ารางวัลรองเท้าทองคำประจำการแข่งขัน อย่างไรก็ตาม เขาถูกปลดในเดือนกุมภาพันธ์ 2006 หลังทำผลงานในช่วงต้นฤดูกาล 2005–06 ได้ไม่ดีนัก เกล็น โรเดอร์ เข้ารับตำแหน่งชั่วคราว ก่อนจะได้รับการแต่งตั้งถาวรเมื่อจบฤดูกาล เชียเรอร์ประกาศเลิกเล่นอาชีพเมื่อจบฤดูกาล 2005–06 ในฐานะผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของสโมสรด้วยจำนวน 206 ประตู รวมทั้งเป็นผู้ทำประตูสูงสุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีกจำนวน 260 ประตู

ในปี 2006 นิวคาสเซิลคว้าแชมป์อินเตอร์โตโตคัพ เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ และเป็นถ้วยยุโรปใบแรกนับตั้งแต่ปี 1973 แม้จะจบฤดูกาล 2005–06 ในอันดับที่ 7 แต่โชคชะตาของโรเดอร์ก็เปลี่ยนไปในฤดูกาล 2006–07 เมื่อผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ได้รับบาดเจ็บ และเขาออกจากสโมสรโดยความยินยอมร่วมกันในวันที่ 6 พฤษภาคม 2007 แซม อัลลาร์ไดซ์ ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมเมื่อ 15 พฤษภาคม ค.ศ. 2007

เมื่อวันที่ 7 มิถุนายน ค.ศ. 2007 หุ้นสุดท้ายของเฟรดดี เชพเพิร์ด ในสโมสรถูกขายให้กับไมค์ แอชลีย์ และคริส มอร์ต ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรแทนเชพเพิร์ด ในวันที่ 25 กรกฎาคม จากนั้นแอชลีย์ประกาศว่าเขาจะนำสโมสรออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนเมื่อเสร็จสิ้นการเทคโอเวอร์ สโมสรยุติการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์อย่างเป็นทางการ ณ เวลา 8.00 น. ของวันที่ 18 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 ที่ 5 ปอนด์ต่อหุ้น อัลลาร์ไดซ์ออกจากสโมสรในเดือนมกราคม ค.ศ. 2008 โดยความยินยอมร่วมกันหลังจากเริ่มต้นฤดูกาล 2007–08 ได้ไม่ดีนัก และเควิน คีแกน ตำนานของสโมสรได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทีมอีกครั้ง มอร์ตก้าวลงจากตำแหน่งประธานสโมสรในเดือนมิถุนายน และถูกแทนที่โดย ดีเร็ก ลัมเบียส ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมงานมาอย่างยาวนานของแอชลีย์ นิวคาสเซิลจบฤดูกาล 2007–08 ในอันดับที่ 12 แต่เมื่อฤดูกาลใกล้จะจบลง คีแกนวิพากษ์วิจารณ์คณะกรรมการบริหารต่อสาธารณชน โดยระบุว่าพวกเขาไม่ได้ให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ทีมอย่างเพียงพอ

ในเดือนกันยายน ค.ศ. 2008 คีแกนลาออก อดีตผู้จัดการทีมวิมเบิลดัน โจ คินเนียร์ ได้รับการแต่งตั้งแทน แต่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2009 เนื่องจากเขาเข้ารับการผ่าตัดหัวใจ แอลัน เชียเรอร์ กองหน้าของสโมสรจึงได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการทีมชั่วคราว สโมสรตกชั้นสู่แชมเปียนชิปเมื่อจบฤดูกาล 2008–09 เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าร่วมการแข่งขันพรีเมียร์ลีก ค.ศ. 1993 หลังจากการตกชั้น คินเนียร์และเชียเรอร์ลาออก สโมสรถูกประกาศขายในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2009 ด้วยราคา 100 ล้านปอนด์ คริส ฮิวตันได้รับตำแหน่งผู้จัดการทีมรักษาการ ก่อนจะรับตำแหน่งถาวรในวันที่ 27 ตุลาคม ค.ศ. 2009 ในวันเดียวกัน แอชลีย์ประกาศยุติการขายสโมสร

ฮิวตันนำนิวคาสเซิลคว้าแชมป์ แชมเปียนชิป ฤดูกาล 2009–10 และเลื่อนชั้นสู่พรีเมียร์ลีกในวันที่ 5 เมษายน ค.ศ. 2010 โดยเหลือการแข่งขันอีก 5 นัดและคว้าแชมป์ในวันที่ 19 เมษายน เป็นเลื่อนชั้นหลังจากผ่านไปเพียง 1 ฤดูกาล นิวคาสเซิลทำผลงานยอดเยี่ยมในฤดูกาล 2010–11 แต่ฮิวตันถูกปลดในวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 2010 คณะกรรมการของสโมสรระบุสาเหตุว่า "ต้องการบุคคลที่มีประสบการณ์ในการบริหารมากกว่านี้ เพื่อนำพาสโมสรไปข้างหน้า" สามวันต่อมา อลัน พาร์ดิวได้รับการแต่งตั้งด้วยสัญญา 5 ปีครึ่ง นิวคาสเซิลจบอันดับ 12 โดยมีการแข่งขันสำคัญคือการเปิดบ้านเสมออาร์เซนอลด้วยผลประตู 4–4 ซึ่งนิวคาสเซิลตามหลังไปก่อน 0–4 ต่อมา ช่วงเริ่มต้นฤดูกาล 2011–12 พวกเขาเปิดฤดูกาลโดยไม่แพ้ใครใน 11 นัดแรก จบฤดูกาลโดยได้สิทธิ์ไปเล่นยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2012–13 โดยจบอันดับ 5 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในลีกนับตั้งแต่ยุคของ บ็อบบี ร็อบสัน และพาร์ดิวยังคว้าทั้งรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมประจำฤดูกาลของพรีเมียร์ลีก และรางวัลผู้จัดการทีมยอดเยี่ยมแห่งปีของสมาคมผู้จัดการทีมฟุตบอล

ฤดูกาลถัดมา นิวคาสเซิ่ลซื้อนักเตะได้ไม่กี่ราย และมีผู้เล่นบาดเจ็บตลอดฤดูกาล เป็นผลให้ครึ่งแรกของฤดูกาลพวกเขาแพ้ 10 จาก 13 นัดซึ่งทำให้สโมสรอยู่ใกล้พื้นที่ตกชั้น ส่วนการแข่งขันยูโรปาลีก สโมสรเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศก่อนที่จะแพ้ไบฟิกา ส่วนการแข่งขันในลีก นิวคาสเซิลต้องดิ้นรนและรอดพ้นการตกชั้นหลังจากชัยชนะ 2–1 เหนือควีนส์พาร์กเรนเจอส์ในนัดสุดท้ายของฤดูกาล

ฤดูกาล 2014–15 นิวคาสเซิลไม่ชนะใครเลยใน 7 นัดแรก ทำให้แฟนบอลเรียกร้องให้สโมสรปลดพาร์ดิวจากตำแหน่ง ก่อนที่ทีมจะทำผลงานดีขึ้น และขึ้นสู่อันดับ 5 พาร์ดิวออกจากสโมสรเพื่อรับงานคุมทีมคริสตัลพาเลซในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2014 ต่อมา วันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2015 จอห์น คาร์เวอร์ อดีตผู้ช่วยของพาร์ดิวได้รับการแต่งตั้งให้คุมทีมชั่วคราวจนจบฤดูกาล สโมสรรอดตกชั้นในวันสุดท้ายด้วยชัยชนะในบ้านต่อเวสต์แฮมยูไนเต็ด 2–0 โดยมีโฆนัส กูติเอร์เรซ ซึ่งรักษาตัวจากโรคมะเร็งอัณฑะเมื่อต้นฤดูกาลเป็นผู้ทำประตู เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 2015 คาร์เวอร์อำลาตำแหน่ง และถูกแทนที่โดยสตีฟ แมคคลาเรน อดีตผู้ช่วยของ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน แต่ถูกปลดเมื่อวันที่ 11 มีนาคม ค.ศ. 2016 หลังผ่านไปเพียง 9 เดือน โดยนิวคาสเซิลอยู่ในอันดับที่ 19 และชนะเพียง 6 จาก 28 นัดในพรีเมียร์ลีก เขาถูกแทนที่โดยผู้จัดการทีมชื่อดังชาวสเปน ราฟาเอล เบนิเตซ โดยเซ็นสัญญา 3 ปี แต่ไม่สามารถช่วยให้สโมสรรอดพ้นการตกชั้นเป็นครั้งที่สองในยุคการบริหารของแอชลีย์

อย่างไรก็ตาม นิวคาสเซิลกลับสู่พรีเมียร์ลีกโดยคว้าแชมป์อีเอฟแอลแชมเปียนชิป ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2017 ในเดือนตุลาคม ไมค์ แอชลีย์ ประกาศขายทีมอีกครั้ง ทีมจบฤดูกาลในอันดับที่ 10 ซึ่งเป็นอันดับสูงสุดในรอบ 4 ปี ในฤดูกาลถัดมา พวกเขาจบในอันดับที่ 13 แม้ว่าจะอยู่ในโซนตกชั้นในเดือนมกราคม แอชลีย์ได่รับการวิจารณ์ต่อเนื่อง ในแง่การขาดการสนับสนุนงบประมาณให้แก่ทีม และเห็นได้ชัดว่าเขามุ่งเน้นไปที่ธุรกิจอื่น ๆ ของเขามากกว่า เบนิเตซออกจากตำแหน่งในวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2019 หลังจากปฏิเสธสัญญาฉบับใหม่ เมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม ค.ศ. 2019 สตีฟ บรูซ อดีตผู้จัดการทีมคู่อริอย่างซันเดอร์แลนด์ ได้รับการแต่งตั้งด้วยสัญญา 3 ปี พาทีมจบอันดับที่ 13 และ 12 ในช่วงสองฤดูกาลแรกที่เขาคุมทีม ซึ่งทั้งสองฤดูกาลได้รับผลกระทบจากการระบาดทั่วของโควิด-19

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2021 หลังจากเป็นเจ้าของมา 14 ปี แอชลีย์ได้ขายสโมสรให้กับกลุ่มทุนใหม่ในราคา 305 ล้านปอนด์ กลุ่มทุนประกอบด้วยกองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะของซาอุดีอาระเบีย, อาร์บีสปอร์ตแอนด์มีเดีย โดย เดวิด รูเบน และไซมอน รูเบน และ PCP Capital Partners ในวันพุธที่ 20 ตุลาคม บรูซออกจากตำแหน่งโดยความยินยอมร่วมกัน หลังจากได้รับรายงานการจ่ายเงินชดเชย 8 ล้านปอนด์ เอ็ดดี ฮาว อดีตผู้จัดการทีมบอร์นมัทได้รับการแต่งตั้งในวันที่ 8 พฤศจิกายน ค.ศ. 2021 ฮาวนำสโมสรจบอันดับ 11 หลังจากชนะ 12 นัดจาก 18 นัดสุดท้ายของฤดูกาล ทำให้นิวคาสเซิลกลายเป็นทีมแรกในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีกที่รอดพ้นการตกชั้นหลังจากไม่ชนะเลยใน 14 นัดแรก

ก่อนฤดูกาล 2022–23 สโมสรได้ดึงแดน แอชเวิร์ธ จากไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียนมาเป็นผู้อำนวยการกีฬาคนใหม่ และดาร์เรน เอลส์ จากเมเจอร์ลีกซอกเกอร์ แอตแลนตายูไนเต็ด มาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารสโมสร ในวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม ค.ศ. 2022 สโมสรฟุตบอลหญิงนิวคาสเซิลยูไนเต็ดย้ายเข้ามาอยู่ภายใต้การบริหารของสโมสรเป็นครั้งแรก หลังจากการปรับโครงสร้างอย่างเป็นทางการ ฮาวพานิวคาสเซิลทำผลงานได้ดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่คุมทีม โดยในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2023 นิวคาสเซิลจบอันดับ 4 ผ่านเข้าไปเล่นในรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกได้เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ฤดูกาล ความสำเร็จดังกล่าวได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของแอมะซอนไพรม์วิดีโอ จัดทำสารคดีที่ชื่อว่า We Are Newcastle United พวกเขาจบอันดับ 7 ในฤดูกาล 2023–24 รวมทั้งตกรอบแบ่งกลุ่มยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ซึ่งพวกเขาอยู่ร่วมกับสโมสรใหญ่อย่างเอซี มิลาน, ปารีแซ็ง-แฌร์แม็ง และ โบรุสซีอาดอร์ทมุนท์

ตลอดประวัติศาสตร์ของนิวคาสเซิลยูไนเต็ด สนามเหย้าของพวกเขาคือ St James' Park ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลที่เก่าแก่และใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ เช่นเดียวกับเป็นสนามฟุตบอลที่ใหญ่เป็นอันดับหกในสหราชอาณาจักร สนามนี้ได้เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลระดับนานาชาติ 10 นัด ครั้งแรกในปี 1901 และครั้งล่าสุดในปี 2005 ใช้เป็นสถานที่จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 2012 และรักบี้เวิลด์คัพ 2015 เริ่มมีการใช้สนามในช่วงต้นปี 1880 ซึ่งเป็นสนามที่ Newcastle Rangers ครอบครอง ก่อนที่จะกลายเป็นบ้านของ Newcastle West End F.C. ในปี 1886 เมื่อพวกเขาซื้อสัญญาเช่าดังกล่าว ก่อนที่พวกเขาจะเปลี่ยนชื่อสโมสรเป็นนิวคาสเซิลยูไนเต็ด ในช่วงเปลี่ยนศตวรรษที่ 20 ความจุของพื้นสนามอยู่ที่ 30,000 คน ก่อนที่จะมีการพัฒนาใหม่ระหว่างปี 1900 และ 1905 โดยเพิ่มความจุเป็น 60,000 และทำให้กลายเป็นสนามกีฬาที่ใหญ่ที่สุดในอังกฤษในช่วงเวลาหนึ่ง เกือบตลอดศตวรรษที่ 20 สนามกีฬามีการเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อย แม้จะมีแผนการพัฒนาพื้นที่ต่าง ๆ มากมายก็ตาม อัฒจันทร์ฝั่งตะวันตกแบบเก่าถูกแทนที่ด้วยมิลเบิร์นสแตนด์ในปี 1987 อัฒจันทร์เซอร์จอห์น ฮอลล์ สแตนด์แทนที่ลีซส์เอนด์ในปี 1993 และส่วนที่เหลือของพื้นสนามได้รับการปรับปรุงใหม่ ทำให้สนามมีความจุ 37,000 สนามกีฬาแบบที่นั่งทั้งหมด ระหว่างปี 1998 ถึง 2000 ได้มีการเพิ่มที่นั่งสองชั้นในมิลเบิร์น และอัฒจันทร์จอห์น ฮอลล์ เพื่อเพิ่มความจุของสถานที่ในปัจจุบันที่ 52,354 คน มีแผนจะสร้างสนามกีฬาใหม่ขนาด 90,000 ที่นั่งในสวนสาธารณะ Leazes ซึ่งอยู่ด้านหลัง St James'

ในเดือนตุลาคม 2009 ไมค์ แอชลีย์ อดีตเข้าของทีมประกาศว่าเขาวางแผนที่จะเปลี่ยนชื่อสนามเพื่อเพิ่มรายได้ และในเดือนพฤศจิกายน 2011 สโมสรได้เปลี่ยนชื่อสนามกีฬาเป็น Sports Direct Arena ต่อมา เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2015 บริษัทสินเชื่อเงินด่วน Wonga.com ได้กลายเป็นผู้สนับสนุนหลักทางการค้าของนิวคาสเซิลยูไนเต็ด และซื้อสิทธิ์การตั้งชื่อสนามกีฬาแต่ได้คืนชื่อสนามกลับมาเป็น เซนต์เจมส์ พาร์ค เนื่องจากกระแสเรียกร้องของแฟนบอล

นิวคาสเซิลยูไนเต็ดจัดตั้งขึ้นเป็นบริษัทเอกชนจำกัดเมื่อวันที่ 6 กันยายน ค.ศ. 1895 จนถึงเดือนเมษายน ค.ศ. 1997 เมื่อจอห์น ฮอลล์ ซึ่งซื้อหุ้น 79.2% ของสโมสรในราคา 3 ล้านปอนด์ใน ค.ศ. 1991 ได้นำสโมสรเข้าตลาดหลักทรัพย์ในฐานะบริษัทมหาชนจำกัด โดยมีการขายหุ้นน้อยกว่าครึ่งหนึ่งให้กับตระกูลฮอลล์โดยหุ้นส่วนใหญ่ถือครองโดยเฟรดดี เชพเพิร์ด หุ้นส่วนทางธุรกิจของเขา ต่อมาในปีนั้น ฮอลล์ได้ก้าวลงจากตำแหน่งประธานสโมสรและถูกแทนที่โดยเชพเพิร์ด โดยมี ดักลาส ลูกชายของฮอลล์เป็นตัวแทนของครอบครัวในคณะกรรมการสโมสร ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 1998 หลังจากซื้อหุ้น 6.3% ของสโมสรในราคา 10 ล้านปอนด์ กลุ่มสื่อเอ็นทีแอล (เวอร์จิน มีเดียในปัจจุบัน) ได้พิจารณาการครอบครองสโมสรโดยสมบูรณ์ ข้อเสนอนี้ถูกยกเลิกในภายหลังหลังจากคณะกรรมการการแข่งขันที่ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 1999 แสดงความกังวลเกี่ยวกับสโมสรฟุตบอลที่บริษัทสื่อเป็นเจ้าของ

ใน ค.ศ. 2007 ไมค์ แอชลีย์ นักธุรกิจได้ซื้อหุ้นของทั้งดักลาสและเซอร์ จอห์น ฮอลล์ โดยถือหุ้น 41% ในสโมสรผ่านบริษัทโฮลดิง เซนต์เจมส์โฮลดิงส์ เพื่อซื้อส่วนที่เหลือ เมื่อซื้อหุ้นนี้ เขาได้แต่งตั้งคริส มอร์ตเป็นประธานสโมสร ในขณะที่ได้รับหุ้นเพิ่มขึ้น โดยเป็นเจ้าของหุ้น 93.19% ของสโมสรภายในวันที่ 29 มิถุนายน ค.ศ. 2007 ตัวเลขนี้สูงถึง 95% ในวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2007 บังคับให้ผู้ถือหุ้นที่เหลือขายหุ้นของตนให้แอชลีย์

หลังจากซื้อสโมสรเสร็จสิ้น แอชลีย์ได้ประกาศว่าเขามีแผนที่จะขายสโมสรถึง 3 ครั้ง ครั้งแรกเกิดขึ้นหลังจากการประท้วงของแฟน ๆ เกี่ยวกับการลาออกของเควิน คีแกนในเดือนกันยายน 2008 เมื่อแอชลีย์กล่าวว่า "ฉันฟังคุณแล้ว คุณต้องการให้ฉันออกไป นั่นคือสิ่งที่ฉันกำลังพยายามทำอยู่ตอนนี้" ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2009 หลังจากจบฤดูกาล 2008–09 มีรายงานว่าแอชลีย์กำลังพยายามขายสโมสรอีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ค.ศ. 2009 แอชลีย์ยืนยันว่าสโมสรพร้อมขายในราคา 100 ล้านปอนด์ ภายในสิ้นเดือนสิงหาคม 2009 สโมสรออกจากตลาด เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2017 นิวคาสเซิลยูไนเต็ดประกาศว่าแอชลีย์ได้ประกาศขายสโมสรอีกครั้ง โดยเขาหวังว่าจะสามารถสรุปข้อตกลงได้ในช่วงคริสต์มาสปี 2017

สองปีภายหลังจากการประกาศขายสโมสร ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2020 มีรายงานว่ากลุ่มทุนที่ประกอบด้วย กองทุนเพื่อการลงทุนสาธารณะ, PCP Capital Partners และ RB Sports & Media กำลังสรุปข้อเสนอเพื่อซื้อกิจการนิวคาสเซิลยูไนเต็ด การขายกิจการดังกล่าวทำให้เกิดความกังวลและการวิพากษ์วิจารณ์ เช่น การโต้แย้งว่าเป็นการล้างประวัติด้านสิทธิมนุษยชนของซาอุดีอาระเบีย เช่นเดียวกับการละเมิดลิขสิทธิ์การถ่ายทอดกีฬาในภูมิภาค

ในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2020 ส.ส.พรรคอนุรักษ์นิยม 2 คนเรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาข้อตกลง โดยคาร์ล แมคคาร์ทนีย์เรียกร้องให้ระงับการขาย และไจลส์ วัตลิงเรียกร้องให้ Department for Digital, Culture, Media and Sports จัดการประชุมเกี่ยวกับการละเมิดลิขสิทธิ์กีฬาในซาอุดีอาระเบีย ในเดือนเดียวกัน เดอะการ์เดียนรายงานว่าพรีเมียร์ลีกได้รับรายงานจากองค์การการค้าโลก (เผยแพร่ต่อสาธารณะในเดือนถัดมา) ซึ่งมีหลักฐานว่าซาอุดิอาระเบียสนับสนุน beoutQ ซึ่งเป็นช่องที่ละเมิดลิขสิทธิ์ของเครือข่ายบีอินสปอตส์ ในภูมิภาคตั้งแต่วิกฤตการณ์การทูตกาตาร์ ในเดือนมิถุนายน 2020 เดอะ การ์เดียน รายงานว่าริชาร์ด มาสเตอร์ส ซึ่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารของพรีเมียร์ลีก ได้ปรากฏตัวต่อหน้า DCMS และได้บอกใบ้ถึงความเป็นไปได้ในการเทคโอเวอร์นิวคาสเซิลยูไนเต็ดว่าใกล้จะสำเร็จแล้ว ส.ส. เตือนว่าเป็นเรื่องน่าขายหน้าหากปล่อยให้กลุ่มทุนของซาอุดีอาระเบียเข้ามาบริหารสโมสร เนื่องจากประเทศนี้มีประวัติการละเมิดลิขสิทธิ์และสิทธิมนุษยชน

ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2020 เดอะการ์เดียน รายงานว่าการตัดสินใจของซาอุดีอาระเบียที่ห้ามออกอากาศบีอินสปอตส์ในประเทศทำให้การเทคโอเวอร์นิวคาสเซิลยูไนเต็ดซับซ้อนขึ้นไปอีก ต่อมาในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 ซาอุดีอาระเบียประกาศถอนตัวจากข้อตกลงเทคโอเวอร์นิวคาสเซิล โดยระบุว่า "ด้วยความขอบคุณอย่างสุดซึ้งต่อชุมชนนิวคาสเซิลและความสำคัญของสโมสรฟุตบอล เราจึงได้ตัดสินใจถอนความสนใจในการซื้อกิจการสโมสรฟุตบอลนิวคาสเซิลยูไนเต็ด" ทางกลุ่มยังระบุด้วยว่า "กระบวนการที่ยืดเยื้อ" เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พวกเขาถอนตัวออกไป การเทคโอเวอร์ที่ล้มเหลวได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางจากแฟน ๆ ของนิวคาสเซิล โดย Chi Onwurah สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากนิวคาสเซิลกล่าวหาว่าพรีเมียร์ลีกปฏิบัติต่อแฟน ๆ ของสโมสรอย่าง "ดูถูก" และต่อมาได้เขียนจดหมายถึงมาสเตอร์สเพื่อขอคำอธิบาย

แม้ว่ากลุ่มทุนจะถอนตัวออกไป แต่ข้อพิพาทเรื่องการเทคโอเวอร์ยังคงดำเนินต่อไป เมื่อวันที่ 9 กันยายน ค.ศ. 2020 นิวคาสเซิลยูไนเต็ดออกแถลงการณ์โดยอ้างว่าพรีเมียร์ลีกปฏิเสธการเทคโอเวอร์อย่างเป็นทางการโดยกลุ่มทุน และกล่าวหามาสเตอร์สและคณะกรรมการพรีเมียร์ลีกว่า "กระทำการไม่เหมาะสมเกี่ยวกับการเทคโอเวอร์" ในขณะที่ระบุว่าสโมสรกำลังจะพิจารณาดำเนินการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง พรีเมียร์ลีกปฏิเสธเรื่องนี้อย่างรุนแรงในแถลงการณ์ที่เผยแพร่ในวันถัดมา โดยแสดงความ "ประหลาดใจ" และ "ผิดหวัง" ในแถลงการณ์ของนิวคาสเซิล

ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ตุลาคม ค.ศ. 2021 กลุ่มเดิมยืนยันว่าพวกเขาได้เสร็จสิ้นการซื้อกิจการของนิวคาสเซิลยูไนเต็ดอย่างเป็นทางการ การสอบสวนในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 2022 โดย เดอะการ์เดียน อ้างว่ารัฐบาลอังกฤษของบอริส จอห์นสันในขณะนั้นเกี่ยวข้องกับการเทคโอเวอร์นิวคาสเซิลยูไนเต็ดของซาอุดีอาระเบีย ในเดือนเมษายน ค.ศ. 2021 มีการเปิดเผยว่ามกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน แห่งซาอุดีอาระเบียได้เตือนจอห์นสันทางข้อความ โดยระบุว่าการตัดสินใจของพรีเมียร์ลีกจะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสหราชอาณาจักรและซาอุดีอาระเบีย หลังจากคำเตือนดังกล่าว จอห์นสันได้แต่งตั้ง เอดเวิด ลิสเตอร์ เป็นทูตพิเศษประจำอ่าวเปอร์เซียเพื่อรับหน้าที่ดูแลเรื่องนี้ มีรายงานในภายหลังว่าความพยายามของจอห์นสันยังเกี่ยวข้องกับเจอร์รี กริมสโตน Minister of Investment ซึ่งได้หารือกับแกรี ฮอฟฟ์แมน ประธานพรีเมียร์ลีก และตัวแทนชาวซาอุดิอาระเบียซึ่งมีสายสัมพันธ์อันดีกับสำนักงานของมกุฎราชกุมารโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน รัฐบาลสหราชอาณาจักรและจอห์นสันกล่าวว่าพวกเขาไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเทคโอเวอร์ของซาอุดิอาระเบีย

ผู้สนับสนุนของนิวคาสเซิลยูไนเต็ด มาจากทั่วทุกมุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและที่อื่น ๆ ในอังกฤษ โดยมีสโมสรผู้สนับสนุนในหลายประเทศทั่วโลก ชื่อเล่นของสโมสรคือ The Magpies ในขณะที่ผู้สนับสนุนสโมสรนั้นรู้จักกันในชื่อ Geordies หรือ Toon Army ชื่อตูนมาจากการออกเสียงเมืองจอร์ดี แฟนของทีมนิวคาสเซิลยูไนเต็ด จะมีชื่อเรียกว่า "ทูนอาร์มี" ซึ่งคำว่า "ทูน" นั้นเป็นภาษาแซกซัน คือคำว่า "ทาวน์" ที่แปลว่า "เมือง" จากการสำรวจในปี 2004 โดย Co-operative Financial Services พบว่านิวคาสเซิลยูไนเต็ดอยู่ลำดับแรก ๆ ของลีกสำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นและระยะทางที่แฟน ๆ ต้องใช้ในการเดินทางไปชมการแข่งขันทุกเกมพรีเมียร์ลีก ระยะทางทั้งหมดที่แฟนบอลไปร่วมชมเกมในฐานะทีมเยือนทุกเกม พบว่าเทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลกเลยทีเดียว ในฤดูกาล 2009–2010 เมื่อสโมสรกำลังเล่นในฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป การเข้าชมโดยเฉลี่ยที่สนามเซนต์เจมส์อยู่ที่ 43,388 ซึ่งเป็นอันดับที่สี่ของสโมสรอังกฤษในฤดูกาลนั้น ต่อมา เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลพรีเมียร์ลีก 2011–12 นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด มีผู้เข้าชมเฉลี่ยสูงสุดเป็นอันดับสามของฤดูกาลที่ 49,935 ตัวเลขนี้แซงหน้าอาร์เซนอลและแมนเชสเตอร์ยูไนเต็ด สองสโมสรที่มีสนามกีฬาขนาดใหญ่ลำดับแรก ๆ ในประเทศ

สโมสรก่อตั้งมูลนิธินิวคาสเซิลยูไนเต็ด ขึ้นในฤดูร้อนปี 2008 ซึ่งพยายามส่งเสริมการเรียนรู้และส่งเสริมการใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพในหมู่เด็กที่ด้อยโอกาส คนหนุ่มสาว และครอบครัวในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอังกฤษ ตลอดจนส่งเสริมความเท่าเทียมและความหลากหลายทางเพศโดยมี เคท แบรดลีย์ เป็นผู้จัดการมูลนิธิ ในปี 2010 องค์กรการกุศลได้สอนเด็กกว่า 5,000 คนเกี่ยวกับการใช้ชีวิตด้วยการรักษาสุขภาพ ในเดือนธันวาคม ค.ศ. 2012 สโมสรได้ประกาศว่าพวกเขาเป็นทีมแรกของโลกที่บริหารทีมภายใต้หลักการ carbon-positive โดยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทั้งระบบการจัดการในสนามแข่ง การใช้ชุดแข่งที่ผลิตด้วยวัสดุสิ่งแวดล้อม และการรณรงค์ด้านความสะอาดในสนามและบริเวณใกล้เคียง

นับถึงฤดูกาล 2034–24 นิวคาสเซิลได้เล่นในลีกสูงสุดถึง 92 ฤดูกาล มากที่สุดสโมสรหนึ่งในอังกฤษ และพวกเขาอยู่ในอันดับ 8 ในการจัดอันดับคะแนนรวมตลอดกาลนับตั้งแต่ก่อตั้งลีกสูงสุด รวมทั้งประสบความสำเร็จมากที่สุดเป็นอันดับ 9 ในอังกฤษ

ผู้เล่นที่ลงสนามมากที่สุดให้กับทีมได้แก่ จิมมี ลอว์เรนซ์ (1904–22) จำนวน 496 นัด, ผู้ทำประตูมากที่สุดตลอดกาลได้แก่ แอลัน เชียเรอร์ (1996–2006) จำนวน 206 ประตู, ผู้ทำประตูมากที่สุดภายในหนึ่งฤดูกาลได้แก่ แอนดี โคล จำนวน 41 ประตู (ฤดูกาล 1993–94)

สถิติชนะมากที่สุดของสโมสร คือนัดชนะ สโมสรนิวพอร์ตเคาน์ตี ในฟุตบอลดิวิชั่นสองฤดูกาล 1946, สถิติแพ้มากที่สุดคือนัดแพ้สโมสรเบอร์ตัน 0–9 ในฟุตบอลดิวิชั่นสองฤดูกาล 1895, สถิติผู้ชมในสนามมากที่สุดได้แก่ นัดพบกับเชลซี (68,386 คน) ในการแข่งขันดิวิชั่นหนึ่งวันที่ 3 กันยายน ค.ศ. 1930 และสถิติผู้เข้าชมสูงสุดในพรีเมียร์ลีกคือ 52,389 คน ในนัดกับแมนเชสเตอร์ซิตีเมื่อวันที่ 6 พฤษภาคม ค.ศ. 2012 ซึ่งนิวคาสเซิลแพ้ไป 0–2, ค่าตัวสูงสุดที่นิวคาสเซิลยูไนเต็ด เคยได้รับจากการขายนักเตะคือ 35 ล้านปอนด์ ซึ่งเป็นการขายแอนดี แคร์โรล ให้กับ ลิเวอร์พูล ในเดือนมกราคม ปี 2011 และล่าสุดคือการขายเอลเลียต แอนเดอร์สัน ให้กับนอตทิงแฮมฟอเรสต์ ในเดือนมิถุนายน ปี 2024 ขณะที่สถิติการซื้อนักเตะที่แพงที่สุดของสโมสร คือ อาเล็กซันเดอร์ อีซัก จาก เรอัลโซซิเอดัด ในราคา 63 ล้านปอนด์ เมื่อปี 2022

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ

สำหรับชาวไทยที่มีชื่อเสียงที่เป็นผู้สนับสนุนนิวคาสเซิลยูไนเต็ด เช่น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (นักการเมือง), นูรูล ศรียานเก็ม (นักฟุตบอลทีมชาติไทย), ธนวรรธน์ วรรธนะภูติ (นักแสดง), ปราโมทย์ ปาทาน (นักร้อง) กิตติศักดิ์ เวชประสาร (ยัดห่า ชัยโสโร ยูทูบเบอร์), ชัยนนท์ หาญคีรีรัตน์ (ผู้ประกาศข่าว) เป็นต้น


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

วอร์เนอร์ แบ็กซ์เตอร์ เอมีล ยันนิงส์ รางวัลออสการ์ สาขานักแสดงนำชายยอดเยี่ยม สถาบันภาพยนตร์อเมริกัน ยูฮิ คุเรไน ทิวา เงินยวง ทิก กว๋าง ดึ๊ก พระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ 1 แห่งเซอร์เบีย เฮนรียุวกษัตริย์ ไชอา เลอบัฟ โจชัว แจ็กสัน ชเว จี-อู เมทินี กิ่งโพยม คัง โฮ ดง เจ้าชายเฮนริกแห่งเดนมาร์ก พระราชสวามี สมเด็จพระราชินีฟาบิโอลาแห่งเบลเยียม แอนน์ เนวิลล์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ขบวนรถด่วนพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ปทุมวัน เกรตแบริเออร์รีฟ แคเธอรีนแห่งอารากอน พระราชินีแห่งอังกฤษ วันสิ่งแวดล้อมโลก หลัว จิง สตีเฟน เครน เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ สุทัตตา อุดมศิลป์ คณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ สินิทธา บุญยศักดิ์ ฟ้าสั่ง พ.ธวัชชัย มาร์ก วาห์ลเบิร์ก แอดัม สมิท มอซิลลา โปรแกรมค้นดูเว็บ มูลนิธิมอซิลลา อมฤตสาร์ จอร์จ มาร์แชล แผนมาร์แชล Hungary Szeged หลอดรังสีคาโทด ฮอโลกราฟี วิทยาลัยอิมพีเรียลลอนดอน ขุมทรัพย์สุดขอบฟ้า 3 ตอน ศึกอภินิหารครูเสด แดรกคูลา บราม สโตกเกอร์ จีน เคลลี อาร์เอ็มเอสไททานิก สนธิสัญญาเฟซ Clannad อุจิวะ มาดาระ ตัวละครในฮายาเตะ พ่อบ้านประจัญบาน มอเตอร์เฮด เล็มมี วันไดเรกชัน ราณี แคมเปน อาราชิ ไอบะ มาซากิ ดิมา บิลาน ไรอัน ซีเครสต์ ริคกี้ มาร์ติน วันรำลึกถึงการล้างชาติพันธุ์โดยนาซี เจ. ดี. ซาลินเจอร์ จูเซปเป เวอร์ดิ มารัต ซาฟิน หลิน ซินหยู ฟั่น เหวินฟาง งามพรรณ เวชชาชีวะ ไททานิค เอ็ดเวิร์ด จอห์น สมิธ วาตภัย เครือรัฐออสเตรเลีย ศูนย์อวกาศเคนเนดี ซีอุย แซ่อึ้ง โรงเรียนเตรียมทหาร ค่ายกักกันเอาส์ชวิตซ์ เนชั่นแนล จีโอกราฟิก โค้ดกีอัส พระเจนดุริยางค์ (ปิติ วาทยะกร) หลวงพ่อโหน่ง อินฺทสุวณฺโณ ตู่ ภพธร หยกไท ศิษย์ อ. ราม นารายัณ มาร์กาเร็ตแห่งออสเตรีย สมเด็จพระราชินีแห่งสเปนและโปรตุเกส ราวัลปินดี เปอร์เวซ มูชาร์ราฟ ประธานาธิบดีสหภาพโซเวียต กรุงคาบูล สงครามในอัฟกานิสถานของโซเวียต เกาะเลย์เต แซนแอนโทนีโอ ซานตาโมนิกา ค.ศ. 1401 แคทเธอรินแห่งวาลัวส์ สมเด็จพระราชินีแห่งอังกฤษ ค.ศ. 1322 ค.ศ. 1098 ค.ศ. 276 จักรพรรดิจิ้นหยวนตี้ ค.ศ. 323 ชอร์ดี มาซิป รถสูตรหนึ่ง

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23681