สตรีในกัมพูชามีภาพลักษณ์เช่นเดียวกับอัปสราในนครวัดคือมีรอยยิ้มสุภาพ นอกจากนั้น ภาพลักษณ์ของสตรีในอุดมคติยังได้จากนิทานพื้นบ้าน Srey Kroup Leakhnak ในชนบท หญิงกัมพูชามีบทบาทในการดูแลบ้าน เป็นผู้ดูแลสมาชิกในครอบครัวและการเงิน รักษาพรหมจรรย์จนกว่าจะแต่งงาน เป็นภรรยาที่ซื่อสัตย์ เป็นที่ปรึกษาและผู้ให้บริการแก่สามี อย่างไรก็ตาม ในปัจจุบัน หญิงกัมพูชาก้าวพ้นจากโลกในครอบครัว เข้ามาสู่การทำงานนอกบ้านและโลกทางการเมืองมากขึ้น
เมื่อสงครามกลางเมืองกัมพูชาสิ้นสุดลง กัมพูชาประสบปัญหาขาดแคลนแรงงานชาย ทำให้หญิงมีบทบาททำงานมากขึ้น ภายใต้กฎหมายของกัมพูชา หญิงที่ทำงานจะได้ค่าแรงเช่นเดียวกับชาย แต่ในความเป็นจริงยังมีหญิงที่ได้ค่าแรงต่ำกว่าชายอยู่ ในช่วง พ.ศ. 2533 มีการอพยพเข้ามาทำงานในเมืองมากขึ้น
หญิงมีบทบาทในศาสนาพุทธและการเข้าร่วมพิธีกรรมและงานเฉลิมฉลองทางศาสนา หญิงที่มีอายุมากหรือเป็นหม้ายมักบวชชี
ใน พ.ศ. 2547 มีสตรีกัมพูชา 45% ที่รู้หนังสือและมีเพียง 16% ที่จบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น สาเหตุที่ทำให้เด็กหญิงในกัมพูชามีการศึกษาน้อยมีหลายประการ เช่น ต้องเลี้ยงน้องอยู่กับบ้าน ทำงานบ้าน หรือโรงเรียนอยู่ไกลเกินไป แต่แนวโน้มการศึกษาของหญิงในกัมพูชากำลังเพิ่มขึ้น ใน พ.ศ. 2547 20% ของผู้สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเป็นผู้หญิง
ก่อน พ.ศ. 2523 หญิงกัมพูชาที่มีบทบาททางการเมืองมีน้อยมาก แต่หลังจาก พ.ศ. 2536 เป็นต้นมา มีหญิงเข้าร่วมในการเมืองและองค์ต่างๆมากขึ้นเพื่อเคลื่อนไหวเกี่ยวกับสิทธิสตรี ใน พ.ศ. 2537 สมาชิกสมัชชาแห่งชาติเป็นหญิง 10% สมาชิกสภาระดับชุมชนเป็นหญิง 8%.
สถานะทางกฎหมายในกัมพูชา ระบุว่าชายและหญิงมีสิทธิเท่าเทียมกัน หญิงมีสิทธิในการหย่าร้างได้ง่าย
โสเภณีในกัมพูชาเกี่ยวข้องกับผู้หญิงระดับล่างและหญิงจากเวียดนาม มีความเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ในประเทศไทย การแพร่หลายของโสเภณีทำให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคเอดส์
ในชนบท หญิงมักพบปัญหาความรุนแรงเพราะมีการศึกษาต่ำ จึงปกป้องตัวเองได้น้อยจากอาชญากรรม การข่มขืน ความไม่เท่าเทียมทางเพศง
หญิงวัยรุ่นในปัจจุบันในกัมพูชาได้รับอิทธิพลจากตะวันตกมาก หญิงกัมพูชาโดยเฉพาะในพนมเปญดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้น มักมีปัญหาความขัดแย้งในครอบครัว มีเพื่อนชายมาก