คิวบา (อังกฤษและสเปน: Cuba) มีชื่อทางการคือ สาธารณรัฐคิวบา (อังกฤษ: Republic of Cuba; สเปน: Rep?blica de Cuba) ประกอบด้วยเกาะคิวบา (เป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะแอนทิลลิสใหญ่) เกาะคูเบนตุด (Isla de la Juventud) และเกาะเล็ก ๆ ใกล้เคียง ตั้งอยู่ในภูมิภาคแคริบเบียนเหนือ ที่จุดบรรจบของทะเลแคริบเบียน อ่าวเม็กซิโก และมหาสมุทรแอตแลนติก คิวบาตั้งอยู่ทางทิศใต้ของสหรัฐอเมริกาภาคตะวันออก และหมู่เกาะบาฮามาส ทางทิศตะวันตกของหมู่เกาะเติกส์และหมู่เกาะเคคอสและประเทศเฮติ ทางทิศตะวันออกของเม็กซิโก และทางทิศเหนือของหมู่เกาะเคย์แมนและเกาะจาเมกา สาธารณรัฐคิวบาเป็นเพียงประเทศเดียวในบริเวณภูมิภาคนี้ที่ยังคงมีการปกครองแบบคอมมิวนิสต์อยู่
ชาวสเปนเดินทางมาถึงเกาะคิวบาครั้งแรกเมื่อพ.ศ. 2035 แต่ไม่ได้สนใจเกาะนี้มากนักในระยะแรกเพราะไม่มีทรัพยากรธรรมชาติและมีชาวอินเดียนอยู่น้อย จนกระทั่งเกิดการปฏิวัติในเฮติเมื่อปี พ.ศ. 2333 คิวบาจึงกลายเป็นแหล่งอุตสาหกรรมน้ำตาลของสเปนแทนที่เฮติ
คิวบาเป็นดินแดนสุดท้ายในทวีปอเมริกาที่เป็นอาณานิคมของสเปน โคเซ มาร์ตี จัดตั้งพรรคปฏิวัติคิวบาเมื่อ พ.ศ. 2435 เพื่อเรียกร้องเอกราชจนถูกฆ่าเมื่อพ.ศ. 2438 การเรียกร้องเอกราชของคิวบาได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐอเมริกา จนกระทั่งเรือรบของกองทัพเรือเกิดระเบิดในอ่าวของกรุงฮาวานาเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2440 ซึ่งกลายเป็นชนวนให้เกิดสงครามสเปน-อเมริกา ผลของสงครามทำให้คิวบาได้รับเอกราชและอาณานิคมอื่นของสเปนกลายเป็นของสหรัฐอเมริกา
หลังจากได้รับเอกราช คิวบาตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของสหรัฐอเมริกาอย่างมาก ในบางช่วงเช่น พ.ศ. 2460-2466 คิวบาถูกสหรัฐยึดครองและเข้ามาบริหารโดยตรง ทั้งนี้เพราะสหรัฐมีผลประโยชน์ในอุตสาหกรรมน้ำตาลของคิวบา อิทธิพลของสหรัฐสิ้นสุดลงเมื่อฟีเดล กัสโตร เข้ายึดอำนาจจากประธานาธิบดีฟุลเคนเซียว บาติสตา และบริหารประเทศด้วยระบอบสังคมนิยมเมื่อ พ.ศ. 2502 เมื่อถูกสหรัฐตัดความสัมพันธ์และปิดกั้นทางการค้า และสนับสนุนชาวคิวบาโพ้นทะเลให้ก่อกบฏล้มรัฐบาลของกัสโตรจนเกิดวิกฤตการณ์เบย์ออฟฟิกส์เมื่อ 15 เมษายน พ.ศ. 2514 แต่ไม่สำเร็จ รัฐบาลของกัสโตรจึงหันไปสร้างความสัมพันธ์กับสหภาพโซเวียตและจีนแทน ปัจจุบันคิวบาเป็น 1 ใน 5 ประเทศคอมมิวนิสต์ในโลก (อีก 4 ประเทศคือ จีน เวียดนาม ลาว และเกาหลีเหนือ) และเป็นประเทศเดียวในทวีปอเมริกาที่ปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์
ประธานาธิบดีเป็นประมุขของประเทศและเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร โดยคนปัจจุบันคือนาย Ra?l Castro Ruz ซึ่งเข้ารับตำแหน่งแทนนาย Fidel Castro เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2551 ต่อมาได้มีการจำกัดวาระการดำรงตำแหน่ง ประธานาธิบดีและรัฐมนตรีเป็นวาระ10ปีเท่านั้นรวมทั้งจำกัดวาระของ Ra?l Castro Ruz ผู้นำในปัจจุบันด้วย
ระบบสภาเดียว ที่มีชื่อว่า National Assembly of People?s Power ซึ่งประกอบด้วยสมาชิกจำนวน 614 คน มาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน และมีวาระ 5 ปี (การเลือกตั้งครั้งล่าสุดมีขึ้นเมื่อปี 2551 และครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2556) พรรคการเมือง ระบบพรรคเดียว คือ พรรคคอมมิวนิสต์ (Partido Comunista de Cuba : PCC)
14 จังหวัด (provinces) และ 1 เทศบาลพิเศษ* (special municipality) ได้ประกอบขึ้นเป็นประเทศคิวบา เขตปกครองนี้ได้มีการเปลี่ยนแปลงใหม่จากเดิมมีเพียง 6 จังหวัด คือ ปีนาร์เดลรีโอ (Pinar del R?o) อาบานา (Habana) มาตันซัส (Matanzas) ลัสบียัส (Las Villas) กามากูเอย์ (Camag?ey) และโอเรียนเต (Oriente)
คิวบาเป็นหนึ่งในประเทศที่ปิดประเทศเช่นเดียวกับเกาหลีเหนือจึงไม่มีความสัมพัทธ์ทางการทูตแต่จะมีกับพวกคอมมิวนิสต์ด้วยกัน
อุตสาหกรรม อุตสาหกรรมผลิตและแปรรูปน้ำตาล การกลั่นน้ำมัน อาหารแปรรูป เหล็ก ปูนซีเมนต์ เคมีภัณฑ์ การผลิตยาและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
มูลค่าการนำเข้า (2551) 14.25 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้านำเข้า อาหาร น้ำมันเชื้อเพลิง เคมีภัณฑ์ เครื่องจักร
มูลค่าการส่งออก (2551) 3.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าออก น้ำตาล นิเกิล ยาสูบ อาหารทะเล เหล้ารัม ยาและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ
ประเทศคู่ค้าที่สำคัญ เนเธอร์แลนด์ เวเนซุเอลา แคนาดา จีน สเปน สหรัฐอเมริกา และประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา
คิวบามีนโยบายเศรษฐกิจตามระบอบสังคมนิยม โดยรัฐมีบทบาทในการกำหนดนโยบาย บริหารจัดการ และขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม เป็นผู้ควบคุมกลไกในการผลิตส่วนใหญ่ เป็นผู้จ้างแรงงานที่สำคัญ เป็นผู้กำหนดราคาสินค้าส่วนใหญ่และแจกจ่ายสิ่งของแก่ประชาชน พร้อมทั้งควบคุมการลงทุนของภาคธุรกิจ อย่างไรก็ดี ในช่วงทศวรรษ 1990 รัฐบาลคิวบาเริ่มมีการปฏิรูประบบเศรษฐกิจ โดยผ่อนคลายความเข้มงวดในธุรกิจบางประเภท อาทิ การท่องเที่ยวและโรงแรม เพื่อดึงดูดเงินตราจากต่างประเทศ ดำเนินมาตรการเปิดเสรี และส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
หลังจากนาย Ra?l Castro เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี แม้จะยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงในภาพรวมของนโยบายเศรษฐกิจของคิวบาโดยทันที แต่ก็ได้ค่อยๆ เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยนาย Ra?l Castro ประกาศดำเนินนโยบายการขยายการถือครองที่ดินทำกินของเกษตรกร ลดหรือยกเลิกเงินอุดหนุนบางประเภท เพิ่มเงินบำนาญ ยกเลิกข้อจำกัดในการเข้าถึงสินค้าอุปโภคบริโภคบางประเภท อาทิ โทรศัพท์มือถือ และรถจักรยานยนต์ เป็นต้น
อย่างไรก็ดี มาตรการดังกล่าว ไม่สามารถช่วยเหลือคิวบาให้รอดพ้นจากวิกฤตเศรษฐกิจได้ เพราะนอกจากคิวบาจะถูกคว่ำบาตรทางการค้าจากสหรัฐอเมริกาแล้ว ยังมีปัญหาจากความด้อยประสิทธิภาพในการผลิต ราคาสินค้าส่งออกโดยเฉพาะน้ำตาลและนิเกิลในตลาดโลกตกต่ำ รวมทั้งผลกระทบจากภัยพิบัติทางธรรมชาติ โดยเฉพาะพายุเฮอริเคนในช่วงสองสามปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ คิวบาได้พัฒนาความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่ใกล้ชิดกับเวเนซุเอลา ซึ่งช่วยบรรเทาความเดือดร้อนทางเศรษฐกิจของคิวบาได้อย่างมาก ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ภาคอุตสาหกรรมไบโอเทคโนโลยีและเภสัชกรรมมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นต่อเศรษฐกิจคิวบาในภาพรวม โดยคิวบาสามารถส่งออกผลิตภัณฑ์ประเภทวัคซีนป้องกันไวรัสและแบคทีเรียต่างๆ ไปยังหลายประเทศ เช่น รัสเซีย จีน อินเดีย ปากีสถาน และหลายประเทศในภูมิภาคลาตินอเมริกา
คิวบาเป็นสังคมที่ประกอบด้วยคนหลายเชื้อชาติอยู่ปะปนกันโดยไม่มีการแบ่งแยกสีผิว ก่อนการปฏิวัติของฟิเดล คาสโตร ชาวคิวบาสวนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก (ร้อยละ 72 ของประชาการทั้งหมด) นอกนั้นนับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ ศาสนายิว และศาสนาที่ผสมผสานระหว่างศาสนาคริสต์กับลัทธิความเชื่อดั้งเดิมของของชนชาวผิวดำ ที่มาจากแอฟริกา ส่วนผู้ไม่นับถือศาสนาใดๆมีสูงถึงร้อยละ 19 ของประชากรทั้งหมด ภายหลังการปฏิวัติ รัฐบาลของฟิเดล คาสโตร เห็นว่าศาสนาเป็นสิ่งขัดขวางความเจริญก้าวหน้าและการปฏิวัติไปสู่ระบบคอมมิวนิสต์ ดังนั้นจึงมุ่งกำจัดอิทธิพลของศาสนาให้หมดไป หนังสือเกี่ยวกับคำสอนทางศาสนาถูกทำลาย โรงเรียนของศาสนจักรถูกยึดเป็นของรัฐ องค์กรทางศาสนาถูกจำกัดสิทธิและเสรีภาพ อิทธิพลของจักรวรรดินิยมอเมริกา]]ถูกถอนรากถอนโคนจากสังคมคิวบา [[รัฐส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเชื้อชาติและระหว่างเพศ ชาวคิวบา นิยมบริโภคอาหารประจำชาติที่ชื่อว่า เยโย่ โดยทำจากพืชพื้นเมือง
ในช่วงที่สหภาพโซเวียตล่มสลาย การนำเข้าอาหารและเครื่องมือทางการเกษตรถูกตัดขาด เกิดภาวะขาดแคลนอาหารขั้นรุนแรงทั่วคิวบา เพราะไม่อาจทำเกษตรได้ แม้สถานการณ์จะเลวร้าย แต่ชาวคิวบากลับถือเป็นโอกาศพัฒนาเทคนิคการทำเกษตรอินทรีย์ที่ปลอดสารเคมี และในที่สุดพวกเขาก็พลิกฟื้นที่ดินรกร้างให้เป็นแหล่งปลูกผัก และธัญพืชได้อีกครั้ง
นับแต่อดีตถึงปัจจุบันอาหารคิวบาได้ชื่อว่าเป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพราะเน้นผักสด รสชาติดั้งเดิมของวัตถุดิบ เช่น ถ้าเป็นเมนูเนื้อ ก็ปรุงรสด้วยส้มและกระเทียม หรือถ้าหุงข้าวก็จะใส่ถั่วลงไปด้วย และขาดไม่ได้คือเหล้ารัมจากอ้อย ซึ่งเป็นเหล้าประจำชาติของคิวบา ถูกใช้เป็นส่วนผสมในค็อกเทลกว่า 100 ชนิด
อาหารประจำชาติของคิวบา คือ โรปาคาเบีย ทำจากซี่โครงวัวและซอสมะเขือเทศ กับโมฮีโต ค็อกเทลเหล้ารัม