พระสันตะปาปา (โปรตุเกส: Santo Papa; อังกฤษ: Pope) หมายถึง มุขนายกแห่งคริสตจักรกรุงโรม[ก] (Bishop of the Church of Rome) และผู้นำคริสตจักรโรมันคาทอลิกทั่วโลก คริสตจักรนี้ถือว่าพระสันตะปาปาเป็นผู้สืบตำแหน่งจากนักบุญซีโมนเปโตรอัครทูตของพระเยซู สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิสเป็นพระสันตะปาปาพระองค์ปัจจุบันตามการประชุมเลือกตั้งพระสันตะปาปาในวันที่ 13 มีนาคม ค.ศ. 2013
ตำแหน่งของพระสันตะปาปา ในภาษาอังกฤษเรียก ปาปาซี (Papacy) และเขตอำนาจทางคริสตจักรของพระสันตะปาปาเรียก สันตะสำนักตั้งอยู่ที่กรุงโรม โดยถือตามความเชื่อสืบมาว่า นักบุญเปโตรและนักบุญเปาโลอัครทูตได้พลีชีพเป็นมรณสักขีในศาสนาคริสต์ที่นี่ พระสันตะปาปายังทรงดำรงตำแหน่งประมุขนครรัฐวาติกันด้วย ซึ่งเป็นรัฐอธิปไตยที่ตั้งอยู่ภายในกรุงโรม
ตำแหน่งพระสันตะปาปาถือเป็นตำแหน่งที่เก่าแก่ที่สุดในโลกตำแหน่งหนึ่ง และมีบทบาทสำคัญในประวัติศาสตร์โลก ในสมัยโบราณพระสันตะปาปามีหน้าที่หลักในการเผยแผ่ศาสนาคริสต์และตัดสินข้อขัดแย้งด้านความเชื่อภายในคริสตจักร ในสมัยกลางพระสันตะปาปามีบทบาทสำคัญมากในทางโลกในยุโรปตะวันตกด้วย เช่น เป็นผู้ตัดสินความขัดแย้งระหว่างประมุขของรัฐ รวมถึงสงครามหลายครั้ง ปัจจุบันนี้นอกจากจะทำหน้าที่ด้านเผยแผ่ศาสนาคริสต์แล้ว พระสันตะปาปายังปฏิบัติพระกรณียกิจด้านคริสต์ศาสนสัมพันธ์และศาสนสัมพันธ์ งานการกุศล และการปกป้องสิทธิมนุษยชนด้วย
ตั้งแต่สมัยใหม่เป็นต้นมา พระสันตะปาปาได้สูญเสียอำนาจทางฝ่ายโลก ปัจจุบันจึงเน้นแต่ด้านศาสนา ในปี ค.ศ. 1870 คริสตจักรโรมันคาทอลิกมีประกาศคำสอนต้องเชื่อว่าพระสันตะปาปาไม่เคยผิดพลาดในการกำหนดหลักความเชื่อและศีลธรรม แต่ก็ไม่ค่อยประกาศใช้บ่อยคร้งนัก การประกาศครั้งแรกเกิดขึ้นในปี ค.ศ. 1950 เรื่องยืนยันว่าเรื่องแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์เป็นคำสอนต้องเชื่อ
คำว่า Papa ในภาษาละติน หรือ Pappas ในภาษากรีก แปลว่า บิดา ศาสนาคริสต์ตะวันออกได้ใช้คำนี้เพื่อหมายถึงมุขนายกและบาทหลวงระดับสูงในคริสตจักร ต่อมาคำนี้ถูกใช้เป็นคำนำหน้านามของอัครบิดรแห่งอะเล็กซานเดรียมาตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 3 และต่อมาจึงใช้กับบรรดามุขนายกในศาสนาคริสต์ตะวันตกด้วย มาร์เซลลินุสเป็นมุขนายกองค์แรกของคริสตจักรกรุงโรมที่ใช้คำนำหน้านามว่าพระสันตะปาปา แต่ก็เป็นการใช้อย่างไม่เป็นทางการ จนกระทั่งคริสต์ศตวรรษที่ 6 เป็นต้นมา คริสตจักรโรมันคาทอลิกจึงใช้คำว่าพระสันตะปาปากับมุขนายกแห่งกรุงโรมโดยเฉพาะ และในคริสต์ศตวรรษที่ 11 สมเด็จพระสันตะปาปาเกรกอรีที่ 7 ได้ประกาศให้คำว่า "พระสันตะปาปา" สงวนไว้ใช้กับมุขนายกแห่งกรุงโรมเท่านั้น
ผู้นำสูงสุดของนิกายโรมันคาทอลิกยังดำรงตำแหน่งอื่น ๆ อีก เช่น บิชอปแห่งโรม (Bishop of Rome) ผู้แทนองค์พระเยซูคริสต์ (Vicar of Jesus Christ) ผู้สืบตำแหน่งเจ้าชายแห่งอัครทูต (Successor of the Prince of the Apostles) ปอนทิฟสูงสุดแห่งคริสตจักรสากล (Supreme Pontiff of the Universal Church) อัครบิดรแห่งคริสตจักรตะวันตก (Patriarch of the West) ไพรเมตแห่งอิตาลี (Primate of Italy) อัครบิดรและมุขนายกมหานครแห่งภาคโรม (Archbishop and Metropolitan of the Roman Province) และผู้รับใช้ของบรรดาผู้รับใช้พระเป็นเจ้า (Servant of the Servants of God)
ผู้อ้างตนเป็นพระสันตะปาปา หรือ พระสันตะปาปาซ้อน (antipope) หมายถึง ผู้ที่เป็นพระสันตะปาปาโดยไม่ถูกต้อง ทั้งที่อ้างตัวเอง เกิดจากความสับสน หรือได้รับเลือกให้เป็นพระสันตะปาปาแล้ว แต่ไม่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ หรือได้รับตำแหน่งโดยถูกต้องแล้ว แต่ถือกันว่าเป็นพระสันตะปาปาอย่างไม่ถูกต้อง และเป็นปรปักษ์ต่อพระสันตะปาปาที่ได้รับเลือกมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายศาสนจักร
พระสันตะปาปาซ้อนมักเกิดจากความขัดแย้งระหว่างผู้ปกครองฝ่ายอาณาจักรกับฝ่ายคริสตจักรในขณะนั้น โดยเฉพาะกับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทั้งนี้ผู้ปกครองในหลายสมัยพยายามจะเข้ามาแทรกแซงศาสนจักร ส่วนศาสนจักรเองนั้น ตามประวัติศาสตร์ก็ปรากฏว่ามีการพยายามแทรกแซงทางโลกเช่นเดียวกัน เช่นการสนับสนุน antiking ในประเทศเยอรมนีสมัยก่อน
นอกจากความขัดแย้งกับทางโลกแล้ว ความสับสนและไม่ลงรอยภายในศาสนจักรเอง ก็ทำให้มีผู้อ้างตนเป็นพระสันตะปาปาขึ้นในระหว่างการเลือกพระสันตะปาปาเช่นเดียวกัน กล่าวได้อีกอย่างก็คือ พระสันตะปาปาที่ถูกต้องนั้นก็มีโอกาสเป็นปรปักษ์พระสันตะปาปาได้เช่นเดียวกัน ถ้าการณ์กลับว่าพระสันตะปาปาเท็จได้รับเลือกเป็นพระสันตะปาปาที่ถูกต้อง
ความไม่ลงรอยกันในการเลือกพระสันตะปาปาในศาสนจักรโรมันคาทอลิกนั้น ภายหลังนำไปสู่การปฏิรูปศาสนาฝ่ายโปรเตสแตนต์ในที่สุด
รายนามพระสันตะปาปาซ้อนมาจากมุมมองของนิกายโรมันคาทอลิก ผู้อ้างตนเป็นพระสันตะปาปาบางพระองค์อาจจะถือเป็นพระสันตะปาปาที่ถูกต้องในมุมมองของนิกายอื่น
มีการพยากรณ์กันว่า พระสันตะปาปาองค์สุดท้ายจะใช้พระนามว่า "เปโตร" (สมเด็จพระสันตะปาปาเปโตรที่ 2)