ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

สนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากล

กติกาสัญญาต่อต้านโคมินเทิร์น (อังกฤษ: Anti-Comintern Pact) คือ สนธิสัญญาเกิดจากความร่วมมือระหว่างนาซีเยอรมนีและจักรวรรดิญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ค.ศ. 1936 และมีเป้าหมายเพื่อต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากล (อังกฤษ: Comintern) โดยทั่วไป แต่หมายถึง สหภาพโซเวียต เป็นพิเศษ

"เป็นที่รู้กันดีว่าเป้าหมายขององค์การคอมมิวนิสต์สากล หรือที่เป็นที่รู้จักกันในนามโคมินเทิร์น นั้นคือการทำให้รัฐต่างๆ แตกออกจากกันและหลังจากนั้นก็จะใช้กำลังเข้าปราบปรามเพื่อให้รัฐทั้งหลายบนโลกนี้ตกอยู่ใต้อำนาจบังคับของคอมมิวนิสต์ ด้วยความมั่นใจว่าการเข้าแทรกแซงกิจการภายในของรัฐโดยองค์การคอมมิวนิสต์สากลนั้นมิได้เพียงแต่เข้าไปคุกคามต่อสันติภาพภายในประเทศและความสงบสุขของสังคมแล้ว แต่ยังเป็นภัยต่อสันติภาพของโลก จึงเป็นความปรารถนาที่จะทำให้เกิดความร่วมมือกันป้องกันตัวจากกิจกรรมทั้งหลายของพวกคอมมิวนิสต์"

จุดกำเนิดของสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลได้เริ่มต้นเมื่อฤดูใบไม้ร่วง ปี ค.ศ. 1935 เมื่อนายทหารหลายนายของเยอรมนีทั้งในและนอกกระทรวงการต่างประเทศพยายามที่จะรักษาสมดุลในความต้องการทางการแข่งขันโดยขึ้นอยู่กับนโยบายต่างประเทศของนาซีเยอรมนี ซึ่งมีความขัดแย้งกันระหว่างฝ่ายที่ต้องการจะรักษาความเป็นพันธมิตรกับสาธารณรัฐจีน และความปรารถนาส่วนตัวของฮิตเลอร์ที่จะสร้างพันธมิตรใหม่กับจักรวรรดิญี่ปุ่น เมื่อถึงเดือนตุลาคม 1935 ข้อเสนอดังกล่าวได้มีการถกเถียงกันว่าพันธมิตรที่มีเป้าหมายเพื่อต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์นั้นจะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างพรรคก๊กมินตั๋ง นาซีเยอรมนี และจักรวรรดิญี่ปุ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง แนวคิดดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจากโจอาคิม วอน ริบเบนทรอพ เอกอัครราชทูตพิเศษและหัวหน้าของ Dienststelle Ribbentrop และ นายพลโอชิมา ฮิโรชิ ผู้ช่วยทูตทหารญี่ปุ่นในกรุงเบอร์ลิน ซึ่งหวังว่าการรวมตัวเป็นพันธมิตรกับเยอรมนีจะทำให้จีนยอมจำนนต่อญี่ปุ่นในที่สุด แต่ว่าจีนมิได้สนใจในเรื่องดังกล่าวเลย แต่ในเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน 1935 ริบเบนทรอพและโอชิมาได้ลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากล สนธิสัญญาเบื้องต้นได้ออกมาในตอนปลายเดือนพฤศจิกายน 1935 โดยเชิญให้อังกฤษ อิตาลี จีนและโปแลนด์เข้าร่วมด้วย อย่างไรก็ตาม ด้วยความวิตกกังวลของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเยอรมนี Konstantin von Neurath และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสงคราม จอมพล Werner von Blomberg มีว่าสนธิสัญญาดังกล่าวอาจจะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างจีนกับญี่ปุ่น รวมไปถึงความยุ่งยากในญี่ปุ่นหลังจากการก่อรัฐประหารในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1936 แต่ไม่สำเร็จ ทำให้สนธิสัญญาดังกล่าวถูกระงับไปเป็นเวลาเกือบหนึ่งปี เมื่อถึงฤดูร้อนแห่งปี 1936 อิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของกำลังทหารในคณะรัฐบาลญี่ปุ่น ทั้งเยอรมนีและญี่ปุ่นต่างก็เกรงพันธมิตรระหว่างฝรั่งเศส-สหภาพโซเวียต และความปรารถนาของฮิตเลอร์ในด้านนโยบายต่อต้านลัทธิคอมมิวนิสต์มีความเชื่อมั่นว่าถ้าหากสามารถดึงอังกฤษเข้ามาเป็นพันธมิตรได้ สนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลก็จะฟื้นขึ้นมาอีก สนธิสัญญาดังกล่าวเสร็จสมบูรณ์ในเบื้องต้นในวันที่ 23 ตุลาคม 1936 และลงนามเมื่อ 25 พฤศจิกายน 1936 แต่ว่าเยอรมนีก็ยังต้องการที่จะรักษาสัมพันธไมตรีกับสหภาพโซเวียตต่อไป ดังนั้นตัวสนธิสัญญาจึงได้กล่าวถึงเฉพาะองค์การคอมมิวนิสต์สากล แต่ทว่าในข้อตกลงลับที่ได้เขียนชึ้นมานั้นได้กล่าวว่าถ้าเกิดสงครามระหว่างประเทศหนึ่งประเทศใดกับสหภาพโซเวียตขึ้น ประเทศผู้ลงนามที่เหลือจะวางตัวเป็นกลางจนกระทั่งสงครามยุติ.

ในกรณีที่เกิดสงครามระหว่างสหภาพโซเวียตกับเยอรมนีหรือญี่ปุ่น ทั้งสองประเทศจะตกลงใจกันปรึกษาหารือถึงแนวทาง "การรักษาแนวคิดดั้งเดิมของตน" ทั้งสองฝ่ายยังตกลงอีกด้วยว่าทั้งสองฝ่ายจะไม่ตกลงใจทำสนธิสัญญาทางการเมืองกับสหภาพโซเวียต และเยอรมนีจะต้องให้การรับรองแก่แมนจูกัว

ในวันที่ 6 พฤศจิกายน ค.ศ. 1937 อิตาลีก็ได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกในสนธิสัญญาดังกล่าวในปีต่อมา ภายหลัง ทั้งสามปรพะเทศได้รวมตัวกันก่อตั้งเป็นฝ่ายอักษะ การตัดสินใจของอิตาลีนั้นแสดงถึงความล้มเหลวของแนวสเตรซา การทาบทามของอังกฤษและฝรั่งเศสในปี 1935 ได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อป้องกันมิให้นาซีเยอรมนีขยายอาณาเขตออกไปยังประเทศเพื่อนบ้าน ในทางปฏิบัติแล้ว ทั้งสองประเทศมีความต้องการที่จะขัดขวาง "ลัทธิจักรวรรดินิยมเยอรมนี" โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การผนวกออสเตรีย ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากอิตาลีด้วย แต่ว่าความไม่ไว้วางใจและการขยายดินแดนของอิตาลีทำให้สัมพันธไมตรีระหว่างอังกฤษและอิตาลีเริ่มห่างเหิน เช่นเดียวกันกับฝรั่งเศส อิตาลีได้รุกรานเอธิโอเปีย ในเดือนตุลาคม 1935 ซึ่งเป็นการขัดต่อนโยบายของสันนิบาติชาติ ถึงกระนั้น อังกฤษและฝรั่งเศสเองกลับยินยอมให้อิตาลีสามารถยึดครองเอธิโอเปียได้ถึงสองในสามของดินแดนทั้งหมด เป็นที่รู้จักกันว่า สนธิสัญญาฮวาเร-ลาวาล และต่อมาเมื่อข่าวได้แพร่ออกไปถึงมหาชนชาวอังกฤษและฝรั่งเศส รัฐบาลของทั้งสองประเทศก็ได้รับความอับอายเป็นอย่างมาก เลขาธิการกระทรวงการต่างประเทศของอังกฤษ ซามูเอล ฮวาเร ถูกกดดันให้ลาออกจากตำแหน่ง และสนธิสัญญาฮาวเร-ลาวาลก็ถูกยกเลิกไป

ก่อนหน้านั้น ในเดือนมิถุนายน 1935 ข้อตกลงการเดินเรือระหว่างอังกฤษ-เยอรมนีได้ถูกลงนามโดยสหราชอาณาจักรและนาซีเยอรมนี เหตุการณ์ดังกล่าวนับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของความพยายามของฮิตเลอร์ทื่จะเชื่อมสัมพันธไมตรีระหว่างอังกฤษและเยอรมนี รวมไปถึงแยกสหภาพโซเวียตให้อยู่โดดเดี่ยว ขณะที่อังกฤษและสหภาพโซเวียตต่างก็พยายามแยกเยอรมนีให้อยู่อย่างโดดเดี่ยวเช่นกัน ฮิตเลอร์ยังได้แผ่อิทธิพลไปยังโปแลนด์เพื่อให้ร่วมลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากล และกล่าวถึงความตั้งใจของเขาที่จะระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับแนวชายแดนเยอรมนี-โปแลนด์ อย่างไรก็ตาม โปแลนด์ได้ปฏิเสธข้อตกลงของฮิตเลอร์ ด้วยกลัวว่าถ้าหากยอมทำเช่นนั้น ตนก็อาจจะต้องตกอยู่ใต้อำนาจของนาซี ในเวลาเดียวกันนั้น นักการเมืองญี่ปุ่นหลายคน รวมทั้งพลเรือเอก ไอโซโรกุ ยามาโมโต ต่างก็ตื่นตระหนกต่อสนธิสัญญาดังกล่าว แต่ว่าผู้บัญชาการทหารระดับสูงของญี่ปุ่นได้เข้ายึดกรุงโตเกียว ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้แก่เยอรมนีเพื่อทำสัญญากับอังกฤษต่อไป เยอรมนียังคงวางแผนการที่จะทำสงครามกับสหภาพโซเวียตและพันธมิตรตะวันตกต่อไป

ความพยายามของฮิตเลอร์ที่จะพัฒนาสัมพันธไมตรีกับอังกฤษประสบความล้มเหลว ในเดือนสิงหาคม 1939 เยอรมนีเองกลับทำลายสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลของตัวเองเมื่อสนธิสัญญาโมโลตอฟ-ริบเบนทรอพถูกลงนาม ซึ่งเป็นสนธิสัญญาไม่รุกรานกันระหว่างสหภาพโซเวียตและเยอรมนีอย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงปี 1940 ฮิตเลอร์ได้เริ่มวางแผนการรุกรานสหภาพโซเวียต (ซึ่งแต่เดิมกำหนดไว้เมื่อปี 1943) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งนาซีเยอรมนี โจอาคิม วอน ริบเบนทรอพ ได้รีบเจรจาสนธิสัญญาฉบับใหม่กับญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 กันยายน ค.ศ. 1940 ริบเบนทรอพได้ส่งโทรเลขไปยังนายวีเชสลาฟ โมโลตอฟ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของโซเวียต แจ้งให้ทราบว่าเยอรมนี ญี่ปุ่นและอิตาลีมีความพยายามที่จะรวมตัวกันเป็นพันธมิตรทางการทหาร ริบเบนทรอพได้บอกกับโมโลตอฟว่าการรวมตัวเป็นพันธมิตรในครั้งนี้จะพุ่งเป้าไปยังสหรัฐอเมริกา มิใช่สหภาพโซเวียต:

"เป็นความปรารถนาของผู้ที่เข้าร่วมเป็นสมาชิกซึ่งได้รวมตัวกันขึ้นเพื่อบีบคั้นมิให้สหรัฐอเมริกาเข้าสู่สงครามในครั้งนี้ โดยทำให้พวกเขาได้รู้สึกว่าการเข้าสู่สงครามของพวกเขา จะต้องพบกับศึกหนึกอันประกอบไปด้วยสามชาติมหาอำนาจซึ่งได้ร่วมมือกันอย่างแน่นแฟ้น"

สนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลได้รับการทบทวนใหม่ในปี ค.ศ. 1941 หลังจากที่นาซีเยอรมนีรุกรานสหภาพโซเวียตในปฏิบัติการบาร์บารอสซา เมื่อวันที่ 25 พฤศจิกายน ซึ่งได้รับประเทศสมาชิกใหม่เข้ามาอีก 5 ประเทศ กลุ่มประเทศผู้ลงนามในสนธิสัญญาต่อต้านองค์การคอมมิวนิสต์สากลในตอนนั้นได้แก่


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

อาสวกิเลส อวิชชา เอ็มพีแอลเอส ภาวะถ่ายโอนแบบไม่ประสานเวลา แวน สมาร์ทโฟน ไลน์ (โปรแกรมประยุกต์) แอลทีอี 4 จี 3 จี วีโอไอพี บริการข้อความสั้น ใยแก้วนำแสง ระบบโทรศัพท์ การกล้ำสัญญาณ เนตเวิร์กสวิตช์ เราต์เตอร์ สัญญาณดิจิทัล ซิมเพล็กซ์ สายอากาศ เสาอากาศ แลน Transmission Control Protocol อินเทอร์เน็ตโพรโทคอล แพ็กเกตสวิตชิง ดาวเทียมสื่อสาร การพูด การสื่อสารภายในบุคคล การประชาสัมพันธ์ การโฆษณาชวนเชื่อ การตลาด การสื่อสารระหว่างบุคคล ไอแซค อสิมอฟ เขามาจากดาวอังคาร อินุยาฉะ เทพอสูรจิ้งจอกเงิน สโลว์สเต็ป สัญกรณ์โอใหญ่ พรีไบโอติกส์ ป. อินทรปาลิต การเวก (พืช) การพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ สีเทา สีขาว สีน้ำตาล ม่วง เขียว น้ำเงิน สีกากี ชมพู ระบบสี RGB SVG เบราว์เซอร์ แม่สีแสง CSS RGB เวิลด์ไวด์เว็บคอนซอร์เทียม เว็บจีแอล จาวาสคริปต์ Font family (HTML) ซีเอสเอส สไตล์ชีต ด็อม ซี-เอชทีเอ็มแอล เอกซ์เอชทีเอ็มแอล เอชทีเอ็มแอล5 COLOR ISO 11940 ธอง แม่กุญแจสีม่วง ไวต่ออักษรใหญ่เล็ก แม่กุญแจสีทอง ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า ปากานี ซอนด้า เคนต์ โลตัส อีลิส โรวัน แอตคินสัน พยัคฆ์ร้าย ศูนย์ ศูนย์ ก๊าก พยัคฆ์ร้ายทวงแค้นระห่ำโลก จอมมฤตยู 007 เอียน เฟลมมิง พยัคฆ์ร้ายสะบัดลาย โคเวนทรี ระบบส่งกำลัง โปรตอน เอ็กซ์โซร่า โปรตอน วาจา โปรตอน เพอร์โซนา โปรตอน เพรเว่ นิตยสารฟอร์บส Thai language Japanese language Polish language Italian language Dutch language Hindi 2007 พระแม่กาลี มหาธิการิณี

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
234
235
236
237
238
239
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23944