Between 3,000–10,533 Kosovo Albanian civilians killed or missing 848,000–863,000 Kosovo Albanians displaced 2,238 Serbs killed or missing 230,000 Kosovo Serb, Romani and other non-Albanian civilians displacedNATO Air campaign: 489–528 civilian deaths caused by NATO bombing in Kosovo and Serbia(according to Human Rights Watch)
สงครามคอซอวอ (อังกฤษ: Kosovo War) มักจะกล่าวรวมถึงเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในคอซอวอ เขตที่อยู่ทางตอนใต้ของเซอร์เบีย คือ
บนดินแดนแห่งความขัดแย้งทางเชื้อชาติของชาวยูโกสลาเวียเดิม (ประกอบด้วยเซอร์เบีย โครเอเชีย สโลวีเนีย มาซิโดเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา จังหวัดปกครองตนเองวอยวอดีนา และจังหวัดปกครองตนเองคอซอวอ) รัฐเซอร์เบียมีเชื้อสายส่วนใหญ่เป็นชาวเซิร์บเชื้อสายเดียวกับสลาฟ (ใกล้ชิดกับรัสเซียนับถือคริสต์นิกายออร์ทอดอกซ์) และมีชนกลุ่มน้อยที่เป็นมุสลิมอันได้แก่ มาซิโดเนีย บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา และคอซอวอ
ในอดีตที่ผ่านมายูโกสลาเวียปกครองด้วยระบบคอมมิวนิสต์ มีผู้นำที่มีความสามารถในการปกครองและผสานความเป็นสมานฉันท์ระหว่างเชื้อชาติ คือจอมพลยอซีป บรอซ ตีโต ทำให้ความขัดแย้งทางเชื้อชาติไม่มีปัญหามากนัก จนกระทั่งเปลี่ยนแปลงผู้นำเมื่อตีโตถึงแก่กรรม ผู้นำที่ขึ้นมาสืบทอดตำแหน่ง คือ สโลโบดัน มิโลเชวิช ซึ่งเป็นคนเชื้อสายเซิร์บหัวรุนแรง ทำให้ก่อชนวนปัญหาเชื้อชาติเกิดขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อระบบคอมมิวนิสต์ในรัสเซียล่มสลายปลายปี พ.ศ. 2534 ทำให้ก่อเกิดสาธารณรัฐที่ต้องการแยกเป็นอิสระ ซึ่งประเทศที่สามารถแยกตัวได้สำเร็จได้แก่ โครเอเชีย สโลวีเนีย มาซิโดเนีย และบอสเนียฯ ตามลำดับ
ประเทศที่แยกตัวไปส่วนใหญ่จะมีปัญหาเนื่องจากชนเชื้อสายเซิร์บในประเทศไม่ต้องการแยกประเทศทำให้เกิดการปะทะในหลายพื้นที่ แต่ท้ายที่สุด โครเอเชีย สโลวีเนีย มาซิโดเนีย ก็สามารถแยกตัวได้สำเร็จและได้รับรองจากนานาชาติในการจัดตั้งรัฐบาลของตนเอง
บอสเนียและเฮอร์เซโกวีนาเองก็ต้องการแยกตัวออกไปเป็นประเทศใหม่ แต่ก็มีปัญหามากที่สุดเพราะชาวเซิร์บที่อยู่ในประเทศนั้นมีจำนวนมากกว่าประเทศอื่น ๆ จึงมีการรวมกำลังต่อต้านการแยกประเทศเพื่อจะเข้ารวมกับรัฐเซอร์เบีย ท้ายสุดปัญหาก็รุนแรงมากในช่วงปี พ.ศ. 2538 ซึ่งการต่อต้านและปะทะกันอย่างรุนแรงนั้นนำมาสู่การสังหารหมู่เพื่อฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ จนสหประชาชาติต้องเข้ามาไกล่เกลี่ยและยุติศึก
มาถึงคราวของคอซอวอจะแยกตัวบ้างเพื่อไปรวมกับแอลเบเนีย ทางรัฐบาลเซิร์บไม่ยินยอม จึงทำการโจมตีและขับไล่ชาวมุสลิมเชื้อสายแอลเบเนียในคอซอวออย่างโหดร้ายทารุณ ในปี พ.ศ. 2542 ทำให้กองกำลังชาติพันธมิตรนำโดยนาโตและสหรัฐอเมริกาเข้ายับยั้ง โดยทำการโจมตียูโกสลาเวียทางอากาศอย่างหนักหน่วงเป็นเวลากว่า 90 วัน กดดันให้นายมีโลเซวิชยอมถอนทหาร และอนุญาตให้ผู้ลี้ภัยชาวมุสลิมเชื้อสายแอลเบเนียกลับเข้ามาตั้งถิ่นฐานใหม่ได้ โดยมีกองกำลังชาติพันธมิตรคุ้มครองจนกระทั่งปัจจุบัน แต่ปัญหาความรุนแรงในคอซอวอก็ยังไม่จบสิ้น แม้ว่านายมีโลเซวิชจะถูกจับกุม และตัดสินลงโทษโดยศาลโลกในฐานะอาชญากรสงครามแล้วก็ตาม การก่อวินาศกรรมในคอซอวอยังมีอยู่ต่อเนื่อง
อ้างอิงผิดพลาด: มีป้ายระบุ <ref> สำหรับกลุ่มชื่อ "lower-alpha" แต่ไม่พบป้ายระบุ <references group="lower-alpha"/> ที่สอดคล้องกัน หรือไม่มีการปิด </ref>