สงครามอินโดจีน (อังกฤษ: Indochina Wars, เวียดนาม: Chi?n tranh ??ng D??ng) เป็นสงครามย่อยหลายสงครามที่เกิดขึ้นทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ตั้งแต่ปีค.ศ. 1947 จนถึง 1979 ระหว่างชาวเวียดนามชาตินิยมกับฝรั่งเศส อเมริกา และจีน คำว่า "อินโดจีน" เดิมทีจะหมายถึงอินโดจีนของฝรั่งเศส ซึ่งรวมทั้งรัฐปัจจุบันของเวียดนาม ลาว และกัมพูชา การใช้ในปัจจุบันส่วนใหญ่หมายถึงภูมิภาคทางภูมิศาสตร์มากกว่าพื้นที่ทางการเมือง สงครามแบ่งออกเป็นสงครามย่อย 4 สงครามได้แก่
การสร้างอาณานิคมและการครอบครองของฝรั่งเศสเป็นผลให้เกิดการเผยแผ่ศาสนาคริสต์ในศตวรรษที่ 16 ซึ่งก่อให้เกิดการเริ่มเปลี่ยนไปเป็นคาทอลิกที่ละน้อย ในขณะที่จักรพรรดิยา ลองยอมเข้ามาของคาทอลิก ผู้ที่สืบทอดตำแหน่งต่อจากพระองค์ จักรพรรดิมิญ มาง และจักรพรรดิตือ ดึ๊กกลับนับถือลัทธิขงจื๊อของจีนมากกว่า ทั้งสองพระองค์กดขี่คาทอลิกอย่างรุนแรงและพยายามที่จะขจัดอิทธิพลของฝรั่งเศส ซึ่งก่อให้เกิดการโต้ตอบของชาติคาทอลิกในยุโรป นโยบายโดดเดี่ยวของขงจื๊อนำชาวเวียดนามสู่การปฏิเสธความเจริญ ในเดือนสิงหาคม ค.ศ. 1858 จักรพรรดินโปเลียนที่ 3 แห่งฝรั่งเศส ได้สั่งการให้กองกำลังฝรั่งเศสยกพลขึ้นบกที่ตูราน (ปัจจุบันคือดานัง) เป็นการเริ่มเข้ายึดครองซึ่งคงอยู่เกือบศตวรรษ เมื่อถึงปี 1884 ฝรั่งเศสได้ควบคุมทั้งประเทศอย่างสมบูรณ์ ซึ่งได้กลายมาเป็นส่วนที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของอินโดจีนของฝรั่งเศส
การต่อต้านจากชนท้องถิ่นเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ฮาม หงี, ฟาน ดินห์, ฟุง ฟาน, บุย เชา และสุดท้ายคือโฮ จิ มินห์ ผู้ที่กลับมาจากฝรั่งเศสและเช้าร่วมกับเวียดมินห์ในปี 1941 เขาเป็นสมาชิกก่อตั้งพรรคคอมมิวนิสต์ฝรั่งเศส โฮ จิ มินห์ยึดมั่นในคอมมิวนิสต์ของเขาและยุบพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีนลงเพื่อที่เขาจะได้อำนาจและความเชื่อใจ เมื่อเกิดภาวะข้าวยากหมากแพงในปี 1945 มันส่งผลให้เกิดการตาย 2 ล้านราย เวียดมินห์ได้จัดตั้งการปลดเปลื้องครั้งใหญ่ ซึ่งตามมาด้วยชัยชนะเหนือผู้คนมากมาย โฮ จิ มินห์ได้กลายมาเป็นผู้นำของเวียดมินห์
เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลงเวียดนามเหนือก็ตกอยู่ภายใต้การควบคุมของโฮ จิ มินห์ ฝ่ายญี่ปุ่นยอมแพ้ต่อกลุ่มชาตินิยมจีนในเวียดนามเหนือ และเวียดมินห์ก็ได้ก่อการปฏิวัติในเดือนสิงหาคมไปทั่วประเทศ จักรพรรดิเบาได๋สละอำนาจให้กับเวียดมินห์เมื่อวันที่25 สิงหาคม ค.ศ. 1945 โฮ จิ มินห์ได้แต่งตั้งให้เบาไดเป็นที่ปรึกษาพิเศษให้กับรัฐบาลใหม่ของเขาในฮานอย ซึ่งได้สิทธิเป็นเอกราชในวันที่ 2 กันยายนเมื่อเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม ในค.ศ. 1946 เวียดนามได้สร้างรัฐธรรมนูญฉบับแรกขึ้นมา
ในค.ศ. 1948 ฝรั่งเศสได้พยายามที่จะเอาอาณานิคมเวียดนามของตนคืน ในทางใต้ของเวียดนามญี่ปุ่นได้ยอมแพ้ต่อกองกำลังของอังกฤษ สนับสนุนให้พวกเขาต่อต้านเวียดมินห์ ฝรั่งเศสได้แต่งตั้งให้เบาไดเป็นผู้นำเวียดนาม ซึ่งปกครองเวียดนามส่วนกลางและส่วนใต้ ผลที่ตามาคือสงครามระหว่างฝ่ายใต้ที่ควบคุมโดยฝรั่งเศสและฝ่ายเหนือที่มีพันธมิตรเป็นพวกคอมมิวนิสต์ เรียกกันว่าสงครามอินโดจีนครั้งที่ 1
ในสงครามอินโดจีนครั้งที่ 1 เวียดนามเหนือที่ได้รับการสนับสนุนจากพวกคอมมิวนิสต์ในจีนและสหภาพโซเวียตได้ต่อสู้เพื่อได้มาซึ่งเอกราชตั้งแต่เดือนธันวาคม 1946 จนถึงเดือนกรกฎาคม 1954 โดยต่อสู้ส่วนใหญ่เกิดขึ้นรอบๆ ฮานอย มันจบลงด้วยการที่ฝรั่งเศสพ่ายแพ้ที่ยุทธการที่เดียนเบียนฟูและฝรั่งเศสก็ต้องถอนกำลังออกจากเวียดนาม
สงครามอินโดจีนครั้งที่ 2 หรือรู้จักกันในชื่อสงครามเวียดนาม เป็นความสำเร็จของกองทัพประชาชนเวียดนามที่เป็นคอมมิวนิสต์และเวียดกงในการต่อสู้กับทหารของสหรัฐและกองทัพสาธารณรัฐเวียดนามที่สนับสนุนโดยสหรัฐ เนื่องมาจากว่ามันไม่มีการประกาศสงครามอย่างเป็นทางการ จึงมีการไม่เห็นด้วยอย่างมากเมื่อสงครามเริ่มขึ้น แต่สองเหตุการณ์ที่มักอ้างอิงถึงคือการมาถึงครั้งแรกของที่ปรึกษาสหรัฐในเวียดนามใต้เมื่อปี 1955 และทำการประกาศการมีส่วนเกี่ยวข้องของสหรัฐในปี 1964 ในสงครามชาวเวียดนามเหนือขนส่งเสบียงของพวกเขาผ่านทางทางรถไฟโฮ จิ มินห์ ซึ่งวิ่งผ่านลาวและกัมพูชา ผลที่ตามมาคือบริเวณพื่นที่เหล่านี้ที่ติดกับชายแดนเวียดนามจะมีการต่อสู้กันอย่างหนัก
สำหรับสหรัฐเป้าหมายทางการเมืองและการรบนั้นเป็นสิ่งที่ยังไม่ชัดเจน ความสำเร็จและการนำเนินการนั้นแย่ได้รับความสูญเสียอย่างมากทำให้ประชาชนในอเมริกาไม่พอใจกับสงครามครั้งนี้นัก ข่าวของสหรัฐรายงานแนวโจมตีเท็ท (Tet offensive) ในปี 1968 โดยเฉพาะจากซีบีเอส มันถูกมองว่าเป็นสิ่งที่ไม่ดีนักในการจบสงคราม แม้ว่าแนวโจมตีเท็ทปี 1968 นั้นจะส่งผลให้เกิดชัยชนะของเวียดนามใต้และสหรัฐ พร้อมกับการทำลายความสามารถในการต่อสู้ของกองกำลังเวียดกงอย่างมาก มันกลับเป็นการที่ผู้ออกเสียงในอเมริกันหันไปอยู่ฝ่ายตรงกันข้ามกับพวกที่ต่อต้านคอมมิวนิสต์
สหรัฐเริ่มถอนทหารออกจากเวียดนามในปี 1970 โดยมีทหารกลุ่มสุดท้ายออกจากประเทศเมื่อเดือนมกราคม ค.ศ. 1973 ฝรั่งเศสทำการหยุดยิงและห้ามไม่ให้เวียดนามเหนือสงทหารเข้ามาในเวียดนามใต้อีก แม้ว่าเวียดนามเหนือจะได้รับอนุญาตให้ครอบครองเมืองของเวียดนามใต้ที่อยู่ตรมแนวโจมตีตะวันออกได้
ฝ่ายเวียดนามใต้ไม่เคยมีแนวโน้มที่จะทำตามข้อตกลง การต่อสู้ยังคงดำเนินต่อไปตั้งแต่ค.ศ. 1973-1974 ในขณะที่เวียดนามเหนือวางแผนที่จะเข้าโจมตีครั้งใหญ่โดยจะเริ่มในค.ศ. 1976 กองทัพเวียดนามเหนือในเวียดนามใต้ได้รับความเสียหายในการโจมตีทางฝั่งตะวันออกเมื่อค.ศ. 1973 และมันแสดงให้เห็นว่าพวกเขายังต้องคำนวณแผนใหม่จนถึงค.ศ. 1976
การถอนกำลังออกส่งผลให้เกิดหายนะต่อกองทัพเวียดนามใต้ ไม่นานหลังจากการสั่งหยุดยิงของฝรั่งเศส สภาคองเกรสของสหรัฐได้ตัดทุนการช่วยเหลือทางทหารต่อเวียดนามใต้ กองทัพเวียดนามใต้ที่ได้รับการฝึกให้ใช้ยุทธวิธีแบบอเมริกันพ่ายแพ้อย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะยังคงมีการต่อสู้ประปรายตลอดปี 1973-1974 ในที่สุดก็เกิดการต่อสู้ขั้นแตกหักในเดือนมกราคม ค.ศ. 1975 เวียดนามเหนือได้เข้าโจมตีอย่างรวดเร็วเข้าใส่ฝ่ายใต้ที่อ่อนแอ
ไซ่ง่อน เมืองหลวงของเวียดนามใต้ถูกยึดโดยกองทัพเวียดนามเหนือในวันที่ 30 เมษายน ค.ศ. 1975 และสงครามเวียดนามครั้งที่ 2 ก็สิ้นสุดลง
การต่อสู้ที่เกิดขึ้นระหว่างฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ตามมาด้วยการถอนกำลังของสหรัฐบางครั้งก็ถูกเรียกว่าสงครามอินโดจีน โดยปกติแล้วจะหมายถึงความขัดแย้งที่เกิดขึ้นหลังค.ศ. 1979
สงครามอินโดจีนครั้งที่ 3 มักรู้จักกันในชื่อสงครามจีน-เวียดนาม เป็นการต่อสู้ในเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 1979 ระหว่างสาธารณรัฐประชาชนจีนกับสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม
ในค.ศ. 1978 เวียดนามได้เข้าบุกกัมพูชาและขับไล่เขมรแดงออกจากอำนาจ (ดูบทความหลักที่สงครามกัมพูชา–เวียดนาม) สาเหตุที่เวียดนามเข้าบุกนั้นก็เพราะว่าฝ่ายเขมรแดงได้ทำการสังหารหมู่ชาวเวียดนามไปมาก
เขมรแดงนั้นเป็นพันธมิตรทางการเมืองกับจีน ในค.ศ. 1979 รัฐบาลจีนได้เข้าบุกเวียดนามเพื่อเป็นการลงโทษสำหรับการที่เวียดนามเข้าไปขยายดินแดนในกัมพูชา
การต่อสู้นั้นกินระยะเวลาสั้นแต่รุนแรง จีนได้บุกเข้ามาในเวียดนามเป็นระยะทาง 40 กิโลเมตรโดยเข้ายึดเมืองลางซอนในวันที่ 6 มีนาคม ที่นั่นพวกเขาคิดว่าเส้นทางสู่ฮอนอยนั้นโล่งแล้ว โดยประกาศว่าภารกิจในการลงโทษเวียดนามสำเร็จและทำการการถอนกำลัง เหตุผลจริงๆ ที่พวกเขาถอนกำลังออกคือการขัดแย้ง ผลจากความขัดแย้งครั้งนั้นทำให้เวียดนามยังคงมีทหารมากจนถึงทุกวันนี้