สงครามกลางเมืองรัสเซีย เริ่มในเดือนพฤษภาคม ค.ศ. 1918 เมื่อกลุ่มเชโกสโลวัก (อดีตนักโทษสงครามที่เดินทางทางรถไฟสายทรานส์ไซบีเรียไปยังเมืองวลาดีวอสตอคและเป็นพวกลี้ภัย) เกิดประทะกับกองทหารโซเวียตที่บริเวณภูเขาอูรัล และยังมีทีท่าว่าจะยึดขบวนรถไฟ การยึดครองนี้จะทำให้กองกำลังต่อต้านการปฏิวัติ (หรือพวกขาว "Whites") สามารถจัดกองทัพต่อต้านบอลเชวิคในไซบีเรียตะวันตก กองกำลังฝ่ายขาวนี้ยังมีที่ตั้งมั่นอยู่ในเขตรัสเซียในยุโรป ซึ่งถูกเยอรมันยึดครองในเดือนมีนาคม ค.ศ.1918 ระหว่างเริ่มการยึดครองนั้น กองทหารอังกฤษได้เข้ามาตั้งมั่นที่เมืองอาร์คันเกลสค์ มูร์มันสก์ และทรานส์คอเคซัส เหมือนกับว่าจะช่วยฝ่ายรัสเซียขาว และกองกำลังฝรั่งเศสก็เข้ามาตั้งที่โอเดสซา แต่ปรากฏว่าทั้งสองชาติไม่ได้ต้องการที่จะเข้ามาปล่อยฝ่ายขาวอย่างจริงจัง เพราะทั้งสองได้ถอนตัวออกไปหมดในตอนปลาย ค.ศ.1919
พวกบอลเชวิคถูกคุกคามจากรอบด้าน โดยในยูเครนนั้น เยอรมนีได้สนับสนุนรัฐบาลแยกดินแดนชาวยูเครน ส่วนทางใต้นายทหารพระเจ้าซาร์คือ นายพลเดนีกิน (Denikin) ได้จัดตั้งกองทัพอาสาสมัครมีกำลังสำคัญคือ ทหารคอสแซคขับไล่พวกแดงออกจากคอเคซัส ในอูรัลและไซบีเรีย นายพลสมัยพระเจ้าซาร์คือนายพล เอ. วี. คอลชัค (A.V. Kolchak) จัดตั้งกองทัพของตนขึ้นมาพร้อมกับประกาศตนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดในรัสเซียในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1918 กองกำลังของทั้งสองฝ่ายต่างมุ่งเข้าโจมตีมอสโกใน ค.ศ. 1919 แต่กองทัพคอลชัคถูกกองทัพแดงขับไล่ไปไซบีเรียใน ค.ศ. 1920 กองทัพเดนีกินถูกทำลายใน ค.ศ.1920 และเมื่อมีกองทัพของอดีตนายพลสมัยพระเจ้าซาร์อีกคนหนึ่งคือ ยูเดนิช ยกจากเอสโตเนียสู่เปโตรกราดในฤดูร้อน ค.ศ. 1919 ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้ เช่นเดียวกัน การคุกคามครั้งสำคัญเกิดขึ้นอีกเมื่อโปแลนด์ยกกองทัพบุกยูเครน ในเดือนเมษายน ค.ศ. 1920 กองทัพแดงขับไล่ทหารโปแลนด์ถอยร่นไปถึงแม่น้ำวิสตูลา แต่ชาวโปลผู้รักชาติสามารถร่วมมือกันรักษากรุงวอร์ซอไว้ได้ และทั้งสองฝ่ายได้ลงนามสงบศึกในเดือนตุลาคม
ความพ่ายแพ้ของฝ่ายขาวทุกด้าน ทำให้บอลเชวิคสามารถขยายอิทธิพลเข้าไปในทุกภูมิภาค แห่งสุดท้ายคือ วลาดีวอสตอค ซึ่งได้รับการฟื้นฟูขึ้นภายหลังการยึดครองของญี่ปุ่น ค.ศ.1918 ได้ถอนตัวออกไปใน ค.ศ.1922
ชัยชนะของบอลเชวิคเกิดขึ้นด้วยหลายปัจจัย เช่น การที่เลออน ตรอตสกี (Leon Trotsky) สามารถระดมกำลังทหารของพระเจ้าซาร์จัดเป็นกองทัพแดงที่แข็งแกร่ง การควบคุมเขตอุตสาหกรรมสำคัญทางภาคกลาง และความสามารถในการส่งกำลังจากมอสโกออกไปยังที่ที่ต้องการได้เป็นรัศมีกว้าง