ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ศิลปะคริสเตียนยุคแรก

ศิลปะและสถาปัตยกรรมคริสเตียนเริ่มแรก คือศิลปะที่สร้างโดยผู้นับถือคริสต์ศาสนาหรือโดยผู้ได้รับการอุปถัมภ์จากผู้นับถือคริสต์ศาสนาที่เริ่มตั้งแต่ราวปี ค.ศ. 100 จนถึงราวปี ค.ศ. 500 ก่อนหน้าปี ค.ศ. 100 ไม่มีหลักฐานทางศิลปะที่หลงเหลือให้เห็นที่จะเรียกได้ว่าเป็นศิลปะหรือสถาปัตยกรรมของผู้นับถือคริสต์ศาสนาได้อย่างแท้จริง หลังจากปี ค.ศ. 500 ศิลปะและสถาปัตยกรรมคริสเตียนก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปมีลักษณะของศิลปกรรมแบบไบแซนไทน์

ในดินแดนปาเลสไตน์ก่อน ค.ศ. 4 ปี จีซัส ไครสต์ ได้ถือกำเนิดในหมู่บ้านเบทลิเฮมของชาวยิว ใช้ชีวิตวัยหนุ่มส่วนใหญ่เป็นช่างไม้ในหมู่บ้านนาซาเรท พระองค์เกิดมาในท่ามกลางของความกดขี่ขูดรีดอย่างหนักของจักรพรรดิโรมันต่อชาวยิว ความเดือดร้อนเกิดขึ้นทุกหย่อมหญ้า ทำให้ชาวยิวต่างใฝ่ฝันที่จะได้หรือผู้มาโปรดโลก (Messiah) เพื่อขับไล่ชาวโรมันให้ออกจากดินแดน และสถาปนารัฐยิวที่เป็นของชาวยิวขึ้นมา

พระเยซูได้เริ่มต้นสั่งสอนให้มนุษย์มีความรัก ความกรุณาซึ่งกันและกันตั้งแต่ปี ค.ศ. 28 หลักธรรมคำสั่งสอนของพระองค์ได้แพร่หลายออกไป ก่อให้เกิดความสนใจต่อชาวยิวอย่างยิ่ง จนถึงกับทึกทักเอาว่าพระองค์ คือ เมซไซ-อะ ที่ทุกคนเฝ้ารอคอย แต่แล้วพระเยซูกลับสนใจแต่เรื่องของวิญญาณ มิใช่เรื่องทางวัตถุ จึงก่อให้เกิดความผิดหวังและกลายเป็นการต่อต้านและเป็นปฏิปักษ์การกระทำของพระองค์อย่างกว้างขวาง มีทั้งพวกคลั่งชาติ พวกเจ้าหนี้ที่คอยเอารัดเอาเปรียบ และพวกพระซึ่งเกรงว่าพระเยซู จะทำให้ฐานะและสิทธิของตนหมดสิ้นไป ทุกฝ่ายต่างพากันกล่าวหาว่าพระเยซูคือผู้ทำลายความสงบสุขและลบหลู่พระยะโฮวาอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกตน จนกระทั่งพระเยซูถูกกล่าวหักหลังโดยบอกกับเจ้าหน้าที่มาจับตัวไปให้ศาลศาสนาซาเฮดรินของพวกยิวตัดสิน และถูกพิพากษาประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขนราวกับผู้ร้าย

การเสียสละชีวิตของพระเยซูมีผลสะท้อนออกไปอย่างกว้างขวางและล้ำลึก สาวกผู้มีศรัทธาปสาทะอย่างแรงกล้าได้นำคำสั่งสอนของพระองค์ออกเผยแพร่ออกไป โดยเฉพาะแหล่งชุมชนของชาวยิว ซึ่งอยู่กระจัดกระจายทั่วไปในเมืองต่างๆ แถบชายทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และที่อยู่ในกรุงโรม ต่อมาจึงค่อยเผยแพร่ออกไปสู่ชนชาติต่างๆ อย่างไม่จำกัดจนกลายเป็นศาสนาใหญ่และสำคัญที่สุดในโลกศาสนาหนึ่ง

อนึ่ง ในระหว่างที่จักรวรรดิโรมันเรืองอำนาจ ชาวโรมันมีความเป็นอยู่อย่างสุขสบาย แต่คนอื่นมิได้เป็นชาวโรมันกลับเต็มไปด้วยความทุกข์ยาก ทุกคนใฝ่ฝันที่จะมีเสรีภาพและความเสมอภาค พวกเขาพบว่าคริสต์ศาสนาได้สนองความต้องการของพวกตน ให้ความหวังในเรื่องเสรีภาพและความเสมอภาพในหมู่มนุษย์ ดังตัวอย่าง เช่น มีคำสอนในศาสนากล่าวว่าพระผู้เป็นเจ้าหรือพระบิดาที่เปี่ยมด้วยความรักความกรุณาได้สั่งพระบุตรหรือพระเยซูลงมาเพื่อไถ่บาปของมนุษย์ อนึ่ง ในเรื่องสิทธิการนับถือศาสนา แม้ว่าโรมันจะไม่มีนโยบายเป็นปฏิปักษ์ต่อความเชื่อความศรัทธาในศาสนาใดศาสนาหนึ่งโดยเฉพาะ ตราบใดที่ผู้นั้นยังร่วมถวายสักการบูชาองค์จักรพรรดิ์ให้เป็นประดุจหนึ่งเทพเจ้าชาวโรมัน จะไม่ขัดขวางการนับถือศาสนานั้นๆเลย คตินิยมนี้ชาวคริสเตียนยินยอมไม่ได้ เพราะขัดกับความเชื่อเรื่องของพระเจ้าของพวกตน นอกจากนี้ชาวโรมันเชื่อว่าหน้าที่สำคัญของมนุษย์ควรพึงปฏิบัติต่อรัฐ ส่วนชาวคริสเตียนมีความคิดเห็นว่า หน้าที่สำคัญของมนุษย์ คือ การปฏิบัติต่อพระเจ้า ดังนั้น ความขัดแย้งอย่างรุนแรงในขั้นพื้นฐานของความศรัทธาระหว่างชาวโรมันและชาวคริสเตียน จึงเป็นไปอย่างกว้างขวางและลึกซึ้ง ชาวคริสเตียนจะไม่ยอมร่วมพิธีกรรมทางศาสนาที่ที่ทางรัฐจัดขึ้น ไม่ยอมรับราชการทำหารหรือดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ทางการโรมันจึงต้องปราบปรามชาวคริสเตียนอย่างรุนแรงและเหี้ยมโหดเป็นระยะเวลาร่วม 300 ปี แต่ดูเหมือนว่ายิ่งปราบปรามมากเท่าใดก็ยิ่งเพิ่มขึ้นมากเท่านั้น จนมีผู้กล่าวว่า “ โลหิตของผู้เสียสละกลายเป็นเมล็ดพันธุ์ให้กับศาสนา ” ตราบจนกระทั่งถึงรัชสมัยของจักรพรรดิคอราแตนติน พระองค์ได้ทรงพระราชกรณียกิจที่สำคัญไว้สองประการ คือ ประการแรก ได้ออกพระราชกฤษฎีกาแห่งเมืองมิลาน (Decoree of Milan) ในปี ค.ศ. 313 ประกาศยกฐานะของชาวคริสเตียนให้มีสิทธิเท่าเทียมกับชาวโรมัน ยกเลิกคำสั่งห้ามชาวคริสเตียนรับราชการ ยอมให้ถือกรรมสิทธ์ในทรัพย์สินและสามารถปฏิบัติศาสนกิจได้ตามใจชอบ ประการที่สอง ได้สร้างกรุงคอนสแตนติโนเปิลที่แคว้นบิแซนติอุมให้เป็นราชธานีของจักรวรรดิโรมันตะวันออก นับตั้งแต่นั้นมา คริสศาสนาอันถูกต้องตามกฎหมาย ยั่งกว่วนั้นรัฐบาลในยุคหลังเริ่มเกื้อกูลให้การอุปถัมภ์พร้อมกับร่วมมือทำลายเปลี่ยนแปลงเทวสถาน และกวาดล้างลัทธิอื่นๆ ซึ่งมิได้เป็นศาสนาคริสต์อีกด้วย

ศิลปกรรมของชาวคริสเตียนในระยะแรกเริ่ม นับตั้งแต่ศาสนาได้วางรากฐานลงในจักรวรรดิเมื่อคริสต์ศตวรรษที่ 1 เรื่อยมาจนกระทั่งได้รับอิสรภาพและกรุงโรมแตก แบ่งออกเป็น 2 สมัยด้วยกัน คือ

เมื่อจักรวรรดิคอนสแตนตินรับรองศาสนาคริสต์ให้เป็นศาสนาที่ถูกต้องตามกฎหมาย การเจาะขุดอุโมงค์คาตาโคมบ์จึงเลิกไป คริสต์ศาสนิกชนได้หันมาแสวงหาสถานที่ใหม่บนพื้นดิน ระยะแรกคงกะทันหันเกินไป ไม่มีเวลาและเงินทองจะสร้างของใหม่ได้จึงนำเอาอาคารของชาวโรมันมาใช้ อาทิ เช่น นำเอาบาสิลิกามาดัดแปลงเป็นโบสถ์ ครั้นเวลาล่วงเลยมาจึงมีการสร้างเพิ่มเติมขึ้น แต่ก็ยังไม่มีรูปแบบเด่นเป็นพิเศษ ยังคงนิยมลอกเลียนสิ่งก่อสร้างของโรมันอยู่ ทั้งนี้จะเห็นได้จากโบสถ์หลังเก่าของเซนต์ปีเตอร์ ยืมเอารูปแบบของบาสิลิกามาใช้ แต่ดัดแปลงเสียใหม่ให้มีแผนผังเป็นรูปตัว T นำเอา เอทริอุม ( Atrium = ลานบ้านชาวโรมัน อยู่หน้าบ้าน เปิดโล่งไม่มีหลังคา ) มาผสมกันกับบาสิลิกา กล่าวคือ มีบันไดขึ้นด้านหน้าสู่เฉลียงกว้างก่อนผ่านเข้าประตูใหญ่ เมื่อผ่านเข้าไปภายในจะเป็นลานขนาดใหญ่เปิดโล่งตามแบบเอทริอุมของโรมัน รอบลานนี้จะทำเป็นระเบียงทางเดินมุงหลังคาเรียบร้อย ตรงใจกลางลานมีน้ำพุสำหรับผู้มาประกอบพิธีกรรมล้างมือ ถัดจากบริเวณนี้จะเป็นตัวโบสถ์ซึ่งภายในทางด้านซ้ายและขวามือจัดเป็นที่นั่งฟังธรรม บริเวณดังกล่าวเรียกว่า ไอล ( Aisle ) จากประตูโบสถ์ถึงแท่นบูชามีช่องทางเดินกว้าง เรียกว่า เนฟ ( Nave ) ส่วนสุดห้องใช้เป็นที่ตั้งของแท่นบูชา ด้านข้างทั้งสองของแท่นบูชาขยายกว้างออกไปเป็นห้องยาวขวาง เรียกว่า ทรานเซพท์ ( Trancept ) คล้ายกับหางของตัว T

โครงสร้างหลังเก่าเซนต์ปีเตอร์ไม่ได้ใช้โวลท์ แต่หันไปใช้หลังคาจั่วแทน เพราะว่าการสร้างหลังคาด้วยระบบโวลท์และใช้คอนกรีตค่อยข้างแพง แต่เมื่อพิจารณาดูรูปทรงทั้งหมดยังคงมีเค้ารูปแบบคล้ายกับบาสิลิกาของโรมันอยู่ วิธีการวางแผนผังเช่นนี้เป็นที่นิยมในการสร้างโบสถ์ทั่วๆ ไปในระยะแรก

ครั้นเมื่อคริสต์ศาสนาได้รับการรับรอง จักรวรรดิโรมันเริ่มอ่อนแอลงตามลำดับ ประจวบกับพวกป่าเถื่อนได้ถือโอกาสยกเข้าโจมตีปล้นสะดมกรุงโรมอยู่เป็นเนืองนิจ จักรพรรดิโฮโนริอุสจึงได้ย้ายเมืองหลวงจากโรมไปอยู่ที่เมืองราเวนนา (Ravenna) ในปี ค.ศ. 402 ที่ตั้งของราเวนนามีภูมิประเทศคับขัน สามารถป้องกันศัตรูได้ดี อีกทั้งยังอยู่ใกล้กับเมืองท่าคลาสเส ( Classe ) ซึ่งสามารถติดต่อขอความช่วยเหลือจากจักรวรรดิบิแซนทีนหรือโรมันตะวันออกได้อย่างสะดวกสบาย ถึงอย่างไรก็ตาม ใน ค.ศ. 476 ราเวนนา เมืองหลวงสุดท้ายของจักรวรรดิโรมันก็ทนรุกรานของพวกกอธไม่ไหว โอโดเชอร์ ผู้นำของชนเหล่านั้นได้เข้ายึดครองและเปลี่ยนแปลงราเวนนาให้เป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรโตรกอธ อยู่ชั่วระยะเวลาหนึ่ง ราเวนนาได้เจริญรุ่งเรืองสืบมาจนกระทั่งปี ค.ศ. 540 และถึงกาลอวสานเมื่อจักรพรรดิจัสติเนียนของจักรวรรดิโรมันตะวันออกหรือ บิแซนทีน ได้ส่งกองทัพมารบบุกยึดกรุงราเวนนาและอิตาลีไว้ได้ ทำให้ศิลปวัฒนธรรมของบิแซนทีนเข้ามามีอิทธิพลโดยตรงในอิตาลี ในขณะเดียวกันอำนาจของคริสตจักรที่โรมนับวันจะพอกพูนขึ้นทุกขณะ


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301