ค้นหา
  
Search Engine Optimization Services (SEO)

ระเบิดเถิดเทิง

ระเบิดเถิดเทิง เป็นรายการซิตคอมควบคู่กับเกมโชว์ ซึ่งผลิตโดยบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) ออกอากาศทางสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกทุกวันอาทิตย์ โดยในระยะแรกมีรูปแบบเป็นรายการวาไรตี้ อีก 3 เดือนต่อมาได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นละครซิตคอม ควบคู่กับเกมโชว์ อันเป็นรูปแบบปัจจุบันของรายการ รายการระเบิดเถิดเทิงออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2539 และยังออกอากาศมาถึงปัจจุบัน นับว่าเป็นซิตคอมที่มีการออกอากาศยาวนานที่สุดในประเทศไทย[ต้องการอ้างอิง]

ในระยะแรก ระเบิดเถิดเทิง มีรูปแบบเป็นรายการวาไรตี้ มีพิธีกรคือ มยุรา เศวตศิลา และ หนู คลองเตย (ภายหลังได้เพิ่ม หม่ำ จ๊กมก เป็นพิธีกรหลักด้วย) มีการแสดงตลก และดนตรี ตลอดจนการแสดงความสามารถของดารารับเชิญ (เรียกว่า ระเบิดรับเชิญ) ในรายการ ซึ่งออกอากาศระหว่างวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2539 ถึง 31 มีนาคม พ.ศ. 2539 เป็นลักษณะของรายการวาไรตี้โชว์ ซึ่งมีช่วงต่าง ๆ ดังนี้

เป็นการแสดงตลกของคณะตลก ซึ่งมีคณะตลกหลักเป็นคณะของหม่ำ จ๊กมก ที่นอกจากจะเล่นตลกในช่วงนี้แล้ว ยังมีหน้าที่เป็นพิธีกรประจำช่วงด้วย

เป็นการแสดงดนตรีของวงดนตรี หรือเป็นการแสดงจากดาราซึ่งเป็นระเบิดรับเชิญในสัปดาห์นั้น ช่วงแรกนี้ มีธงชัย ประสงค์สันติ และวงสามโทน เป็นพิธีกรประจำช่วง

เป็นช่วงการสัมภาษณ์แขกรับเชิญที่ร่วมเล่นละครในแต่ละสัปดาห์ พร้อมกับตอบจดหมายจากทางบ้าน โดยจะปรากฏหลังจากละครได้เล่นจบตอนลง

อีก 3 เดือนต่อมา ระเบิดเถิดเทิง ได้เปลี่ยนรูปแบบมาเป็นละครซิตคอมควบคู่กับเกมโชว์ อันเป็นรูปแบบปัจจุบันของรายการ แต่ละตอนมักมีนักแสดงรับเชิญมาร่วมแสดงกับนักแสดงประจำและมาร่วมเล่นเกมในช่วงท้าย โดยแขกรับเชิญคนแรกคือ อภิรดี ภวภูตานนท์ ออกอากาศตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน พ.ศ. 2539 - 27 กันยายน พ.ศ. 2552

และยังมีรายการ ระเบิดเถิดเทิง วันหยุด เป็นรายการพิเศษของระเบิดเถิดเทิง โดยจะเสนอเรื่องราวในตอนพิเศษที่เพิ่มเติมจากเรื่องราวปกติ หรือ เสนอภาพเหตุการณ์ที่น่าสนใจของตอนที่ออกอากาศไปแล้วนำมาเสนออีกครั้ง และตัดช่วงเกมออก

สำหรับส่วนซิตคอมนั้น มีเนื้อหาเกี่ยวกับชุมชนของคนในซอยเถิดเทิง ชุมชนแห่งหนึ่งในประเทศไทย ที่มี เท่ง (เท่ง เถิดเทิง) กับ โหน่ง (โหน่ง ชะชะช่า) เป็นนักเลงคุมซอย แต่ละตอนมักมีนักแสดงรับเชิญมาร่วมแสดงกับนักแสดงประจำ และมาร่วมเล่นเกมในช่วงท้าย ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่ระเบิดเถิดเทิงออกอากาศถึงปัจจุบัน ช่วงซิตคอมระเบิดเถิดเทิงได้มีการปรับเปลี่ยนเนื้อหา และตัวละครอยู่เรื่อย ๆ

ส่วนเรื่องราวในระเบิดเถิดเทิง รุ่น 3 (2552-2553) นี้เกิดขึ้นใน 5 ปีหลังจากตอนสุดท้ายในระเบิดเถิดเทิงจบลง เท่งได้ไปทำงานในซาอุดิอาระเบีย เพื่อหวังที่จะได้เงินมากขึ้น แต่ 5 ปีผ่านไปเท่งก็ได้กลับมาแต่ก็ยังจนเหมือนเดิม กลับมาคราวนี้หลายสิ่งเปลี่ยนไป ยังมีตัวละครเพิ่มขึ้นคือ บีน รุ่นพี่ของลูกเกลี้ยง, น้ำใส เพื่อนของลูกเกลี้ยง, เพ้นท์ เพื่อนสมัยมัธยมของน้ำใส

ส่วนเรื่องราวในระเบิดเถิดเทิง ลั่นทุ่ง (2553-2555) เท่งกับโหน่งได้ออกจากซอยเถิดเทิงไปอยู่ที่บ้านลั่นทุ่ง เพื่อหนีหนี้ที่ทำเช็ค 5 ล้านบาทหายไป เมื่อไปถึงหมู่บ้านลั่นทุ่งเท่งได้ล่วงรู้ว่ามีทองคำที่ซ่อนอยู่ในวัดจึงพยายามแฝงตัวเข้ามาเพื่อนำทองคำไปใช้หนี้ แต่กลับต้องกุมความลับของทองคำอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ส่วนเรื่องราวในระเบิดเที่ยงแถวตรง (2555-2558) เป็นเรื่องราวของหน่วยรบพิเศษกองพันที่ 555 ณ หมู่บ้านกระสุนดินดำ ที่มีทหารหลายนายมาร่วมฝึกจนเกิดเป็นเรื่องราวของมิตรภาพความสนุกสนานในค่าย นอกจากเรื่องราวในค่ายแล้วเหล่าทหารยังต้องแวะเวียนไปโรงพยาบาลเพื่อไปจีบคุณหมอสาวสวยและการเป็นพ่อแง่แม่งอนของพระนางในเรื่อง ซึ่งนำทีมโดยจ่าเท่งกับจ่าโหน่ง

โดยแต่ละตอนนั้นมีนักแสดงรับเชิญมาร่วมแสดงและเล่นเกมในช่วงท้ายเช่นกัน หรือไม่มีนักแสดงรับเชิญในบางตอน

ฉลองครบรอบ 12 ปี ของรายการระเบิดเถิดเทิงด้วยความพิเศษ คือ มี 12 นางเอกมาร่วมแสดงในแต่ละตอน เริ่ม 1 กุมภาพันธ์ 2552 และสิ้นสุดในวันที่ 12 เมษายน 2552 โดยในแต่ละตอนจะมี 1 นางเอก มาร่วมรายการ แต่มีตอน ท้องสองสองท้อง เพียงตอนเดียว ที่มีถึง 2 นางเอก และตั้งแต่วันที่ 26 เมษายน ได้เพิ่มเป็น 12 หนุ่มสุดฮ็อต สิ้นสุดถึงวันที่ 12 กรกฎาคม 2552

เกมนี้ถือกำเนิดเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อ 6 ตุลาคม 2539 จนถึง 13 กันยายน 2552 โดยมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบอยู่หลายครั้ง

แบบแรก 6 ตุลาคม 2539 - 29 มิถุนายน 2540 จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 4 แผ่นป้าย โดยแขกรับเชิญจะต้องเลือกให้พิธีกรทั้งหมด 3 ท่าน ได้แก่ (ยุคแรก หม่ำ หนู กิ๊ก ยุคที่สองหม่ำ หนู ไทด์ ยุคที่สาม หม่ำ หนู เด๋อ) (ยกเว้นมยุรา(พิธีกรหลัก)) และเลือกให้ดารารับเชิญด้วย โดยในทั้ง 4 แผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดรวมกันทั้งหมด 18 ลูก (ในช่วงแรกมยุราจะไม่มีลูกระเบิด) แต่ทว่าตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2539 - 29 มิถุนายน 2540 ทั้ง 4 แผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดรวมกันทั้งหมด 17 ลูก โดยอีก 1 ลูกเป็นของมยุรา (พิธีกรหลัก) โดยที่มยุราเริ่มมีลูกระเบิดเป็นของตัวเองแล้ว หลักจากเลือกป้ายครบแล้วก็จะทำการเปิดป้ายทีละป้ายเพื่อดูว่าในแผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดจำนวนกี่ลูก (จำนวนลูกระเบิดเท่ากับจำนวนแผ่นป้ายในรอบถอดสลักระเบิด)

แบบที่สอง 5 กรกฎาคม - 26 ตุลาคม 2540 รูปแบบเกมและการเลือกป้ายจะเหมือนแบบแรกทุกประการ เพียงแต่เปลี่ยนรูปแบบจากการเปิดป้ายยางยืดมาเป็นดึงแท่นระเบิด

แบบที่สาม 2 พฤศจิกายน 2540 - 26 กันยายน 2542 กลับมาใช้รูปแบบแรกอีกครั้งเพียงแต่มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยคือ จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 5 แผ่นป้าย โดยแขกรับเชิญจะต้องเลือกให้พิธีกรทั้งหมด 4 ท่าน ได้แก่ (ยุคแรก หม่ำ หนู เด๋อ เท่ง ยุคที่สองหม่ำ เท่ง เด๋อ แดนนี่ ยกเว้นมยุรา (พิธีกรหลัก)) และเลือกให้ดารารับเชิญด้วย โดยในทั้ง 5 แผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดรวมกันทั้งหมด 17 ลูก โดยอีก 1 ลูกเป็นของมยุรา(พิธีกรหลัก) (แต่ในช่วงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2541 - 26 กันยายน 2542 ลูกระเบิดจะลดลงเหลือ 14 ลูก และอีก 1 ลูกเป็นของมยุรา(พิธีกรหลัก)) หลักจากเลือกป้ายครบแล้วก็จะทำการเปิดป้ายทีละป้ายเพื่อดูว่าในแผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดจำนวนกี่ลูก (จำนวนลูกระเบิดเท่ากับจำนวนแผ่นป้ายในรอบถอดสลักระเบิด)

แบบที่สี่ 3 ตุลาคม 2542 - 26 มกราคม 2546 รูปแบบเหมือนแบบที่สามแต่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยคือ จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 6 แผ่นป้าย โดยแขกรับเชิญจะต้องเลือกให้พิธีกรทั้งหมด 5 ท่าน ได้แก่ หม่ำ เท่ง โหน่ง เด๋อ แดนนี่ (ยกเว้นพิธีกรหลัก) และเลือกให้ดารารับเชิญด้วย โดยในทั้ง 6 แผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดรวมกันทั้งหมด 17 ลูก โดยอีก 1 ลูกเป็นของพิธีกรหลัก หลักจากเลือกป้ายครบแล้วก็จะทำการเปิดป้ายทีละป้ายเพื่อดูว่าในแผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดจำนวนกี่ลูก (จำนวนลูกระเบิดเท่ากับจำนวนแผ่นป้ายในรอบถอดสลักระเบิด)

แบบที่ห้า 2 มกราคม 2548 - 13 กันยายน 2552 รูปแบบเหมือนแบบที่สี่ แต่ปรับเปลี่ยนเล็กน้อยคือ จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 8 แผ่นป้าย โดยแขกรับเชิญจะต้องเลือกให้พิธีกรทั้งหมด 7 ท่าน (ยกเว้นพิธีกรหลัก) และเลือกให้ดารารับเชิญด้วย โดยในทั้ง 8 แผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดรวมกันทั้งหมด 17 ลูก โดยอีก 1 ลูกเป็นของพิธีกรหลัก หลักจากเลือกป้ายครบแล้วก็จะทำการเปิดป้ายทีละป้ายเพื่อดูว่าในแผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดจำนวนกี่ลูก (จำนวนลูกระเบิดเท่ากับจำนวนแผ่นป้ายในรอบถอดสลักระเบิด) (แต่ในช่วงวันที่ 7 มกราคม 2550 - 13 กันยายน 2552 จะต้องเลือกป้ายให้พิธีกรทั้งหมด 6 ท่าน และเลือกให้ตัวเอง จนเหลือ 1 แผ่นป้าย โดยแผ่นป้ายนั้นเป็นบอมหมู่คือผู้เล่นทุกคนเข้าโดมทั้งหมดยกเว้นพิธีกรหลัก)

อย่างไรก็ดี นับตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2539 - 13 กันยายน 2552 เกมวางระเบิดจะอยู่ในรูปแบบของการเปิดแผ่นป้าย โดยในช่วงวันที่ 1 กันยายน 2539 - 26 ตุลาคม 2540 จะมีจำนวน 4 แผ่นป้าย (แต่ในช่วงนี้ อาจสลับกับการดึงแท่นระเบิดบ้าง) ช่วงวันที่ 2 พฤศจิกายน 2540 - 16 กุมภาพันธ์ 2541 จะมีจำนวน 5 แผ่นป้าย ช่วงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2541 - 31 ตุลาคม 2542 มี 5 แผ่นป้ายเหมือนเดิม แต่ลดลูกระเบิดเหลือ 14 ลูก (แต่พิธีกรจะมีลูกระเบิดของตัวเองอยู่แล้ว 1 ลูก รวมเป็น 15 ลูก) ช่วงวันที่ 7 พฤศจิกายน 2542 - 26 มกราคม 2546 จะมี 6 แผ่นป้าย และกลับมาเพิ่มลูกระเบิดเป็น 17 ลูก (รวมของพิธีกรหลักอีก 1 ลูก เป็น 18 ลูก) และในวันที่ 2 มกราคม 2548 - 13 กันยายน 2552 จะมี 8 แผ่นป้าย และจะให้แขกรับเชิญเป็นคนเลือกว่าจะให้แผ่นป้ายนั้นๆกับผู้เล่นเกมคนไหนหรือว่าให้กับตัวเองโดยจะไล่ไปตั้งแต่แผ่นแรกถึงแผ่นสุดท้าย อย่างไรก็ตามในปี 2539-2541 จะมีการหลอกป้ายระเบิดเช่นผู้ที่เลือกป้ายแล้วได้ระเบิด 1-2 ลูกแต่พิธีกรผิดสังเกตว่าลูกระเบิดทั้งหมดยังไม่ครบจำนวนและพิธีกรตรวจดูและปรากฏว่าภายในแผ่นป้ายมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่ซึ่งจะมีลูกระเบิดที่มีจำนวนมากเช่นผู้ที่เล่นเกมได้ 1 ลูกเมื่อพิธีกรเปิดสติ๊กเกอร์เจอลูกระเบิดทั้ง 11 ลูกหมายความว่าผู้ที่เล่นเกมได้จำนวนระเบิดถึง 12 ลูกนั่นเอง แต่ในบางครั้งจะใช้โลโก้สัญลักษณ์ของรายการครึ่งรูปเป็นลูกระเบิดหลอกด้วย

ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึง 12 กรกฎาคม 2552 ในช่วง 12 ปีระเบิดเถิดเทิง พิธีกรในรายการ (สิเรียม) จำเป็นจะต้องเลือกแผ่นป้ายด้วย (ในแผ่นป้ายทั้ง 8 แผ่นป้ายจะมีลูกระเบิดอยู่ทั้งหมด 18 ลูก) และได้ตามจำนวนระเบิดในแผ่นป้ายนั้น (จากเดิมมี 1 ลูกแน่นอน) รวมถึงมีรูปภาพของคุณสิเรียมในแผ่นป้ายบอมหมู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตามกฎกติกายังคงเดิมอยู่

ในช่วงปี 2546 ได้ใช้เกม แคปซูลระเบิด การเลือกแผ่นป้ายในรอบวางระเบิดนี้ จะมีแผ่นป้าย 6 แผ่นป้าย ด้านหลังจะมีระเบิด 1 ลูก 2 แผ่นป้าย และระเบิด 2-5 ลูกอย่างละ 1 แผ่นป้าย ทั้งนี้ แผ่นป้ายแต่ละป้ายจะมีค่าเป็นจำนวนแคปซูลที่จะระเบิดในรอบถัดไป (เช่นเปิดได้ 1 ลูก แคปซูลจะระเบิด 1 แคปซูล)

ในยุคแรก ตั้งแต่วันที่ 7 เมษายน - 29 กันยายน 2539 จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 18 แผ่นป้าย โดยมีป้ายดารารับเชิญ 9 ป้าย ป้ายพิธีกร(หม่ำ หนู กิ๊ก) อย่างละ 3 ป้ายทุกคนโดยไม่มีพิธีกรหลัก (มยุรา)

รูปแบบแรก (7 เมษายน 2539 - 26 กันยายน 2542) ในเกมถอดสลักระเบิดจะมีแผ่นป้ายทั้ง 18 แผ่นป้าย (แต่ช่วงระหว่าง 23 กุมภาพันธ์ 2541 - 26 กันยายน 2542 มีแผ่นป้ายลดลงเหลือ 15 แผ่นป้าย) ซึ่งแต่ละป้ายเป็น รูปภาพของผู้เล่นเกมคนนั้นๆตามจำนวนลูกระเบิดที่แต่ละคนสะสมไว้ในเกมวางระเบิด (เช่น พิธีกร มีระเบิด 1 ลูก จะมี 1 แผ่นป้าย, แขกรับเชิญมีระเบิด 2 ลูก จะมี 2 แผ่นป้าย เป็นต้น) โดยแขกรับเชิญจะเลือกแผ่นป้ายมา 1 แผ่นป้าย ถ้าเปิดป้ายเจอรูปภาพใบหน้าของผู้ร่วมเล่นเกมคนใดคนหนึ่ง ผู้นั้นจะต้องเข้าไปในตู้ระเบิด ทั้งนี้ ถ้าหากเปิดได้แผ่นป้ายที่มีเครื่องหมายบวก (แผ่นป้ายเครื่องหมายบวกจะมีอยู่ในแผ่นป้ายของผู้เล่นเกมทุกคน คนละ 1 แผ่นป้ายแน่นอน ยกเว้นพิธิกรหลัก และแผ่นป้ายบวกเริ่มมีครั้งแรก เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2539) แขกรับเชิญจะต้องเลือกแผ่นป้ายอีก 1 แผ่นป้ายด้วยกัน ถ้าเป็นรูปของผู้ร่วมเล่นเกมคนใด คนนั้นก็จะต้องเข้าตู้ระเบิดไปด้วยกัน แต่ถ้าหากยังเจอรูปของผู้ร่วมเล่นเกมที่มีเครื่องหมายบวกอีก ก็จะต้องเลือกแผ่นป้ายไปเรื่อยๆจนกว่าจะเจอรูปของผู้ร่วมเล่นเกมที่ไม่มีเครื่องหมายบวก และจะเข้าตามจำนวนคนที่ถูกเปิดแผ่นป้ายที่มีเครื่องหมายบวกติดต่อกัน (ทั้งนี้ หากเปิดได้แผ่นป้ายที่มีเครื่องหมายบวก แล้วแผ่นป้ายต่อมายังเป็นผู้เล่นเกมคนเดิม ผู้เล่นเกมคนนั้นจะเข้าตู้ระเบิดคนเดียว ไม่ว่าจะเปิดได้บวกรูปตัวเองกี่ครั้งก็ตาม) หลังจากเปิดแผ่นป้ายเรียบร้อยแล้ว แขกรับเชิญจะได้เลือกสลักระเบิดซึ่งจะมีทั้งหมด 5 สลักด้วยกัน โดยผู้ที่เข้าโดมระเบิดจะต้องดึงสลักนั้นออกมา ถ้าโดมระเบิดนั้นไม่ระเบิด (คือไม่มีอะไรเกิดขึ้น หรือ มีดอกไม้ ,กระดาษสีร่วงลงมา) เกมจะดำเนินต่อไปในลักษณะเดียวกันจนกว่าโดมระเบิดนั้นจะระเบิด (ซึ่งถ้าระเบิด ก็จะมีแป้งร่วงลงมาใส่ผู้ที่อยู่ในตู้นั้น) ทั้งนี้ หากแขกรับเชิญเปิดเจอป้ายรูปใบหน้าของตนเอง และต้องเข้าไปอยู่ในโดมระเบิด หากดึงสลักระเบิดแล้วไม่เกิดการระเบิดขึ้น ในช่วงวันที่ 7 เมษายน - 29 กันยายน 2539 ไม่มีการแจกรางวัลเนื่องจากยังไม่มีผู้สนับสนุนในช่วงนั้น และในภายหลัง 6 ตุลาคม 2539 มีผู้สนับสนุนเกิดขึ้น จึงแจกทองคำหนัก 1 บาท ในทุกครั้งที่เข้าตู้แล้วไม่โดนระเบิด และไม่ว่าจะไม่ได้เข้าโดมระเบิด หรือเข้าโดมแต่ไม่โดนระเบิด ก็จะมีผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากผู้สนับสนุนรายการมอบให้ด้วย (สำหรับในรูปแบบแรกนี้ หากผู้เล่นที่ถูกทายว่าจะโดนระเบิดมีระเบิดสะสมเพียง 1 ลูก ผู้ชมทางบ้านจะไม่มีโอกาสได้รับรางวัลแจ็คพอตแน่นอน เนื่องจากว่าถ้าผู้เล่นที่ถูกทายโดนระเบิด จะโดนระเบิดมากกว่า 1 คนแน่นอน ซึ่งตามกติกานั้น ผู้ชมทางบ้านจะได้รับรางวัลแจ็คพอตเมื่อผู้เล่นที่ถูกทายต้องโดนระเบิดคนเดียวเท่านั้น)

รูปแบบที่ 2 (3 ตุลาคม 2542 - 8 เมษายน 2544) จะมีกฎกติกาแบบเดิมอยู่แต่ว่ามีแผ่นป้ายบอมบ์หมู่ ซึ่งป้ายบอมบ์หมู่นั้นเป็นป้ายที่ผู้ที่เล่นเกมทั้งหมดรวมทั้งแขกรับเชิญ "ยกเว้นพิธีกรหลัก (ตั๊ก มยุรา) เพียงคนเดียวเท่านั้น" ต้องเข้าไปในตู้ระเบิด หากไม่โดนระเบิด แขกรับเชิญก็ได้รับทองคำหนัก 1 บาทเช่นเดียวกับเข้าคนเดียว แต่ถ้าเลือกสลักระเบิดแล้วโดนระเบิดแป้งก็จะไม่ได้รับรางวัลแต่อย่างใด และจะมีแผ่นป้ายรูปของแขกรับเชิญถือรูปภาพเงาสีดำและมีเครื่องหมายคำถาม ซึ่งแขกรับเชิญจะสามารถเลือกพิธีกรเพื่อเข้าไปในตู้ระเบิดด้วยได้อีก 1 คนตามใจชอบ โดยไม่ต้องเลือกแผ่นป้าย นอกจากนั้น ผู้ร่วมเล่นเกมคนอื่นๆ ยกเว้นพิธีกรหลัก และดารารับเชิญ หากมีระเบิดสะสมเพียง 1 ลูก ผู้ร่วมเล่นเกมคนนั้นๆจะไม่มีแผ่นป้ายบวก เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ชมทางบ้านที่มาจากการส่งไปรษณียบัตรที่ทายว่าใครจะโดนระเบิดได้ลุ้นเงินรางวัล 500,000 บาท ในกรณีที่ผู้เล่นที่ถูกทายว่าจะโดนระเบิดมีระเบิดเพียง 1 ลูก (ทั้งแผ่นป้ายบอมบ์หมู่และแผ่นป้ายแขกรับเชิญถือรูปภาพเงาสีดำและมีเครื่องหมายคำถาม จะมีเฉพาะดารารับเชิญเท่านั้น)

รูปแบบที่ 3 (15 เมษายน 2544 - 26 มกราคม 2546) ใช้กฎกติกาเหมือนเดิมและยกเลิกป้ายบอมบ์หมู่กลับมาใช้ป้ายบวกอีกครั้งโดยใช้กติกาเดียวกันกับรูปแบบแรก

รูปแบบที่ 4 (2 มกราคม 2548 - 31 ธันวาคม 2549) จะมีกฎกติกาดังนี้เมื่อเจอป้ายบวกนั้นแขกรับเชิญจะให้เลือก 1 จาก 6 แผ่นป้ายด้วยกันซึ่งแผ่นป้ายนั้นจะมีรูปใบหน้าของนักแสดงในซอยเถิดเทิง (ยายชา , กอบโชค , ถนอม ภายหลังเพิ่ม ทีน , สุรเชษฐ์ และเอกพันธ์ ก่อนที่ทั้ง ทีนและเอกพันธ์จะมาเป็นพิธีกรร่วม) ถ้าแขกรับเชิญเข้าตู้แล้วถอดสลักแล้วไม่ระเบิด ก็จะได้รับทองคำหนัก 1 บาท (ภายหลังปรับเปลี่ยนมาเป็นทองคำมูลค่า 10,000 บาท แทนเนื่องจากในช่วงนั้นราคาทองคำมีมูลค่าสูงกว่า 10,000 บาท)

รูปแบบที่ 5 (7 มกราคม 2550 - 28 ธันวาคม 2551) ได้ถูกยกเลิกแผ่นป้ายบวกและกลับไปใช้ป้ายบอมบ์หมู่อีกครั้งโดยถ้าแขกรับเชิญเข้าไปในตู้ระเบิด (ไม่ว่าจะเป็นป้ายเดี่ยวหรือบอมบ์หมู่ก็ตาม) แล้วไม่โดนระเบิดจะได้รับทองคำมูลค่า 10,000 บาท

รูปแบบสุดท้าย (1 กุมภาพันธ์ 2552 - 20 กันยายน 2552) ยังคงใช้กติกาเดิมอยู่แต่สลักระเบิดจะถูกลดเป็น 3 สลัก (จากเดิม 5 สลัก)

สำหรับในช่วง 12 ปีระเบิดเถิดเทิง (1 กุมภาพันธ์ 2552 - 12 กรกฎาคม 2552) ทางรายการได้ให้ผู้ชมทางบ้านส่งไปรษณีย์บัตรให้ทายว่าใครจะโดนระเบิดแป้งในสัปดาห์นั้นที่ออกอากาศทั้งนี้ผู้ที่ได้จับรางวัลได้รับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทเครื่องปรับอากาศ และถ้าผู้ที่ถูกจับรางวัลทายถูกจะได้รับรางวัลทองคำมูลค่า 10,000 บาท ไปด้วย โดยในเกมช่วง 12 ปีระเบิดเถิดเทิงจะให้พิธีกรเลือกแผ่นป้ายกันเองในลักษณะ เปิดต่อกัน (คนที่มีลูกระเบิดสะสมมากที่สุดจะได้เลือกก่อน จากนั้นคนที่ออกมาจากตู้จะเป็นคนเลือกคนถัดไป เช่นเดียวกันการเล่นเกมในช่วงปีใหม่)

ทั้งนี้ถ้าแขกรับเชิญไม่โดนระเบิดแป้ง จนมีผู้เล่นเกมคนอื่นหรือพิธีกรหลักโดนระเบิดแป้ง (ไม่ว่าแขกรับเชิญคนนั้นจะได้เข้าไปในตู้ระเบิดหรือไม่ก็ตาม) แขกรับเชิญก็จะได้รับรางวัลพิเศษจากทางรายการ (แบบแรกวันที่ 7 เมษายน 2539 - 14 เมษายน 2539 จะเป็นกล้องถ่ายวิดีโอ (ถ้าไม่โดนระเบิด) พร้อมกับบัตรที่พักรีสอร์ทหินสวยน้ำใส (โดนระเบิดหรือไม่ก็ตาม) แบบที่สอง 21 เมษายน 2539 จะเป็นเครื่องปรับอากาศ 1 เครื่อง (ถ้าไม่โดนระเบิด) พร้อมกับบัตรที่พักหินสวยน้ำใสแจกร่วมด้วย (ถ้าไม่โดนระเบิด) (ช่วงวันที่ 21 เมษายน - 20 ตุลาคม 2539) และบัตรที่พัก โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิง ภูอิง เมืองเชียงใหม่ แจกร่วมด้วย (ถ้าไม่โดนระเบิด) (ช่วงวันที่ 1 ธันวาคม - 29 ธันวาคม 2539 และ 19 มกราคม 2540 - 28 กันยายน 2540) แบบที่สาม 5 ตุลาคม 2540 - 28 ธันวาคม 2540 เป็นบัตรที่พักพร้อมกับโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง แบบที่สี่ 12 มกราคม 2541 - 30 พฤษภาคม 2541 เป็นเครื่องปรับอากาศ 1 เครื่องพร้อมบัตรที่พัก แบบที่ห้า 6 มิถุนายน 2541 - 21 มีนาคม 2542 เป็นบัตรที่พัก(ไม่ว่าจะโดนระเบิดหรือไม่ก็ตาม)พร้อมกับเครื่องเสียง 1 ชุด (ถ้าไม่โดนระเบิด) แบบที่หก 28 มีนาคม 2542 - 25 มิถุนายน 2543 เป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านจากฟิลิปส์ แบบที่เจ็ด 2 กรกฎาคม 2543 - 26 มกราคม 2546 , 2 มกราคม 2548 - 31 ธันวาคม 2549 เป็นเครื่องซักผ้าอีฟและบางครั้งเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าชุดใหญ่จากอีฟ และแบบที่แปดแบบสุดท้าย 7 มกราคม 2550 - 13 กันยายน 2552 ได้เปลี่ยนเป็นเครื่องปรับอากาศอีมีเน้นท์) ด้วยกันแต่ถ้าแขกรับเชิญโดนระเบิดก็จะไม่ได้รางวัลพิเศษอย่างใด

นับตั้งแต่เทปที่ออกอากาศวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2546 จนถึง 26 ธันวาคม 2547 ได้มีการยกเลิกเกมถอดสลักระเบิดชั่วคราวมาเป็น แคปซูลระเบิด โดยในรอบนี้จะมีแผ่นป้ายทั้งหมด 18 แผ่นป้าย ซึ่งจะมีรูปภาพใบหน้าของพิธีกร,ดารารับเชิญ รวมไปถึงนักแสดงในซอยเถิดเทิง โดยดารารับเชิญจะต้องเลือกแผ่นป้ายทั้งหมด 6 แผ่นป้ายเพื่อให้เลือกคนเข้าไปในแคปซูล จากทั้งหมด 6 ตู้ (โดยแผ่นป้ายแรกจะเข้าแคปซูลแรก แผ่นป้ายที่ 2 จะเข้าแคปซูลที่ 2 ไปเรื่อยๆจนครบ 6 แผ่นป้าย) หลังจากเลือกแผ่นป้ายเสร็จแล้ว พิธีกรหรือผู้เล่นเกมจะสับคัตเอาท์ที่อยู่กลางเวที และแคปซูลจะระเบิดตามที่ได้มีการวางระเบิดในช่วงก่อนหน้านี้

ถ้าดารารับเชิญเปิดเจอรูปภาพของตัวเอง ก็ต้องเข้าไปอยู่ในแคปซูล และถ้าหากแคปซูลไม่ระเบิดจะได้รับทองคำหนัก 1 บาท และจะได้รับของรางวัลเป็นเครื่องซักผ้าจากอีฟ แต่ถ้าหากโดนระเบิด จะไม่ได้รับรางวัลพิเศษใดๆเลย (หากดารารับเชิญไม่ได้เข้าไปอยู่ในแคปซูล จะได้รับเครื่องซักผ้าโดยอัตโนมัติ)

เกมนี้ใช้จนกระทั่งถึงเทปออกอากาศวันที่ 26 ธันวาคม 2547 ก่อนที่จะเปลี่ยนไปใช้รูปแบบเกมถอดสลักระเบิดเช่นเดิมในคราวถัดไป


 

 

รับจำนำรถยนต์ รับจำนำรถจอด

เบอร์ลินตะวันออก ประเทศเยอรมนีตะวันออก ปฏิทินฮิบรู เจ้า โย่วถิง ดาบมังกรหยก สตรอเบอร์รี ไทยพาณิชย์ เคน ธีรเดช อุรัสยา เสปอร์บันด์ พรุ่งนี้ฉันจะรักคุณ ตะวันทอแสง รัก 7 ปี ดี 7 หน มอร์ มิวสิค วงทู อนึ่ง คิดถึงพอสังเขป รุ่น 2 เธอกับฉัน เป๊ปซี่ น้ำอัดลม แยม ผ้าอ้อม ชัชชัย สุขขาวดี ประชากรศาสตร์สิงคโปร์ โนโลโก้ นายแบบ จารุจินต์ นภีตะภัฏ ยัน ฟัน เดอร์ไฮเดิน พระเจ้าอาฟงซูที่ 6 แห่งโปรตุเกส บังทันบอยส์ เฟย์ ฟาง แก้ว ธนันต์ธรญ์ นีระสิงห์ เอ็มมี รอสซัม หยาง มี่ ศรัณยู วินัยพานิช เจนนิเฟอร์ ฮัดสัน เค็นอิชิ ซุซุมุระ พอล วอล์กเกอร์ แอนดรูว์ บิ๊กส์ ฮันส์ ซิมเมอร์ แบร์รี ไวต์ สตาญิสวัฟ แลม เดสมอนด์ เลเวลีน หลุยส์ที่ 4 แกรนด์ดยุคแห่งเฮสส์และไรน์ กีโยม เลอ ฌ็องตี ลอเรนโซที่ 2 เดอ เมดิชิ มาตราริกเตอร์ วงจรรวม แจ็ก คิลบี ซิมโฟนีหมายเลข 8 (มาห์เลอร์) เรอัลเบติส เฮนรี ฮัดสัน แคว้นอารากอง ตุ๊กกี้ ชิงร้อยชิงล้าน กันต์ กันตถาวร เอก ฮิมสกุล ปัญญา นิรันดร์กุล แฟนพันธุ์แท้ 2014 แฟนพันธุ์แท้ 2013 แฟนพันธุ์แท้ 2012 แฟนพันธุ์แท้ 2008 แฟนพันธุ์แท้ 2007 แฟนพันธุ์แท้ 2006 แฟนพันธุ์แท้ 2005 แฟนพันธุ์แท้ 2004 แฟนพันธุ์แท้ 2003 แฟนพันธุ์แท้ 2002 แฟนพันธุ์แท้ 2001 แฟนพันธุ์แท้ 2000 บัวชมพู ฟอร์ด ซาซ่า เดอะแบนด์ไทยแลนด์ แฟนพันธุ์แท้ปี 2015 แฟนพันธุ์แท้ปี 2014 แฟนพันธุ์แท้ปี 2013 แฟนพันธุ์แท้ปี 2012 ไทยแลนด์ก็อตทาเลนต์ พรสวรรค์ บันดาลชีวิต บุปผาราตรี เฟส 2 โมเดิร์นไนน์ ทีวี บุปผาราตรี ไฟว์ไลฟ์ แฟนพันธุ์แท้ รางวัลนาฏราช นักจัดรายการวิทยุ สมเด็จพระสันตะปาปาปิอุสที่ 7 แบร์นาร์แห่งแกลร์โว กาอึน จิรายุทธ ผโลประการ อัลบาโร เนเกรโด ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ แอนดรูว์ การ์ฟิลด์ เอมี่ อดัมส์ ทรงยศ สุขมากอนันต์ ดอน คิง สมเด็จพระวันรัต (จ่าย ปุณฺณทตฺโต) สาธารณรัฐเอสโตเนีย สาธารณรัฐอาหรับซีเรีย เน็ตไอดอล เอะโระเก คอสเพลย์ เอวีไอดอล ช็อคโกบอล มุกะอิ

 

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
36
37
38
39
40
41
42
43
44
45
46
47
48
49
50
51
52
53
54
55
56
57
58
59
60
61
62
63
64
65
66
67
68
69
70
71
72
73
74
75
76
77
78
79
80
81
82
83
84
85
86
87
88
89
90
91
92
93
94
95
96
97
98
99
100
101
102
103
104
105
106
107
108
109
110
111
112
113
114
115
116
117
118
119
120
121
122
123
124
125
126
127
128
129
130
131
132
133
134
135
136
137
138
139
140
141
142
143
144
145
146
147
148
149
150
151
152
153
154
155
156
157
158
159
160
161
162
163
164
165
166
167
168
169
170
171
172
173
174
175
176
177
178
179
180
181
182
183
184
185
186
187
188
189
190
191
192
193
194
195
196
197
198
199
200
201
202
203
204
205
206
207
208
209
210
211
212
213
214
215
216
217
218
219
220
221
222
223
224
225
226
227
228
229
230
231
232
233
จำนำรถราชบุรี รถยนต์ เงินด่วน รับจำนำรถยนต์ จำนำรถยนต์ จำนำรถ 23301