มิวนิก (เยอรมัน: M?nchen (วิธีใช้?ข้อมูล) (มึนเชิน), อังกฤษ: Munich) เป็นเมืองที่อยู่ทางใต้ของประเทศเยอรมนี และเป็นเมืองหลวงของรัฐบาวาเรีย (อังกฤษ: Bavaria; เยอรมัน: Freistaat Bayern)
มิวนิกเป็นเมืองที่ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ (รองจากเบอร์ลินและฮัมบูร์ก) และเป็นหนึ่งในเมืองมั่งคั่งที่สุดของยุโรปตัวเมืองมีประชากร 1.3 ล้านคน และ 2.7 ล้านคนในเขตเมือง ตัวเมืองตั้งอยู่บนแม่น้ำอีซาร์ เหนือเทือกเขาแอลป์
มิวนิกมีเศรษฐกิจเข้มแข็งที่สุดในประเทศเยอรมนี โครงการริเริ่ม “Neue Soziale Marktwirtschaft (INSM)” (เศรษฐกิจตลาดสังคมใหม่) และนิตยสาร “Wirtschafts Woche” (ธุรกิจรายสัปดาห์) ให้คะแนนมิวนิกสูงที่สุดในการสำรวจเปรียบเทียบ ในเดือนมิถุนายน พ.ศ. 2549 (เป็นครั้งที่สาม) มิวนิกยังเป็นอันดับหนึ่งในการจัดอันดับโดยนิตยสาร “Capital” ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2548 ที่จัดอันดับแนวโน้มเศรษฐกิจระหว่าง พ.ศ. 2545 - 2554 ของเมือง 60 เมืองในประเทศเยอรมนี
ท่าอากาศยานนานาชาติฟรานซ์ โจเซฟ สเตราส์ ในมิวนิก เป็นสนามบินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ รองจากท่าอากาศยานนานาชาติแฟรงค์เฟิร์ต
มิวนิกสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 1701 (ค.ศ. 1158) เมื่อแคว้นบาวาเรียรวมตัวกันสำเร็จใน พ.ศ. 2049 (ค.ศ. 1506) มิวนิกจึงกลายเป็นเมืองหลวงของบาวาเรีย ปี พ.ศ. 2349 (ค.ศ. 1806) มิวนิกเป็นเมืองหลวงของราชอาณาจักรบาวาเรียที่สถาปนาใหม่ ในช่วงนั้นมิวนิกถือเป็นเมืองใหญ่ที่สุดในยุโรปพื้นทวีป มิวนิกมีประชากร 100,000 คนเมื่อ พ.ศ. 2489 (ค.ศ. 1946) และ 500,000 คนเมื่อ พ.ศ. 2444 (ค.ศ. 1901)
หลังจากถูกโจมตีในช่วงสงครามโลกครั้งที่หนึ่ง ราชวงศ์ที่ปกครองมิวนิกได้หลบหนีไปอยู่เมืองอื่น จึงเปิดโอกาสให้ลัทธิคอมมิวนิสต์ปกครองมิวนิกแทนในปี พ.ศ. 2462 (ค.ศ. 1919) แต่ก็ปกครองได้ไม่นานนัก เนื่องจากถูกโค่นล้มโดยกลุ่มนักการทหารไฟรคอปส์
พ.ศ. 2466 (ค.ศ. 1923) อดอล์ฟ ฮิตเลอร์และพรรคนาซีเยอรมันพยายามยึดอำนาจการปกครองมิวนิก การปฏิวัติล้มเหลว ส่งผลให้ฮิตเลอร์ถูกจับกุม กิจกรรมของพรรคนาซีต้องหยุดลง ก่อนที่ฮิตเลอร์จะกลับมามีอำนาจอีกครั้งใน พ.ศ. 2476 (ค.ศ. 1933) โดยที่ทำการใหญ่ของพรรคนาซีเยอรมันอยู่ในมิวนิก
มิวนิกเสียหายอย่างหนักในสงครามโลกครั้งที่สอง เนื่องจากถูกทิ้งระเบิดถึง 71 ครั้งในช่วง 5 ปี หลังจากสหรัฐอเมริกายึดครองมิวนิกสำเร็จใน พ.ศ. 2488 (ค.ศ. 1945) มิวนิกก็ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่อย่างรวดเร็ว มีประชากรเกิน 1 ล้านคนใน พ.ศ. 2500 (ค.ศ. 1957)
มิวนิกได้จัดการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก พ.ศ. 2515 (ค.ศ. 1972) ที่โอลิมปิก สเตเดียม มิวนิก โดยโอลิมปิกครั้งนี้เกิดเหตุการณ์ผู้ก่อการร้ายชาวปาเลสไตน์ ได้บุกเข้าไปสังหารนักกีฬาชาวอิสราเอล ปฏิบัติการช่วยเหลือตัวประกันล้มเหลว ส่งผลให้ตัวประกันชาวอิสราเอลเสียชีวิตทั้งหมด
เมืองมิวนิกตั้งอยู่บนที่ราบสูงบาวาเรียตอนบน อยู่ห่างจากตอนเหนือของเทือกเขาแอลป์ไปทางทิศเหนือประมาณ 50 กิโลเมตร มิวนิกตั้งอยู่สูง 520 เมตร (1,706.04 ฟุต) จากระดับน้ำทะเลปานกลาง แม่น้ำสำคัญที่ไหลผ่านได้แก่ แม่น้ำอิซาร์ และแม่น้ำเวือร์ม
มิวนิกมีสภาพอากาศแบบภาคพื้นทวีป สภาพอากาศที่รุนแรงบางครั้งเกิดโดยที่อยู่ใกล้กับเทือกเขาแอลป์ ความสูงของเมืองและความใกล้ชิดกับเทือกเขาแอลป์แสดงถึงการมีปริมาณหิมะตกที่สูง พายุฝนมักจะเกิดขึ้นอย่างรุนแรงและคาดไม่ถึง อุณหภูมิระหว่างกลางวันและกลางคืน หรือฤดูหนาวและฤดูร้อนอาจแตกต่างกันมาก ลมอุ่นจากเทือกเขาแอลป์ (เรียกว่า ลมเฟิห์น) สามารถเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิได้รวดเร็วภายในไม่กี่ชั่วโมง แม้แต่ในฤดูหนาว
ฤดูหนาวมีช่วงตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงมีนาคม เมืองมิวนิกประสบกับฤดูหนาวที่หนาวจัด ซึ่งฝนตกหนักสามารถเกิดขึ้นได้ในฤดูหนาว แต่ไม่บ่อยนัก ช่วงเดือนที่หนาวที่สุดคือมกราคม ที่มีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ -1 องศาเซลเซียส (30 องศาฟาเรนไฮต์) หิมะจะปกคลุมอย่างน้อย 2 อาทิตย์ในฤดูหนาว ส่วนในฤดูร้อนจะมีอากาศเย็นสบาย โดยมีอุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุด 23 องศาเซลเซียส (73 องศาฟาเรนไฮต์) โดยเดือนที่ร้อนที่สุดคือกรกฎาคม ช่วงเวลาฤดูร้อนอยู่ระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงกันยายน
นับตั้งแต่การปฏิรูปการปกครองในปี ค.ศ. 1992 เมืองมิวนิกประกอบด้วยเขต (เยอรมัน: Stadtbezirke) จำนวนทั้งสิ้น 25 เขต ได้แก่
ในเดือนกรกฎาคม ค.ศ. 2007 เมืองมิวนิกมีประชากร 1.34 ล้านคน โดย 300,129 คนไม่ใช่พลเมืองชาวเยอรมัน มิวนิกมีชุมชนชาวตุรกีและบอลข่านอยู่อย่างหนาแน่น ชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่มากที่สุดได้แก่ ชาวตุรกี (43,309 คน) อัลบาเนีย (30,385 คน) โครเอเชีย (24,866 คน) เซอร์เบีย (24,439 คน) กรีก (22,486 คน) ออสเตรีย (21,411 คน) และชาวอิตาลี (20,847 คน) ซึ่ง 37% ของจำนวนชาวต่างชาติที่อยู่ในมิวนิกมาจากสหภาพยุโรป
ในปี ค.ศ. 1700 มิวนิกมีประชากรเพียง 24,000 คน ประชากรเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในทุก ๆ 30 ปี ตัวอย่างเช่น มิวนิกมีประชากร 100,000 คนใน ค.ศ.1852 และต่อมาในปี ค.ศ. 1883 มีประชากร 250,000 คน และในปี ค.ศ.1901 ได้เพิ่มขึ้นสองเท่าอีกเป็น 500,000 คน ตั้งแต่ตอนนี้ มิวนิกได้กลายเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ในประเทศเยอรมนี ใน ค.ศ.1933 มีประชากร 840,901 คน และในปี ค.ศ.1957 มิวนิกมีประชากรเกินกว่า 1 ล้านคน
ประชากรกว่า 47.4% ในเมืองมิวนิกไม่นับถือศาสนาใด ๆ โดยในวันที่ 31 ธันวาคม ค.ศ. 2008 มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก 38.3% ศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์ 14.0% และยิว 0.3%
มิวนิกเป็นบ้านของทีมฟุตบอลมืออาชีพจำนวนมาก รวมถึงสโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก ซึ่งเป็นทีมที่มีชื่อเสียงและประสบความสำเร็จมากที่สุดในเยอรมนี ปัจจุบันมีทีมฟุตบอลในเมืองมิวนิกที่อยู่ได้เข้าเล่นในบุนเดสลีกา 3 ทีม ได้แก่ สโมสรฟุตบอลบาเยิร์นมิวนิก, ทีเอสวี 1860 มิวนิก และ SpVgg Unterhaching ซึ่งทั้งสามทีมได้เล่นในดิวิชั่นสูงสุดของฟุตบอลเยอรมัน ส่วนทีมฮอกกี้ของมิวนิกคือ EHC มิวนิก
มิวนิกเคยเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน 1972 ณ สนามกีฬาโอลิมปิกเมืองมิวนิก นอกจากนี้มิวนิกเป็นหนึ่งในเมืองเจ้าภาพกีฬาฟุตบอลโลก 2006 ซึ่งจัดในสนามกีฬาอัลลิอันซ์อารีนา
ในวันที่ 16 ตุลาคม ค.ศ. 2009 คณะกรรมการโอลิมปิกสากลได้กำหนดมิวนิกเป็นหนึ่งในเมืองที่ขอเสนอตัวเป็นเจ้าภาพกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว 2018 ซึ่งรวมถึงเมืองอองเนอซี ประเทศฝรั่งเศส และเมืองพย็องชังในเกาหลีใต้ ถ้ามิวนิกถูกเลือกให้เป็นเจ้าภาพ จะเป็นเมืองแรกของโลกที่ได้เป็นเจ้าภาพทั้งกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน และกีฬาโอลิมปิกฤดูหนาว