นางโป่งน้อย (คำเมือง: ) หรือ สิริยศวดีเทวี (คำเมือง: ) (ปรากฏในชินกาลมาลีปกรณ์) หรือ อโนชาเทวี (ปรากฏในพับสาวัดสันป่าเลียง) หรือ สมเด็จบพิตร พระมหาเทวีเจ้าอยู่หัว (ปรากฏในจารึกวัดอุทุมพรอาราม) พระชายาในพญายอดเชียงราย เป็นพระราชมารดาของพญาแก้วภูตาธิปติราชาเจ้า และเป็นมหาเทวีเจ้าตนย่าผู้ทรงอิทธิพลในรัชกาลของพระเมืองเกษเกล้า
มหาเทวีสิริยศวดี หรือ นางโป่งน้อย เป็นพระชายาในพญายอดเชียงราย แต่หลังจากครองราชย์ได้ 8 ปี พระสวามีของพระนางก็ถูกเหล่าขุนนางปลดออกจากราชบัลลังก์ โดยให้ไปครองเมืองซะมาดในเขตแม่ฮ่องสอน พร้อมกับยกเจ้าแก้วขึ้นครองราชย์สืบมา
อย่างไรก็ตามพระนางเป็นธิดาของขุนนางผู้ใหญ่ที่ครองเขลางค์นคร ด้วยเหตุดังกล่าวทำให้พระนางมีฐานอำนาจที่เข้มแข็ง มีความเป็นไปได้สูงที่บิดาของพระนางมีส่วนร่วมในการแย่งชิงราชสมบัติจากพญายอดเชียงรายผู้เป็นพระสวามี และมีการสนับสนุนให้เจ้าแก้วและนางโป่งน้อยเสวยราชย์
เมื่อขึ้นครองราชย์ก็พบว่านางโป่งน้อยมีอำนาจสูงมากเนื่องจากมีบทบาทในการปกครองร่วมกับพระโอรส โดยในหลักฐานมีการเรียกมหาเทวีและกษัตริย์ว่า "พระเป็นเจ้าสองพระองค์" และ "พระเป็นเจ้าแม่ลูกทั้งสอง" อย่างไรก็ตามพระนางและพระโอรสก็ทำนุบำรุงพระพุทธศาสนาตลอดมา เช่นสร้างวัดบุพพาราม ในปี พ.ศ. 2039 และวัดศรีสุพรรณ ในปี พ.ศ. 2043
หลังจากสิ้นรัชสมัยของพญาแก้วภูตาธิปติราชาเจ้า ผู้เป็นพระราชโอรส เมื่อพระเมืองเกษเกล้าเสด็จขึ้นครองราชย์ ก็ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากพระนางด้วยมีศักดิ์เป็นมหาเทวีเจ้าตนย่า (พระอัยยิกา) ด้วยความที่พระนางสั่งสมอำนาจเป็นเวลายาวนาน และมีเครือข่ายที่กว้างขวางที่สามารถค้ำจุนพระนัดดาของพระองค์ได้ แต่หลังจากการสิ้นพระชนม์ของพระนางในช่วงปี พ.ศ. 2077 ก็เกิดกบฏหมื่นสามล้านในปี พ.ศ. 2078