มหาวิทยาลัยโอซะกะ (ญี่ปุ่น: ???? Oosaka Daigaku โอซะกะไดงะกุ ?) หรือย่อว่า ฮันได (??( Handai )?) เป็นมหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นในลักษณะของมหาวิทยาลัยวิจัย ตั้งอยู่ที่จังหวัดโอซะกะ มีพื้นที่แยกออกเป็น 4 วิทยาเขต ใน ซุอิตะ โทะโยะนะกะ มิโน และ นะงะโนะชิมะ มีนักวิทยาศาสตร์ที่มีชื่อเสียงคือ ฮิเดะกิ ยุกะวะ นักฟิสิกส์รางวัลโนเบล
แบบแผนการเรียนแบบมหาวิทยาลัยนั้นเริ่มต้นตั้งแต่ยุคเอะโดะ เมื่อมีการก่อตั้งโรงเรียนพ่อค้า ในนาม ไคโตะคุโด ((???) ขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 1724 และโรงเรียนสอนศิลปวิทยาการตะวันตกสำหรับซามูไร หรือ รังงะกุ (??) ในนาม เทะกิจุกุ (??) โดยนายแพทย์โอะกะตะ โคอันเมื่อปี ค.ศ. 1838 จิตวิญญาณของมหาวิทยาลัยจึงดำรงไว้ซึ่งความเป็นมนุษยวิทยาที่ฝั่งรากอยู่ในโรงเรียนไคโตะคุโด และการศึกษาวิทยาศาสตร์ธรรมชาติและวิทยาศาสตร์ประยุกต์ รวมทั้งการแพทย์ ที่อยู่บนพื้นฐานของโรงเรียนเทะกิจุกุ
เมื่อปี ค.ศ. 1869 มีการก่อตั้งโรงเรียนแพทยศาสตร์จังหวัดโอซะกะขึ้นที่ใจกลางเมืองโอซะกะ หลังจากนั้น ในปี 1919 ได้ยกสถานะขึ้นเป็นวิทยาลัยแพทยศาสตร์จังหวัดโอซะกะพร้อมกับเลื่อนสถานะเป็นมหาวิทยาลัยโดยกฤษฎีกาก่อตั้งมหาวิทยาลัย (กฤษฎีกาหลวง เลขที่ 388 ปี 1918) จากนั้น วิทยาลัยถูกควบรวมกับวิทยาลัยวิทยาศาสตร์ และสถาปนาเป็นมหาวิทยาลัยหลวงโอซะกะในปี ค.ศ. 1931 จัดเป็นมหาวิทยาลัยหลวงแห่งที่ 6 ของญี่ปุ่น หลังจากนั้นอีก 2 ปี วิทยาลัยเทคนิคโอซะกะได้ถูกผนวกรวมเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย และกลายเป็นคณะวิศวกรรมศาสตร์ จนกระทั่งเมื่อปี ค.ศ. 1947 ได้เปลี่ยนชื่อเป็น มหาวิทยาลัยโอซะกะ และได้ใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน
ผลจากการปฏิรูประบบการศึกษาของรัฐบาลในปี ค.ศ. 1949 มหาวิทยาลัยโอซะกะถูกควบรวมเข้ากับโรงเรียนมัธยมปลายนะนิวะและโรงเรียนมัธยมปลายโอซะกะ และเริ่มต้นยุคใหม่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ประกอบไปด้วย 5 คณะ ได้แก่ คณะวิทยาศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ คณะวิศวกรรมศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์ และคณะนิติศาสตร์ หลังจากนั้น ได้มีการก่อตั้งคณะใหม่ตามมาอีกมากมาย รวมทั้งคณะวิทยาศาสตร์วิศวกรรมศาสตร์ (School of Engineering Science) ที่เป็นแหล่งศึกษาสู่ความเป็นเลิศทั้งด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ จัดว่าเป็นคณะรูปแบบใหม่ในมหาวิทยาลัยแห่งชาติของญี่ปุ่นด้วย ก่อตั้งคณะมนุษยศาสตร์ที่เน้นการเรียนการสอนแบบบูรณนาการทั้งจากสาขาจิตวิทยา สังคมศาสตร์ และศึกษาศาสตร์
และเมื่อครั้งที่มีการปฏิรูประบบการศึกษาของรัฐบาลอีกครั้งในปี ค.ศ. 1953 มหาวิทยาลัยโอซะกะก็มีการเรียนการสอนระดับบัณฑิตวิทยาลัยทั้งหมด 10 คณะ ตามมาด้วยการก่อตั้งบัณฑิตวิทยาลัยในคณะภาษาศาสตร์และวัฒนธรรม และวิทยาลัยนโยบายสาธารณะระหว่างประเทศ จนกระทั่งมีบัณฑิตวิทยาลัยครบ 12 คณะในปี 1994
ในปี ค.ศ. 1993 ได้มีการย้ายโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโอซะกะจากวิทยาเขตนะงะโนะชิมะ ใจกลางเมืองโอซะกะมายังวิทยาเขตซุอิตะ ตามมาด้วยการรวมเอาสถาบันต่างๆที่กระจัดกระจายอยู่ในวิทยาเขตซุอิตะและโทะโยะนะกะเข้ามาไว้ด้วยกัน จนกระทั่งเมื่อเดือนตุลาคม ค.ศ. 2007 มหาวิทยาลัยโอซะกะได้ผนวกรวมเข้ากับมหาวิทยาลัยโอซะกะสาขาต่างประเทศศึกษา ทำให้มหาวิทยาลัยแห่งนี้เป็นหนึ่งในสองมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นที่มีวิทยาลัยต่างประเทศศึกษาอยู่ด้วย (อีกแห่งคือ มหาวิทยาลัยโตเกียวสาขาต่างประเทศศึกษา) นอกจากนี้ การผนวกรวมในครั้งนี้ยังทำให้มหาวิทยาลัยโอซะกะเป็นมหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นอีกด้วย
มหาวิทยาลัยโอซะกะ มีวิทยาเขตหลักอยู่ 3 วิทยาเขต คือ วิทยาเขตซุอิตะ วิทยาเขตโทะโยะนะกะ และวิทยาเขตมิโน
วิทยาเขตซุอิตะ เป็นสำนักงานใหญ่ของมหาวิทยาลัย ตั้งอยู่บริเวณรอยต่อระหว่างเมืองซุอิตะกับเมืองอิบะระกิในจังหวัดโอซะกะ ส่วนวิทยาเขตโทะโยะนะกะ เป็นแหล่งศึกษาของนักศึกษาในระดับปริญญาตรีชั้นปีที่ 1 ตลอดทั้งปีการศึกษา ขณะที่วิทยาเขตมิโน เป็นแหล่งที่ตั้งของคณะต่างประเทศศึกษา สถาบันวิจัยภาษาของโลก และศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยโอซะกะยังมีวิทยาเขตนะงะโนะชิมะ อันเป็นแหล่งที่ตั้งแหล่งแรกของมหาวิทยาลัยอีกด้วย ตั้งอยู่ใจกลางเมืองโอซะกะ เคยเป็นศูนย์กลางของคณะแพทยศาสตร์ก่อนที่จะย้ายไปวิทยาเขตซุอิตะในปี ค.ศ. 1993 จากนั้นในเดือนเมษายน ค.ศ. 2004 วิทยาเขตนะงะโนะชิมะถูกจัดเป็น"ศูนย์นะะโนะชิมะ" เป็นแหล่งแลกเปลี่ยนข้อมูล ชั้นเรียนของการศึกษาผู้ใหญ่ และสถานที่ทำกิจกรรมต่างๆทั้งทางด้านวิชาการและทั่วไป
มหาวิทยาลัยโอซะกะ จัดเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในประเทศญี่ปุ่น จากการจัดอันดับต่อไปนี้
มหาวิทยาลัยโอซะกะ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 3 ของญี่ปุ่นในปี 2009 และอันดับ 4 ในปี 2010 จากการจัดอันดับภายในประเทศ "Truly Strong Universities" โดยนิตยสารโทโย เคไซ นอกจากนี้ จากการจัดอันดับโดยโรงเรียนสาธิตคะวะอิจุกุ มหาวิทยาลัยโอซะกะก็ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น
มหาวิทยาลัยโอซะกะ เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำทางด้านวิทยาศาสตร์พื้นฐาน เทคโนโลยี และการแพทย์ ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดของโลก อันดับที่ 43 ในปี ค.ศ. 2009 ก่อนที่จะมาอยู่ที่อันดับที่ 55 ในปี ค.ศ. 2013 จากการจัดอันดับโดย QS World university rankings
มหาวิทยาลัยโอซะกะ เป็นสถาบันวิจัยชั้นนำแห่งหนึ่งของญี่ปุ่น ได้รับการจัดอันดับให้เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยที่ดีที่สุดเป็นอันดับ 3 ของญี่ปุ่น ความเป็นเลิศด้านการวิจัยนี้นับว่าโดดเด่นมากในสาขาชีววิทยาและชีวเคมี สาขาวัสดุศาสตร์ สาขาฟิสิกส์ สาขาเคมี และสาขาภูมิคุ้มกันวิทยา