มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia University in the City of New York) เป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยในกลุ่มไอวีลีก ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหนึ่งในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงของโลกแห่งหนึ่ง เป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของนครนิวยอร์กและเก่าแก่ที่สุดอันดับที่ห้าของสหรัฐอเมริกา ตั้งอยู่ที่นิวยอร์กซิตี ในรัฐนิวยอร์กชุมชนมอร์นิงไซด์บริเวณส่วนเหนือของเกาะแมนแฮตตัน ก่อตั้งก่อนการประกาศอิสรภาพของประเทศในปี พ.ศ. 2297 (ค.ศ. 1754) ในชื่อของ วิทยาลัยคิงส์ (King's College) โดยได้รับเงินสนับสนุนจากสมเด็จพระเจ้าจอร์จที่ 2 แห่งอังกฤษ ภายหลังสหรัฐอเมริกาปฏิวัติ โคลัมเบียได้รับการสนับสนุนในฐานะเอกลักษณ์ทางปรัชญาของรัฐตั้งแต่ปี 2327 - 2330
ผู้ได้รับรางวัลโนเบล ทั้งที่เป็นศิษย์เก่าและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัยทั้งสิ้น 102 ท่าน ถือว่ามากที่สุดอันดับ 2 ของโลก ศิษย์เก่าที่เป็นประธานาธิบดีและนากยกรัฐมนตรีจากทั่วโลกจำนวน 29 ท่าน ศิษย์เก่าที่ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก (Fortune Global 500) จำนวน 45 ท่าน และมีผู้ชนะรางวัลออสการ์ 28 ท่าน นอกจากนี้มหาวิทยาลัยยังเป็นผู้มอบรางวัลพูลิตเซอร์ แก่ผู้ได้รับเกียรติสูงสุดระดับชาติในวงการสิ่งพิมพ์ การบรรลุความสำเร็จทางวรรณกรรม และการประพันธ์เพลงในสาขาวารสารศาสตร์ เมื่อกว่า 100 ปีมาแล้ว ซึ่งวิทยาลัยวิชาการหนังสือพิมพ์ของโคลัมเบียนับได้ว่าโดดเด่นมากที่สุดของโลกในปัจจุบัน
โคลัมเบียได้รับความนิยมจากผู้นำประเทศต่างๆ รวมทั้งผู้นำของสหรัฐอเมริกาอย่าง ทีโอดอร์ รูสเวลต์และแฟรงกลิน ดี. รูสเวลต์ ทั้งคู่ต่างก็จบการศึกษาจากวิทยาลัยกฎหมายของที่นี่ ดไวต์ ดี. ไอเซนฮาวร์ เคยเป็นอธิการบดีของมหาวิทยาลัยก่อนจะไปดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี หรือแม้แต่บารัก โอบามาและ ไมก์ เกรเวิล ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีปี 2008 ก็เป็นศิษย์เก่าของมหาวิทยาลัยโคลัมเบีย รวมถึงวุฒิสมาชิก และสมาชิกสภาคองเกรสอีกจำนวนหนึ่ง
มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นมหาวิทยาลัยแรกที่เปิดให้บริการคลื่นวิทยุเอฟเอ็ม โดยดำเนินรายการด้านมานุษยวิทยาและการเมือง วัตถุประสงค์เพื่อใช้ในการเรียนการสอนสำหรับนักศึกษาปริญญาโท ทั้งยังเป็นต้นกำเนิดของวิชาพันธุศาสตร์สมัยใหม่ นอกจากนี้ในงานวิจัยเพื่อปรับปรุงการระเบิดในระดับอะตอมที่วิทยาเขตมอนิ่งไซต์ ยังได้ค้นพบการแตกตัวของธาตุยูเรเนียมอีกด้วย สำหรับวรรณกรรมและศิลปศาสตร์ยุคหลังการล่าอาณานิคม ภายหลังศตวรรษที่ 20 ทั้งหมดได้รับการรวบรวมและสามารถพบเห็นได้ภายในมหาวิทยาลัยแห่งนี้
มหาวิทยาลัยโคลัมเบียดำเนินการ่วมกับวิทยาลัยบาร์นาร์ด (Barnard College) , วิทยาลัยครู (Teachers College) และโรงเรียนสอนศาสนา (Union Theological Seminary - UTS) ซึ่งตั้งอยู่บริเวณใกล้ๆ กับวิทยาเขตมอร์นิ่งไซด์ นอกจากนี้ยังเปิดหลักสูตรปริญญาตรีโดยร่วมมือกับโรงเรียนสอนศาสนายิวแห่งอเมริกา (Jewish Theological Seminary of America) และโรงเรียนจูลเลียต (Juilliard School)
หลักสูตรส่วนใหญ่ของมหาวิทยาลัยโคลัมเบียเปิดการเรียนการสอนที่วิทยาเขตมอร์นิงไซด์แห่งนี้ ภายใต้แนวคิดในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ที่ว่าทุกสาขาวิชาควรเปิดสอนในวิทยาเขตเดียวกัน วิทยาเขตนี้ได้รับการออกโดยศิลปินผู้มีชื่อเสียง ชาร์ลส์ ฟอลเลน แมคคิม, มีด และ ไวท์ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผลงานที่ยอดเยี่ยมที่สุดของพวกเขา
วิทยาเขตนี้มีพื้นที่มากกว่า 6 บล็อกหรือประมาณ 32 เอเคอร์ (132,000 ตารางเมตร) ในย่านมอร์นิงไซด์ ตั้งอยู่ระหว่างฮาร์เล็มและอัปเปอร์เวสต์ไซต์บนเกาะแมนฮัตตันซึ่งเป็นที่ตั้งของวิทยาลัยเป็นจำนวนมาก มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าของบ้านพักในย่านมอร์นิงไซด์กว่า 7,000 แห่งสำหรับเป็นบ้านพักของคณาจารย์ เจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัย และนักศึกษา ซึ่งประมาณ 20 หอพัก (ทั้งที่เป็นหอพักและดัดแปลง) ตั้งอยู่ภายในวิทยาเขต
ระบบห้องสมุดของมหาวิทยาลัยแห่งนี้มีหนังสือมากถึง 9 ล้านเล่ม ห้องสมุดศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมเอเวอรี่ (Avery Architectural and Fine Arts Library) เป็นห้องสมุดสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่ใช่ที่สุดในโลก ห้องสมุดดังกล่าวมีหนังสือรวมกว่า 4 แสนเล่ม ซึ่งเกือบทั้งหมดเป็นเป็นหนังสือนอกหลักสูตร และห้ามไม่สามารถยืมได้ จุดเด่นของห้องสมุดสถาปัตยกรรมแห่งนี้คือดัชนีวารสารสถาปัตยกรรมเอเวอรี่ (the Avery Index to Architectural Periodicals) ซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งข้อมูลระดับสากลที่สำคัญที่สุดในการอ้างอิงวารสารสถาปัตยกรรมและเรื่องที่เกี่ยวข้องในงานวรรณกรรม ดัชนีวารสารนี้ครอบคลุมรายชื่อวารสารสถาปัตยกรรมตั้งแต่ทศวรรษที่ 194 เป็นต้นมา
อาคารจำนวนมากในวิทยาเขตนี้ได้รับการบันทึกเป็นอาคารที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ห้องสมุดโล เมมโมเรียล (Low Memorial Library) ซึ่งตั้งอยู่ใจกลางมหาวิทยาลัย ได้รับการบันทึกด้วยความโดดเด่นทางสถาปัตยกรรม ฟิลอสโซฟี ฮอล (Philosophy Hall) ได้รับการบันทึกในฐานะที่เป็นต้นกำเนิดของวิทยุเอฟเอ็ม เช่นเดียวกับพูพิน ฮอล (Pupin Hall) และบริเวณภาควิชาฟิสิกส์และดาราศาสตร์ซึ่งได้รับการบันทึกเป็นจุดเด่นของประเทศ (National Historic Landmark) ซึ่งที่นี่เป็นที่ที่เอนรีโก แฟร์มี (Enrico Fermi) ค้นพบการแตกตัวของอะตอมธาตุยูเรเนียมหลังการค้นพบการแตกตัวในระดับอะตอมครั้งแรกในโลกที่ประเทศเดนมาร์กเพียงสิบวัน
โรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยเกิดขึ้นจากความร่วมมือของสถาบันการแพทย์ (Medical Schools) มหาวิทยาลัยโคลัมเบียและมหาวิทยาลัยคอร์เนลล์ (Cornell university) เป็นโรงพยาบาลคุณภาพอันดับ 6 ของโลก และอันดับ 3 สำหรับโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย อ้างอิงจากสำนักข่าวในสหรัฐอเมริกาและผลการจัดอันดับโรงพยาบาลโลกปี 2550 สถาบันการแพทย์ มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นหน่วยงานพันธมิตรกับสถาบันจิตวิทยานิวยอร์ก (New York State Psychiatric Institute) นอกจากนั้นยังเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาล 19 แห่งทั่วสหรัฐอเมริกาและอีก 4 แห่งในต่างประเทศ
มหาวิทยาลัยโคลัมเบียเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในรัฐนิวยอร์ก ก่อตั้งในชื่อของวิทยาลัยคิงส์ (King's College) เมื่อพ.ศ. 2297 เก่าแก่เป็นอันดับ 6 ของสหรัฐอเมริกา (ตามวันที่ก่อตั้ง อันดับที่ 5 ตามวันที่ได้รับอนุญาต) ภายหลังการปฏิวัติสหรัฐอเมริกา วิทยาลัยคิงส์ได้เปลี่ยนชื่อเป็นวิทยาลัยโคลัมเบียก่อนจะเป็นมหาวิทยาลัยโคลัมเบียในพ.ศ.ปี 2327 และ 2439 ตามลำดับ โคลัมเบียเติบโตขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งปัจจุบัน ซึ่งประกอบไปด้วยสถาบันมากถึง 20 สถาบัน
การพิจารณาจัดตั้งมหาวิทยาลัยในนิวยอร์กเริ่มขึ้นในราวปี 2257 แต่มาเริ่มเป็นรูปเป็นร่างในช่วงศตวรรษที่ 176 ในยุคที่นักศึกษาที่สำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยลและสมาชิกของกลุ่มศาสนาในนิวยอร์ก (ขณะนั้นคือ Church of England ปัจจุบันคือ Episcopal) เริ่มตื่นตัวเมื่อทราบข่าวการก่อตั้งวิทยาลัยนิวเจอร์ซี (ปัจจุบันคือมหาวิทยาลัยพรินซ์ตัน) ทั้งสองกลุ่มเห็นว่าวิทยาลัยนิวเจอร์ซีก่อตั้งโดยกลุ่มศาสนา new-light Presbyterians ซึ่งมีนิกาย the evangelical Great Awakening สนับสนุน ทั้งยังตั้งอยู่ในท้องที่ ตรงข้ามแม่น้ำฮัตสัน ด้วยเกรงว่านิวยอร์กจะเป็นเมืองด้อยพัฒนาทั้งทานด้านศิลปะและวิทยาการ พวกเขาจึงร่วมกันก่อตั้งสถาบันริมแม่น้ำของพวกเขาในชื่อวิทยาลัยคิงส์ (King's College) มีนายซามูเอล จอห์นสัน (Samuel Johnson) ดำรงตำแหน่งอธิการบดีคนแรก เริ่มเปิดการเรียนการสอนในวันที่ 17 กรกฎาคม 2297 ในโบสถ์ซึ่งมีนายซามูเอลดูแลเพียงคนเดียวเท่านั้น จากนั้นไม่นาน วันที่ 31 ตุลาคมปีเดียวกัน สมเด็จพระเจ้าจอร์ชที่ 2 แห่งสหราชอาณาจักรได้พระราชทานงบสนับสนุนให้แก่วิทยาลัยคิงส์ ต่อมาในปี 2303 วิทยาลัยคิงส์ย้ายไปตั้งในพื้นที่ของตนเองในปาร์คเพลส (Park Place) ใกล้กับศาลากลาง และในปี 2310 วิทยาลัยได้ก่อตั้งสถาบันแพทย์ขึ้นเป็นแห่งแรกโดยเปิดสอนในระดับบัณฑิตศึกษา
ในปี 2554 วิทยาลัยโคลัมเบีย (Columbia College) มีอัตราการรับนักศึกษาเข้าศึกษาต่อทั้งหมด 6.9% จากจำนวนผู้สมัครทั้งหมด กล่าวได้ว่าเข้ายากที่สุดอันดับ 2 ของสหรัฐอเมริกา รองเพียงมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่อัตาราการรับ 6.2% โดยถ้าไม่ดูจำนวนนักศึกษาที่สมัครแบบEarly Decision อัตราการรับนักศึกษาจะตํ่าลงถึง 5.7% (อัตราการรับตํ่าที่สุดในสหรัฐอเมริกาและเท่ากับมหาวิทยาลัยเยลในปีนั้น)
โคลัมเบียเป็นวิทยาลัยแห่งความหลากหลาย ด้วยจำนวนนักเรียนผิวสีมากถึง 49% มากกว่าครึ่งของนักศึกษาระดับปริญญาตรีได้รับเงินทุนช่วยเหลือจากมหาวิทยาลัย (ได้รับในปี 2554) โดยปกตินักศึกษาจะได้รับเงินทุนช่วยเหลือประมาณ $27,000 ขึ้นไปต่อคน และเงินช่วยเหลืออีกส่วนหนึ่งตั้งแต่ $20,000 ขึ้นไป
นอกจากนี้มหาวิทยาลัยโคลัมเบียยังร่วมมือกับเครือข่ายวิทยาลัยและมหาวิทยาลัย (University and College Accountability Network - U-CAN) ของสมาคมวิทยาลัยและมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งชาติ (the National Association of Independent Colleges and Universities - NAICU) อีกด้วย
สำหรับวิทยาลัยในระดับบัณฑิตศึกษาของโคลัมเบีย อยู่ในกลุ่มที่ดีที่สุดของสหรัฐอเมริกา ด้วยผลการจัดอันดับที่เกือบทั้งหมดอยู่ในกลุ่ม Top10 ของประเทศ
ปัจจุบันมหาวิทยาลัยโคลัมเบียมีศิษย์เก่าที่เป็นประธานาธิบดีและนากยกรัฐมนตรีจากทั่วโลกจำนวน 29 ท่าน ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลโนเบลจำนวน 43 ท่าน(ถ้ารวมอาจารย์ที่ได้รับรางวัลโนเบลด้วยจำนวน 102 ท่าน ซึ่งเป็นมหาลัยที่มีจำนวนศิษย์เก่าและอาจารย์ที่ได้รับรางวัลโนเบลมากที่สุดอันดับ2 ของโลก รองจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดที่มี 151 ท่าน) ศิษย์เก่าที่ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ จำนวน 126 ท่าน และศิษย์เก่าที่ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทยักษ์ใหญ่ของโลก(Fortune 500 companies)จำนวน 45 ท่าน
อเล็กซานเดอร์ แฮมิลตัน, หนึ่งในคณะผู้ก่อตั้งประเทศสหรัฐอเมริกา, รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคนแรกของประเทศสหรัฐอเมริกา
ธีโอดอร์ รูสเวลต์, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและผู้ได้รับรางวัลโนเบล, ปริญญาโทสาขานิติศาสตร์
รูธ เบเดอร์ กินส์เบิร์ก, ตุลาการสมทบในศาลสูงสุดแห่งสหรัฐอเมริกา, ผู้พิพากษาหญิงคนที่สองในสหรัฐ, ปริญญาโทสาขานิติศาสตร์
วอร์เรน บัฟเฟตต์, ซีอีโอของ Berkshire Hathaway และหนึ่งในมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลกจากนิตยสารฟอบส์, ปริญญาโทสาขาบริหารธุรกิจ
บารัก โอบามา, ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาและผู้ได้รับรางวัลโนเบล, ปริญญาตรีมหาวิทยาลัยโคลัมเบียปี 1983 เอกวิชาความสัมพันธ์ระหว่าประเทศ
ปีเตอร์ ปาร์คเกอร์ เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่โดนแมงมุมกัดในห้องทดลอง ที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย และต่อมาเป็นฉากที่เขาเข้าเรียนในชั้นเรียนที่โคลัมเบีย โดยภาพยนตร์ก็ได้ออกฉายเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ค.ศ. 2002 โดยโคลัมเบียพิกเจอร์ส ภาพยนตร์ได้เสียงตอบรับด้านคำวิจารณ์ที่ดี และยังทำสถิติบ็อกซ์ออฟฟิส โดยเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดทั่วโลกในปี 2002 ทำรายได้ 822 ล้านเหรียญสหรัฐทั่วโลก ไอ้แมงมุม ถือเป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากการ์ตูนที่ประสบความสำเร็จที่สุดเป็นอันดับ 2 รองจาก The Dark Knight และยังติดอันดับ 18 ของหนังที่ประสบความสำเร็จที่สุดตลอดกาล จากความสำเร็จทำให้มีภาคต่อในไอ้แมงมุม2 และไอ้แมงมุม3