ภาษาเนปาล เป็นภาษากลุ่มอินโด-อารยันที่พูดในประเทศเนปาล ประเทศอินเดีย ประเทศภูฏาน และบางส่วนของประเทศพม่า เป็นภาษาราชการของประเทศเนปาล ประชากรประมาณครึ่งหนึ่งของเนปาลพูดภาษาเนปาลเป็นภาษาแม่ และชาวเนปาลอื่น ๆ หลายคนพูดเป็นภาษาที่สอง
ชื่อของภาษาเนปาลในภาษาเนปาลคือ คาสกุรา (Khaskura) ชื่ออื่น ๆของภาษานี้มีมากมาย คนที่พูดภาษาอังกฤษเรียกว่า เนปาลี (Nepali) หรือ เนปาลีส (Nepalese) นอกจากนี้ คาสกุรา มีชื่ออื่น เช่น กอร์คาลี (Gorkhali) หรือ กูร์คาลี (Gurkhali) แปลว่าภาษาของชาวกุรข่า และพาร์ตาบิยา (Parbatiya) แปลว่าภาษาของภูเขาภาษาเนปาลมีวรรณกรรมขนาดเล็กในช่วงครึ่งหลังของคริสต์ศตวรรษที่ 19 ซึ่งรวมถึง "อัธยาตมะ รามายณะ" (Adhyatma Ramayana) ประพันธ์โดย สุนทรานันทะ พร (Sundarananda Bara) (1833) ซึ่งเป็นการรวมนิทานพื้นเมืองที่ไม่ปรากฏผู้แต่ง และรามายณะ โดย ภานุภักตะ (Bhanubhakta) นอกจากนี้ยังมีผลงานแปลจากภาษาสันสกฤต รวมถึงไบเบิลด้วย
ภาษาเนปาลเป็นภาษาในภาษากลุ่มปาหารีที่อยู่ทางตะวันออกสุด ซึ่งเป็นกลุ่มของภาษาที่มีความสัมพันธ์กันภาษาที่พูดทั่วทั้งระดับต่ำของเทือกเขาหิมาลัยระหว่างเนปาลตะวันออกไปถึงรัฐอุตตรจัลประเทศและรัฐหิมาจัลประเทศของอินเดีย ภาษาเนปาลพัฒนาในพื้นที่ใกล้เคียงกับตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่าจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะภาษาเนวารี และแสดงถึงอิทธิพลของตระกูลภาษาย่อยทิเบต-พม่าที่มีต่อภาษานี้
ภาษาเนปาลมีความสัมพันธ์ใกล้เคียงกับภาษาฮินดี แต่เป็นภาษาที่มีความอนุรักษนิยมมากกว่า เนื่องจากยืมคำจากภาษาเปอร์เซีย และภาษาอังกฤษน้อยกว่า และใช้คำที่มาจากภาษาสันสกฤตมากกว่า ในปัจจุบัน ภาษาเนปาลเขียนโดยใช้อักษรเทวนาครี (Devanagari script) ส่วนภูชิโมล (Bhujimol) เป็นอักษรโบราณพื้นเมืองของเนปาล
ประชากรของเนปาลมากกว่า 2 ใน 3 ใช้ภาษาเนปาลเป็นภาษาแม่ มีผู้พูดภาษานี้ทั่วโลกมากกว่า 17 ล้านคน อยู่ในเนปาล 11 ล้านคน) จุดกำเนิดของภาษาเนปาลอยู่ที่หุบเขาทางตะวันตกของเนปาล เคยเป็นภาษากลางในเทือกเขากาฏมาณฑุ ปัจจุบันเป็นภาษาราชการและภาษาในชีวิตประจำวัน ในภูฏาน มีผู้พูดภาษาเนปาล 40 - 50% ของประชากรทั้งหมด รวมแล้วประมาณ 1 ล้านคน ส่วนหนึ่งกลายเป็นผู้อพยพในเนปาลตะวันออก
ในอินเดีย มีผู้พูดภาษาเนปาลในรัฐสิกขิมและบริเวณใกล้เคียงในรัฐเบงกอลตะวันตก มีผู้พูดภาษาเนปาล 300,000 คนในสิกขิม รวมแล้วมีผู้พูดภาษาเนปาลในอินเดียราว 1 ล้านคน
เมื่อ 500 ปีที่ผ่านมาชาวข่าจากที่ราบการ์นาลี-เภรี-เซตีอพยพไปทางตะวันออกเข้าสู่ที่ราบสูงคาม แล้วไปสู่ที่ราบคันทาลีที่เหมาะสมกับการปลูกข้าวกลุ่มหนึ่งที่แพร่ขยายไปคือชาวกุรข่าซึ่งเป็นกลุ่มที่อยู่ระหว่างโปขราและกาฏมาณฑุ ใน พ.ศ. 2243 ผู้นำของชาวกุรข่าคือปริฐวี นารายัณ ชาห์ นำกองทหารเข้ายึดครองกุรุง มาคัร และชาวเผ่าตามหุบเขาอื่นๆ และจัดตั้งอาณาจักรในแถบเทือกเขาหิมาลัย เมื่อชาวกุรข่าเข้ามามีอำนาจเหนือราชวงศ์ดั้งเดิมที่เป็นชาวคาส ภาษาของชาวกุรข่าจึงมีชื่อว่าภาษาคาสกุรา
กองทหารปริฐวี นารายัณยึดครองได้ตั้งแต่หุบเขากาฏมาณฑุไปจนถึงที่ราบคันทาลี บริเวณนี้มีชื่อว่าเนปาลในสมัยนั้น เมืองกาฏมาณฑุกลายเป็นเมืองหลวง และได้ขยายอำนาจออกไปทุกทิศ ทำให้เกิดความขัดแย้งกับอังกฤษและจีน จึงมีการตกลงกำหนดเขตของบริเวณที่จะเป็น "เนปาล" และทั้งจีนและอังกฤษรับรองความเป็นรัฐของเนปาล เมื่อหุบเขากาฏมาณฑุกลายเป็นศูนย์กลางของเนปาล ภาษาของชาวกุรข่าจึงเป็นที่รู้จักในชื่อภาษาเนปาลไปด้วย