กลุ่มภาษาเซมิติก (อังกฤษ: Semitic languages) เป็นกลุ่มของภาษาที่มีผู้พูดมากกว่า 300 ล้านคนในปริเวณแอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลางและจะงอยของแอฟริกา เป็นสาขาย่อยในตระกูลภาษาแอโฟรเอชีแอติก และเป็นสาขาเดียวของตระกูลนี้ที่มีผู้พูดในทวีปเอเชีย กลุ่มภาษาเซมิติกที่มีผู้พูดมากที่สุดคือภาษาอาหรับ (ภาษาแม่ 325 ล้านคน) รองลงมาคือภาษาอัมฮารา (27 ล้านคน) ภาษาตึกรึญญา (6.9 ล้านคน) และภาษาฮีบรู (5 ล้านคน)
กลุ่มภาษาเซมิติกเป็นกลุ่มภาษาแรกๆ ที่มีระบบการเขียน ภาษาอัคคาเดียเริ่มเขียนตั้งแต่ราว 2,000 ปีก่อนพุทธศักราช นอกจากนั้นยังมีอักษรโบราณที่ใช้เขียนกลุ่มภาษาเซมิติกมากมาย เช่น อักษรฟินิเชีย อักษรอาหรับ อักษรแอราเมอิก อักษรซีรีแอก อักษรอาระเบียใต้ และอักษรเอธิโอปิก มีภาษามอลตาเท่านั้นที่เป็นกลุ่มภาษานี้แต่เขียนด้วยอักษรโรมัน ชื่อของกลุ่มภาษานี้มาจาก เซม บุตรชายของโนอาห์ ในไบเบิล
กลุ่มภาษาเซมิติกเป็นสมาชิกของตระกูลภาษาแอโฟรเอชีแอติก โดยเป็นสาขาเดียวที่อยู่ในทวีปเอเชีย ส่วนสาขาอื่นอบู่ในทวีปแอฟริกา จากเหตุผลนี้จึงเชื่อว่าบรรพบุรุษของผู้พูดภาษาเซมิติกดั้งเดิมเป็นกลุ่มชนที่ออกจากแอฟริกามาสู่ตะวันออกกลาง อาจจะเป็นผู้มาจากทะเลทรายสะฮารา แต่ก็มีทฤษฎีว่าผู้พูดภาษาแอโฟรเอชีแอติกดั้งเดิมอยู่ในตะวันออกกลางและผู้พูดภาษาเซมิติกเป็นกลุ่มเดียวที่เหลืออยู่
ผู้พูดภาษาเซมิติกดั้งเดิมคาดว่าเป็นผู้ที่มาถึงคาบสมุทรอาระเบียเมื่อราว 3,457 ปีก่อนพุทธศักราช จากนั้นภาษาลูกหลานในกลุ่มเซมิติกได้แพร่กระจายออกไป หลักฐานการเขียนเริ่มพบเมื่อราว 2,957 ปีก่อนพุทธศักราช เมื่อผู้พูดภาษาอัคคาเดียและภาษาอโมไรต์เข้าสู่เมโสโปเตเมียและอาจจะเคยอยู่ในสถานที่ เช่น เอบลาในซีเรีย
เมื่อราว 1,457 ปีก่อนพุทธศักราช กลุ่มภาษาเซมิติกตะวันออกเริ่มแพร่หลายในเมโสโปเตเมีย ในขณะที่กลุ่มภาษาเซมิติกตะวันตกใช้พูดตั้งแต่บริเวณจากซีเรียถึงเยเมน ภาษาอาระเบียใต้อาจจัดอยู่ในกลุ่มภาษาเซมิติกใต้แต่หลักฐานมีน้อย ภาษาอัคคาเดียกลายเป็นภาษาเขียนสำคัญในดินแดนพระจันทร์เสี้ยวอันอุดมสมบูรณ์โดยใช้อักษรรูปลิ่มที่พัฒนามาจากอักษรที่ใช้เขียนภาษาสุเมเรีย กลุ่มชนที่พูดภาษาเอ็บลาไอต์หายไป โดยมีกลุ่มชนที่พูดภาษาอโมไรต์ขึ้นมาแทน
หลักฐานในช่วงนี้มิไม่มากนัก ที่พอมีบ้างคือตัวอักษร อักษรคานาอันไนต์เป็นอักษรชนิดดแรกของกลุ่มภาษาเซมิติกตะวันตกที่ใช้เมื่อราว 957 ปีก่อนพุทธศักราช และอักษรยูการิติกที่ใช้ในทางเหนือของซีเรียในอีก 200 ปีต่อมา ส่วนภาษาอัคคาเดียพัฒนาต่อมาเป็นสำเนียงบาบิโลเนียและอัสซีเรีย
มีอักษรที่ใช้กันแพร่หลายมากขึ้น ทั้งอักษรคานาอันไนต์ อักษรแอราเมอิก อักษรอาระเบียใต้และอักษรกีเอซรุ่นแรกๆ ระหว่างช่วงนี้ มีการใช้อักษรยูการิติกที่ใช้แทนเสียงพยัญชนะในกลุ่มภาษาเซมิติกตะวันตกเฉียงเหนือ ชาวฟินิเชียำภาษาคานาอันไนต์ไปใช้ทั้งเขตอาณานิคมในแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ในขณะที่ภาษาฮีบรูกลายเป็นภาษาทางศาสนาของชาวยิว ในสมัยจักรวรรดิอัสซีเรีย ภาษาแอราเมอิกเป็นภาษากลางในตะวันออกกลางในขณะที่ภาษาอัคคาเดีย ภาษาฮีบรู และอื่นๆกลายเป็นภาษาตายหรือใช้เป็นภาษาเขียนเท่านั้น ในขณะเดียวกันอักษรกีเอซเริ่มใช้บันทึกกลุ่มภาษาเซมิติกในเอธิโอเปียในช่วงนี้
ภาษาซีรีแอกซึ่งเป็นลูกหลานของภาษาแอราเมอิกใช้ในเลอวานต์ตอนเหนือและเมโสโปเตเมีย กลายเป็นภาษาเขียนของชาวคริสต์ในพุทธศตวรรษที่ 8-10จนถึงยุคสมัยของศาสนาอิสลาม
ในยุคของศาสนาอิสลามราวพุทธศตวรรษที่ 12 ภาษาอาหรับเข้ามาเป็นภาษากลางแทนที่ภาษาแอราเมอิกและแพร่หลายไปถึงสเปนและเอเชียกลาง กลายเป็นภาษาเขียนที่สำคัญในสมัยกาหลิบ และกลายเป็นภาษาสำคัญในตะวันออกกลางและอียิปต์ เมื่ออาณาจักรนูเบียล่มสลาย ภาษาอาหรับได้แพร่หลายไปยังอียิปต์ภาคใต้จนถึงมอริตาเนีย
กลุ่มภาษาเซมิติกยังคงมีความหลากหลายในเอธิโอเปียและเอริเทรีย โดยได้รับอิทธิพลจากกลุ่มภาษาคูชิติกมาก ภาษาสำคัญในบริเวณนี้คือภาษาอัมฮาราและภาษาตึกรึญญา จากการแพร่ขยายของเอธิโอเปียในสมัยราชวงศ์โซโลโมนิก ภาษาอัมฮาราได้แพร่หลายไปทั่วเอธิโอเปียและเข้าไปแทนที่ภาษากีเอซที่ปัจจุบันยังเป็นภาษาทางศาสนาของชาวคริสต์ในบริเวณนี้
ภาษาอาหรับมีผู้ใช้เป็นภาษาแม่เป็นส่วนใหญ่ตั้งแต่มอริตาเนียไปถึงโอมานและจากอิรักไปถึงซูดาน และยังใช้เป็นภาษาทางศาสนาของชาวมุสลิมที่ไม่ได้พูดภาษาอาหรับเป็นภาษาแม่ด้วย ภาษาอาหรับที่เป็นภาษาพูดมีหลากหลายสำเนียงแต่ที่เป็นภาษาเขียนมีแบบเดียว ภาษามอลตาซึ่งเป็นลูกหลานของภาษาอาหรับสำเนียงแอฟริกาเหนือเป็นภาษาเดียวที่เขียนด้วยอักษรโรมัน นอกจากภาษาอาหรับที่เป็นภาษาหลักในตะวันออกกลางแล้ว ยังพบกลุ่มภาษาเซมิติกอื่นๆอีก ภาษาฮีบรูเป็นภาษาที่ตายไปเป็นเวลานานและใช้เป็นภาษาทางศาสนาของชาวยิวเท่านั้น กลายมาเป็นภาษาพูดอีกครั้งในพุทธศตวรรษที่ 24 โดยขบวนการไซออนนิสต์เป็นผู้ฟื้นฟูภาษานี้ขึ้นมาใหม่และกลายเป็นภาษาหลักของประเทศอิสราเอล
กลุ่มชนชาติส่วนน้อยขนาดเล็กหลายกลุ่มเช่นชาวคริสต์อัสซีเรียยังคงใช้สำเนียงของภาษาแอราเมอิกโดยเฉพาะภาษาแอราเมอิกใหม่ที่มาจากภาษาซีรีแอก ในเขตภูเขาของอิรักภาคเหนือ ตุรกีตะวันออก และซีเรียตะวันออกเฉียงเหนือ ในขณะที่ภาษาซีรีแอกที่เป็นลูกหลานของภาษาแอราเมอิกโบราณใช้เป็นภาษาทางศาสนาของชาวคริสต์ในซีเรียและอิรัก
ในเยเมนและโอมานซึ่งอยู่ทางใต้ของคาบสมุทรอาระเบียยังมีชนเผ่าพูดภาษาอาระเบียใต้สมัยใหม่เช่นภาษามาห์รีและภาษาโซโกตรีซึ่งแตกต่างจากภาษาอาหรับที่ใช้พูดในบริเวณนั้นอย่างชัดเจน และอาจจะมาจากภาษาที่เขียนในจารึกอักษรอาระเบียใต้หรือลูกหลานของภาษาเหล่านั้น
ในเอธิโอเปียและเอริเทรีย มีผู้พูดกลุ่มภาษาเซมิติกจำนวนหนึ่งคือภาษาอัมฮาราและภาษาตึกรึญญาในเอธิโอเปีย และภาษาติเกรและภาษาตึกรึญญาในเอริเทรีย ทั้งภาษาอัมฮาราและภาษาตึกรึญญาเป็นภาษาราชการของเอธิโอเปียและเอริเทรีย ในขณะที่ภาษาติเกรมีผู้พูดในเอริเทรียเหนือและดินแดนต่ำตอนกลางรวมถึงภาคตะวันออกของซูดาน มีผู้พูดมากกว่า 1 ล้านคน มีผู้พูดภาษากูเรกในเขตภูเขาทางภาคใต้ตอนกลางของเอธิโอเปีย ภาษากีเอซยังคงเป็นภาษาทางศาสนาของชาวคริสต์ในเอธิโอเปียและเอริเทรีย
กลุ่มภาษาเซมิติกมีไวยากรณ์ร่วมกันหลายอย่าง แม้จะมีส่วนที่ผันแปรกันไปบ้าง แม้ในภาษาเดียวกันเอง เช่น ภาษาอาหรับในสมัยพุทธศตวรรษที่ 11 กับภาษาอาหรับในปัจจุบัน
การเรียงลำดับคำในภาษาเซมิติกดั้งเดิมเป็นกริยา-ประธาน-กรรม สิ่งของ-เจ้าของ และนาม-คุณศัพท์ ในภาษาอาหรับคลาสสิกและสมัยใหม่จะใช้การเรียงตำแบบนี้มาก นอกจากนั้นยังพบการเรียงประโยคแบบประธาน-กริยา-กรรม ดังที่พบในภาษาฮีบรูและภาษามอลตา กลุ่มภาษาเซมิติกในเอธิโอเปียสมัยใหม่เรียงประโยคแบบ ประธาน-กรรม-กริยา เจ้าของ-สิ่งของ และคุณศัพท์-นาม ซึ่งอาจจะมาจากอิทธิพลของกลุ่มภาษาคูชิติก กลุ่มภาษาเซมิติกที่เก่าที่สุด เช่น ภาษากีเอซ เป็นแบบกริยา-ประธาน-กรรม สิ่งของ-เจ้าของ และนาม-คุณศัพท์
ระบบการกสามแบบของภาษาเซมิติกดั้งเดิม (ประธาน กรรมตรงและเจ้าของ) โดยใช้การลงท้ายการกที่ต่างไป ยังคงมีอยู่ในภาษาอาหรับในอัลกุรอ่าน ภาษาอัคคาเดีย และภาษายูการิติก ลักษระนี้หายไปในภาษาเซมิติกสมัยใหม่ ภาษาอาหรับมาตรฐานสมัยใหม่คงมีการลงท้ายการกเฉพาะในการเขียนและการออกอากาศ การลงท้ายการกด้วย -n ยังคงไว้ในภาษาเซมิติกในเอธิโอเปีย นามและคุณศัพท์ในกลุ่มภาษาเซมิติกมีการกำหนดเป็นสถานะ สถานะชี้เฉพาะกำหนดโดย nunation
กลุ่มภาษาเซมิติกส่วนใหญ่มี 3 จำนวนคือเอกพจน์ ทวิพจน์ และพหูพจน์ ทวิพจน์ยังใช้อยู่ในภาษาอาหรับบางสำเนียงเช่นชื่อประเทศบาห์เรน (bahr "ทะเล" + -ayn "สอง") และในภาษาฮีบรู เช่น ?ana หมายถึง 1 ปี ?natayim หมายถึง 2 ปี และ ?anim หมายถึงหลายปี และในภาษามอลตา sena หมายถึง 1 ปี sentejn หมายถึง 2 ปี และ snin หมายถึงหลายปี การทำให้เป็นพหูพจน์โดยแทรกเสียงสระลงไป เช่น sadd เขื่อน 1 แห่ง sud?d เขื่อนหลายแห่ง พบในภาษาอาหรับและภาษาเอธิโอเปีย รวมทั้งภาษามอลตา จึงน่าจะเป็นส่วนหนึ่งของภาษาเซมิติกดั้งเดิม
ระบบมาลาของกลุ่มภาษาเซมิติกตะวันตกและตะวันออกต่างกันชัดเจน ภาษาอัคคาเดียรักษาลักษณะซึ่งพบโดยทั่วไปในกลุ่มภาษาแอโฟรเอชีแอติก ภาษาเซมิติกตะวันตกดั้งเดิมมี 2 มาลา คือสมบูรณ์สำหรับการกระทำที่สมบูรณ์และไม่สมบูรณ์ใช้กับการกระทำที่เกิดไม่สมบูรณ์ ในกรณีพิเศษของภาษาแอราเมอิกใหม่มีการรวมคำกริยาซึ่งได้รับอิทธิพลจากกลุ่มภาษาอิหร่าน
กลุ่มภาษาเซมิติกทั้งหมดมีลักษณะพิเศษของรากศัพท์ที่ประกอบด้วยพยัญชนะสามตัว (มีที่มีพยัญชนะ 2 หรือ 4 ตัวด้วย) สำหรับนาม คุณศัพท์ และกริยาซึ่งสร้างศัพท์ได้หลายทาง เช่น โดยแทรกเสียงสระ ซ้ำพยัญชนะ เติมอุปสรรค ปัจจัย หรืออาคม
ในภาษาตึกรึญญาและภาษาอัมฮารา รากศัพท์นี้ปรากฏเฉพาะคำนาม kitab หมายถึง amulet และกริยา to vaccinate ภาษาที่เป็นลูกหลานในเอธิโอเปียมีรากศัพท์ที่ต่างไปสำหรับการเขียน คำกริยาในภาษาในตระกูลแอฟโฟรเอเชียติกอื่นๆ ที่ไม่ใช่กลุ่มภาษาเซมิติกมีลักษณะเดียวกันนี้ แต่มักเป็นพยัญชนะ 2 ตัวมากกว่า
บางครั้ง รากศัพท์มีความหมายต่างไปในภาษาหนึ่งเมื่อเทียบกับกลุ่มภาษาเซมิติกอื่นๆ ตัวอย่างเช่นรากศัพท์ b-y-? ในภาษาอาหรับหมายถึงขาวและไข่ ในภาษามอลตา bajda หมายถึงขาวและไข่เช่นเดียวกัน แต่ในภาษาฮีบรูหมายถึงขาวเท่านั้น รากศัพท์ l-b-n ในภาษาอาหรับหมายถึงนม แต่ภาษาฮีบรูหมายถึงสีขาว รากศัพท์ l-?-m ภาษาอาหรับหมายถึงเนื้อ แต่หมายถึงขนมปังในภาษาฮีบรู และวัวในกลุ่มภาษาเซมิติกในเอธิโอเปีย ความหมายดั้งเดิมของรากศัพท์นี้อาจหมายถึงอาหาร คำว่า medina (ราก: m-d-n) ภาษาอาหรับหมายถึงเมือง แต่ในภาษาฮีบรูสมัยใหม่หมายถึงรัฐ ในบางครั้งไม่พบความสัมพันธ์ระหว่างรากศัพท์ เช่น คำว่า ความรู้ ในภาษาฮีบรูใช้รากศัพท์ y-d-? แต่ในภาษาอาหรับใช้ ?-r-f และ ?-l-m กลุ่มภาษาเซมิติกในเอธิโอเปีย ใช้ ?-w-q และ f-l-?
การจัดจำแนกต่อไปนี้เป็นไปตามวิธีของ Robert Hetzron เมื่อ พ.ศ. 2519 และมีการปรับปรุงโดย John Huehnergard และ Rodgers ซึ่งได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางที่สุดในขณะนี้ อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อโต้แย้งเกี่ยวกับการจัดจำแนกอยู่ เช่น อาจจัดภาษาอาหรับอยู่ในกลุ่มเซมิติกใต้ บางส่วนแยกกลุ่มภาษาอาระเบียใต้ออกเป็นสาขาที่สามร่วมกับกลุ่มภาษาเซมิติกตะวันออกและตะวันตก มากกว่าจะตั้งเป็นกลุ่มภาษาเซมิติกใต้ นอกจากนั้นยังไม่มีเส้นแบ่งที่แน่นอนระหว่างภาษาเอกเทศกับสำเนียง ดังที่พบในภาษาอาหรับ ภาษาแอราเมอิกและภาษากูเรก
การจัดกลุ่มภายในกลุ่มภาษาเซมิติกก่อน พ.ศ. 2513 จัดให้ภาษาอาหรับอยู่ในกลุ่มภาษาเซมิติกใต้ และยังไม่มีการค้นพบภาษาเอ็บลาไอต์ในช่วงนั้น
ในกรณีของภาษาอาหรับสำเนียงของชาวยิวที่มีคำยืมจากภาษาฮีบรูมาก จะจัดรวมไว้ในภาษาอาหรับคลาสสิกที่เขียนด้วยอักษรฮีบรู โดยใช้ศัพท์ว่าภาษาอาหรับของชาวยิว
ภาษาเมห์รีมีบรรพบุรุษใกล้เคียงกับกลุ่มภาษาเซมิติกตะวันออก มากกว่ากลุ่มภาษาเซมิติกใต้ ทุกวันนี้ ภาษาเมห์รีถูกจัดให้อยู่ระหว่างกลุ่มภาษาเซมิติกใต้ตะวันออก หรือเป็นกลุ่มอิสระ